สรุปยอด อุบัติเหตุ 7 วันอันตรายในช่วงสงกรานต์ 3 วันแรกตาย 166 ราย เจ็บกว่า 2,000 ราย เพิ่มขึ้น 24% ?
//www.bangkokbiznews.com/home/detail/politics/life/20100415/110242/7%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%AA%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B9%8C-3%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%A3%E0%B8%81%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B8%A2166%E0%B8%84%E0%B8%99.html
สรุปยอด อุบัติเหตุ 7 วันอันตรายในช่วงสงกรานต์ 3 วันแรกตาย 166 ราย เจ็บกว่า 2,000 ราย เพิ่มขึ้น 24% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
นายอุทัยรัตน์ ชัยประเสริฐ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยว่า ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน (ศปถ.) ช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2553 รวบรวมสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 14 เม.ย. 53 ซึ่งเป็นวันที่สามของการรณรงค์ “สงกรานต์นี้ ขับขี่ปลอดภัย คนไทยรักกัน”
เกิดอุบัติเหตุ 567 ครั้ง ลดลงจาก ปี 2552 (638 ครั้ง) 71 ครั้ง ร้อยละ 11.13
ผู้เสียชีวิต 52 คน เท่ากับปี 2552
ผู้บาดเจ็บ 613 คน ลดลงจากปี 2552 (717 คน) 104 คน ร้อยละ 14.50
สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ เมาสุรา ร้อยละ 42.86 ขับรถเร็วเกินกำหนด ร้อยละ 18.17
ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์
ส่วนใหญ่เกิดในเส้นทางตรง ช่วงเวลา 16.01-20.00 น.
จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ 25 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ พิษณุโลก 6 คน จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ 27 คน
จังหวัดที่ไม่เกิดอุบัติเหตุ มี 4 จังหวัด ได้แก่ กำแพงเพชร ยโสธร ระนอง และหนองบัวลำภู ทั้งนี้ ได้จัดตั้งจุดตรวจหลัก 2,559 จุด เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 67,040 คน เรียกตรวจยานพาหนะ 643,656 คัน
มีผู้ถูกดำเนินคดี รวม 75,774 ราย คิดเป็นร้อยละ 11.77 ของการเรียกตรวจ โดยมีความผิดฐานไม่สวมหมวกนิรภัยมากที่สุด 25,339 ราย รองลงมา ไม่มีใบขับขี่ 23,057 ราย
สรุปอุบัติเหตุทางถนนสะสม 3 วัน (12-14 เม.ย.)
เกิดอุบัติเหตุรวม 1,994 ครั้ง เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 389 ครั้ง ร้อยละ 24.24
ผู้เสียชีวิตรวม 166 คน เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 27 คน ร้อยละ 19.42
ผู้บาดเจ็บรวม 2,149 คน เพิ่มขึ้น 431 คน ร้อยละ 25.09
จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสูด ได้แก่ นครศรีธรรมราช 83 ครั้ง
จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ นครราชสีมา 11 คน รองลงมาได้แก่ อุบลราชธานี 10 คน และพิษณุโลก 7 คน
จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ นครศรีธรรมราช 94 คน จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิตในช่วง 3 วัน มี 19 จังหวัด
นายอุทัยรัตน์ กล่าวว่า จากสถิติอุบัติเหตุทางถนนในช่วง 3 วันที่ผ่านมา ยังคงพบว่ามีสาเหตุหลักมาจากการ เมาสุรา รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะที่ก่อให้เกิดการเสียชีวิตและบาดเจ็บมากที่สุด นอกจากนี้ ยังมีการจับกุมดำเนินคดีผู้กระทำความผิดกฎหมายจราจรกรณีไม่สวมหมวกนิรภัย และไม่มีใบอนุญาตขับขี่มากที่สุด
ศปถ. ได้สั่งการให้จังหวัดและกองบัญชาการตำรวจนครบาลกำชับเจ้าหน้าที่ประจำด่าน ตรวจทั้งบนถนนสายหลักและสายรองเข้มงวดกวดขันผู้กระทำผิดกฎหมายจราจรและ ดำเนินคดีอย่างเคร่งครัด
นอกจากนี้ พบว่า ในพื้นที่เล่นน้ำสงกรานต์ยังคงมีประชาชนดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และเล่นน้ำ สงกรานต์เป็นจำนวนมาก ทำให้เกิดความคึกคะนองในการขับขี่ โดยเฉพาะเด็กและเยาวชนที่ขับขี่รถจักรยานยนต์ไม่สวมหมวกนิรภัยทั้งผู้ขับขี่ และผู้ซ้อนท้าย
จึงขอประชาสัมพันธ์ย้ำเตือนผู้ใช้รถใช้ถนน หากมีการตรวจพบระดับแอลกอฮอล์ในเลือดสูงกว่า 50 มก.เปอร์เซนต์ จะดำเนินคดีปรับขั้นสูงสุด โดยผู้กระทำความผิดมีโทษจำคุก 1 ปี หรือปรับ 5,000-20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตลอดจนถูกสั่งพักใบอนุญาตขับขี่ไม่ต่ำกว่า 6 เดือน หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่ รวมถึงคุมประพฤติโดยให้ทำงานบริการทางสังคม ตลอดจนเข้ารับอบรมการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมภายใต้การดูแลของพนักงานคุมประพฤติ
ส่วนกรณีเมาแล้วขับและทำให้ผู้อื่นเสียชีวิต มีโทษจำคุก 3-10 ปี และปรับตั้งแต่ 60,000-200,000 บาท รวมทั้งถูกสั่งเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่
ทั้งนี้ จากการติดตามสภาพอากาศของกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า ในระยะนี้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกมีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง ผู้ใช้รถใช้ถนนควรเพิ่มความระมัดระวังในการขับขี่มากขึ้น
ปล ..
อีกไม่นาน ก็ผ่านไป .... ผู้คนก็จะลืมเลือน ... ( เทศกาลหน้า ก็เริ่มกันใหม่ ??? ) คนที่จะจดจำไม่ลืมเลือน ตลอดชีวิต ก็คือ ผู้ที่บาดเจ็บ คนใกล้ชิด และ ญาติ (ของผู้บาดเจ็บ และ เสียชีวิต)
Create Date : 16 เมษายน 2553 |
Last Update : 16 เมษายน 2553 15:25:40 น. |
|
4 comments
|
Counter : 1830 Pageviews. |
|
 |
|
|
ทั้งเรื่องความปลอดภัย ทั้งเรา และเค้า หรือใคร.....
ในช่วงเทศกาลนี่ไม่เราง่วง เราเพลีย เค้าก็อาจจะง่วงจะเพลีย
หรือถ้าหนักก็เมาไปเลย ... แบบนี้น่ากลัว ก็เลยตัดสินใจ
ว่าเทศกาลขอหยุดอยู่บ้านแทนแล้วกัน ... เค้าเลิกเที่ยว
เลิกเดินทางแล้วเราค่อยออกเที่ยวต่อไป
ขอให้ทุกท่านที่เดินทางอย่าประมาท และเดินทางโดยสวัสดิภาพนะครับ