Ortho knowledge for all @ Do no harm patient and myself @ สุขภาพดี ไม่มีขาย ถ้าอยากได้ ต้องสร้างเอง

ก้อนถุงน้ำที่ข้อมือ ( โรคคาร์พัล แกงเกลียน ,Carpal ganglion )








ก้อนถุงน้ำที่ข้อมือ ( โรคคาร์พัล แกงเกลียน ,Carpal ganglion )

เป็นเนื้องอกชนิดไม่ร้ายแรง ที่พบได้บ่อยที่สุดของบริเวณมือและข้อมือ โดยมี

- ผนังของก้อนถุงน้ำเป็นเยื่อบุข้อ หรือ เยื่อหุ้มเส้นเอ็น

- ภายในก้อนถุงน้ำจะมีน้ำไขข้อบรรจุอยู่

-ก้อนถุงน้ำนี้จะมีช่องติดต่อกับข้อมือ

ตำแหน่งที่พบได้บ่อยคือ หลังข้อมือ และ ด้านหน้าของข้อมือ บริเวณใกล้ ๆ กับโคนนิ้วหัวแม่มือ

สาเหตุที่แท้จริงยังไม่ทราบแน่ชัด ในผู้ป่วยบางราย อาจมีประวัติ การบาดเจ็บจากการกระทบกระแทก หรือ อาจจะ เป็นผลจากการทำงานโดยเฉพาะงานที่ต้องมีการกระดกข้อมือขึ้นลงบ่อย ๆ

พบบ่อยในผู้หญิง ช่วงอายุ 20 - 40 ปี



อาการ

มีก้อนนูนขึ้นมา ลักษณะค่อนข้างแข็ง ผิวเรียบ และไม่เคลื่อนที่ ส่วนใหญ่กดไม่เจ็บ ในผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการเมื่อย หรือปวดข้อมือบ้างเล็กน้อย เคลื่อนไหวข้อไม่สะดวก เนื่องจากก้อนถุงน้ำไปกดเบียด เส้นเอ็นหรือเยื่อบุข้อ

ถ้ากระดกข้อมือขึ้น หรือ งอข้อมือลง จะทำให้ขนาดของก้อนถุงน้ำเปลี่ยนแปลง เช่น ถ้าก้อนทางด้านหลังข้อมือ เมื่อกระดกข้อมือขึ้น ขนาดก้อนจะเล็กลงหรือคลำไม่ได้ แต่ถ้างอข้อมือลง ก็จะโตขึ้น และแข็งมากขึ้น เป็นต้น

ถ้าปล่อยไว้ก้อนก็มักจะโตขึ้น แต่จะค่อย ๆ โตอย่างช้า ๆ อาจใช้เวลานานหลายเดือน หรือ เป็นปี จึงจะผิดสังเกต


แนวทางรักษา

1. วิธีไม่ผ่าตัด

ในรายที่ก้อนใหญ่แต่ผู้ป่วยไม่มีอาการและไม่กังวล ก็อาจปล่อยไว้โดยไม่ต้องผ่าออก เพราะก้อนถุงน้ำนี้ไม่ทำให้เกิดอันตรายและไม่กลายเป็นเนื้องอกร้ายแรง(มะเร็ง)

ถ้าก้อนมีขนาดใหญ่และมีอาการปวด ก็ควรลดการใช้ข้อมือ ให้ข้อมืออยู่นิ่ง ๆ สักพักอาการปวดมักจะดีขึ้น ถ้ามีอาการปวดมากอาจจะรับประทานยาแก้ปวดลดการอักเสบ ใช้ผ้ายืดพันรอบข้อมือ หรือ ใส่เฝือกอ่อนประมาณ 1 สัปดาห์

2. วิธีกดทำให้ก้อนแตก หรือ วิธีเจาะดูดน้ำในก้อนออก

ถ้าก้อนมีขนาดเล็ก ๆ ก็อาจกดให้ก้อนแตกออก แต่ถ้าก้อนมีขนาดใหญ่ก็ควรใช้วิธีใช้เข็มเจาะก้อนแล้วดูดน้ำที่อยู่ภายในก้อนออก อาจจะฉีดยาสเตียรอยด์ร่วมด้วยหรือไม่ก็ได้ เมื่อก้อนแตกหรือเมื่อดูดน้ำในก้อนออก ก้อนก็ยุบหายไป

