พฤศจิกายน 2560

 
 
 
1
2
3
5
6
7
8
10
11
12
13
15
16
17
18
19
20
22
24
25
26
27
28
29
30
 
 
21 พฤศจิกายน 2560
All Blog
้ข้ามเวลา..




ในวัยหนุ่มน้อย ผู้เขียนได้ดูภาพยนตร์แนวไซไฟเรื่องหนึ่ง

" Back to the future " หรือชื่อเรื่องเป็นภาษาไทยคือ เจาะเวลาหาอดีต ในปี 1985

เชื่อว่าคนที่อยู่ในวัยสี่สิบอัพ คงเคยผ่านหูผ่านตามาบ้าง สำหรับคอหนังแนววิทยาศาสตร์หลุดโลก

โดยมีนักแสดงหนุ่ม ไมเคิล เจ. ฟอกซ์ ที่รับบทเป็น มาร์ตี้ แม็คฟราย 

หนุ่มผู้คลั่งไคล้ดนตรีสไตล์ ร็อคแอนโรล์ กับศาสตราจารย์สติเฟื่อง ดร.เอ็มเเม็ต บราว์

ที่แสดงโดยนักแสดงหนุ่มใหญ่นาม คริสโตเฟอร์ ลอยย์



เนื้อเรื่องก็พัวพันเกี่ยวกับ เครื่องไทม์แมทชีน หรือ เครื่องจักรเดินทางข้ามเวลา

ที่เป็นรถยนต์เก่าๆ ที่ถูก ดร.เอ็มแม็ต บราว์ สร้างขึ้นมา ด้วยความเชื่อของเขาในวัยหนุ่ม

และ มาร์ตี้ ก็เข้าไปมีส่วนร่วมในการเดินทางย้อนเวลาไปในยุคที่ 

พ่อและแม่ของเขายังเป็นวัยรุ่นโดยบังเอิญ...



เรื่องราวกลับชุลมุนวุ่นวาย เมื่อตัวของมาร์ตี้ จะต้องไปเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตในวัยรุ่นของพ่อและแม่

รวมถึงจะต้องค้นหา ดร.บราว์ ในวัยหนุ่มให้เจอ เพื่อจะกลับไปช่วยชีวิต ดร.บราว์ เอง

ที่ถูกผู้ร้ายยิงตายในโลกปัจจุบันให้ได้..


สำหรับหนังเรื่องนี้กลายเป็นเรื่องที่จุดประกายความชอบและหลงใหล

ในภาพยนต์แนวนี้ให้กับผู้เขียนตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา 

ภาพยนตร์เรื่องนี้มีทั้งหมดสามภาค ใช้เวลาถ่ายทำร่วมสิบปี

แต่ละภาคก็ล้วนแต่เกี่ยวข้องกับ เครื่องจักรเดินทางข้ามเวลา หรือ เจ้าไทม์แมทชีน นี่เอง

จนภาคสุดท้าย เจ้าไทม์แมทชีน ก็ถูกทำลายลงไป ก็เป็นว่าอันจบหนังไตรภาคเรื่องนี้อย่างสมบูรณ์



สาระของหนังเรื่องนี้ นอกจากความสนุกสนานเร้าใจ ดำเนินเรื่องชวนให้ตื่นเต้นติดตามแล้ว

ผู้เขียนยังได้แนวคิดบางอย่างจากภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วย นั่นคือ


" เราไม่ควรไปเปลี่ยนอะไรในอดีตที่ผ่านมาแล้ว 

เพราะมันจะมีผลกระทบต่ออนาคตอย่างแน่นอน "


แม้แต่สิ่งเล็กๆน้อยๆอย่าง หนังสือ เพียงเล่มเดียว ก็สามารถเปลี่ยนอนาคตได้อย่างมากมาย

เหมือนที่ มาร์ตี้ เคยทำพลาดมาแล้วในภาคที่สอง..


การเดินทางข้ามเวลา เป็นสิ่งที่มนุษย์และนักวิทยาศาสตร์ทุกยุคทุกสมัย 

ต่างก็ต้องเคยฝันและจินตนาการถึงมาแล้วแน่นอน

จะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม การเดินทางผ่านมิติแห่งเวลานี้ 

ก็ยังมีเสน่ห์ชวนให้ชวนให้เราเข้าไปสัมผัสมัน หากว่ามันสามารถกลายเป็นเรื่องจริงได้ในสักวันหนึ่ง


แม้ในทาง กายภาพ จะยังไม่สามารถสร้างเทคโนโลยีที่ทำเช่นนั้นได้

แต่ในทาง จิตวิญญาณ ก็ไม่แน่ว่าอาจจะมีคนที่สามารถเดินทางย้อนเวลา 

กลับไปดูเหตุการณ์ในอดีตของใครๆมาแล้วก็เป็นได้ ใครจะรู้..



