Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2552
 
12 กุมภาพันธ์ 2552
 
All Blogs
 
'อย่าดีแต่พูดต้องลงมือทำด้วย' แนะสูตร บริหารองค์กรยุควิกฤติ



ท่ามกลางสถานการณ์วิกฤติเศรษฐกิจที่ยังไม่มีปรมาจารย์ หรือ กูรูท่านใด กล้าออกมา
วิเคราะห์ฟันธงว่าวิกฤติเศรษฐกิจครั้งนี้จะตกต่ำลงสุดเมื่อใด และรุนแรงขนาดไหน
แต่ที่พูดเป็นเสียงเดียวคืออย่าได้ประมาท เพราะไม่มีใครสามารถรอดพ้นผลกระทบจากวิกฤติ
ครั้งนี้ไปได้ ขณะเดียวกันไม่มีอะไรเลวร้ายจน "สุดขั้ว"
แม้ในสถานการณ์ที่เชื่อว่าแย่ที่สุดนั้นสำหรับคนที่มี "สติ" แล้ว มักจะมองเห็น "โอกาส"
ท่ามกลางวิกฤติที่ช่วยให้เกิดใหม่ได้เสมอ งานสำคัญของผู้นำในตอนนี้
จึงเป็นเรื่องการนำพาองค์กรฝ่าวิกฤตินี้ไปให้ได้

หนึ่งในภารกิจสำคัญของผู้นำ คือ การบริหารบุคลากรในยุควิกฤติ ที่ "ทอม โซเรนเซ่น"
กรรมการบริษัทแกรนท์ ธอร์นตัน ในประเทศไทย ให้มุมมองว่า บริษัทใดที่ยังไม่เคยทำการ
เปลี่ยนแปลงด้านบุคลากรทั้งในช่วงธุรกิจดี และช่วงวิกฤติ ต้องเริ่มลงมือทำตั้งแต่เดี๋ยวนี้
ส่วนองค์กรที่ทำอยู่แล้วก็ให้ทำต่อเนื่องไป พร้อมกับหาโอกาสเสริมกำลังให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น

"จากประสบการณ์ที่พบเห็นมาบ่อยๆ คือ ผู้บริหาร หรือ ซีอีโอ มักจะพูดเสมอว่ากำลังเปลี่ยน
แปลงเรื่องนั้นเรื่องนี้ แต่ในความเป็นจริงนั้นไม่ได้ทำสิ่งที่พูดเลย
ผมเรียกพวกนี้ว่า "lip service "ขยายความก็คือพวกที่ดีแต่พูดแต่ไม่ลงมือทำ

ฝ่ายทรัพยากรบุคคล(HR)ถือว่ามีบทบาทสำคัญ และต้องเข้าไปมีบทบาทในระดับยุทธศาสตร์
องค์กร ไม่ว่าจะเป็นองค์กรขนาดเล็กหรือใหญ่ เพื่อผลักดันงานต่างๆให้บรรลุเป้าหมาย
โดยเฉพาะการบริหารจัดการและการพัฒนาทรัพยากรบุคคล ไม่ว่าจะเป็นการจ้างคนใหม่
การรักษาคนไว้ พร้อมๆไปกับการสร้างแบรนด์ให้กับองค์กร หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า
"Employer of Choice" โดยเฉพาะการดูแลพนักงาน เกิดการบอกต่อและกล่าวถึงจน
เกิดมูลค่าให้กับองค์กรที่จับต้อง " ปัญหาที่องค์กรต่างๆพบบ่อยไม่ใช่เรื่องหาคนยาก
แต่การทำให้คนเชื่อถือและตัดสินใจย้ายมาทำงานด้วย เป็นสิ่งที่ยากกว่า "

รวมทั้งให้ความสำคัญกับการทำความเข้าใจความแตกต่างของคนทำงานในองค์กร
ปัจจุบันผู้บริหารส่วนใหญ่จะอยู่ในกลุ่มเบบี้บูมเมอร์หรือเกิน 45 ปีขณะที่คนรุ่นใหม่ เช่น
คนที่เพิ่งจบจากมหาวิทยาลัย จะมีความคิดแตกต่าง ต้องเข้าใจความคิดของคนรุ่นใหม่
เช่น ชอบรับข้อมูลข่าวสารจากอินเตอร์เน็ตมากกว่าอ่านหนังสือพิมพ์หรือโฆษณา

