อัพเดทรายได้แพทย์ 2017 ... ที่มา กรธัช หัวใจ (รายได้หมอ รพ.รัฐเยอะขึ้น ที่ผมเคยอยู่ แต่ยังน้อย ?)
FB กรธัช หัวใจ https://www.facebook.com/banphot.huajai/posts/608350866037994 อัพเดทรายได้แพทย์ 2017!!!! 1. แพทย์ทั่วไป(ไม่ได้จบเฉพาะทาง) - โรงพยาบาลรัฐเฉพาะเงินเดือนและเงินเพิ่ม 40,000-60,000฿ (ได้จริง 20,000-30,000฿ ที่เหลือตกเบิกทุก 3-6เดือน) ทำงานจันทร์ถึงศุกร์ 40 ชั่วโมง/สัปดาห์ ค่าเวรโอที (บังคับอยู่เวรเพราะโรงพยาบาลต้องเปิด 24 ชั่วโมงทุกวัน) 300-1,200฿/8 ชั่วโมงหรือ 38-150฿/ชั่วโมง (ไม่ต้องขยี้ตา) - โรงพยาบาลเอกชน การันตี เดือนละ 80,000-140,000฿ ทำงาน 48 ชั่วโมง/สัปดาห์ ค่าเวรโอที (ไม่บังคับ) 400-800฿/ชั่วโมง - คลินิกตรวจบัตรทอง 400-550฿/ชั่วโมง - คลินิกความงาม (ไม่มีประสบการณ์ สอนให้ได้) ทำงาน 12.00-20.00 น. 6 วันต่อสัปดาห์การันตี 100,000-140,000฿/เดือน ค่าคอมต่างหาก เวรโอทีสำหรับคนมีประสบการณ์ 600-900฿/ชั่วโมง หรือเหมาจ่ายสำหรับฟรีแลนซ์ 5000-6,000฿/ 8ชั่วโมง 2. แพทย์เฉพาะทาง(ตามแต่สาขา) 2.1 อายุรกรรมทั่วไป(หมอผู้ใหญ่) หรือหมอเด็กทั่วไป - โรงพยาบาลรัฐหรือโรงเรียนแพทย์ 40,000-60,000฿ อาจมีบังคับเวรโอทีน้อยนิด ส่วนมากจะเป็นโอฟรี (ทำเพื่อการกุศล) - โรงพยาบาลเอกชนการันตี 160,000-250,000฿/เดือนทำงาน 48 ชั่วโมง/สัปดาห์ โอที 650-1,000฿/ชั่วโมง - ตอนนี้มีหมอรับจ้างประจำด้วย คือไม่ได้บรรจุข้าราชการ แต่ทำงานในโรงพยาบาลรัฐหรือโรงเรียนแพทย์จะได้เงินเดือน 40,000-80,000฿ หมอบางคนไม่ชอบโรงพยาบาลเอกชนแต่ถ้าบรรจุราชการแล้วรับเงินเดือนอย่างข้าราชการก็จะไม่พอสำหรับเลี้ยงชีพครอบครัว(อย่าลืมว่ากว่าหมอจะเรียนจบเฉพาะทางใช้เวลารวมใช้ทุน 11-13 ปี พ่อแม่แก่พอดี ในขณะที่เพื่อนๆ เรียนอาชีพอื่น แค่ 4 ปี จบทำงานเลยไม่ต้องขอตังพ่อแม่) 2.2 อายุรกรรมเฉพาะทางหรือหมอเด็กเฉพาะทาง - โรงพยาบาลรัฐหรือโรงเรียนแพทย์ ได้เงินเดือนตามฐานเงินเดือน รายได้ไม่ต่างกันในแต่ละสาขาและไม่ได้ปรับสูงกว่าอายุรกรรมทั่วไปหรือหมอเด็กทั่วไปที่ได้มากกว่าก็เพราะอายุงานมากกว่าและค่าตำแหน่งบริการและฝ่ายวิชาการเพิ่มขึ้นมาอีกนิดหน่อย - โรงพยาบาลเอกชน รายได้แตกต่างกันตามสาขา สาขาที่เป็นโรคยากๆหัตถการเยอะ เช่น หัวใจ หรือทางเดินอาหาร การันตีที่ 250,000-350,000฿/เดือน ทำงาน 45 ชั่วโมง/สัปดาห์ สาขาระบบประสาท ไต และ ปอด การันตีที่ 200,000-250,000฿/เดือน 45 ชั่วโมง/สัปดาห์หมอไตจะมีค่าดูแลคนไข้ฟอกไตด้วย สาขาอื่นๆ 180,000-250,000฿/เดือน 45 ชั่วโมง/สัปดาห์ หรือจะทำงานเป็นฟรีแลนซ์รายชั่วโมงก็ได้ 800-1,000฿/ชั่วโมง - คลินิกความงาม เฉพาะจบสาขาผิวหนัง (ต้องเรียนต่างหากอีก 4-7ปี ไม่รวมเรียนหมอ 6 ปี) การันตีที่ 250,000-300,000฿/เดือน 48 ชั่วโมง/สัปดาห์ - โอที ส่วนมาก 650-1,200฿/ชั่วโมง ตามแต่สาขา - เวรดึก 4,000-8,000/10-12 ชั่วโมง 3. ศัลยกรรมทั่วไป(หมอผ่าตัด)และสูตินรีเวช(ทำคลอด) การันตี 220,000-350,000฿ ต่อเดือนในเอกชนซึ่งบางท่านที่ผ่าตัดเยอะๆ อาจจะมีรายได้สูงถึง 1,000,000฿/เดือน แต่สำหรับโรงพยาบาลรัฐหรือโรงเรียนแพทย์ รายได้เหมือนหมอข้อ 2.เอาง่ายๆ ไม่ถึงแสนบาท เว้นแต่ออกไปเปิดคลินิกเองหรือรับจ็อบโรงพยาบาลเอกชนนอกเวลาทำงานราชการ - ค่าเวรโอทีการันตีที่ 650-1,000฿/ชั่วโมง - ค่าเวรดึก 4,000-8,000฿/10-12 ชั่วโมง ส่วนมากจะเกินการันตี 4. หมอกระดูกและหมอผ่าสมอง รายได้ในโรงพยาบาลรัฐพอๆ กับข้อ 2 และ 3 แต่รายได้ในโรงพยาบาลเอกชนส่วนมากเกินการรันตี มากกว่า 300,000฿/เดือน เพราะคนไทยเกิดอุบัติเหตุบ่อย มีค่ารักษาจาก พรบ.ที่เต็มที่ 30,000-80,000฿ (ยิ่งอุบัติเหตุมากเท่าไร ยิ่งได้กำไรมากเท่านั้น(ต้องไม่ตายคาที่นะ) ทั้งโรงพยาบาลรัฐและเอกชน) 5. หมอตาและหูคอจมูก มักทำงานในเวลาเนื่องจากภาวะฉุกเฉินนอกเวลางานจะเป็นหมอศัลยกรรมหรืออายุรกรรมดูแลก่อนเบื้องต้น รายได้ตามชั่วโมงทำงาน ตกชั่วโมงละ. 650-1,000฿ /ชั่วโมง มีค่าหัตถการและผ่าตัดที่เพิ่มเติม สำหรับหมอสาขาอื่นๆที่ไม่ได้ตรวจคนไข้โดยตรง เช่น รังสีแพทย์ พยาธิแพทย์ รายได้ตามชั่วโมงทำงานเหมือนข้อ 5. อย่างไรก็ดี.... แพทย์ 1 คนกว่าจะทำงานได้ต้องเรียนมากกว่าคนอื่น นานกว่าอาชีพอื่นๆ และแพทย์บางสาขาก็ทำงานได้จำกัดอายุ ยิ่งอายุมากขึ้น ข้อจำกัดในการทำงานก็มากขึ้น