ทักษะซ่อนเร้น ที่องค์กรมองหา
ช่วงนี้เป็นช่วงที่เรียกว่าตลาดของนายจ้างอย่างแท้จริง เพราะอย่างที่เราได้ยินข่าวกันอยู่เป็นประจำเกี่ยวกับจำนวนคนตกงานที่มีมากขึ้นเรื่อยๆ นี่ยังไม่รวม นักศึกษาที่กำลังจะจบการศึกษาใหม่ในช่วงเดือนมีนาคม-เมษายนนี้ อีกหลายแสนคนที่กำลังจะเข้าสู่ ตลาดแรงงาน และไม่ว่าคนเคยทำงานหรือยังไม่เคยทำงาน หลายคนตอนนี้กำลังหางาน ดังนั้นนายจ้างจึงกลายเป็นฝ่ายได้เปรียบในการหาลูกจ้างใหม่เพราะมีคนเข้ามาให้เลือกมากกว่าปกติ
ถ้าคุณกำลังมองหางานอยู่ บทความคราวนี้น่าจะช่วยคุณได้บ้างไม่มากก็น้อย มีผู้อ่านเขียนเข้ามาถามผม ขอให้ช่วยแนะนำเทคนิคพิเศษในการดึงดูดใจนายจ้างให้เลือกเขา
ก่อนอื่นต้องเข้าใจว่า สิ่งแรกที่จะดึงดูดใจนายจ้างได้นั่นคือ คุณสมบัติที่ตรงตามที่นายจ้างต้องการในตำแหน่งนั้นๆ ซึ่งถ้าตำแหน่งที่คุณสมัครไปเป็นสายงานที่คุณเคยทำมาหรือเรียนจบมาโดยตรง คุณก็คงผ่านช่วงนี้ไปได้ไม่ยากนัก
ขั้นตอนถัดมาก็จะเป็นขั้นตอนของการสัมภาษณ์งาน หรือถ้าเป็นองค์กรใหญ่ๆ ก็อาจจะมีการให้ทำแบบทดสอบก่อน เข้าไปสัมภาษณ์ ซึ่งขั้นตอนในการสัมภาษณ์นี้มีวัตถุประสงค์หลายอย่างด้วยกัน ตั้งแต่การได้เห็นและพบเจอตัวจริง เห็นบุคลิก ลักษณะ ตรวจเช็กดูว่าสิ่งที่คุณเขียนตรงกับความเป็นจริงหรือไม่ ซึ่งถ้าคุณสมบัติที่คุณเขียนไว้เป็นไปตามนั้นจริง การสัมภาษณ์ในเรื่องนี้คงไม่ใช่อุปสรรคใหญ่สำหรับคุณ
อย่างไรก็ตาม การสัมภาษณ์ไม่เพียงแต่ต้องการมองหาทักษะต่างๆ ที่พอวัดและมองเห็นได้ เช่น พูดภาษาอังกฤษได้หรือไม่ ใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์เป็นหรือเปล่า หรือลงบัญชีได้ไหมเท่านั้น แต่องค์กรยังต้องการมองหาศักยภาพ ทัศนคติ และทักษะที่ซ่อนเร้นอื่นๆ ซึ่งยากต่อการค้นหา เพื่อให้แน่ใจว่าเขาได้คนที่ดีและเหมาะสมจริงๆ ไปร่วมงาน
การเตรียมตัวก่อนสอบสัมภาษณ์ โดยเฉพาะในเรื่องที่ยากแก่การวัดประเมินจึงเป็นสิ่งจำเป็น ปกติองค์กรส่วนใหญ่มองหาทักษะซ่อนเร้นบางอย่างไม่ต่างกันมากนัก และนี่คือ 10 ตัวอย่างที่ผมได้มีโอกาสพบเจอ
1.แรงจูงใจในการทำงาน *เขาจะวัดเพื่อดูว่าคุณมีแรงจูงใจในการทำงานมากน้อยเพียงใด
2.ความคิดเชิงบวก *คุณมีทัศนคติความคิดในเชิงบวกมากน้อยแค่ไหน
