การสร้างทีมงานและการบริหารบุคคล
ผมได้มีโอกาสไปร่วมในการอบรมสัมมนาในโครงการสร้าง ที่ปรึกษาสำหรับวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ตามหลักสูตรของ APEC-IBIZ ที่ร่วมกันจัดขึ้นโดย สถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ ร่วมกับกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม
ผมก็เลยขอถือโอกาสนำเรื่องที่เป็นหัวข้อหนึ่งในการอบรมนี้ คือ เรื่องเกี่ยวกับการบริหารบุคคล หรือที่ในปัจจุบัน นิยมเรียกว่า การบริหารทรัพยากรมนุษย์ ของธุรกิจ เอสเอ็มอี มาเล่าต่อให้ท่านผู้อ่านได้รับทราบ
เพราะแนวคิดทางธุรกิจในปัจจุบัน ถือว่า มนุษย์ เป็นทรัพยากรที่อาจถือได้ว่า สำคัญที่สุดในการสร้างและนำพาธุรกิจไปสู่ความ เติบโตอย่างมั่นคงและมั่งคั่ง
ทั้งนี้ ก็เพราะว่า “คนในองค์กรเป็นอย่างไร องค์กรก็จะเป็นอย่างนั้น” ยังเป็นความจริงอยู่เสมอ
เนื่องจากองค์กรไม่มีชีวิตจิตใจ แต่องค์กรและผลประกอบการขององค์กร เกิดขึ้นจากความวิสัยทัศน์ การวางแผน และการดำเนินงาน ซึ่งล้วนแต่ต้องใช้คนเป็นผู้ปฏิบัติงานโดยตรงเท่านั้น
แนวคิดหรือทิศทางการบริหารทรัพยากรมนุษย์สำหรับวิสาหกิจ SMEs ที่ผู้ประกอบการ หรือเจ้าของธุรกิจควรให้ความสนใจ ประกอบด้วย
★ 1. การทำให้ SMEs เปลี่ยนแปลงไปสู่ความเป็นองค์กรที่ Work Smart หรือองค์กรที่ทำงานแบบฉลาด เพื่อให้เกิดทำงานอย่างมีประสิทธิผล เลือกทำงานที่มีมูลค่าเพิ่ม ใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการทำงาน ลดความสิ้นเปลืองหรือความสูญเปล่าในการทำงาน พนักงานมีความรักและผูกพันกับงานและองค์กร มีการทำงานร่วมกันเป็นทีมที่ดี
★ 2. การสร้างความเชื่อมโยงระบบบริหารทรัพยากรมนุษย์ให้เป็นแบบบูรณาการ เพื่อให้เกิดการเชื่อมโยงเข้ากับทุกหน่วยงาน สื่อสารข้อมูลที่ชัดเจน ทั่วถึงและฉับไว เป็นการสร้างคุณค่าเพิ่มในการดำเนินงานของธุรกิจ ที่ต้องแข่งขันกับเวลา หรือ ต้องนำหน้าคู่แข่งอยู่ตลอดเวลา
★ 3. การใช้กลไกด้านทรัพยากรมนุษย์เป็นกลยุทธ์ทางธุรกิจ (Strategic Partner) กิจกรรมและการตัดสินใจด้านทรัพยากรมนุษย์ ต้องสอดคล้องและสนับสนุนกลยุทธ์ทางธุรกิจ การวางแผนกลยุทธ์ทางธุรกิจใดๆ จะต้องมีการวางแผนกลยุทธ์ทางด้านทรัพยากรมนุษย์ร่วมด้วยทุกครั้ง ตั้งแต่ต้นจนจบ
★ 4. การใช้การจัดการด้านทรัพยากรมนุษย์เป็นสื่อนำในการเปลี่ยนแปลง (Change Agent) ซึ่งจะทำได้โดย การส่งเสริมให้มีการเรียนรู้ เปลี่ยนแปลงรูปแบบการทำงาน และการพัฒนาพนักงานเป็นรายบุคคล
★ 5.การทำให้บุคลากรสามารถ สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับกิจการได้ โดยการทำให้พนักงานมีผลงาน (Employee Champion) มีการสร้างบรรยากาศให้พนักงานเกิดความร่วมมือร่วมใจในการทำงาน มีส่วนร่วมในการให้ความคิดเห็น และการตัดสินใจในเรื่องงาน มีส่วนร่วมในการเป็นกรรมการคณะต่างๆ ของบริษัท ให้พนักงานเข้าร่วมในการกำหนดรูปแบบ หรือการพัฒนารูปแบบของการปฏิบัติงาน และมีการเปิดเผยข้อมูลต่างๆ ให้พนักงานได้รับทราบตามความเหมาะสม
★ 6. การทำให้องค์กรเกิดความเชี่ยวชาญในการจัดการทรัพยากรมนุษย์ (Administration Expert) เพื่อให้กิจการได้มีบุคลากรที่เหมาะสมเข้ามาทำงาน มีวัฒนธรรมองค์กรที่สร้างสรรค์และแข็งแกร่ง มีบุคลากรที่ได้รับการพัฒนาให้มีศักยภาพสูงสุด เปิดโอกาสให้พนักงานได้ใช้ศักยภาพอย่างเต็มที่ มีระบบการจ่ายค่าตอบแทนที่แข่งขันได้ สามารถจูงใจให้คนดีมีความสามารถอยู่กับองค์กรได้ยาวนาน สร้างให้พนักงานมีทัศนคติที่ดี มีการทำงานร่วมกันเป็นทีม มีความมุ่งมั่นในการทำงานให้กับองค์กร ไม่ทำให้เกิดข้อพิพาทแรงงานหรือผลกระทบจากระบบแรงงานสัมพันธ์ และทำให้พนักงานมีคุณภาพชีวิตที่ดีในการทำงาน ทั้งด้านความเป็นอยู่และสภาพแวดล้อม
