Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2551
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
3 พฤศจิกายน 2551
 
All Blogs
 

กินแบบไมเกรน

กินแบบไมเกรน

ไมเกรนเป็นอาการปวดศีรษะข้างเดียวที่มีหลายสาเหตุปนๆ กันไป เช่น ความเครียด ความเหนื่อยล้า
การมีประจำเดือน (ระดับฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลง) ควันบุหรี่ ความหิว และการแพ้สารอาหารบางอย่าง
ก็ทำให้เกิดอาการปวดศีรษะไมเกรนได้

คนเรารู้จักอาการของไมเกรนมากว่า 2,000 ปี แต่เดี๋ยวนี้เราปวดหัวกันมากขึ้นอาจจะเพราะเครียดมากขึ้น
ยิ่งสภาวะเศรษฐกิจแบบนี้เหมาะแก่การกำเริบของไมเกรนดีนัก
แต่ที่คนบ้านเราไม่ค่อยนึกถึงกันเกี่ยวกับไมเกรน ก็คืออาหารที่เรากินเข้าไปมีส่วนอย่างยิ่งต่อการเกิดอาการ

คนที่ปวดศีรษะเรื้อรัง
จึงต้องสังเกตตัวเองให้ดีว่ามีอาหารประเภทไหน ที่กินเข้าไปแล้วทำให้ปวดศีรษะหนึบขึ้นมา
ถ้ารู้แล้วก็เลี่ยงอาหารนั้นๆ เสีย อาการปวดศีรษะไมเกรนก็จะห่างออกไปเองและค่อยๆ หายไปในที่สุด
ไมเกรนเป็นอะไรที่แปลก หากจะเป็นก็เป็นได้บ่อยๆและเป็นถี่เข้าๆ
แต่ถ้าระวังตัวให้ดีให้อาการเกิดห่างออกไป อาการก็จะมาเยือนนานๆ ครั้งแล้วค่อยๆ หายไปได้เอง


กลุ่มอาหารที่ต้องงดเลย ได้แก่

1.แอลกอฮอล์ทุกชนิด
ไม่ว่าจะมีแอลกอฮอล์น้อยแค่ไหนหรือราคาจะแพงแค่ไหน ขึ้นชื่อว่าแอลกอฮอล์ดื่มแล้วจะทำให้หน้าแดง
ทำให้หลอดเลือดที่หนังศีรษะขยายตัว และทำให้เกิดอาการปวดศีรษะไมเกรนตามมา

2.ชาและกาแฟ
ซึ่งมีคาเฟอีนอยู่ถ้าดื่มเป็นประจำจะทำให้เส้นเลือดหดตัว
เวลาไม่ได้ดื่มเส้นเลือดจะคลายตัวคืนสู่สภาพปกติ ทำให้เสียความเคยชินเดิมต่อเส้นเลือดที่หดตัวอยู่เสมอ
เมื่อไม่ได้ชา กาแฟ จะทำให้ปวดศีรษะและเลิกชากาแฟไม่ได้


สำหรับอาหารกลุ่มที่รายงานว่า ถ้าแพ้ หากกินเข้าไปก็จะทำให้ไมเกรนกำเริบ ได้แก่

1.อาหารเย็นจัดๆ
เช่น ไอศกรีมสำหรับบางคนก็ทำให้ปวดศีรษะหนึบขึ้นมาทันที

2.ผงชูรส
ในผงชูรสมีสารโมโนโซเดียมกลูตาเมท ที่มีรายงานว่ากระตุ้นให้เกิดอาการปวดศีรษะไมเกรน
ดังนั้นคนที่เป็นไมเกรนควรกินอาหารแบบทำเองที่บ้าน เพราะจะได้ควบคุมได้ว่าไม่มีผงชูรสในอาหาร

3.ช็อกโกแลต
ในช็อกโกแลตมีไทรามีนซึ่งจะกระตุ้นทำให้ปวดศีรษะ

4.นมและผลิตภัณฑ์จากนมทุกชนิด
เนื่องจากมีไทรามีนเช่นเดียวกัน หากอยากหาอะไรดื่มให้ใช้น้ำเต้าหู้แทน

5.ข้าวสาลี
เพราะในข้าวสาลีมีกลูเต็นซึ่งกระตุ้นให้เกิดอาการไมเกรน
ดังนั้น ขนมปัง บะหมี่ โรตีและขนมที่ทำจากแป้งสาลีต้องเลี่ยงเสีย

6.อาหารที่เปรี้ยวจัดๆ
เช่น ส้ม มะนาว ผักสด ผลไม้สด ก็มีรายงานว่าบางคนกินเข้าไปแล้วก็ปวดศีรษะ
ยิ่งเปรี้ยวมากเพียงใดก็ยิ่งกระตุ้นให้ปวดศีรษะได้มากเพียงนั้น
แต่ว่าความเปรี้ยวแท้ๆ จากน้ำส้มสายชูกลับไม่มีผลต่ออาการปวดศีรษะ
จึงเข้าใจว่าสำหรับบางคนอาหารที่มีวิตามินซีสูงๆ อาจจะกระตุ้นให้ปวดศีรษะก็ได้

ทั้งหมดนี้เป็นเพียงข้อสังเกตของคนที่เป็นไมเกรน ว่าอาหารชนิดไหนที่กระตุ้นให้เกิดอาการปวดศีรษะได้บ้าง
แต่ไม่จำเป็นต้องแพ้แบบเดียวกันทุกคนและไม่จำเป็นต้องแพ้ทุกอย่าง เช่น
คนที่แพ้ข้าวสาลีกินขนมปังแล้วปวดหัว กลับกินส้มได้ บางคนกินผงชูรสแล้วปวดศีรษะแต่ดื่มนมได้ก็มี

ที่กล่าวมาข้างต้นเป็นข้อสังเกตคร่าวๆ เท่านั้น ไม่จำเป็นที่ทุกคนจะแพ้เหมือนกันหมด
คนที่เป็นไมเกรนอาจจะต้องลองสังเกตตัวเอง โดยลองกินอาหารที่คิดว่าจะทำให้เกิดอาการ
กินทีละอย่างแล้วรอนานประมาณ 2 ชั่วโมง ถ้าแพ้อาหารนั้นๆ อาการปวดศีรษะจะกำเริบภายใน 2 ชั่วโมงนั้น
ถ้าไม่ปวดศีรษะหลังจากกินก็แปลว่าไม่แพ้

ถ้าลองกินอาหารอย่างไหนแล้วแพ้ก็ให้เลี่ยงอาหารอย่างนั้นเสีย

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องหาวิธีคลายเครียดอื่นๆ
เช่น ออกกำลังกาย ฟังเพลง ทำสมาธิประกอบกันไปด้วยจึงจะหายในระยะยาว


โดย พญ.ลลิตา ธีระสิริ
ที่มา : //www.balavi.com
ภาพจาก : //www.womansday.com


สารบัญสุขภาพ




 

Create Date : 03 พฤศจิกายน 2551
1 comments
Last Update : 25 เมษายน 2553 19:21:29 น.
Counter : 983 Pageviews.

 

ฮือ ขอบคุณค่ะ

แต่ดูจากรายการแล้ว ขอยอมปวดหัวดีก่าม้างงงง แฮ่ๆ

 

โดย: ตา (ta/'o-o/' ) 3 พฤศจิกายน 2551 22:53:11 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 200 คน [?]




Friends' blogs
[Add ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.