วิธีพิชิตใจเพื่อนร่วมงาน...สู่การทำงานอย่างมีความสุข
การที่คนบางคนชอบเปลี่ยนงาน มักมีสาเหตุมาจากปัจจัยด้านค่าตอบแทน เบื่อรูปแบบของงานที่ทำ หรือจำเป็นต้องย้ายที่อยู่ แต่อีกสาเหตุหนึ่งที่มีอิทธิพลไม่น้อยก็คือ “เพื่อนร่วมงาน” เพราะหากใครไม่สามารถเข้ากันได้กับเพื่อนร่วมงาน ก็จะทำงานอย่างไม่มีความสุขและเบื่อหน่ายไม่อยากมาทำงาน ในที่สุดก็จะตัดสินใจเปลี่ยนงาน แต่นั่นก็อาจไม่ใช่ทางออกของปัญหา เพราะคุณก็อาจจะเข้ากันกับเพื่อนร่วมงานใหม่ไม่ได้อีกเช่นกัน
การที่เราจะสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อนร่วมกันงาน และมีความสุขกับการทำงานได้นั้น ไม่ใช่เรื่องยากจนเกินไป หากเราพร้อมที่จะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมบางอย่างของตัวเองบ้าง ลองพิจารณาดูนะคะว่า คุณมอบสิ่งเหล่านี้ให้กับเพื่อนร่วมงานแล้วรึยัง
★ 1. มีทัศนคติที่ดี คนเราไม่ว่าทำงานอยู่ที่ใดก็ไม่สามารถทำงานคนเดียวได้ ต้องอาศัยความร่วมแรงร่วมใจจากผู้อื่น งานจึงจะสำเร็จราบรื่น เราจึงควรมีทัศนคติที่ดีต่อเพื่อนร่วมงาน ควรมองที่ความสามารถของเขามากกว่าจากรื่องส่วนตัวของเขา เป็นธรรมดาที่เราจะมีกลุ่มเพื่อนที่สนิทมากและกลุ่มที่ไม่ค่อยสนิท แต่เวลาทำงาน ก็ต้องดูว่าเราจะต้องทำงานร่วมกับใครและควรทำงานกับเขาได้อย่างดี มิใช่จะยึดติดทำกับคนที่เราสนิทสนมชอบพอเท่านั้น ในการทำงานไม่ควรมีการแบ่งพรรคแบ่งพวก แต่ถ้านอกเวลางานก็ไม่ว่ากันค่ะ
★ 2. รับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น ในการทำงานเป็นทีมจะต้องอาศัยความร่วมมือของทุกคน ซึ่งแต่ละคนอาจมีความคิดที่ไม่เหมือนกัน เราก็ไม่ควรปิดกั้นความคิดของผู้อื่น ควรรับฟังความคิดเห็นจากทุกคน แล้วร่วมกันพิจารณาหาแนวทางที่ดีที่สุด เพื่อให้งานสำเร็จลุล่วงไปได้ ดีกว่าที่จะยึดติดกับความคิดของตนเพียงคนเดียว
★ 3. ยอมรับผิด ไม่มีใครในโลกที่จะเลิศเลอเพอร์เฟ็กต์ ไม่เคยทำอะไรผิดพลาดเลยในชีวิต แต่เมื่อทำผิดแล้วเราก็ควรจะยอมรับในความผิดพลาดนั้น ไม่ใช่ปัดความผิดไปให้ผู้อื่นหรือมัวแต่หาข้ออ้างให้ตัวเอง แล้วไม่ยอมแก้ไขใดๆ เพราะคิดแต่ว่าตนเองไม่ผิด ต่อไปก็จะไม่มีใครอยากร่วมงานด้วย
