Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2553
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
13 กรกฏาคม 2553
 
All Blogs
 
เหตุผลดีๆ ที่เราควรไปช่วยคนอื่น



เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาผมได้ไปบรรยายหลักสูตร
“การพัฒนาทักษะการบริหารงาน สำหรับหัวหน้างานในสายการผลิต” ที่บริษัท G K Assembly มาครับ
เลยเกิดไอเดีย อยากแลกเปลี่ยนประสบการณ์ครับ

เหตุเกิดในบริเวณพื้นที่ปฏิบัติงานของบริษัทแห่งหนึ่ง เป็นการสนทนาปัญหาคาใจระหว่างหัวหน้างานกับลูกน้อง
หลังจากที่หัวหน้างานเห็นลูกน้องนั่งคุยกัน หลังจากทำงานเสร็จ
โดยขอร้องให้ลูกน้องไปช่วยงานเพื่อนร่วมงานแผนกถัดไป
เหตุผลเพราะแผนกที่ปฏิบัติงานถัดไปนั้น วันนี้มีพนักงานขาดงานสองคน

“พี่ ทำไมพี่ต้องให้พวกผมไปช่วยแผนกอื่นด้วยล่ะ!” ลูกน้องถามขึ้นด้วยอารมณ์ไม่พอใจ

“ทำไม ถึงถามอย่างนี้ล่ะฮึ!” หัวหน้าถามกลับด้วยใบหน้าสงสัย

“ก็ผมรู้สึกไม่ยุติธรรมเลยนี่ครับ” ลูกตอบ แล้วเริ่มอธิบายต่อ
“พอพวกผมว่าง พี่ก็ให้ผมไปช่วยงานแผนกอื่น แต่เวลาแผนกอื่นว่าง ไม่เห็นมีใครมาช่วยพวกผมเลยนี่ครับ”

หลังจากฟังลูกน้องตัดพ้อพักใหญ่ หัวหน้าก็เริ่มอธิบายขึ้นบ้าง
“บริษัทอยู่ได้ก็ด้วยมีกำไร และกำไรก็เกิดจากลูกค้าซื้อสินค้า
และการที่เราทุกคนในบริษัทช่วยกันผลิตสินค้า ก็เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้า
ทั้งในด้านคุณภาพ ปริมาณ และการส่งมอบ ดังนั้น การที่แผนกของเราทำงานเสร็จแล้ว
แต่แผนกที่เขาปฏิบัติงานเกี่ยวข้องหรือปฏิบัติงานต่อจากเรา ทำงานไม่เสร็จ หรือเขามีปัญหาเราก็ต้องไปช่วยเขา
จะมานิ่งดูดายได้อย่างไร?”

หัวหน้าหยุดพูด แล้วตั้งคำถามว่า
“รู้ไหม เพราะอะไร เราจึงต้องไปช่วยงานคนอื่นทำงาน?” ถามจบหัวหน้าก็ยืนนิ่ง เพื่อรอคำตอบ

สักครู่ ก็เริ่มมีเสียงตอบกลับมา
“เพื่อส่งงานได้ทัน และพี่ก็จะได้ไม่โดนลูกค้าต่อว่าใช่ไหมล่ะ?”

หัวหน้ายิ้ม เพราะที่ได้ยินคำตอบแบบนั้น แล้วพูดต่อว่า
“ใช่แล้วครับ เพราะการที่ลูกค้าต่อว่านั้น ถือเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง เพราะการที่เขามาต่อว่าเรานั้น
นั่นแสดงว่าเขาไม่พอใจ และการไม่พอใจนี้เอง จะเป็นจุดเริ่มต้นของการร้องเรียน
และถ้าร้องเรียนมากๆ เข้า เขาก็จะยกเลิกการซื้อสินค้าจากเรา ไปซื้อจากคู่แข่งของเราแน่นอน
หรือถ้าแย่ยิ่งไปกว่านั้นเขาก็อาจจะไปบอกต่อคนอื่นๆ อีกเพื่อไม่ให้มาซื้อของจากบริษัทเรา”

