7 พฤติกรรมของผู้นำที่จะประสบความสำเร็จในยุคนี้
★ ประการแรก อุทิศชีวิตจิตใจให้กับงานเพื่อรู้จักพนักงานอย่างถ่องแท้ และเข้าใจทุกแง่มุมของธุรกิจอย่างทะลุปรุโปร่ง
หมั่นออกไปเยี่ยมหน่วยงานเพื่อเรียนรู้สภาพความเป็นจริง และรู้จักหัวหน้าหน่วยด้วยตัวเอง ปรึกษาหารือกับผู้อยู่ในแนวหน้า พบปะคนงานเพื่อรับฟังความคิดเห็น ทบทวนแผนงาน ประเมินสถานการณ์ ให้คำแนะนำ และทำความเข้าใจร่วมกันเกี่ยวกับบทบาท และเป้าหมายของหน่วยงานและของบริษัท
★ ประการที่ 2 พยายามค้นหา กล้ายอมรับและเผชิญกับความเป็นจริงอย่างไม่พรั่นพรึง ผู้นำจำนวนมากมักหลีกเลี่ยงความจริง เพราะมันมักเป็นสิ่งที่สร้างความอึดอัด นักธุรกิจทั่วๆ ไปจึงมักรู้จุดแข็งของกิจการเป็นอย่างดี แต่มักไม่ค่อยรู้ ปฏิเสธหรือมองข้ามจุดอ่อน ทำให้ขาดแผนงานและกระบวนการที่จะแก้จุดอ่อนอย่างมีประสิทธิภาพ
กุญแจดอกสำคัญในการค้นหาความจริงได้แก่ การเปรียบเทียบกิจการของตัวเองกับ บริษัทชั้นนำทั่วโลกอยู่ตลอดเวลา ★ ประการที่ 3 ตั้งเป้าหมายและลำดับความสำคัญของภารกิจอย่างแจ้งชัด การมีภารกิจมากมายมักทำให้ยากแก่การเลือก และจำกัดจำนวนสิ่งที่ควรได้รับความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ แต่ผู้นำชั้นแนวหน้าจะไม่หลีกเลี่ยง จะตั้งเป้าหมายให้แจ้งชัด แล้วหยิบยกเพียงบางสิ่งบางอย่างที่จะนำไปสู่เป้าหมายนั้นขึ้นมา ทำให้สำเร็จเป็นลำดับแรก พร้อมกับรู้จักใช้วิธีที่จะสื่อกับส่วนต่างๆ ขององค์กรด้วยภาษาง่ายๆ และตรงไปตรงมา เพื่อให้ทุกคนเข้าใจได้อย่างถ่องแท้และนำไปปฏิบัติ
★ ประการที่ 4 ติดตามความเป็นไปอย่างใกล้ชิด เนื่องจากภารกิจของบริษัทมีมาก และทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว หลังจากเวลาผ่านไปชั่วระยะหนึ่ง เป้าหมายและข้อตกลงบางอย่างมักจะค่อยๆ จางไปเมื่อความคิดและเหตุการณ์ใหม่เกิดขึ้น ภาวะเช่นนี้เป็นปัจจัยทำให้ธุรกิจไม่สัมฤทธิผล
ผู้นำที่รู้จักใช้วิชาการทำให้สัมฤทธิ์ จะไม่ยอมให้ภาวะแบบนั้นเกิดขึ้น จะคอยติดตามและทวงถามกับผู้เป็นเจ้าของเรื่องว่า สิ่งที่ได้ตกลงกันไว้ก้าวหน้าไปถึงไหนแล้ว และจะทำอย่างไรต่อไปหากกำลังประสบอุปสรรค
★ ประการที่ 5 ให้รางวัลอย่างงดงามตามระดับของความสำเร็จ ทั้งในรูปของเงินเดือนประจำ ส่วนปันผลกำไรและสิทธิในการซื้อหุ้นของบริษัทในราคาต่ำกว่าท้องตลาด ในกรณี ที่บริษัทมีหุ้นซื้อขายอยู่ในตลาดหลักทรัพย์
ในขณะเดียวกันผู้นำมีความแกร่งพอ ที่จะบอกผู้ที่ทำงานไม่ได้ผลตามเป้าว่าทำไมเขาได้เงินเดือนขึ้น และส่วนปันผลกำไรต่ำกว่าคาดหรือไม่ได้สิทธิในการซื้อหุ้น
ผู้เขียนกล่าวว่าเรื่องรางวัลและส่วนปันผลดูจะเป็นของธรรมดาๆ มันจึงเป็นประเด็นหญ้าปากคอกที่ผู้บริหารไม่ใส่ใจเท่าที่ควร
★ ประการที่ 6 สนับสนุนพนักงานให้เพิ่มการศึกษาและความสามารถอย่างจริงจัง กิจกรรมสำคัญที่สุดของผู้นำได้แก่การสละเวลาเพื่อถ่ายทอดความรู้ และฝึกฝนคนงานที่จะก้าวขึ้นเป็นผู้นำในยุคต่อไป ความรู้ทางด้านเทคนิคและประสบการณ์ของผู้นำที่ถูกถ่ายทอดนั้น นอกจากจะเพิ่มศักยภาพของพนักงาน และขององค์กรในปัจจุบันแล้ว ยังจะเป็นมรดกตกทอดสำหรับพนักงานรุ่นหลังอีกด้วย
