Group Blog
 
<<
มกราคม 2552
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
17 มกราคม 2552
 
All Blogs
 
เทคนิคการจูงใจลูกน้องให้ทำงาน




การจูงใจลูกน้องด้วยวิธี D-R-I-V-E ดังนี้

D - Development
การพัฒนาและฝึกอบรมเป็นวิธีการหนึ่งที่สามารถจูงใจลูกน้องให้ทำงานได้ คงไม่มีลูกน้อง
คนไหนอยากที่จะทำงานกับหัวหน้าที่ไม่เคยคิดที่จะส่งเสริมหรือสนับสนุนให้พวกเค้ามีความรู้
และความสามารถที่เพิ่มขึ้น ขอให้หัวหน้างานตระหนักไว้เสมอว่า ไม่ต้องกลัวลูกน้องจะเก่ง
หรือดีกว่าตนเอง แบบว่ากลัวลูกน้องจะเลื่อยขาเก้าอี้ จนเป็นเหตุให้หัวหน้างานไม่สนใจที่จะ
พัฒนาลูกน้องเลย ทั้งนี้การพัฒนาลูกน้องนั้นมีหลายวิธีที่หัวหน้างานสามารถทำได้ เช่น

- การสอนงาน (Coaching) :
เพื่อให้ลูกน้องเข้าใจวิธีการ และขอบเขตหน้าที่งานที่ต้องรับผิดชอบ

- การส่งลูกน้องเข้าฝึกอบรมกับหน่วยงานภายนอก (In House and Public Training) :
เพื่อส่งเสริมให้พนักงานมีความรู้ ความเข้าใจมากขึ้น

- การให้คำปรึกษาแนะนำ (Consulting):
เพื่อช่วยลูกน้องในการหาแนวทางแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น

- การโยกย้ายสับเปลี่ยนงาน (Job Rotation) :
เพื่อส่งเสริมให้ลูกน้องเกิดทักษะที่หลากหลาย (Multi-Skill) มากขึ้น


R - Relation
การสร้างสัมพันธภาพที่ดีกับและลูกน้องเป็นสิ่งที่หัวหน้างานไม่ควรเพิกเฉย
เพราะสัมพันธภาพที่ดีจะทำให้ลูกน้องอุทิศและตั้งใจในการทำงานให้กับคุณอย่างจริงใจ
มิใช่การบังคับ ทั้งนี้วิธีการในการเสริมสร้างให้คุณเองมีสัมพันธภาพที่ดีกับลูกน้อง
เช่น การพาลูกน้องไปเลี้ยงอาหารกลางวันหรืออาหารเย็นเนื่องในโอกาสพิเศษ
ซึ่งอาจจะเป็นเลี้ยงวันเกิดเลี้ยงลูกน้องกรณีที่ได้รับการเลื่อนตำแหน่ง
หรือการเริ่มต้นทักทายลูกน้องก่อน หรือการถามเรื่องอื่นๆกับลูกน้องบ้างที่ไม่ใช่เรื่องงาน
หรือการซื้อของฝากหรือของเล็กน้อยให้ลูกน้องซึ่งไม่จำเป็นต้องรอให้ถึงวัน/โอกาสพิเศษ
หรือการรับฟังและเสนอแนะแนวทางแก้ไขปัญหาของลูกน้องที่ไม่ใช่ปัญหาจากการทำงาน
หรือการสร้างอารมณ์ขันกับลูกน้องการสร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะกับลูกน้องบ้าง


I - Individual Motivation
ลูกน้องแต่ละคนมีหลากหลายสไตล์ บางคนเงียบไม่ชอบแสดงออก บางคนชอบเอะอะ
โวยวาย บางคนคิดมาก บางคนขี้น้อยใจ ดังนั้นในฐานะของหัวหน้างานจึงจำเป็นอย่างยิ่ง
ที่จะต้องวิเคราะห์ลูกน้องแต่ละคนว่าพวกเค้ามีนิสัย บุคลิกลักษณะและความต้องการ
อย่างไร แต่ละคนจะมีแบบฉบับเฉพาะที่แตกต่างกันไป การจูงใจลูกน้องจึงย่อมต้องแตกต่าง
กันไปตามลักษณะนิสัยของแต่ละคน จงอย่าใช้วิธีการใดวิธีการหนึ่งกับลูกน้องหลายๆ
คนที่มีความต่างกัน เช่น หากพบว่าลูกน้องของตนขอบที่จะแสดงความคิดสร้างสรรค์
หัวหน้าควรจะมอบหมายงานที่ส่งเสริมให้พวกเค้าได้ใช้ความคิดและสามารถนำเสนอแนว
คิดต่างๆ กับคุณได้ หรือหากลูกน้องของคุณเป็นคนชอบโวยวายเมื่อมีความคิดเห็นไม่ตรง
กับคุณคุณเอง ในฐานะหัวหน้างานควรจะสงบนิ่งและพูดคุยกับลูกน้องอย่างมีเหตุผล
เพื่อจูงใจให้ลูกน้องเห็นด้วยกับคุณ