แต่วิธีนี้มีโอกาสที่จะเกิดก้อนซ้ำขึ้นมาใหม่ ประมาณ 35 - 70 %

3. วิธีผ่าตัด

แพทย์จะฉีดยาชาเฉพาะที่ แล้วก็เลาะเอาก้อนออก ถ้ามีหลายก้อนก็จะต้องผ่าตัดเอาก้อนออกให้หมด ในกรณีที่ช่องต่อเข้าไปในข้อมือมีขนาดใหญ่ ก็จะต้องตัดเยื่อหุ้มข้อมือบางส่วนออกไปด้วยแล้วเย็บซ่อมช่องที่เชื่อมต่อเข้าไปในข้อ มิฉะนั้นจะทำให้มีโอกาสเป็นซ้ำอีกได้

ถ้ารักษาด้วยวิธีผ่าตัดจะมีโอกาสเป็นซ้ำประมาณ 5 - 15 %

การดูแลหลังผ่าตัด

- หลังผ่าตัดพันผ้าและใส่เฝือกชั่วคราวให้ข้อมืออยู่นิ่ง ๆ ไว้ 10 – 14 วัน

- ยกแขนสูง กำนิ้วมือสลับกับเหยียดนิ้วมือบ่อย ๆ เพื่อลดอาการบวม

- เริ่มทำแผลในวันที่สองหลังการผ่าตัด แล้วทำแผลวันละครั้งจนถึงวันตัดไหม ( ประมาณ 7-10 วันหลังผ่าตัด )
 


Create Date : 18 กรกฎาคม 2551
Last Update : 9 เมษายน 2562 14:12:13 น. 9 comments
Counter : 96526 Pageviews.  

 


มาเก็บเอความรู้ดีๆค่ะ
ขอบคุณมากนะค่ะ


โดย: whitelady วันที่: 18 กรกฎาคม 2551 เวลา:22:43:02 น.  

 

ขอบคุณที่แวะมานะครับ


โดย: หมอหมู วันที่: 28 กรกฎาคม 2551 เวลา:19:37:13 น.  

 
เคยเป็นเหมือนกันค่ะ ด้านในตรงข้อมือ
แต่พอไปผ่าแล้วก็กลับมาเป็นอีกประมาณหนึ่งปีนะค่ะ
ตอนนี้เลยปล่อยไว้ไม่ได้ผ่าแล้วค่ะ


โดย: สาวพิษณุโลก** วันที่: 5 สิงหาคม 2551 เวลา:13:04:56 น.  

 
เก็บ ๆๆ เก็บความรู้ ^^


โดย: Julie_pikaju วันที่: 1 ตุลาคม 2552 เวลา:13:32:02 น.  

 
กำลังเป็นอยู่เลยค่ะ Serach หาข้อมูลก็มาเขอบล็อกนี้พอดี ขอบคุณมากค่ะสำหรับข้อมูล กลัวมากเลย เพราะตอนนี้มันเจ็บๆ เวลากระดกข้อมือขึ้นลง T_T


โดย: อ้อม (aom_msw01 ) วันที่: 19 พฤศจิกายน 2552 เวลา:13:25:46 น.  

 
ผมถูกหมอและพยาบาลหลายคนสอนมาว่า ..ห้ามผ่าตัด... เพราะพวกหมอ เค้าก้อจะเลี่ยงวิธีกันทั้งนั้น
เพราะ 1.ผ่าแล้วเป็นได้อีก 2.ผ่าแล้วไม่ดีเหมือนเดิม


ผมเป็นที่ข้อ ตรงนิ้วชี้ ขวามือ
ไปหาหมอ รอเจอหมอเฉพาะทางสัปดาห์หน้า
แต่หมออายุรฯ บอกว่าผ่าตัด
(เลยต้องรีบหาข้อมูล เพราะนึกในใจอยู่ว่า ฉีดยาก้อน่าจะด๊ายน่ะ) ...ขอบคุณข้อมูลนะครับ เป็นประโยชน์มาก


โดย: garfield07 (garfield07 ) วันที่: 12 เมษายน 2553 เวลา:10:19:14 น.  

 
ลูกชายอายุ 1 ขวบ กำลังคลานเก่งและเกาะเดิน... ครั้งแรกที่สังเกตเห็นก้อนที่ข้อมือ เพราะน้องร้องไห้...ตอนแรกนึกว่าหักรึปล่าว ไปหาหมอหลายที่ สรุปเป็นถุงน้ำ ตกใจ + สงสารลูกมาก เด็กน้อยๆนี่นะค่ะจะไปใช้ข้อมืออะไรมากมาย คุณหมอบอกไม่ต้องทำอะไร แต่คุณแม่ยังสงสัย...ขอบคุณมากค่ะสำหรับข้อมูล


โดย: คุณแม่น้องพร้อมบุญ (น้องพร้อมบุญ ) วันที่: 28 มิถุนายน 2553 เวลา:14:21:07 น.  

