Ortho knowledge for all @ Do no harm patient and myself @ สุขภาพดี ไม่มีขาย ถ้าอยากได้ ต้องสร้างเอง

การใส่ซองให้คุณหมอ ... กระทู้หลากความเห็น ..

L12570636 การใส่ซองให้คุณหมอ [คลินิกหมออาสา] เต็มแมกซ์ (24 - 28 ส.ค. 55 21:30)


เคยเห็นบางกระทู้พูดเกี่ยวกับการใส่ซองให้หมอ...เลยมีข้อสงสัยนิดนึงน่ะค่ะ

ด้วย ความสัตย์จริงว่าไม่ได้ต้องการสร้างประเด็นให้มีการวิจารณ์ค่อนแคะ หรือดูถูกอาชีพแพทย์ แต่ประการใด ด้วยเพราะเราเองกำลังคิด ๆที่จะตอบแทนน้ำใจเล็ก ๆ น้อยๆ ให้กับคุณหมอที่ดูแลรักษา ผ่าตัดให้ ทุกวันนี้ก็ยังไปติดตามอาการเป็นระยะ ๆทุกครั้งก็จะมีขนมติดไม้ติดมือไปฝาก...

เราไปรักษาที่ รพ. ของรัฐ รู้สึกชื่นชม และประทับใจในการดูแลรักษาเอาใจใส่ และเหนือสิ่งอื่นใดคือความเสียสละของคุณหมอซึ่งได้รับค่าตอบแทนไม่ได้มากเท่าไหร่เมื่อเทียบกับปริมาณงาน...ถ้าต้องการจะใส่ซองให้คุณหมอเค้าให้กันประมาณเท่าไหร่เหรอคะ แล้วเวลาให้ก็แอบใส่เข้าไปในกระเช้า หรือถุงขนมที่ฝากไปให้น่ะเหรอคะ(หวังว่าคุณหมอคงไม่เอาถุงนั้นไปให้พยาบาลหรือผู้ช่วยซะล่ะ อิอิ)

สำหรับ คุณหมอทุกท่าน เราเข้าใจนะคะว่าทุกคนเคารพในอาชีพของตัวเองและไม่ได้ทำงานเพื่อหวังผลตอบแทนพิเศษ เช่น ขนม ของฝาก หรือ การใส่ซองให้...ด้วยความที่เมื่อก่อนไม่ได้มีโอกาสเข้าออกรพ. บ่อยนัก แต่เมื่อเกิดเหตุขึ้นทำให้ต้องมีการเข้าออก รพ. เป็นระยะ(แต่อีกไม่นานก็คงไม่ต้องไปบ่อยๆ แล้ว ^^)...จึงขอชื่นชมในความเสียสละและความทุ่มเทของคุณหมอทุกคนขอบคุณทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำให้เราได้รับการดูแลรักษาที่ดีจากคุณหมอท่านนั้น ...เป็นกำลังใจให้คุณหมอทุกคนนะคะ

จากคุณ : เต็มแมกซ์

เขียนเมื่อ : 27ส.ค. 55 14:46:23





ถ้าเป็นไปได้ อยากจะตอบแทน หรือแสดงความรู้สึกขอบคุณกับหมอ .. เป็น จดหมาย การ์ด สิ่งของ ขนมผลไม้ ( ไม่ต้องแพง ) ฯลฯ .. แบบนี้ดีกว่าครับ  ..


ส่วนตัวผม ..

ถ้า เป็น ของกิน .. ผมจะเก็บไว้กินเองส่วนหนึ่ง แล้วที่เหลือก็มอบให้ เจ้าหน้าที่ ...

     ให้ทั้งหมดเลย คนให้ เขารู้ ก็จะเสียน้ำใจ ..

     เก็บเอาไว้เองหมด .. ผมก็รู้สึกว่า ผลดีที่เกิดขึ้นก็ไม่ได้เกิดจากหมอเราคนเดียว แต่เกิดจาก ทีมรักษา ทุกคนร่วมกัน ..ก็แบ่ง ๆ กันไป



ส่วนเรื่อง ซอง ( เงิน )  ... ( คงไม่มีใครให้ซองเปล่า ^_^ )


๑. ในแง่ของผู้ป่วย (ญาติ) ถ้าให้แล้วสบายใจ ไม่เดือนร้อน ให้เพราะอยากให้ ...

    แบบนี้ ผมว่า ให้ได้ครับ แต่ ควรให้ต่อหน้า บอกคุณหมอตรง ๆ คุยกันต่อหน้าจะได้เข้าใจตรงกัน

     - ถ้าคุณหมอไม่รับ ก็เอากลับมา บอกคุณหมอว่า ขออนุญาต นำไปบริจาคให้กับโรงพยาบาล หรือ ทำบุญในนามของคุณหมอ


    แต่ถ้าให้ ไม่ว่าด้วยเหตุใดก็ตาม ให้ แล้ว ไม่สบายใจ .... ก็ไม่ต้องให้ครับ


    เหมือนกับการทำบุญ ทำแล้วสบายใจ บุญก็เกิด (มากน้อยแล้วแต่ปัจจัยอื่นประกอบ) ทำแล้วไม่สบายใจ บุญอาจไม่ได้เลย หรือบางที อาจได้ บาป มาเพิ่ม ..



๒. ในแง่ของแพทย์

    ไม่อยากรับ  ก็ตอบกับผู้ป่วย (ญาติ) ไปตรง ๆ  แต่ถ้าเขายังยืนยัน ผมก็อยากให้รับมา แล้ว บอกกับผู้ป่วย (ญาติ) ว่า ขอบคุณ และ จะนำไปบริจาคให้กับโรงพยาบาล เพื่อเป็นการทำบุญร่วมกัน ..