★ 4. ใส่ใจกับเรื่องเล็กๆน้อยๆ การพูดจาหรือกระทำบางสิ่งให้เพื่อนร่วมงานรู้สึกดีๆ บ้างจะช่วยให้ความสัมพันธ์กับเขาดีขึ้น เช่น เอ่ยชมเชยเมื่อเขาทำงานได้ดี ชมว่าวันนี้แต่งตัวสวยจัง หรือเมื่อถึงวันเกิดของเขา แม้จะไม่มีของขวัญให้แต่แค่เอ่ยประโยคสั้นๆ ว่า “สุขสันต์วันเกิด” เขาก็ปลื้มแล้วล่ะค่ะ เพราะนั่นแสดงให้เห็นว่าคุณใส่ใจเขา ความรู้สึกดีๆ ต่อกันก็ย่อมเกิดขึ้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องไม่ใช่เป็นการเสแสร้งนะคะ เราควรแสดงออกอย่างจริงใจ
ในขณะเดียวกัน หากเราเห็นความผิดพลาดบางอย่างของเขา เราก็ควรตักเตือนด้วยความห่วงใยหรือให้คำแนะนำที่ดีกับเขา เหล่านี้ก็ล้วนแสดงถึงความใส่ใจเช่นกัน
★ 5. มีน้ำใจ เราควรเป็นฝ่ายหยิบยื่นน้ำใจต่อผู้อื่นก่อน แล้ววันหนึ่งข้างหน้าเราก็จะได้รับน้ำใจจากผู้อื่นตอบแทน เพราะไม่มีใครรู้ว่าวันข้างหน้าเราจะต้องพึ่งพาคนใครบ้าง เราก็ควรแสดงน้ำใจเล็กๆ น้อยๆ เช่น งานบางอย่างแม้ไม่ใช่หน้าที่เของเรา แต่เราทำได้ก็ควรเสนอตัวที่จะเข้าไปช่วย โดยไม่ต้องรอให้เขาเอ่ยปากขอร้อง การไต่ถามสารทุกข์สุขดิบหรืออาการเจ็บป่วยด้วยความห่วงใย มีของติดไม้ติดมือมาฝากยามที่กลับมาจากท่องเที่ยว แสดงความยินดีเมื่อเขามีเรื่องดีๆ ในชีวิต เหล่านี้เป็นต้น
★ 6. “ขอบคุณ” และ “ขอโทษ” คำ 2 คำนี้ ควรจะใช้ให้เคยชิน เมื่อได้รับสิ่งเล็กๆ น้อยๆ จากผู้อื่น ไม่ว่าจะเป็นความช่วยเหลือ สิ่งของ หรือคำชมเชย ก็ตาม เราควรเอ่ยคำ “ขอบคุณ” ทุกครั้ง จะทำให้คนฟังรู้สึกดีและเต็มใจที่จะทำสิ่งดีๆ ให้เราต่อไป ในทางตรงข้าม หากเราทำสิ่งผิดพลาดใดๆ หรือสร้างความเสียหายให้กับผู้อื่นไม่ได้ตั้งใจก็ตาม เราก็ควรเอ่ยคำ “ขอโทษ” และยอมรับผิด ทุกคนก็พร้อมจะให้อภัยอยู่แล้วล่ะค่ะ หรือแม้แต่กรณีที่เราไม่อาจให้ความช่วยเหลือตามที่เพื่อนร้องขอได้
การเอ่ยคำ “ขอโทษ” ก็เป็นการแสดงให้เห็นว่า เราอยากที่จะช่วยเหลือจริงๆ แต่เกินกว่าความสามารถหรือมีเหตุจำเป็นที่ไม่อาจช่วยเหลือเขาได้ เขาก็ย่อมจะเข้าใจและไม่โกรธเคืองเราแน่นอน
เป็นอย่างไรบ้างคะท่านผู้ฟัง ไม่ทราบว่าที่ผ่านมาท่านมอบสิ่งเหล่านี้ ให้กับเพื่อนร่วมงานแล้วรึยังคะ ถ้าทำอยู่แล้ว ก็เชื่อว่าท่านจะเป็นที่รักของเพื่อนร่วมงานอย่างแน่นอน แต่ถ้ายังก็ต้องรีบทำนะคะ เพื่อที่วันหนึ่งคุณจะสามารถพิชิตใจของเพื่อนร่วมงานได้ จะได้มีความสุขในการทำงานยังไงล่ะคะ
ข้อมูลจาก http:/www.posttoday.com ที่มา : //www.uniserv.buu.ac.th
Create Date : 03 พฤศจิกายน 2551 |
Last Update : 27 มิถุนายน 2554 19:38:38 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1427 Pageviews. |
|
|
|
|
|