หรือแม้แต่หมอผู้หญิง ก็จะเริ่มมีครอบครัวตอนจบเฉพาะทางแล้วเริ่มมีลูก ต้องดูแลลูกและงานบ้าน ก็ต้องเลือกทำงานที่มีเวลาให้ครอบครัว ไม่รับงานดึกไม่รับงานที่ทำทุกวัน และมีหมออีกไม่น้อยที่รู้สึกได้ว่า มีหลายอาชีพที่ทำเงินได้มากกว่าการเป็นหมอ หมอ ได้เงินเยอะเพราะมีเวลา 24 ชั่วโมงให้ทำเท่าที่ทำไหวจึงได้รายได้เยอะ ถ้าไม่ทำ หรือทำน้อย ก็ได้รายได้น้อยหรือไม่ได้เลยแม้แต่บาทเดียว มีหลายอาชีพ เช่น หุ้นนักลงทุนทั้งอสังหาริมทรัพย์และสังหาริมทรัพย์ เจ้าของธุรกิจ หรือแม้แต่นายหน้าก็ทำเงินได้มากเหมือนกัน อย่างเพื่อนหมอเอาเศษผ้าโรงงานนี้ขนไปขายอีกโรงงานนึงทำเดือนละครั้งได้หลายหมื่นบาท พี่ที่รู้จักเอาของจากที่นึงไปกระจายขายทั่วภาคใต้ มีรายได้ปีละ 20ล้านบาท วันๆ ไปทำบุญตรงนั้นตรงนี้ สิ่งที่ต้องเห็นใจหมอโรงพยาบาลรัฐ ทำไมเขาถึงลาออกมาทำงานฟรีแลนซ์หรืออยู่ประจำโรงพยาบาลเอกชน ก็เพราะรายได้ที่แตกต่างกันมากๆ หนึ่ง อีกสาเหตุคือ เวรบังคับ ทำให้ขาดอิสระในการเลือกใช้ชีวิต ยิ่งยุคหลังๆ หมอจบใหม่เป็นคนเจนเนอเรชั่นวายที่ไม่ยึดติดตำแหน่งหรือความก้าวหน้าในอนาคต แต่ขอให้มีความสุขในการใช้ชีวิตและการทำงานในปัจจุบัน ยิ่งเห็นคนไข้เห็นแก่ได้หรือเห็นแก่ตัว ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องทนทำงานเพื่ออุดมการณ์ที่ปลูกฝังกันมายาวนาน แต่ที่ทำกันได้ถึงทุกวันนี้ ก็เพราะมีหมอรุ่นพี่รุ่นน้องและมีคนไข้ซื่อๆ ให้รักษาสร้างบรรยากาศการทำงานที่ไม่อยากหนีไปไหน หมออาชีพที่ได้เงินด้วยและได้บุญด้วย แม้ว่าผมอาจจะได้ไปรวยจากอาชีพอื่น ผมก็ยังจะทำงานหมอต่อไป หมอเอ้ ป.ล.1 หมอที่คุมงบบัตรทอง ได้เงินเดือน200,000฿ ค่าเบี้ยประชุมครั้งละ 12,000฿ น่าเป็นที่สุดครับตอนนี้ ป.ล. 2 เวลาแพทย์ถูกคนไข้ฟ้องร้อง ก็เริ่มต้น 2 ล้านบาท มีพี่ของเพื่อนต้องขายคอนโดและรถยนต์ เงินเก็บหมดเครียดกันทั้งบ้าน เพราะตอนที่ศาลตัดสินกำลังเรียนเฉพาะทาง รายได้แค่ 2 หมื่นบาทต่อเดือน (7 ปี ก่อน) ข้อมูลอ้างอิงบางส่วนจากประกาศรับสมัครแพทย์ในเวปไซต์และสุ่มโทรสอบถามในจังหวัดใหญ่ๆเรตที่สูงมักมาจากความต้องการแพทย์เร่งด่วน
....................
