กันยายน 2558

 
 
1
3
4
5
6
7
8
9
11
12
13
14
15
17
18
19
20
21
22
23
25
26
27
28
30
 
 
24 กันยายน 2558
All Blog
Please don't cry..
 ตอนเด็กๆผู้เขียนจะถูกฝึกสอนให้หัดเป็นคนมองโลกในแง่ดีอยู่เสมอนะ

แม้บางครั้งเราจะต้องเสพ " ความจริงด้านมืด " ของชีวิต ที่ประเดประดังเข้ามา

ทั้งทางตา หู จมูก  ลิ้น กาย ใจก็ตาม

เป็นความหวังดีของ ผู้ใหญ่ ที่อยากเห็นเราเป็น คนคิดบวก


แต่คนที่โชคร้าย โดนโลกทำร้าย ต้องตกเป็นผู้รับเคราะห์ทั้งทางตรงหรือทางอ้อม

ย่อมทำใจยอมรับความไม่ราบเรียบของชีวิตอย่างฝืดฝืน..

ทำใจให้มองโลกให้ สวย  เหมือนเดิมได้ยาก คงต้องใช้เวลากันนิดหนึ่ง..



การมองโลกในแง่ดี กับ การ เพ่งเล็งโลกในแง่ร้าย 

ความจริงมันมีข้อดีมีประโยชน์ทั้งคู่ แต่มันจะกลายเป็นอันตรายกับชีวิตของเราทันที 

ถ้าเราใส่คำว่า  " เกินไป " ต่อท้าย..


การสร้างกำลังใจ ให้อภัยตนเองและผู้อื่น การให้โอกาสแก่ความผิดพลาดต่างๆของชีวิต 

ความเชื่อมั่นว่าทุกสิ่งทุกอย่างเริ่มต้นใหม่ได้เสมอ เป็นผลมาจากการ มองโลกให้สวยงาม

แต่ความระมัดระวัง การไตร่ตรอง ความรอบคอบ การเตรียมพร้อมยอมรับสถานการณ์ที่เลวร้าย

ไม่ประมาท ย่อมเป็นผลมาจากการ ไม่หย่อนใจเพลิดเพลินกับความสวยงาม ที่อาจลวงหลอกตา..


ความไม่พอดี พร่องบ้าง เกินบ้าง บางครั้งก็อาจจะนำพา " หายนะ " มาสู่ตนเองได้

เหมือนดังสายพิณที่ถูกตั้งเอาไว้ไม่ตึงไม่หย่อน มันก็จะให้เสียงที่ไพเราะ เสนาะหู ฉันใด

การวางใจให้เป็นกลาง ไม่มองอะไรเป็นขาวหรือดำชัดเจนเกินไป ก็ดีไม่น้อย

แต่ในความจริง ทำได้ยากเย็นเหลือเกิน..

เพราะเราทั้งหลายก็ต่างตกเป็นทาสของ ความยึดติด ในความคิดความเห็นของตนเอง

อย่าง งอมแงม



จริงอยู่ ไม่ว่าใครก็ต้อง เข้าข้างตนเอง เข้าข้างคนของตนเอง อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้..

แต่ก็มักจะโยนความผิด ให้คนอื่นรับไปก่อนเสมอ..ใช่ใหม..?


สิ่งที่กำลังดำเนินอยู่ในชีวิตเรา มาพัวพันกับชีวิตเรา ในทางธรรมท่านก็บอกว่า

มันถูกต้องอยู่แล้ว มันสมเหตุสมผลของมันอยู่แล้ว ชอบธรรมอยู่แล้ว 

มันเป็นของมันเช่นนั้นอยู่แล้ว ไม่เคยผิด..

แต่ใจของเราต่างหากที่ ผิด

ผิดที่คิดเข้าข้างตนเอง ผิดที่เอาความเห็น ความรู้ เอาภูมิปัญญาของตนเอง ไปตัดสินโลก

ทั้งที่ความจริง มันก็เป็นเช่นนั้นเอง โง่ไปเอง


คนที่ได้รับ รางวัลของโลก ย่อมดีใจ ปิติ ปลาบปลื้ม ล่องลอยอยู่ในสุขเวทนา

ส่วนคนที่โดนลงโทษ ย่อมดีดดิ้น ทุรนทุราย ฟูมฟาย จมอยู่กับทุกขเวทนา

พาลจะให้น้ำตาไหลท่วมโลกทั้งคู่..

แต่เชื่อเถอะว่าไม่เคยมีใครชนะโลกได้ พ่ายแพ้ยับเยิน ไม่ว่าจะสุขหรือทุกข์ทน


การฝึกมองโลกในแง่ดีนั้นดีแน่ ส่วนการฝึกมองโลกอย่างระมัดระวังไม่ประมาท ก็ยิ่งดี

อย่าปล่อยให้ใจมันสวิง กระโดดโลดเต้นขึ้นๆลงๆมากนัก มันเหนื่อย..

ลองลิ้มรสของความราบเรียบเป็นกลาง ให้ชีวิตได้ลิ้มลอง ความจืด บ้างก็ดีนะ..

ไม่ใช่ว่าเจอเรื่องดีสุดๆก็ร้องห่มร้องไห้จะเป็นจะตาย เจอเรื่องร้ายๆก็น้ำตาแทบจะเป็นสายเลือด..

Please don't cry..  ได้โปรดอย่าทำให้ใครเขาเดือดร้อนเพราะน้ำตาของเราเลย..

หัดวางตัววางใจให้เป็นกลางๆ มองโลกแบบเผื่อเหลือเผื่อขาดกันบ้าง

แล้วกรุณาเก็บน้ำตาเอาไว้ใช้ตอนฝนแล้งเถอะ..




ขอขอบคุณเจ้าของภาพสวยๆทุกภาพครับ









Create Date : 24 กันยายน 2558
Last Update : 24 กันยายน 2558 13:06:42 น.
Counter : 2561 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

นายสมมุติ
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 22 คน [?]