นอกจากนี้การดูแลพนักงานใหม่ที่เพิ่งเข้ามาทำงาน ต้องให้ความสนใจดูแลความเป็นไปตั้งแต่
เข้ามาทำงานวันแรก โดยไม่ปล่อยให้เรียนรู้การทำงานโดยลำพัง เพราะอาจจะเสียคนเก่งๆได้
และช่วงวิกฤตินี้ เป็นช่วงที่องค์กรควรนั่งคุยกับพนักงานอย่างจริงจังและบ่อยครั้งขึ้น เพื่อสื่อสาร
ความเป็นไปขององค์กร และธุรกิจ เช่น หาไอเดียที่พนักงานมีส่วนร่วม
ขณะที่ผู้บริหารเองต้องเปลี่ยนทัศนคติ เช่น อ้างว่าไม่มีเวลาสื่อสารกับพนักงานเพราะงานยุ่ง

ทอม ย้ำว่า สิ่งที่องค์กรทำได้ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นช่วงขาขึ้นหรือขาลงของธุรกิจคือ
การฝึกอบรมพนักงาน แม้ขณะที่มีปัญหาสภาพคล่อง " มีหลายแนวทางที่ทำได้โดยไม่ต้อง
เสียเงินจ้างคนมาอบรม เช่น เข้าไปค้นหาทางเว็บไซต์ youtube.com ซึ่งมีวิดีโอฝึกอบรม
หลากหลายรูปแบบ นำมาใช้ถ่ายทอดให้พนักงานในห้องประชุมหรืออบรมได้โดยไม่เสียเงิน
หรือจัดหาผู้บริหารที่มีประสบการณ์ในองค์กร
เช่น ฝ่ายบัญชี มาอบรมพื้นฐานด้านบัญชีให้พนักงาน หรือ ฝ่ายขาย ฝ่ายผลิต

"สิ่งสำคัญที่สุดที่องค์กรควรทำในช่วงนี้คือ ความจริงใจ อย่าผลักปัญหาไปให้ HR เป็นคนแก้
เพราะ HR ไม่ใช่ CEO ไม่ควรให้ HR เป็นคนแก้ปัญหาและพนักงานเองก็อยากรู้ ผู้นำองค์กร
มีความรับผิดชอบและจริงใจแค่ไหน " อย่าทำตัวเหมือนนกกระจอกเทศที่ชอบเอาหัวจมทราย
"Put your head in the sand" เพื่อไม่ให้คนอื่นเห็นหน้าหรือได้ยินสิ่งต่างๆ
แต่ต้องสื่อสารกับพนักงานให้รับรู้การเคลื่อนไหวและปัญหาที่เกิดขึ้น

ในช่วงที่ธุรกิจต้องลดค่าใช้จ่าย ลดขนาดองค์กรลง
ทอมใช้คำว่า "Rightsizing" แทน Downsizing และแนะนำว่า อาจทำได้ทั้งการไม่
ปรับขึ้นเงินเดือนพนักงาน งดจ่ายโบนัส จัดทำแผนเกษียณก่อนอายุ แต่ต้องระมัดระวังไม่ให้
เสียคนเก่งและดีๆไปด้วย รวมทั้งข้อกฎหมายที่อาจกลายเป็นปัญหารุนแรงในอนาคตได้
"การ rightsizing จำเป็นต้องดูแลพนักงานให้ดีที่สุด ให้การช่วยเหลือที่ทำได้ เช่น
แนะนำการเขียนประวัติการทำงาน(resume) และต้องมั่นใจว่า
ได้ทำถูกต้องและเหมาะสม เพื่อไม่ให้เกิดการดำเนินงานทางกฎหมายขึ้นภายหลัง"

ขณะที่พนักงานที่เหลืออยู่(Layoff survivors )ผู้บริหารต้องสร้างให้เกิดความไว้วางใจ
พยายามสื่อสารข้อเท็จจริงและให้เข้ามามีส่วนร่วมเพื่อช่วยกันหาแนวทางใหม่ๆ
ผลักดันให้องค์กรเดินต่อไป ซึ่งอาจรวมไปถึงการปรับวิชัน มิสชัน
เพื่อสร้างความหวังใหม่สู่อนาคตใหม่ให้เกิดขึ้น

โดยทิ้งทายว่า " คนไม่รู้อย่ารับผิดชอบ แต่คนที่รู้ต้องไม่เลี่ยงความรับผิดชอบ"

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 2398


Create Date : 12 กุมภาพันธ์ 2552
Last Update : 12 กุมภาพันธ์ 2552 14:46:01 น. 1 comments
Counter : 832 Pageviews.

 
เรามาเจิม คนแรก


โดย: byonya วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:12:48:57 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 200 คน [?]




Friends' blogs
[Add ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.