แถม เมื่อแพทย์และพยาบาลต้องล้มละลายเพราะถูกไล่เบี้ย //www.bloggang.com/viewblog.php?id=cmu2807&date=15-11-2016&group=7&gblog=207 ร่าง พรบ.คุ้มครองผู้เสียหายจากการรับบริการสาธารณสุข ... ปัญหา หรือ โอกาส ... //www.bloggang.com/viewblog.php?id=cmu2807&date=11-07-2010&group=7&gblog=61
Create Date : 17 มกราคม 2560 |
Last Update : 17 มกราคม 2560 16:03:19 น. |
|
4 comments
|
Counter : 8404 Pageviews. |
|
 |
|
ToBePharmacist 4กพ.2560
https://www.facebook.com/tobepharm/posts/1228910597199872
นี่เป็นหนึ่งในคำถามที่น้องๆอยากรู้กันมาก แต่ก็เป็นคำถามที่ตอบยากคำถามนึง เพราะมันมีปัจจัยอื่นๆมากวนเยอะ พยายามเขียนเป็นบทความอยู่ แต่ยังมีเอกสารอ้างอิงไม่พอ
เอาคร่าวๆแล้วกันครับ จบใหม่ เฉพาะจบใหม่นะ
1.โรงพยาบาล (รวมค่าทุกอย่าง) 2 หมื่นปลายๆ จนถึง 3 หมื่น แต่ถ้าขยันอยู่เวรก็ถึง 4 หมื่นในบางเดือน
2.ร้านยา (เรทลูกจ้างนะ ไม่ใช่เจ้าของร้าน) 3 หมื่น จนถึง 4 หมื่นต้นๆ แต่ถ้าแหล่งท่องเที่ยวจะอยู่ที่ 5-7 หมื่น
ถ้าร้านยาเรทเจ้าของร้านก็แล้วแต่ยอดขาย ขายไม่ดีก็ยอดวันละพัน ขายดีขึ้นมาหน่อยก็วันละหมื่น ขายดีมากก็วันละแสน ขายดีโครตๆ+เป็นร้านขายส่งใหญ่ๆก็ยอดวันละล้านได้ (เฉพาะยอดขายนะ ไม่ใช่กำไร)
3.โรงงาน เริ่ม 2 หมื่น จนถึง 4 หมื่นต้นๆ (แต่ส่วนมากจะ 3 หมื่นนิดๆถึงกลางๆ)
4.ดีเทล 3-4 หมื่น ถ้าปิดยอดได้ส่วนมากจะได้เพิ่มอีกเท่านึง ก็คือได้อีก 3-4 หมื่น (ซึ่งถ้าเริ่มทำใหม่ๆ ยอดยังไม่สูงมาก ก็มักจะปิดยอดได้ทุกคนนะ)
ก็น่าจะครอบคลุมสำหรับสายงานหลักๆของเภสัชนะครับ สายงานแปลกๆใหม่ๆอย่าง CRA นี่ไม่ทราบจริงๆครับ ส่วนพวกสายงานราชการอย่าง อย. สสจ. กรมวิทย์ อันนี้ก็ไม่ทราบเช่นกัน (เงินเดือนอ่ะพอทราบ แต่ไม่รู้จริงๆว่า ทำงานจริงมันบวกค่าอะไรไปอีกบ้าง)
คือเงินเดือนนี่มันต้องดูหลายอย่างนะครับ ถ้าจะแบ่งจริงๆ โรงพยาบาลก็มีทั้งรัฐทั้งเอกชน โรงงานก็ทั้งผลิต QC QA ขึ้นทะเบียน RD
นอกจากนี้ต้องดูสวัสดิการ เงื่อนไขการทำงาน สภาวะการทำงาน รวมถึงชั่วโมงการทำงานต่อสัปดาห์ด้วย ดูแต่เงินเดือนรวมไม่ได้ครับ (บางที่เงินเดือนน้อยแต่โบนัสเยอะนะ) แล้วต้องดูด้วยว่าการเติบโตในระยะยาวเป็นยังไง อย่างเช่น ดูผิวเผินเหมือนร้านยาจะเงินดีสุด แต่ร้านยานี่เงินเดือนแทบไม่ขึ้น พวกร้านเชนต้อง KPI สูงจริงๆถึงจะได้ขึ้นปีละ 1500 ในขณะที่โรงงานขึ้นปีละ 6-12% หรือปีละ 3000 เป็นเรื่องปกติ