พฤศจิกายน 2559

 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
 
 
All Blog
หยิบข่าวเล่าธรรม ตอน กราบทำไม..?









 จากข่าวที่สร้างกระแสความขุ่นข้องใจให้แก่บรรดาสาวกในโลกโซเซียล

เกี่ยวกับการกระทำของบุคคลสาธารณะที่เป็นดีเจของค่ายเพลงชื่อดังกับคู่กรณีหนุ่ม

ด้วยเหตุการณ์ รถเฉี่ยวชนกันบนท้องถนน แล้วเลยเถิดไปถึงการ ลงไม้ลงมือ

และบังคับให้ กราบ ยานพาหนะของเจ้าทุกข์



ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร เชื่อว่าหลายท่านคงจะได้รับทราบไปบ้างแล้ว

ตามเนื้อหาตามคลิปที่ปรากฏให้เสพกัน

และเชื่อว่า หลายคนก็คงได้ใช้ อคติส่วนบุคคล พิพากษา บุคคลในเนื้อข่าวไปแล้ว 

เรียบร้อย..


ส่วนจุดจบของเรื่องนี้จะเป็นอย่างไร

เชื่อว่ายังมีหลายคนคงตามลุ้นกันต่อ แต่คนที่เคยเห็นเรื่องราวอย่างนี้บ่อยๆ

ก็อาจจะไม่ยินดียินร้ายกับ ผลลัพธ์ ของมันเท่าไหร่ 

เป็นเรื่องของ อารมณ์ชั่ววูบ แท้ๆ..



ขอเอา หลักธรรม มาจับประเด็นที่เกิดขึ้นเพื่อความจรรโลงและเจริญของจิตใจกันดีกว่านะครับ

อย่างกรณีนี้ หลายคนก็อาจจะบอกว่าเกิดจากการ ขาดสติ 

ที่ทำให้คนที่ตกเป็นข่าว ขาดการ ระลึกได้ ว่าตนกำลังทำอะไรอยู่

โดยไม่สามารถควบคุม กายและวาจา ของตนเองได้..

จึงก่อให้เกิด การกระทำที่ไม่งามในสายตาของผู้คนรอบข้าง 



สติ เป็นเครื่องมือที่จะใช้เรียก สัมปชัญญะ หรือ ความรู้ตัว มาช่วย

ปรกติเขาจะมาด้วยกัน เป็นคุณธรรมที่มีคุณส่งเสริมกันและกัน

เพราะถ้าขาดสติ เราก็จะขาดความรู้ตัวไปด้วย 

การกระทำใดๆในขณะที่ขาดสติ จึงเป็นการกระทำโดย อำนาจของ ความไม่รู้

ความไม่รู้ในที่นี้ไม่ได้หมายความว่า ไม่รู้ว่าผิดกฏหมายและศีลธรรม นะ

แต่หมายความถึง การไม่รู้ตัวว่ากำลังถูก ความโกรธ ความพยาบาทครอบงำอยู่


ไม่อยากคิดเลยว่าหากขณะนั้นฝ่ายที่กำลังขาดสติมีอาวุธอยู่ในมือ จะเกิดอะไรขึ้น..?


และสิ่งที่เห็นได้อีกอย่างก็คือ เราขาด ความเมตตากรุณา ต่อกัน

เราลืมไปว่าการใช้ชีวิตร่วมกันในสังคม ใช้ถนนหนทางร่วมกัน

ใช้สิ่งของที่เป็นสาธารณะสมบัติร่วมกัน มันก็อาจจะมีการกระทบกระทั่งสิทธิกันบ้าง

เป็นเรื่องธรรมดา เพราะเราไม่ได้อยู่คนเดียวในโลก โลกไม่ใช่ของเราคนเดียว



ความเมตตา จะทำให้เรามีใจแบ่งปัน ให้อภัยและลดความเกลียดชังลงได้

ความเมตตา จะทำให้อุณภูมิของหัวใจเราลดลงได้ มองอะไรเป็นกลางมากขึ้น

ลด อคติ ความเห็นแก่ตัวเรา ของๆเราลงไป


และการบังคับให้คู่กรณี กราบไหว้ของๆตนเพื่อ

ลดทอนคุณค่าของคนทำผิดลง หรือจะเพื่อยกคุณค่าของใช้ของตนให้สูงขึ้น 

เพื่อเป็นการบังคับให้แสดงความนอบน้อมต่อสิ่งที่เขาคิดว่ามีค่า ควรได้รับการขอขมา

จนกลายประเด็นล้อเลียนกันสนุกสนานในสังคมออนไลน์ เพื่อ..?



ก็เพื่อตอบสนอง อัตตา ที่ดูใหญ่โตกว่า คุณธรรม ประจำตนของเจ้าของรถนั่นไง..



น่าเศร้านะที่วันนี้เราได้เห็นว่า คนส่วนหนึ่งของสังคมกลับให้ความสำคัญกับสิ่งของเครื่องใช้

มากกว่าคุณค่าและศักดิ์ศรีของความเป็นคน

จริงอยู่ ทรัพย์สินเงินทองของใช้บางอย่างอาจจะต้องใช้เวลาและความพยายามในการขวนขวาย

เพื่อที่จะได้ครอบครองมัน กว่าจะหามาได้เลือดตาแทบกระเด็น

จึงรักและห่วงหวงเป็นธรรมดา


คิดเล่นๆว่านี่ขนาดคนอื่นเขายังบังคับให้กราบไหว้ขนาดนี้แล้ว 

แสดงว่าเจ้าของรถคงจะแสดงความรักบูชาเทิดทูนมากกว่านี้หลายเท่า


ข้อคิดจากเรื่องนี้มีอยู่ว่า ต่อไปนี้

ทำอย่างไรเราถึงจะรักแต่ไม่หลง

ทำอย่างเราเราถึงจะห่วงแต่ไม่หวง

ทำอย่างไรเราถึงจะโมโหแต่ไม่หุนหันพลันแล่น

ทำอย่างไรเราถึงจะมองว่า ชีวิตเราสักวันหนึ่งก็ต้องมีวัน ทำผิด แต่จะไม่ยอมพลาดอีก



ทั้งตัวเราเองและผู้ตกเป็นข่าวเชื่อว่าหากย้อนเวลากลับไปได้ 

ก็คงไม่อยากให้มีการกระทำเช่นนี้เกิดขึ้นแน่นอน

หากจะกราบรถ เกวียน บ้านช่องใครๆ ก็ขอกราบหัวใจของคนที่มีความเมตตากรุณาดีกว่า 

ไปกราบรถราที่มันไม่มีหัวจิตหัวใจ จริงใหม? กราบทำไม..?




ขอขอบคุณเจ้าของภาพสวยๆทุกภาพครับ



Create Date : 13 พฤศจิกายน 2559
Last Update : 13 พฤศจิกายน 2559 23:33:08 น.
Counter : 4400 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

นายสมมุติ
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 22 คน [?]