Group Blog
 
<<
มีนาคม 2552
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
8 มีนาคม 2552
 
All Blogs
 
“ทักษะการฟัง” ทักษะสำคัญในชีวิตการทำงาน




ในการสื่อสารใด ๆ หรือการพูดคุยสนทนาระหว่างกันในเรื่องหนึ่งเรื่องใดนั้น “ทักษะการฟัง” เป็นสิ่งสำคัญมาก
การเป็นนักฟังที่เข้าทำนอง “ฟังไม่ได้ศัพท์แล้วจับมากระเดียด”ตามที่สุภาษิตไทยโบราณว่าไว้นั้น
นอกจากจะนำมาซึ่งความผิดพลาดในการสื่อสารแล้ว ยังอาจนำมาซึ่งความเข้าใจผิด
การทะเลาะเบาะแว้งไม่ลงรอยระหว่างกันไม่ว่าจะเป็นชีวิตครอบครัวหรือชีวิตการทำงาน

ทักษะการฟังเป็นทักษะสำคัญที่จำเป็นต้องเรียนรู้ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าทักษะการสื่อสารด้านอื่น ๆ เช่น ทักษะการพูด
อ่าน เขียน ฯลฯ ทักษะการฟังที่ดีนำมาซึ่งความสำเร็จในชีวิต เพราะเป็นพื้นฐานสำคัญของการทักษะการเข้าสังคม
ลดความเข้าใจผิด ความขัดแย้งในการปฏิสัมพันธ์กับคน
นอกจากนี้การพัฒนาทักษะการฟังส่งผลต่อการพัฒนาในด้านสติปัญญา ในแง่ของการฝึกใช้ความคิด
การจับประเด็น ฝึกความจำ และฝึกฝนการจดจ่อแน่วแน่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่ต้องการเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

อย่างไรก็ตามแม้ทักษะการฟังจะเป็นสิ่งสำคัญ แต่เนื่องจากคนส่วนใหญ่มองว่าทักษะนี้เป็นเรื่องที่สามารถพัฒนา
ขึ้นมาได้เองตามธรรมชาติจึงไม่ต้องดิ้นรนฝึกฝนมากเท่ากับทักษะการสื่อสารด้านอื่น ๆ
เมื่อเทียบกับทักษะในด้านการพูด อ่าน เขียน ที่ให้น้ำหนักความสำคัญในการฝึกฝนมากกว่า
ทั้ง ๆ ที่ในความเป็นจริงแล้วทักษะการฟัง เป็นทักษะที่จำเป็นต้องได้รับการฝึกฝนเช่นเดียวกัน โดยจากงานวิจัย
กลุ่มตัวอย่างผู้ฟังจำนวน 100 คน พบว่ามีเพียง 10 คนเท่านั้นที่มีทักษะการฟังที่ดี โดยคนส่วนใหญ่ที่เหลือ
ไม่มีผู้ใดทราบว่าการฟังอย่างมีไหวพริบ ฟังอย่างเป็นระบบ หรือการฟังอย่างตรงประเด็นนั้นเป็นอย่างไร

การฝึกฝนทักษะการเป็นผู้ฟังที่ดีและการฟังอย่างมีประสิทธิภาพนั้นเป็นสิ่งที่สามารถสอนและฝึกฝนกันได้
โดยเริ่มจาก