V - Verbal Communication
คุณรู้ไหมว่าคำพูดเปรียบเสมือนดาบสองคมที่ส่งผลทั้งด้านบวกและด้านลบกับตัวคุณเอง
ในฐานะของหัวหน้างาน บางครั้งการไม่พูดหรือนิ่งเฉย จะดูดีกว่าการพูดออกไป
โดยเฉพาะคำพูดในทางลบที่อยากให้คุณจงหลีกเลี่ยงได้แก่ คำพูดที่ประชดประชันเหน็บ
แนม คำพูดที่ออกคำสั่งโดยไม่มีเหตุผล คำพูดดูถูกความสามารถของลูกน้องคำพูดที่ปัด
ความรับผิดชอบหรือโยนความผิดให้กับลูกน้อง คำพูดที่นินทาลูกน้องลับหลังคำต่อว่าลูก
น้องต่อหน้าเพื่อนร่วมงานหรือต่อหน้าผู้อื่น จงพยายามเลือกใช้คำพูดทางบวกที่สร้างสรรค์
และจูงใจลูกน้องให้พวกเค้าอยากทำงานให้กับคุณ เช่น พูดชดเชยเมื่อลูกน้องทำงานสำเร็จ
พูดให้กำลังใจเมื่อลูกน้องวิตกกังวลหรือเผชิญปัญหาพูดกล่าว แสดงความขอบคุณเมื่อลูก
น้องทำงานให้พูดเสริมกำลังใจถึงความเชื่อมั่นว่าลูกน้องสามารถทำงานนั้นๆ ได้สำเร็จ


E - Environment Arrangement
สภาพแวดล้อมในการทำงานเป็นสิ่งหนึ่งที่สามารถจูงใจลูกน้องให้อยากทำงาน
เพื่อมิให้ลูกน้องรู้สึกจำเจหรือเบื่อหน่ายกับสภาพแวดล้อมแบบเดิมๆ พบว่ามีหลากหลาย
วิธีที่คุณสามารถเลือกใช้ เพื่อสภาพแวดล้อมหรือบรรยากาศที่ดีในการทำงาน เช่น
การปรับเปลี่ยนรูปโฉมออฟฟิศใหม่ ไม่ว่าเป็นการจัดวางโต๊ะ เก้าอี้ใหม่หรือการจัดหา
อุปกรณ์อำนวยความสะดวกในการทำงานต่าง ๆ ให้พร้อมในการทำงานหรือการอนุญาต
ให้ลูกน้องเปิดเพลงเบา ๆ ฟังเพื่อคลายความตึงเครียดในการทำงาน หรือการสร้างทีม
งานให้เป็นทีมแห่งการเรียนรู้เพื่อให้เกิดบรรยากาศในการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น
การจัดตั้งทีมงานนักอ่านขึ้นโดยการมอบหมายให้ลูกน้องอ่านหนังสือที่เกี่ยวข้องกับงานของ
ตนเองและนำมาเล่าให้เพื่อนร่วมงานฟังหรือการจัดประชุมร่วมกันอาจเป็นเดือนละครั้งหรือ
สองครั้งตามความเหมาะสม เพื่อสร้างบรรยากาศในการทำงานเป็นทีมร่วมกัน ทั้งนี้
คุณอาจใช้เวทีของการประชุม เพื่อแจ้งให้พนักงานรับทราบถึงนโยบายของบริษัทภารกิจ
หน้าที่ของทีมงาน และการให้ลูกน้องมีส่วนร่วมเสนอไอเดียใหม่ ๆเพื่อปรับปรุงระบบงาน
ให้ดีขึ้น ดังนั้นขอให้หัวหน้างานเริ่มสำรวจตัวเองนับแต่ตอนนี้ว่าได้ใส่ใจที่จะหาวิธีจูงใจลูก
น้องให้ทำงานมากน้อยแค่ไหน หัวหน้างานที่มีทั้งศาสตร์ในการบริหารคนและศาสตร์ใน
การบริหารงานนั้น มักจะเป็นหัวหน้างานที่ประสพความสำเร็จในหน้าที่การงาน
ได้รับการยอมรับและความเคารพศรัทธาจากลูกน้องด้วยความจริงใจ

ที่มา ศูนย์บ่มเพาะวิสาหกิจ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช


Create Date : 17 มกราคม 2552
Last Update : 17 มกราคม 2552 15:13:20 น. 1 comments
Counter : 1571 Pageviews.

 
การจูงใจลูกน้องสำคัญจริง ๆ ค่ะ ขอบคุณสำหรับ
เทคนิค DRIVE ค่ะ เราเคยไปเ้ข้าอบรมหลักสูตร
หัวหน้างานมืออาชีพ กับ อ.อุไรวรรณ อยู่ชา
อาจารย์ก็ย้ำเลยล่ะว่า ต้องทำให้ลูกน้องศรัทธา
และเข้าไปนั่งเป็น "หัวหน้า Love Love" ของลูกน้อง
ให้ไ้ด้ซะก่อน จึงจะทำให้ลูกน้องทำงานอย่างเต็มที่
ซึ่ง DRIVE ก็เป็นส่วนสำคัญค่ะ อ.อุไรวรรณ
ถ่ายทอดประสบการณ์ที่คลุกคลีกับหัวหน้างาน
และพนักงานในโรงงาน ก็เลยแชร์ประสบการณ์
ได้ดีมาก เราได้ประโยชน์มาก ๆ เลยจ้า


โดย: ซูซี่ IP: 124.121.201.50 วันที่: 31 มกราคม 2553 เวลา:21:36:54 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 200 คน [?]




Friends' blogs
[Add ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.