เลิกทำงานอย่างหวาดผวาสักที
คุณหวาดระแวง ทั้งที่ตัวเองมีความสามารถ กลัวว่าถูกไล่ออกเข้าสักวัน ทั้งที่ตระหนักว่าตัวเองก็เก่งสุดๆ อาการนี้เรียกว่าประสาทหวาดระแวง ไม่ได้ตั้งอยู่บนพื้นฐานความเป็นจริง ให้พิจารณาความเป็นจริงทั้งหมด พยายามมองเหตุผลต่างๆ ประกอบ แล้วจะพบคำตอบ อย่าคิดในทางลบอย่างเดียว การหวาดระแวงเกินไปจะทำให้คุณไม่มีความสุข เช่น คุณอาจได้รับโน้ตว่าไม่ต้องร่วมงานชิ้นนั้น ก็เพราะนายเห็นว่าช่วงนี้คุณมีงานหนักพอแล้ว เป็นต้น
การขาดความมั่นใจในตัวเอง ความกังวลใจในที่ทำงานอาจเกิดได้จากเหตุผลมากมาย แต่มักพบในสภาพแวดล้อมขึ้นๆลงๆ อาจจะเพราะคุณมีเจ้านายที่ร้ายกาจ อารมณ์แปรปรวนไม่แน่นอน ทำให้เกิดบรรยากาศไม่มั่นคงในที่ทำงาน แม้แต่คนที่มากความสามารถก็ยังมีบางขณะที่กังวลและไม่มั่นใจในความสามารถได้ ยิ่งผู้ที่อยู่ตำแหน่งสูงๆจะกดดันมาก เพราะมีมาตรฐานสูง และมีความคิดต้องการทำให้ทุกอย่างสมบูรณ์ไปหมด จึงเกิดความกระวนกระวาย รู้สึกผิด วิพากษ์วิจารณ์ตัวเองขึ้น ผลก็คือ ไม่สามารถทำงานได้ดีสมกับความสามารถที่มี และการเมืองกับการซุบซิบในออฟฟิศก็มีส่วน
การที่คุณวิตกกังวลในที่ทำงาน อาจมีสาเหตุจากมีชีวิตในเด็กที่ไม่มั่นคง เติบโตมาพร้อมกับความไม่มั่นใจตนเอง และเชื่อว่าตัวเองไม่เยี่ยมยอดเท่าคนอื่นๆ ความรู้สึกเหล่านี้จะถูกดึงเข้ามาในชีวิตการทำงานด้วย คุณควรจะเชื่อในคุณค่าของตนเองและศรัทธาในตนเองให้มากขึ้น
เพื่อนร่วมงานนัดไปช้อปปิ้งหลังเลิกงานแต่ไม่ชวนคุณ จึงคิดไปว่าเขาไม่ชอบคุณ วิธีขจัดความรู้สึกด้อยค่า ให้มองไปว่าพวกเขาคิดว่าคุณกำลังยุ่งอยู่ และคราวหน้าคุณก็ลองเสนอตัวไปร่วมกิจกรรม กับเพื่อนๆก็ได้ ถ้าพบว่าเขาไปต้อนรับก็ลืมเสีย ครอบครัวและคนอื่นๆ ยังรักคุณ
เมื่อเจ้านายชมเพื่อนร่วมงานในระหว่างประชุม แต่ไม่เอ่ยถึงคุณเลย คุณคิดไปว่านี่เป็นการประกาศให้ทุกคนรู้ว่าคุณเองไม่มีค่าและไม่เอาไหน คุณควรจะเรียนรู้จากคำชมนั้นเพื่อให้รู้ว่า เจ้านายคุณชอบอะไร แล้วนำมาปรับปรุงการทำงานของตน และแน่นอนครั้งต่อไปคุณนั่นเองจะได้รับคำชม
เมื่อเจ้านายคุณพาสมาชิกในครอบครัวมาและไม่ได้แนะนำให้คุณรู้จัก คุณคิดไปว่าตัวเองไม่มีค่าพอ เหตุผลคือ เจ้านายไม่อยากขัดจังหวะหรือคิดว่าเป็นการไม่เหมาะที่จะแนะนำสมาชิก ครอบครัวให้คุณรู้จักในเวลาทำงาน ถ้าเป็นในช่วงเวลาที่เหมาะๆ คุณอาจเข้าไปแนะนำตัวเองก็ได้ แต่ดูให้ดีก่อนว่าเจ้านายอยากให้คุณมีส่วนร่วมด้วยหรือเปล่า
เจ้านายพาเพื่อนร่วมงานในแผนกเดียวกับคุณไปรับประทานมื้อกลางวันในร้านชั้นดี คุณด่วนสรุปว่าเจ้านายเลิกชอบคุณแล้ว บางทีพวกเขาอาจไปหารือเรื่องงานในโปรเจ็คเดียวกัน และช่วงมื้อเที่ยง การทานอาหารกับเพื่อนร่วมงานเป็นเรื่องปกติ เพราะลิ้มรสอาหารและคุยเรื่องงานไปพร้อมๆกันไม่เสียเวลา หรือเพื่อนของคุณอาจทำงานถูกใจ จึงได้รับการเลี้ยงอาหารเป็นรางวัล แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณทำงานไม่ดี
วิธีควบคุมตัวเอง ลองคุยกับเจ้านายเมื่อคุณรู้สึกไม่มั่นใจในสภาพหน้าที่การงาน และไม่มีสมาธิที่จะทำงานให้ลุล่วงได้ด้วยดี ถามเขาว่าในสายตาของเขาคุณทำงานเป็นอย่างไร มีข้อบกพร่องตรงไหน แต่ใช่ว่าเจ้านายจะมีเวลาว่างเฉพาะคุณได้บ่อย ดังนั้น คุณควรลบล้างความคิดในทางร้ายๆ ไปซะ เพราะยิ่งคุณทุรนทุราย คุณก็จะยิ่งจมกับความวิตกกังวลยิ่งขึ้นเท่านั้น หรือบางทีเจ้านายบางคนอาจแสดงออกไม่เก่ง อยากชม แต่ยังหาวิธีการที่เหมาะสมไม่ได้
แต่ถ้าหากวิตกจริตของคุณมาจากคุณรู้ตัวเองทำงานได้ไม่ดี หรือได้ข่าวแน่นอนว่าบริษัทจะลดจำนวนพนักงาน ให้พนักงานบางส่วนออกไป ซึ่งคุณเป็นหนึ่งในนั้นด้วย ก็ให้มองโลกในแง่ดีว่าเป็นจังหวะดีสำหรับการหางานใหม่ หรือ จังหวะดีที่จะเข้าไปคุยกับเจ้านาย เพื่อให้รู้ว่าข้อบกพร่องในการทำงานของคุณมีอะไรบ้าง และคุณจะได้รู้จริงๆ ว่าคุณมีคุณค่ากับบริษัทมากเพียงใด
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ ตรงใจใครหรือเปล่า สาวๆ ขี้ระแวงจ๋า
ข้อมูลจาก Forward mail
Create Date : 26 เมษายน 2552 |
Last Update : 26 เมษายน 2552 20:16:06 น. |
|
0 comments
|
Counter : 878 Pageviews. |
|
|
|
|
|