 
ขอบคุณหมอหมูตั้งแต่ปรึกษาครั้งนั้นค่ะ
ตอนนี้ก็เป็นๆยุบๆ อยู่สองสามครั้งแล้ว
เป็นทีไรก็นวดๆกดๆเอา ของเอมเป็นที่มือขวาค่ะ
คาดว่าเล่นคอมมากไปหน่อย
ปล.โหวตให้ทุกวันเลยนะคะ สู้ๆค่ะคุณหมอใจดี
//www.thailandblogawards.com/viewblog.php?u=//chaaimwan.bloggang.com


โดย: ชะเอมหวาน วันที่: 4 สิงหาคม 2553 เวลา:21:32:29 น.  

 
คือสรุป มันต้องอยู่กะเราไปตลอดชีวิตร๋อคะเนี่ย
ว่าจะไปเจาะออก แต่ออ่านๆดู รู้สึกเหมือนว่าหลายคนจะปล่อยมันทิ้งไว้

ปวดข้อมือทุกวันเลยค่ะ TT


โดย: ชิชะมะระจิ้มขี้ (ชิชะมะระจิ้มขี้ ) วันที่: 25 พฤษภาคม 2554 เวลา:15:16:32 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

หมอหมู
Location :
กำแพงเพชร Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 762 คน [?]




ผมเป็น ศัลยแพทย์ออร์โธปิดิกส์ หรือ อาจเรียกว่า หมอกระดูกและข้อ หมอกระดูก หมอข้อ หมอออร์โธ หมอผ่าตัดกระดูก ฯลฯ สะดวกจะเรียกแบบไหน ก็ได้ครับ

ศัลยแพทย์ออร์โธปิดิกส์ เป็นแพทย์เฉพาะทางสาขาหนึ่ง ซึ่งเมื่อเรียนจบแพทย์ทั่วไป 6 ปี ( เรียกว่า แพทย์ทั่วไป ) แล้ว ก็ต้องเรียนต่อเฉพาะทาง ออร์โธปิดิกส์ อีก 4 ปี เมื่อสอบผ่านแล้วจึงจะถือว่าเป็น แพทย์ออร์โธปิดิกส์ โดยสมบูรณ์ ( รวมเวลาเรียนก็ ๑๐ ปี นานเหมือนกันนะครับ )

หน้าที่ของหมอกระดูกและข้อ จะเกี่ยวข้องกับความเจ็บป่วย ของ กล้ามเนื้อ เส้นเอ็น กระดูก ข้อ และ เส้นประสาท โรคที่พบได้บ่อย ๆ เช่น กระดูกหัก ข้อเคล็ด กล้ามเนื้อฉีกขาด กระดูกสันหลังเสื่อม ข้อเข่าเสื่อม กระดูกพรุน เป็นต้น

สำหรับกระดูกก็จะเกี่ยวข้องกับกระดูกต้นคอ กระดูกสันหลัง กระดูกเชิงกราน กระดูกข้อไหล่ จนถึงปลายนิ้วมือ กระดูกข้อสะโพกจนถึงปลายนิ้วเท้า ( ถ้าเป็นกระดูกศีรษะ กระดูกหน้า และ กระดูกทรวงอก จะเป็นหน้าที่ของศัลยแพทย์ทั่วไป )

นอกจากรักษาด้วยการให้คำแนะนำ และ ยา แล้วยังรักษาด้วย วิธีผ่าตัด รวมไปถึง การทำกายภาพบำบัด บริหารกล้ามเนื้อ อีกด้วย นะครับ

ตอนนี้ผม ลาออกจากราชการ มาเปิด คลินิกส่วนตัว อยู่ที่ จังหวัดกำแพงเพชร .. ใช้เวลาว่าง มาเป็นหมอทางเนต ตอบปัญหาสุขภาพ และ เขียนบทความลงเวบ บ้าง ถ้ามีอะไรที่อยากจะแนะนำ หรือ อยากจะปรึกษา สอบถาม ก็ยินดี ครับ

นพ. พนมกร ดิษฐสุวรรณ์ ( หมอหมู )

ปล.

ถ้าอยากจะถามปัญหาสุขภาพ แนะนำตั้งกระทู้ถามที่ .. เวบไทยคลินิก ... ห้องสวนลุม พันทิบ ... เวบราชวิทยาลัยออร์โธปิดิกส์ หรือ ทางอีเมล์ ... phanomgon@yahoo.com

ไม่แนะนำ ให้ถามที่หน้าบล๊อก เพราะอาจไม่เห็น นะครับ ..




New Comments
[Add หมอหมู's blog to your web]