3.ทักษะการสื่อสาร *การสื่อสารที่ดีมีอยู่ด้วยกัน 2 ทาง คือ การเป็นผู้พูดที่ดี และผู้ฟังที่ดี ดังนั้นองค์กรส่วนใหญ่จะดูว่าคุณสามารถอธิบายเรื่องราวของคุณหรือความต้องการของคุณได้ดีแค่ไหน
4.ความสามารถในการบริหารเวลา *องค์กรจะดูว่าคุณจะสามารถจัดลำดับความสำคัญของงานได้ดีเพียงใด หากในกรณีที่คุณได้รับงานหลายๆ อย่างในเวลาเดียวกัน คุณจะใช้เวลาในการทำงานของคุณได้อย่างคุ้มค่าไหม
5.ทักษะในการแก้ปัญหา *คุณมีความสามารถในการแก้ไขปัญหาต่างๆ ได้มากน้อยแค่ไหน
6.การทำงานเป็นทีม *คุณสามารถที่จะทำงานเป็นทีมได้ไหม คุณจะแค่ให้ความร่วมมือหรือคุณจะเป็นผู้นำของทีม
7.ความมั่นใจในตนเอง *คุณคิดว่าจะสามารถทำงานที่ได้รับในตำแหน่งนี้ได้ดีไหม นอกจากความเชื่อมั่นในตนเองแล้ว คุณเชื่อมั่นในตัวคนอื่นด้วยหรือเปล่า
8.ยอมรับและเรียนรู้จากสิ่งที่ได้ทำพลาดไป *คุณจะรับมือกับคำติเตียนหรือคำวิจารณ์ได้แค่ไหน คุณเปิดใจรับและเรียนรู้จากสิ่งที่ผิดพลาดหรือไม่
9.ความยืดหยุ่นและความสามารถในการปรับตัว *ถ้าสถานการณ์เปลี่ยนแปลงไปหรือมีปัญหาเกิดขึ้น คุณจะสามารถปรับตัวให้สอดคล้องกับสถานการณ์ได้มากน้อยเพียงใด คุณจะยอมรับการเปลี่ยนแปลงและเปิดใจเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ได้ไหม
10.การรับมือกับความเครียด *คุณสามารถทำงานภายใต้ความกดดันสูงๆได้หรือไม่ คุณควบคุมอารมณ์ได้ไหม คุณนิ่งเกินไปหรือขึ้โวยวาย
ดังนั้น หากคุณกำลังหางานอยู่ควรดูสักนิดว่า ตำแหน่งงานที่คุณสมัครไปนั้น เขาน่าจะต้องการและเน้นศักยภาพด้านใดมากกว่ากัน หลังจากนั้นจงเตรียมตัวให้ดี พร้อมที่จะแสดงศักยภาพให้เห็นอย่างชัดเจน โดยเฉพาะในช่วงการสัมภาษณ์ เช่นในระหว่างการสัมภาษณ์คุณต้องฟังคำถามให้ดี และตอบให้ตรงคำถาม คำตอบที่เยิ่นเย้อเกินไปหรือไม่ตรงคำถาม อาจทำให้คุณสอบตกในข้อ 3 ว่าด้วยเรื่องของการสื่อสารก็ได้
วันนี้ถึงแม้การหางานเป็นสิ่งที่ยากลำบาก แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีโอกาสซะเลย เพียงแต่คุณจะทำอย่างไรให้ชนะใจกรรมการ และสามารถแสดงทักษะที่ซ่อนเร้นอยู่ออกมาให้เป็นที่ประจักษ์ต่างหาก…ขอให้โชคดี
ขอขอบคุณข้อมูลจาก ประชาชาติธุรกิจ
Create Date : 18 เมษายน 2552 |
Last Update : 18 เมษายน 2552 21:07:23 น. |
|
0 comments
|
Counter : 661 Pageviews. |
|
|
|
|
|