อริยสัจจากพระโอษฐ์ .. พระโสดาบันกับพรอรหันต์ต่างกัน ในการเห็นธรรม
ภิกษุ ท.! อุปาทานขันธ์ทั้งหลายเหล่านี้ มีอยู่ห้าอย่าง. ห้าอย่างอย่างไรเล่า ? ห้าอย่างคือ ....รูปูปาทานขันธ์ ..เวทนูปาทานขันธ์ ..สัญญูปาทานขันธ์ ..สังขารูปาทานขันธ์ ..วิญญาณูปาทานขันธ์.ภิกษุ ท.! เมื่อใด อริยสาวก รู้ชัดแจ้งตามเป็นจริง ....ซึ่งความเกิดขึ้น (สมุทัย) ..ซึ่งความตั้งอยู่ไม่ได้ (อัตถังคมะ) ..ซึ่งรสอร่อย (อัสสาทะ)..ซึ่งโทษอันต่ำทราม (อาทีนวะ) ..และซึ่งอุบายเครื่องออก (นิสสรณะ) แห่งอุปาทานขันธ์ทั้งห้า เหล่านี้ ; ภิกษุ ท.! อริยสาวกนี้ เราเรียกว่าเป็นโสดาบันมีอันไม่ตกต่ำเป็นธรรมดา เป็นผู้เที่ยงแท้ต่อพระนิพพาน มีการตรัสรู้พร้อมในเบื้องหน้า....ขนฺธ. สํ. ๑๗/๑๙๖/๒๙๖....ภิกษุ ท.! อุปาทานขันธ์เหล่านี้มีอยู่ห้าอย่าง . ห้าอย่างอย่างไรเล่า ? ห้าอย่าง คือ ....รูปูปาทานขันธ์ ..เวทนูปาทานขันธ์ ..สัญญูปาทานขันธ์ ..สังขารูปปาทานขันธ์ ..วิญญาณูปาทานขันธ์.ภิกษุ ท.! เมื่อใด ภิกษุ รู้ชัดแจ้งตามเป็นจริง ....ซึ่งความเกิดขึ้น..ซึ่งความตั้งอยู่ไม่ได้ ..ซึ่งรสอร่อย ..ซึ่งโทษอันต่ำทราม ..และซึ่งอุบายเครื่องออกแห่งอุปาทานขันธ์ทั้งห้า เหล่านี้ ดังนี้แล้ว เป็นผู้หลุดพ้นแล้วเพราะไม่มีความยึดมั่น. ภิกษุ ท.! ภิกษุนี้ เราเรียกว่า เป็น พระอรหันต์ ....ผู้มีอาสวะสิ้นแล้ว..อยู่จบพรหมจรรย์แล้ว ..ทำกิจที่ควรทำสำเร็จแล้ว ..มีภาระอันปลงลงแล้ว ..มีประโยชน์ตนอันตามถึงแล้ว ..มีสังโยชน์ในภพสิ้นไปหมดแล้ว ..เป็นผู้หลุดพ้นแล้วเพราะรู้โดยชอบ ดังนี้แล....ขนฺธ. สํ. ๑๗/๑๙๖/๒๙๗.