หัวหน้าหยุดพูด แล้วกวาดสายตาไปยังลูกน้องที่ร่วมประชุม แล้วพูดต่อว่า
“นึกภาพตามก็แล้วกัน สมมติเราสั่งซื้อของ พอถึงเวลานัดเราก็ไปตรงเวลาเป๊ะ
แต่เจ้าของร้านบอกว่าของยังไม่เสร็จ ต้องรออีกสักชั่วโมงหนึ่ง เราจะรู้สึกอย่างไร?
เราก็คงเบื่อ เซ็ง และคงไม่อยากจะมาซื้อของร้านนี้อีกถ้าไม่จำเป็น จริงไหมครับ?”

หัวหน้าพูดจบได้ซักพักหนึ่ง ลูกน้องก็เริ่มเดินไปช่วยงานแผนกอื่น ตามที่หัวหน้างานร้องขอ

ปัญหาการไม่ช่วยงานกันระหว่างพนักงาน แต่ละแผนก เป็นเรื่องปวดหัว ปวดใจ ของหัวหน้างานหลายคน
ดังตัวอย่างกรณีนี้ (ผมก็เคยเจอเหมือนกัน)

สำหรับความคิดของพนักงานส่วนใหญ่ คือ
“ทำไมเราต้องไปช่วยเขาด้วย ไม่เคยมีใครมาช่วยเราเลย”
“เราทำงานของเราเสร็จสมบูรณ์แล้ว ไม่เห็นจะต้องไปช่วยคนอื่นเขาเลย หน้าที่ใครก็หน้าที่มันซิ”
“เราไปช่วยคนอื่นแล้วเราจะได้อะไร”
สำหรับผู้ที่เป็นหัวหน้างานนั้น ต้องทำความเข้าใจกับพนักงานให้ดีนะครับ
โดยควรอธิบายถึงเหตุ และผลของการไปช่วยคนอื่น และที่สำคัญควรไปคุยกับแต่ละแผนกให้ชัดเจนว่า
“เราผลิตสินค้าในนามของบริษัทของเรา ไม่ได้ผลิตสินค้า หรือขายสินค้าในนามแผนกใด แผนกหนึ่งเท่านั้น”

เพราะฉะนั้นแล้ว เราทุกคนในบริษัทก็ต้องช่วยเหลือกัน ต้องสามัคคีกัน เห็นแผนกไหนหรือใครยุ่ง
ถ้าเราพอช่วยได้ ต้องรีบไปช่วยกัน
เพราะถ้าเรามัวแต่คิดที่จะแบ่งแยก เพื่อที่จะโดดเด่น ดูดีแต่เพียงคนเดียวหรือแผนกเดียว มันคงเป็นไปไม่ได้
เหมือนนิทานเรื่องการทะเลาะกันของนิ้วมือทั้งห้า เพื่อจะอวดอ้างความดีความเด่นของตน
แต่สุดท้าย นิ้วแต่ละนิ้วก็แยกออกจะกันไม่ได้ ต้องอยู่ติดกันอยู่ดี

การทำงานก็เหมือนกันนะครับ ถ้าเรามั่วแต่ต้องการจะแบ่งแยก แผนกใคร แผนกมันแล้วละก็
สุดท้าย ผมว่าไม่มีที่อยู่ด้วยกันทุกแผนกละครับ ซึ่งอย่ารอให้ถึงวันนั้นเลยครับ
เรามาหันหน้าเข้าหากัน ช่วยกัน สามัคคีกัน
เพื่อความอยู่รอดของพวกเราทุกคนในองค์กร บนโลกของการแข่งขันอันแสนจะรุนแรง ใบนี้


บทความโดย : ทองพันชั่ง พงษ์วารินทร์
อีเมล : tpongvarin@yahoo.com
ที่มา : //www.hrcenter.co.th



Create Date : 13 กรกฎาคม 2553
Last Update : 13 กรกฎาคม 2553 20:42:54 น. 0 comments
Counter : 1466 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 200 คน [?]




Friends' blogs
[Add ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.