ฝึกฝนความอดทนในการเป็นผู้ฟังที่ดี
เนื่องจากโดยธรรมชาติแล้วคนส่วนใหญ่พูดด้วยอัตราเร็วไม่เกิน 200 คำต่อนาที แต่จากการวิจัยพบว่า
ประสิทธิภาพของสมองในการประมวลผลข้อมูลต่าง ๆ นั้นมีความเร็วถึง 1000 คำต่อนาที
ดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้สูงที่ผู้ฟังจำนวนมากอาจเกิดอาการ “ใจลอย” เนื่องจากเบื่อหน่ายกับสิ่งที่ฟังและ
มีสิ่งอื่นที่น่าสนใจให้ชวนคิดมากกว่า หรือ “พูดแทรก”เนื่องจากรู้สึกว่าผู้พูดนั้นพูดช้าไม่ทันใจ
โดยอาจใช้วิธี “ด่วนสรุป”จากความคิดของตนแทนการฟังอย่างตั้งใจจนจบ
ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการทำงานที่ผิดพลาด เข้าใจผิด อันเนื่องมาจากการฟังที่ขาดประสิทธิภาพ อาทิ
เลขาฟังคำสั่งนัดหมายลูกค้าสำคัญผิดพลาด ส่งผลให้เจ้านายต้องเสียลูกค้าคนสำคัญของบริษัทไปอย่างน่าเสียดาย
ปัญหาการทะเลาะเบาะแว้งระหว่างกันในที่ทำงาน ซึ่งบางกรณีอาจสร้างความเสียหายให้กับองค์กรเป็นอย่างมาก
โดยในภาคปฏิบัตินั้นเราสามารถฝึกฝนความอดทนในการเป็นผู้ฟังที่ดีได้ โดยการฝึกฝนจากการฟังเทป บทเรียน
หนังสือเสียงต่าง ๆ โดยตั้งเวลาในการฟังอย่างเจาะจง ไม่ลุกไปทำอย่างอื่นก่อนฟังเสร็จ รวมทั้งในสถานการณ์จริง
เราควรตั้งเป้าไว้เสมอก่อนการสนทนาทุกครั้งที่จะตั้งใจฟังผู้พูดพูดให้จบพร้อมจดจ่ออยู่ที่เนื้อหาของผู้พูดเสมอ


ฝึกฝนการมีมารยาทเป็นผู้ฟังที่ดี
เป็นหลักการสำคัญในการเรียนรู้ที่จะให้เกียรติผู้พูด ไม่เป็นคนที่เย่อหยิ่งหรือเอาตนเองเป็นศูนย์กลางคิดว่าความคิด
ของตนดีกว่าจนไม่ยอมรับฟังผู้ใด จนเป็นเหตุให้เราปิดกั้นการเรียนรู้จากแหล่งต่าง ๆ ไปอย่างน่าเสียดาย
รวมทั้งเป็นการสร้างสัมพันธ์อันดีต่อทั้งผู้พูดและผู้ฟัง ทำให้การสนทนานั้นเป็นไปอย่างสร้างสรรค์และจบลงด้วยดี
โดยการฝึกฝนในภาคปฏิบัตินั้นได้แก่
ฟังโดยสบตาผู้พูดเสมอ
ไม่พูดขัดจังหวะหรือพูดแทรกในขณะที่อีกฝ่ายยังพูดไม่เสร็จ
โดยหากต้องการถามอะไรให้จำหรือจดประเด็นเอาไว้ก่อน
หรือหากกลัวลืมจริง ๆ ให้กล่าวขออนุญาตถามด้วยน้ำเสียงสุภาพ
รู้จักจังหวะของการ พูด/ฟัง ถาม/ตอบ ในการสื่อสาร
รู้จักเลือกฟังในสิ่งที่สร้างสรรค์เป็นประโยชน์ ไม่ฟังคนอื่นนินทากัน หรือพูดจาลามกหยาบโลน เป็นต้น