วิธีการถ่ายทอดความรู้ที่มีประสิทธิภาพที่สุดได้แก่ การสังเกตพนักงานอย่างใกล้ชิดแล้วให้ คำวิจารณ์ และคำแนะนำอย่างตรงไปตรงมา ด้วยความศรัทธาและหวังดี
การวิจารณ์และการแนะนำในรูปของคำถาม เป็นวิธีที่เหมาะสมที่สุดในการชี้ให้พนักงานมองเห็นความจริง และปมปัญหาของสิ่งที่เขากำลังดำเนินการอยู่
การศึกษาต่อ อยู่ตลอดเวลาเป็นกุญแจสำคัญอีกดอกหนึ่ง ซึ่งจะเพิ่มศักยภาพให้กับพนักงานและองค์กร แต่ผู้นำชั้นแนวหน้าจะต้องแยกแยะว่า จะให้ใครเรียนอะไรเพื่ออะไรโดยเฉพาะเจาะจง ไม่ใช่ในแบบที่องค์กรต่างๆ มักยึดปฏิบัติได้แก่การส่งคนจำนวนมากไปเข้าชั้นเรียนด้วยกัน การฝึกแบบนี้ไม่มีผลตอบแทนมากนัก
การศึกษาต่อที่มีประสิทธิภาพสูงมักประกอบด้วยการเรียนในห้องราว 20% ส่วนเวลาที่เหลือใช้ไปกับการฝึกงานและปฏิบัติการ
★ ประการที่ 7 รู้จักตัวเอง ผู้เขียนกล่าวว่า ผู้นำที่จะประสบความสำเร็จจะต้องเป็นผู้ที่มีจิตใจแข็งแกร่ง หรือมีวุฒิภาวะทางอารมณ์อย่างสูง วุฒิภาวะทางอารมณ์เกิดจากการรู้จักและการเอาชนะตนเอง และความตั้งมั่นอยู่บนฐานทางจรรยา
จากประสบการณ์อันยาวนาน ทั้งสองผู้เขียนเสนอว่า
วุฒิภาวะทางอารมณ์ ประกอบด้วย คุณลักษณะ 4 ด้าน ได้แก่
(1) ความจริงใจ ไม่สวมหน้ากาก ปราศจากเล่ห์เหลี่ยม พูดอย่างไรทำอย่างนั้น คุณลักษณะนี้เป็นกุญแจดอกสำคัญของการสร้างศรัทธาขึ้นในองค์กร
(2) ความเข้าใจตนเอง โดยเฉพาะทางด้านจุดอ่อนและข้อบกพร่องของตน พร้อมที่จะหาทางแก้ไขหรือเติมเต็มด้วยมาตรการ และความช่วยเหลือของผู้อื่น
(3) การเอาชนะตนเอง สามารถข่มอารมณ์และควบคุมตนเองได้ในทุกสถานการณ์ รับผิดชอบต่อพฤติกรรมของตนเอง ปรับเปลี่ยนตัวเองไปตามความเปลี่ยนแปลง ยอมรับความจริงและความคิดใหม่ๆ ใจกว้างพอที่จะทำงานร่วมกับผู้ที่มีความคิดแตกต่างกับตน พร้อมที่จะทำโทษและกำจัดพนักงานที่บกพร่อง และทำงานไม่สำเร็จตามเป้าหมายได้ อย่างไม่สะทกสะท้าน
(4) การรู้จักประมาณตนเองและอ่อนน้อมถ่อมตัว ยอมรับว่าตัวเองไม่รู้และเข้าใจหมดทุกอย่าง ไม่ดื้อรั้นดันทุรังไปแบบข้างๆ คูๆ ยอมรับความผิดพลาดและพร้อมที่จะแก้ไข
ผู้ นำสามารถพัฒนาคุณลักษณะเหล่านี้ได้จากการอ่านตำรา จากการเรียนในห้องเรียน และที่สำคัญที่สุดจากการตั้งใจสังเกตตัวเอง ผู้อื่น และความเป็นไปรอบด้านอย่างพินิจพิจารณา แล้วนำมาสังเคราะห์เป็นบทเรียน
Execution : The Discipline of Getting Things Done โดย Larry Bossidy ร่วมกับ Ram Charan และ Charles Burck ที่มา : //npc-se.co.th/read/m_read_detail.asp?read_id=336&cate_id=3
Create Date : 28 ธันวาคม 2552 |
|
1 comments |
Last Update : 28 ธันวาคม 2552 20:09:59 น. |
Counter : 1135 Pageviews. |
|
|
|
เวลาผันเปลี่ยนเวียนไปย่างวัยก้าวพ้นประสบการณื
วันเวลาได้มาเปลี่ยนแล่ว
ขอจงผ่องแผ้วสุขสันต์
ยังจำสิ่งดีนิรันดร์
แม้วันผ่านมาเนิ่นนาน
แม้เวียนเปลี่ยนไปอีกปี
ความดียังมีสสาร
ไม่เคยอ้างวางยาวนาว
ขอให้พบกาลยั่งยืน
สุขภาพแข็งแรงยิ่งนัก
มันสมองป้องปักสร้างเสริม
เป็นกำลังความคิดริเริ่ม
เพ่มเตื่มหน้าที่การงาน
ทุกสิ่งเป็นไปด้วยดีไม่มีอุปสรรคขัดขวาง
ความรักเชื่อมั่นยาวนาน
ตลอดกาลไม่ว่าปีใด
จากไผ่ค่ะ