"บวบลม" ปลูกประดับเป็นยา
ผม เคยเขียนถึง บวบลม ไปใน ฉบับวันจันทร์ที่ 26 ต.ค.ปี 41 ซึ่งในตอนนั้นจะเน้นเฉพาะสรรพคุณของ บวบลม ว่าเป็นยาดีพื้นบ้านอย่างหนึ่งที่หมอยาแผนไทยในยุคสมัยโบราณนำไปใช้เป็นยาแก้อาการปวดท้อง เนื่องจากโรคกระเพาะอาหารอักเสบ
โดย มีวิธีปรุงรับประทานแบบง่ายๆคือ ให้เอาทั้งต้นของ บวบลม กะจำนวนพอประมาณต้มกับน้ำจนเดือดให้เนื้อยางออก จากนั้นดื่มขณะอุ่นวันละ 3 เวลา หลังอาหารเช้ากลางวันเย็น ต้มดื่มทุกวัน ประมาณ 3-4 วัน จะช่วยให้อาการปวดท้องเนื่องจากโรคกระเพาะอาหารอักเสบหายได้
ในช่วง ที่เขียนแนะนำ ตอนนั้นมีผู้นำเอาต้น บวบลม วางขายที่ตลาดนัดไม้ดอกไม้ประดับ สวนจตุจักร ทุกวันพุธ-พฤหัสฯ ได้รับความสนใจจากผู้ซื้อไปใช้ประโยชน์เป็นยาตามที่กล่าวข้างต้นอย่างกว้างขวาง
แต่ ในปัจจุบันต้น บวบลม ที่นานๆจะมีผู้นำออกวางขาย ได้เปลี่ยนสถานะจากไม้สมุนไพรพื้นบ้าน กลายเป็นไม้แปลกที่ผู้ปลูก โดยเฉพาะชาวต่างชาตินิยมซื้อไปปลูกเป็นไม้ประดับจำพวกกล้วยไม้ โชว์ความสวยงามแปลกตากันอย่างแพร่หลาย
บวบลม หรือ DISCHIDIA RAF-FLESIANA WALL. อยู่ในวงศ์ ASCLE-PIADACEAE มีลักษณะทางพฤกษศาสตร์เป็นไม้เลื้อยอิงอาศัยตามคาคบไม้ใหญ่ คล้ายกล้วยไม้ พบขึ้นตามป่าเบญจพรรณและป่าดิบแล้งทุกภาคของประเทศไทย ลำต้นกลมเกาะติดกระจายราบไปกับเปลือกต้นไม้ที่อิงอาศัย มีรากฝอยเกาะติดกันเป็นรูปร่างแห ทุกส่วนมีน้ำยางสีขาว ใบเป็นใบเดี่ยว ออกตรงกันข้าม รูปไข่กว้าง หรือรูปโล่ กว้างประมาณ 2-3 ซม. สีเขียวสด
ดอก ออกเป็นช่อกระจุกตามซอกใบ แต่ละช่อประกอบด้วยดอกย่อย 6-8 ดอก กลีบดอกเป็นรูปคนโท เป็นสีเหลืองแกมเขียว ผล เป็นฝัก รูปเรียวยาวคล้ายผลบวบ แต่ผิวผลจะย่นเหี่ยวเหมือนพุงปลา ผิวผลเป็นสีเขียว ขยายพันธุ์ด้วยต้นหรือเถา มีชื่อเรียกอีกคือกล้วยไม้ (เหนือ) โกฐพุงปลา (กลาง) เถาพุงปลา (อีสาน) บวบลม (โคราช-อุบลฯ) และ จุกโรหินี (ทั่วไป) มีต้นขาย ที่ตลาดนัดไม้ดอกไม้ประดับ สวนจตุจักร ทุกวันพุธ-พฤหัสฯ บริเวณโครงการ 23 แผงจำหน่ายไม้ป่าหายาก ราคาสอบถามกันเอง นิยมปลูกให้ต้นหรือเถาเกาะกิ่งไม้ตายซาก (ตามภาพประกอบคอลัมน์) นำไปแขวนในที่แจ้ง รดน้ำพอชุ่มเช้าเย็น จะมีดอกและติดผลเป็นฝักสวยงามน่าชมมากครับ.
●นายเกษตร //www.thairath.co.th/
Create Date : 22 ตุลาคม 2554 |
|
0 comments |
Last Update : 8 พฤศจิกายน 2554 10:47:22 น. |
Counter : 1488 Pageviews. |
|
|
|