     วิธีนี้ก็จะเป็นทางออกอย่างหนึ่ง เพื่อถนอมน้ำใจ ยิ่งเป็นผู้ใหญ่ (ผู้สูงอายุ) บางท่านก็ถือเรื่องนี้เหมือนกัน ให้ แล้วไม่รับ ก็เหมือนรังเกียจดูถูกเขา หรือ บางคนก็รู้สึกผิด อาย ไม่กล้าเข้าหน้าหมอ ..

    ปล.  ฝากกับพยาบาล ฝากญาติ หรือ ถ้าจะไปบริจาคเอง (พาญาติไปด้วยก็ยิ่งดี) นะครับ เป็นการป้องกันตัวหมอเองด้วย ไม่งั้นคนไม่รู้ หรือ คนไม่หวังดี อาจเอาไปนินทาลับหลัง ว่า พูดอย่างทำอย่าง  ( ถึงแม้เอาไปบริจาคจริง คนพวกนี้ ก็ยังเอาไปพูดได้อยู่ดี )









Create Date : 29 สิงหาคม 2555
Last Update : 29 สิงหาคม 2555 14:52:13 น. 2 comments
Counter : 5457 Pageviews.  

 
สำหรับบล็อคนี้ ต้องยกป้ายนี้เลย
ตอนที่รักษาตัวอยู่ที่ รพ.เลิดสิน เวลาคนไข้นำกระเช้าหรือของฝากมามอบให้คุณหมอพงษ์เทพ คุณหมอบอกว่าอยากให้คนไข้กินของที่คนไข้นำมาฝาก คุณหมออยากให้คนไข้ได้กินของดีๆ และดูแลตัวเอง แค่นี้แหละคือสิ่งที่คุณหมออยากจะได้จากคนไข้ ส่วนของฝากเล็กๆน้อยพวกคุุ๊กกี้ ปากกา คุณหมอก็จะแจกให้ทั่วๆกัน ที่สถาบันมะเร็งก็เหมือนกันอิฉันยังเคยได้รับแจกหนังสือพระจากคุณหมอนิธินัย กับเขาด้วย


โดย: deco_mom วันที่: 29 สิงหาคม 2555 เวลา:15:49:30 น.  

 




โดย: ต้นกล้า อาราดิน วันที่: 29 ตุลาคม 2555 เวลา:11:41:53 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

หมอหมู
Location :
กำแพงเพชร Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 762 คน [?]




ผมเป็น ศัลยแพทย์ออร์โธปิดิกส์ หรือ อาจเรียกว่า หมอกระดูกและข้อ หมอกระดูก หมอข้อ หมอออร์โธ หมอผ่าตัดกระดูก ฯลฯ สะดวกจะเรียกแบบไหน ก็ได้ครับ

ศัลยแพทย์ออร์โธปิดิกส์ เป็นแพทย์เฉพาะทางสาขาหนึ่ง ซึ่งเมื่อเรียนจบแพทย์ทั่วไป 6 ปี ( เรียกว่า แพทย์ทั่วไป ) แล้ว ก็ต้องเรียนต่อเฉพาะทาง ออร์โธปิดิกส์ อีก 4 ปี เมื่อสอบผ่านแล้วจึงจะถือว่าเป็น แพทย์ออร์โธปิดิกส์ โดยสมบูรณ์ ( รวมเวลาเรียนก็ ๑๐ ปี นานเหมือนกันนะครับ )

หน้าที่ของหมอกระดูกและข้อ จะเกี่ยวข้องกับความเจ็บป่วย ของ กล้ามเนื้อ เส้นเอ็น กระดูก ข้อ และ เส้นประสาท โรคที่พบได้บ่อย ๆ เช่น กระดูกหัก ข้อเคล็ด กล้ามเนื้อฉีกขาด กระดูกสันหลังเสื่อม ข้อเข่าเสื่อม กระดูกพรุน เป็นต้น

สำหรับกระดูกก็จะเกี่ยวข้องกับกระดูกต้นคอ กระดูกสันหลัง กระดูกเชิงกราน กระดูกข้อไหล่ จนถึงปลายนิ้วมือ กระดูกข้อสะโพกจนถึงปลายนิ้วเท้า ( ถ้าเป็นกระดูกศีรษะ กระดูกหน้า และ กระดูกทรวงอก จะเป็นหน้าที่ของศัลยแพทย์ทั่วไป )

นอกจากรักษาด้วยการให้คำแนะนำ และ ยา แล้วยังรักษาด้วย วิธีผ่าตัด รวมไปถึง การทำกายภาพบำบัด บริหารกล้ามเนื้อ อีกด้วย นะครับ

ตอนนี้ผม ลาออกจากราชการ มาเปิด คลินิกส่วนตัว อยู่ที่ จังหวัดกำแพงเพชร .. ใช้เวลาว่าง มาเป็นหมอทางเนต ตอบปัญหาสุขภาพ และ เขียนบทความลงเวบ บ้าง ถ้ามีอะไรที่อยากจะแนะนำ หรือ อยากจะปรึกษา สอบถาม ก็ยินดี ครับ

นพ. พนมกร ดิษฐสุวรรณ์ ( หมอหมู )

ปล.

ถ้าอยากจะถามปัญหาสุขภาพ แนะนำตั้งกระทู้ถามที่ .. เวบไทยคลินิก ... ห้องสวนลุม พันทิบ ... เวบราชวิทยาลัยออร์โธปิดิกส์ หรือ ทางอีเมล์ ... phanomgon@yahoo.com

ไม่แนะนำ ให้ถามที่หน้าบล๊อก เพราะอาจไม่เห็น นะครับ ..




New Comments
[Add หมอหมู's blog to your web]