ทั้งนี้ ประโยชน์ที่เจ้าของกิจการหรือผู้ประกอบการจะได้รับ ในการนำการวางแผนทรัพยากรมนุษย์ อย่างเป็นระบบมาประยุกต์ใช้กับกิจการของตนเอง มีดังนี้
★ 1. การบริหารธุรกิจสามารถทำได้อย่างต่อเนื่องอย่างดี แม้จะอยู่ภายใต้สภาวะการเปลี่ยนแปลง เพราะมีโครงสร้างและแผนการกำหนด เป็นแนวทางรองรับความยืดหยุ่นไว้แล้ว ผู้ประกอบการไม่ต้องกังวล หรือเสียเวลากับการคิดแก้ไขปัญหาหรือแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้า ผู้ประกอบการจะได้มีเวลาไปคิดวางแผนเพื่อการเติบโตของกิจการในอนาคต ซึ่งจะได้ประโยชน์มากกว่า
★ 2. พนักงานสามารถเตรียมการพัฒนาตัวเองให้รองรับกับแผนการของบริษัท ทำให้พนักงานมองเห็นความมั่นคงและความก้าวหน้า ที่จะเติบโตไปพร้อมกับบริษัท หากพนักงานมีความสามารถในการปฏิบัติงาน มีความรับผิดชอบ และความรักองค์กร บริษัทก็จะมีความแข็งแกร่งมากขึ้น พร้อมที่จะแข่งขันในตลาดได้ทุกระดับ
★ 3. พนักงานจะได้รับการพัฒนาล่วงหน้า เพื่อพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงสภาพธุรกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้ประกอบการที่มุ่งเน้นการสร้างกิจการให้เติบโตอย่างรวดเร็ว กำลังที่จะช่วยสนับสนุนที่สำคัญก็คือพนักงานที่มีความสามารถนั่นเอง
★ 4. พนักงานจะเกิดความกระตือรือร้น พร้อมที่จะรับงานที่ท้าทาย และสามารถปฏิบัติหน้าที่บางอย่างแทนผู้ประกอบการได้ เป็นการแบ่งเบาภาระให้กับผู้ประกอบการ
★ 5. พนักงานมีความมั่นใจในตัวบริษัท ไม่คิดเปลี่ยนงานบ่อย ไม่สร้างปัญหาหรือภาระให้ผู้ประกอบการ ต้องเสียเวลากับการจ้างพนักงานใหม่ และหากอยู่ในภาวะตลาดแรงงานเป็นของผู้ใช้แรงงาน ผู้ประกอบการอาจต้องมีต้นทุนการสรรหาพนักงานที่เพิ่มขึ้น ซึ่งอาจแพงกว่าการพัฒนาบุคลากรที่มีอยู่แล้ว ให้มารับหน้าที่ความรับผิดชอบ ที่เพิ่มขึ้น
ภาพรวมของระบบบริหารทรัพยากรมนุษย์ ที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้กับธุรกิจ SMEs ประกอบด้วย ปัจจัยสำคัญ 4 ด้าน ได้แก่ การกำหนดนโยบายการบริหารทรัพยากรมนุษย์, การให้คำปรึกษาแนะนำและอบรมบุคลากรภายในของกิจการ, การดำเนินการตามแผนงานและทิศทางที่กำหนดไว้ และ การติดตามควบคุมดูแล
งานหลักที่สำคัญของการบริหารทรัพยากรมนุษย์ จะเริ่มต้นจากกระบวนการ สรรหา, การพัฒนา, การใช้ประโยชน์ และ การรักษา คนดีมีคุณภาพไว้อยู่คู่กับกิจการ
การสรรหา การพัฒนา การใช้ประโยชน์ การรักษา ท สร้างระบบฐานข้อมูลด้านบุคลากร ท วางแผนอัตรากำลังคน ท สรรหาและคัดเลือกให้ได้คนดีคนเก่ง ท มีการทดลองงานและประเมินผลการทดลองงาน ท มีระบบพี่เลี้ยงสำหรับพนักงานใหม่ ท มีการวิเคราะห์ความต้องการการฝึกอบรมจากใบกำหนดหน้าที่งาน และตัวชี้วัดความสำเร็จ ท สร้างนักอบรมในสายงาน ท จัดทำคู่มือและแผนการสอนงาน ท จัดทำ Training Road Map ท จัดทำใบกำหนดหน้าที่งานและตัวชี้วัดความสำเร็จ ของทุกตำแหน่งงาน ท สร้างมาตรฐานงานหรือกำหนด Best Practice ท วิเคราะห์และประเมินความสามารถเพื่อจัดคนให้เหมาะสมกับงาน ท สร้างระบบบริหารงานแบบมีส่วนร่วม เพื่อดึงศักยภาพและความคิดเห็นจากพนักงาน ให้ได้มากที่สุด ท จ่ายค่าตอบแทนตามผลงาน ท กำหนดโครงสร้างเงินเดือนชัดเจน ท ใช้กิจกรรมแรงงานเพื่อสร้างความแรงงานสัมพันธ์ในเชิงบวก ท สร้างสภาพแวดล้อมและบรรยากาศที่ดีในการทำงาน ท จัดทำ Career Path
โดย เรวัต ตันตยานนท์ ข้อมูลจาก //www.bangkokbizweek.com ที่มา : //www.hrtothai.com/index.php?option=com_content&task=view&id=591&Itemid=164 ภาพจาก : //www.shutterstock.com
Create Date : 31 ธันวาคม 2552 |
|
0 comments |
Last Update : 31 ธันวาคม 2552 20:29:25 น. |
Counter : 1395 Pageviews. |
|
|
|