แพทย์เตือน โรคไส้เลื่อน..กันไว้ดีกว่าแก้
* สุขภาพ แนะออกกำลังกาย บริหารกล้ามเนื้อ ป้องกันโรคไส้เลื่อนได้
เพ็ญ พิชชากร แสนคำ นักกายภาพบำบัด จากสถาบันปรับโครงสร้างร่างกายอริยะ ผู้เชี่ยวชาญด้านการปรับโครงสร้างร่างกาย โดยวิธีทางกายภาพบำบัดประยุกต์ กล่าวถึงอาการไส้เลื่อนที่เป็นได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิงว่า สาเหตุมาจากกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อหน้าท้องไม่แข็งแรง อ่อนกำลังมากกว่าปกติ บวกกับมีภาวะแรงดันในช่องท้องสูง เช่น การยกของหนัก การเบ่งอุจจาระ การไอ ฯลฯ
หรือ ง่ายๆ คือระบบกระดูกกล้ามเนื้อในร่างกายไม่สมดุล ความแข็งแรงของเนื้อเยื่อต่างๆ ในช่องท้อง และกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานไม่แข็งแรงพอ จึงทำให้ไม่สามารถพยุงส่วนของอวัยวะในช่องท้อง ที่เข้าที่เป็นปกติได้
"ทั้ง หญิงและชายเป็นไส้เลื่อนได้ เนื่องจากกายวิภาคของอวัยวะในช่องท้องไม่ได้แตกต่างกันนัก มีการเจริญเติบโตที่ใกล้เคียงกันมาก ระบบโครงสร้างร่างกายที่เหมือนกัน ดังนั้น สามารถเกิดได้ในทุกชนิดเช่นเดียวกันทั้งหญิงและชาย"
โรค ไส้เลื่อนในรายที่ไม่มากยังไม่ถึงขั้นอักเสบเรื้อรัง หากจะป้องกันไม่ให้เป็นมากขึ้นหรือให้กลับเข้าที่ได้ สิ่งหนึ่งที่จะช่วยได้คือการปรับโครงสร้างร่างกาย ปรับกล้ามเนื้อให้อยู่ในภาวะที่แข็งแรงทนทาน เพิ่มเส้นใยกล้ามเนื้อ เพิ่มเนื้อเยื่อต่างๆ ให้แข็งแรงขึ้น เสมือนเป็นอีกด่านในการดูแล ไม่ให้เกิดภาวะที่ต้องเสี่ยงให้เกิดการอักเสบ เรื้อรัง หรือเป็นถึงขั้นต้องผ่าตัดให้เกิดผลข้างเคียงต่างๆ นานา
อันตรายของไส้เลื่อน หากปล่อยไว้จนทำให้เกิดการอักเสบเรื้อรัง อาจมีผลให้ระบบช่องท้อง เนื้อเยื่อต่างๆ รอบๆ บริเวณที่เป็นไส้เลื่อนเกิดอาการเนื้อตาย/เน่าของไส้เลื่อนได้ ทั้งนี้ อาจมีการติดเชื้อเรื้อรัง และทำให้เสี่ยงต่อการลุกลามถึงระบบอื่น รวมถึงอาจทำให้ลุกลามถึงระบบเลือดได้
หาก ปล่อยไว้ไม่รักษาจะถึงขั้นรุนแรง และเป็นอันตรายต่อชีวิตได้เหมือนกัน เพราะฉะนั้น หากเริ่มมีอาการไส้เลื่อนควรรีบหาทางรักษาก่อนจะลุกลาม
การ รักษาโรคไส้เลื่อน หากเป็นถึงขั้นอักเสบหรือติดเชื้อแล้วจะเป็นการผ่าตัด เทคนิคคือเย็บรอยที่ไส้เลื่อนออกมาให้ปิด แต่พบว่าในเคสที่มีการผ่าตัดส่วนใหญ่จะมีผลข้างเคียงค่อนข้างมาก บางรายเกิดพังผืด ทำให้เจ็บเสียวอยู่ตลอดเวลา บางรายมีอาการชาและบวมของขาด้านที่ผ่าตัด ไม่หายขาด
บาง รายเหยียดข้อสะโพกไม่สุด ต้องยืนตัวงอ ตลอดจากการตึงของแผลผ่าตัด ทำให้กระทบถึงระบบกล้ามเนื้อส่วนอื่นๆ ทำให้ตึงปวดเมื่อยอยู่ตลอด ฯลฯ เพราะฉะนั้น สิ่งที่ดีที่สุดคือป้องกันไม่ให้เกิดจะดีกว่า
ใน กรณีที่เริ่มเป็นยังไม่รุนแรงและยังไม่อักเสบ การรักษาจะเป็นการดูแลด้วยตัวเอง ได้แก่ การบริหารร่างกาย โดยเฉพาะการออกกำลังกายกล้ามเนื้อหน้าท้อง ซึ่งต้องเป็นการบริหารเฉพาะมัดกล้ามเนื้อ โดยให้ได้กล้ามเนื้อหน้าเต็ม แต่ไม่ให้เกิดแรงดันมากที่ช่องท้อง เพราะจะทำให้เกิดแรงดันให้ไส้เลื่อนมามากกว่าเดิม ต้องได้รับคำแนะนำจากนักกายภายบำบัด หรือผู้เชี่ยวชาญของระบบกล้ามเนื้อโดยตรง จะปลอดภัยกว่า ร่วม กับการหลีกเลี่ยงจากภาวะที่จะทำให้เกิดแรงดันมากที่ช่องท้อง ได้แก่ ไม่ไอ/จามแรงๆ หากต้องไอต้องประคองหน้าท้องเอาไว้ ไม่ยกของหนักจนเกินไป กินอาหารประเภทผักผลไม้ให้มาก ไม่รับประทานประเภทที่มีไขมันมาก เพราะจะทำให้กล้ามเนื้อหน้าท้องมีไขมันสะสม มาก จะทำให้อ่อนแรงมากด้วย ฯลฯ
ทาง ที่ดีที่สุดคือป้องกันไว้จะดีกว่า ด้วยการทำให้ร่างกายฟิตอยู่เสมอ ออกกำลังกายถูกวิธี รักษาสภาวะโครงสร้างร่างกายให้สมดุล บริหารร่างกายแบบที่ได้ระบบการหายใจและการไหลเวียนของเลือด และบริหารกล้ามเนื้อเฉพาะมัดด้วย เน้นกล้ามเนื้อมัดลึก มัดที่เป็นหลักในการทำให้โครงสร้างมั่นคง พยุงส่วนอวัยวะต่างๆ ไว้ เช่น กล้ามเนื้อหน้าท้อง กล้ามเนื้อหลังชั้นลึก กล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน ฯลฯ
ข้อมูลจาก ข่าวสด ที่มา : //www.thaihealth.or.th
สารบัญ บทความ สุขภาพ คลิกดู ที่นี่ค่ะ
Create Date : 24 กุมภาพันธ์ 2553 |
|
0 comments |
Last Update : 24 กุมภาพันธ์ 2553 14:34:47 น. |
Counter : 1579 Pageviews. |
|
|
|