Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2551
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
10 พฤศจิกายน 2551
 
All Blogs
 

โรคซีด ภัยเงียบที่คาดไม่ถึง

โรคซีด ภัยเงียบที่คาดไม่ถึง

หากท่านมีอาการเหนื่อยง่าย เซื่องซึม ผิวขาวซีด อย่าชะล่าใจไปนะคะ
เพราะอาการซีดอาจเป็นสภาวะที่รุนแรงของสุขภาพได้
โดยปัจจุบันมีเด็กไทยต้องเผชิญกับภาวะโรคซีดหลายล้านคน
เป็นภัยเงียบที่บั่นทอนสุขภาพของเด็กๆ อย่างคาดไม่ถึงเลยทีเดียว

ในจำนวนผู้ที่เป็นโรคซีดนี้ งานวิจัยพบว่าเด็กไทยตกอยู่ในภาวะขาดธาตุเหล็กประมาณร้อยละ 10 ถึง ร้อยละ 20
เกิดจากภาวะขาดสารอาหารตั้งแต่แม่ท้องจนเด็กเติบโต โดยมีสาเหตุจากกินอาหารไม่เหมาะสม
กล่าวคือรับประทานอาหารที่มีธาตุเหล็กไม่เพียงพอ หรือจากการดูดซึมธาตุเหล็กจากอาหารที่รับประทานไม่ดี
เนื่องจากชนิดและรูปแบบอาหารที่รับประทาน

ธาตุเหล็กที่มาจากเนื้อสัตว์ จะอยู่ในรูปแบบที่ร่างกายนำไปใช้ได้ดีกว่าธาตุเหล็กที่มาจากพืชผัก
เมื่อกินวิตามินซีจะกระตุ้นให้มีการดูดซึมธาตุเหล็กดีขึ้น

แต่เมื่อกินอาหารที่มี “ไฟเตท” ซึ่งพบมากในพืชผักบางชนิดจะยับยั้งการดูดซึมธาตุเหล็ก
นอกจากนี้สาเหตุที่สำคัญที่ทำให้เกิดการขาดธาตุเหล็กอีกสาเหตุหนึ่ง คือการเสียเลือดเรื้อรังภายในร่างกาย
เช่นจากโรคกระเพาะอาหาร และจากหนอนพยาธิเช่น พยาธิปากขอ

โรคซีดที่เกิดจากภาวะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก จะทำให้ร่างกายมีเม็ดเลือดแดงต่ำกว่าปกติ
เนื่องจากร่างกายมีธาตุเหล็กไม่เพียงพอที่จะสร้างเม็ดเลือดแดง
ดังนั้นผู้ที่มีการขาดธาตุเหล็กจนมีอาการซีด หรือจนขนาดเม็ดเลือดแดงเล็กลงก็นับว่าขาดธาตุเหล็กอย่างมากแล้ว

ในหญิงมีครรภ์ การขาดธาตุเหล็กจะเสี่ยงต่อการตกเลือด และทำให้เด็กในครรภ์ตัวเล็กอาจเสียชีวิตก่อนคลอด
คลอดมาแล้วมีความต้านทานต่อการติดเชื้อลดลง การเจริญเติบโตทั้งกายและจิตใจด้อยลง
และมีจำนวนธาตุเหล็กสะสมในร่างกายน้อย

ในเด็กวัยเรียน ธาตุเหล็กเป็นสารอาหารสำคัญต่อการพัฒนาตนสมองและสติปัญญา
หากขาดอาจทำให้สมาธิและประสิทธิภาพการเรียนรู้ของเด็กลดลง ภูมิต้านทานโรคต่ำ
และคนทั่วไปจะทำให้มีประสิทธิภาพการทำงานลดลง เหนื่อยง่าย เฉื่อยชา ขาดสมาธิ
ถ้าขาดธาตุเหล็กจนซีดมากๆ อาจทำให้หัวใจวายตายได้

โรคซีดสามารถป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นกับตัวเรา และบุคคลอันเป็นที่รักของเราได้ค่ะ
เพียงถ้าดูแลเอาใจใส่ทั้งด้านอาหาร และวางแผนการตั้งครรภ์ตั้งแต่เนิ่นๆ
หญิงมีครรภ์ควรฝากครรภ์ และรับยาเม็ดธาตุเหล็กรับประทานเป็นประจำทุกวัน
เด็กต้องได้รับสารอาหารธาตุเหล็กที่เหมาะสม ตั้งแต่เป็นทารกในท้องแม่ และแม่ควรเลี้ยงลูกด้วยนมแม่เป็นหลัก
เมื่อเด็กโตควรได้รับอาหารมื้อหลัก 3 มื้อที่มีคุณค่าทางโภชนาการครบ 5 หมู่
กินอาหารที่มีธาตุเหล็กสูง เช่น เลือด เครื่องในสัตว์ เนื้อสัตว์ ถั่วเมล็ดแห้ง และผักใบเขียว
กินอาหารที่มีวิตามินซีสูงเพื่อช่วยในการดูดซึมธาตุเหล็ก เช่น ผลไม้ประเภท ส้ม ฝรั่ง และผักสด เป็นต้น
งดอาหารที่ลดการดูดซึมธาตุเหล็ก ได้แก่ ชา กาแฟ
ป้องกันและรักษาโรคพยาธิต่างๆโดยเฉพาะพยาธิปากขอ โดยการสวมรองเท้า ถ่ายอุจจาระลงในส้วม
รับประทานอาหารสะอาด ควรรับประทานยาถ่ายพยาธิหากตรวจพบไข่พยาธิ


โดย ผศ.อรพิน รังษีสาคร
ที่มา : //www.uniserv.buu.ac.th
ภาพจาก : //www.buzzle.com


สารบัญสุขภาพ




 

Create Date : 10 พฤศจิกายน 2551
1 comments
Last Update : 25 เมษายน 2553 20:43:20 น.
Counter : 8597 Pageviews.

 

ขอบคุณค่ะ

 

โดย: สาวพิษณุโลก** 11 พฤศจิกายน 2551 13:34:05 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 200 คน [?]




Friends' blogs
[Add ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.