ฝึกฝนการฟังอย่างกระตือรือร้น
ไม่เพียงแต่มีมารยาทในการเป็นผู้ฟังที่ดีด้วยท่าทีตั้งใจฟังอย่างจดจ่อ แต่การเป็นผู้ฟังที่มีประสิทธิภาพนั้น
ต้องมีลักษณะแห่งความกระตือรือร้นอยู่ด้วย ไม่ใช่แต่แสดงท่าทางภายนอกว่ากำลังฟังอยู่
แต่ในสมองต้องมีการทำงานและคิดไปด้วยอยู่ตลอดเวลา จะฟังแบบใจลอยคิดถึงเรื่องอื่นไม่ได้
โดยในภาคปฏิบัติเราสามารถฝึกฝนได้โดยการตอบสนองในการฟังทุกครั้ง เช่น ขานรับทันทีเมื่อมีคนเรียก
แสดงท่าทางฟังอย่างตั้งใจและตอบรับ “ค่ะ/ ครับ”เป็นต้น เพื่อให้ผู้พูดรู้ว่าเรากำลังตั้งใจฟังเขาอยู่


ฝึกฝนการจับประเด็นด้วยการตั้งคำถาม
ความสามารถในการจับประเด็นเป็นตัวชี้ว่าการสื่อสารที่เกิดขึ้นนั้นเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่
ผู้ส่งสารสามารถบรรลุเป้าหมายในการสื่อสารที่ต้องการไปยังผู้รับสารหรือไม่ ในภาคปฏิบัติหลังจากจบการพูดคุยกัน
เราสามารถตั้งคำถามทวนซ้ำกับตัวเองหรือเพื่อนร่วมสนทนาเพื่อทดสอบว่้า
เราสามารถจับประเด็นในเนื้อหาที่เพิ่งฟังไปได้หรือไม่ ตัวอย่างคำถามเช่น
ในรูปแบบของ ใคร ทำอะไร ที่ไหน อย่างไร เมื่อไร เวลาใด และเราจะต้องทำอะไรต่อไป เป็นต้น
รวมทั้งสามารถตั้งคำถามปลายเปิดต่าง ๆ เพื่อการคิดต่อยอด อันก่อให้เกิดประโยชน์ในการฝึกฝนทักษะการคิดให้
กับตนเองได้ในอีกทาง รวมทั้งเราสามารถรู้จักผู้ร่วมสนทนามากยิ่งขึ้นผ่านทางแนวคำตอบที่ได้รับด้วยเช่นกัน


ฝึกฝนทักษะการฟังในสถานการณ์ที่ยากลำบาก
เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการพัฒนาทักษะด้านการฟังในสถานการณ์ที่ยากลำบากทุกรูปแบบที่ไม่สามารถ
หลีกเลี่ยงได้เมื่อเติบโตขึ้น โดยใช้สถานการณ์จริงต่าง ๆ ที่ทำให้การฟังเป็นไปอย่างยากลำบาก เช่น
ในสถานที่ที่มีสิ่งเร้าหรือสิ่งรบกวนภายนอก ตามสถานที่สาธารณะต่าง ๆ ฯลฯ
ที่อาจมีเสียงดังรบกวนหรือมีสิ่งที่น่าสนใจกว่าคอยดึงดูดส่งผลให้ประสิทธิภาพในการฟังลดลง
หรือ ฟังคำอธิบายงานจากหัวหน้าในขณะที่ทั้งห้องทำงานเต็มไปด้วยเสียงดังในการติดต่องาน เป็นต้น

หากเราเป็นผู้หนึ่งที่ปรารถนาความสำเร็จในชีวิต ทักษะการฟัง เป็นทักษะสำคัญที่เราไม่ควรมองข้าม
แต่เป็นทักษะที่ควรรีบเร่งเรียนรู้ ฝึกฝน สร้างเป็นลักษณะนิสัยเพื่อพัฒนาเราให้เป็นผู้ฟังที่ดีต่อไปในอนาคต

ที่มา : สมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี่ (ไทย-ญี่ปุ่น)


Create Date : 08 มีนาคม 2552
Last Update : 8 มีนาคม 2552 21:01:27 น. 1 comments
Counter : 3193 Pageviews.

 
ok.


โดย: nud_kop.hotmail.com IP: 202.149.25.241 วันที่: 3 พฤษภาคม 2553 เวลา:11:16:00 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 200 คน [?]




Friends' blogs
[Add ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.