ผู้เขียนเชื่อว่าในอนาคต โลกของวิทยาศาสตร์ กับ โลกของจิตวิญญาณ 

อาจจะโคจรมาบรรจบกัน ในจุดไหนสักที่หนึ่งบนเส้นเวลาในอนาคตกาล

และวันนั้น คำตอบทั้งหลายที่ติดค้างอยู่ภายในใจของผู้คน ที่แสวงหา คำตอบ ในแง่มุมต่างๆ

ที่เกี่ยวกับโลกนี้โลกหน้า ก็จะสามารถคลี่คลายจางหายไปเสียที

เรียกว่า หมดเรื่องคาใจ กันไปเสียที.. 



และสุดท้าย ความจริงแท้ของธรรมชาติ

ก็จะได้หล่อหลอมพวกเราเหล่ามนุษย์ เหล่าปุถุชนคนหนาทั้งหลาย 

ให้เห็นความจริงที่เป็นสิ่งเดียวกัน..



เมื่อก่อนเคยถามตัวเองอยู่เหมือนกันว่า..

หากย้อนเวลากลับไปในอดีตได้จริง จะกลับไปทำอะไร..?

ความคิดแรกๆกลับกลายเป็นว่า อยากจะไปแก้ไขโน้นนี่นั้น ให้ดีขึ้น

แต่พอโตขึ้นมาสักหน่อย พอเริ่มที่จะเข้าใจชีวิตขึ้นมาบ้าง

กลับรู้สึกว่า ไม่มีสาระอะไร มากไปกว่าความอยาก หรือ ตัณหา เหมือนเดิม



สิ่งที่เกิดขึ้นแล้วนั้น ถูกต้องแล้ว

สิ่งที่ผ่านมานั้น ชอบธรรมแล้ว



สิ่งเราคิดว่ามันไม่ถูกต้อง ที่คิดว่าไม่ชอบธรรมในอดีตนั้น เป็นแค่เรื่องที่เรา เข้าใจผิด ทั้งนั้น

เราหลงไป หลงเข้าใจว่าเรามีส่วนได้ส่วนเสียกับมัน  ใจเรามันถึงไม่ยอมจบเสียที

ใจเราถึงไม่ยอมสงบจากความเร่าร้อนเสียที..



สุดท้าย เครื่องไทม์แมทชีน ในเรื่อง เจาะเวลาหาอดีต ก็ถูกทำลาย

สุดท้ายความทะยานอยากทั้งหลายก็ต้องถูกทำลายลง เพราะเครื่องมือที่ชื่อว่า วิชชา



เวลา ก็จะกลายเป็นสิ่งที่เราสมมุติขึ้นมาเองว่า 

เป็นอดีต เป็นปัจจุบัน เป็นอนาคต เป็นวันนี้ เป็นพรุ่งนี้ เป็นเมื่อวาน..

โดยที่ความจริงก็คือ เราเป็นเพียงธรรมชาติหนึ่ง 

ที่กำลังประชุมกัน รวมตัวกันชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้น 

สุดท้ายก็ต้องแยกทางกันไปคนละทิศคนละทาง เมื่อหมดเหตุหมดปัจจัย



และหากอยากจะเดินทางข้ามเวลาจริงๆ  ก็ขอให้คิดเสียว่า 

แม้แต่ตัวเรายังไม่มีจริง แล้วเราจะเอาสิ่งปลอมๆมาแบกมาหามเอาไว้ทำไม

สู้เอาเวลาที่เหลืออยู่น้อยนิดในชีวิตนี้

เดินข้ามผ่านความสงสัย ในกายและใจของตัวเราเอง จะยังดีเสียกว่า..





ขอขอบคุณเจ้าของรูปสวยๆทุกรูปครับ




Create Date : 21 พฤศจิกายน 2560
Last Update : 21 พฤศจิกายน 2560 21:38:52 น.
Counter : 958 Pageviews.

0 comments

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณRain_sk

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

นายสมมุติ
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 22 คน [?]