กุมภาพันธ์ 2561

 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
9
10
11
12
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
26
27
28
 
 
All Blog
ข่าวร้ายที่รอคอย ตอน ร้องไห้บนแจกัน..3







ความเหมือนเดิม..ที่ไม่เหมือนเดิม


ยี่สิบนาฬิกา ณ กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้..

" ยังคิดถึงเขาอยู่อีกหรือลูก..? " เสียงทุ้มนุ่มดังขึ้นข้างหลัง

คาร่า หันไปมองเจ้าของเสียง " คุณพ่อ.. " 

" ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว คุณลี เขาบอกพ่อหมดแล้ว.."  ผู้บริหารสูงวัยเดินเข้ายืนข้างๆ คาร่า..

" มาร์ค เขาเป็นคนใจแข็ง เด็ดเดี่ยว ลูกก็รู้ไม่ใช่หรือ..? " ผู้เป็นพ่อพูดพลางหันหน้าไปจ้องตาบุตรสาว

" ค่ะ หนูรู้ดี แต่.. " หญิงสาวพูดไม่จบ " แต่ก็ลืมเขาไม่ได้..ใช่ใหม..? " คังจู พูดแทรกขึ้นมา

"ลูกเอ๋ย.. พ่อไม่เข้าใจความรักของหนุ่มสาวสมัยนี้จริงๆ.. " คนเป็นพ่อพูดพลางส่ายหน้า ถอนหายใจยาว


ท่านประธานคัง ซีอีโอของเคเอสปิโตรเคมิคอล หลับตาย้อนคิดไปเมื่อสองปีก่อน

ภาพของวิศวกรหนุ่มที่ลุกขึ้นทักท้วงอย่างแข็งขัน ถึงแผนการผลิตที่ผิดพลาดของโรงงานใหม่

ที่ช่วยให้เคเอส รอดพ้นจากการโดนลูกค้ารายใหญ่ปรับเป็นเงินจำนวนมหาศาลอย่างเฉียดฉิว..


ภาพวันที่ชายหนุ่มปฏิเสธที่จะรับตำแหน่งสำคัญและรายได้ก้อนโตในองค์กรของเขา 

ยักษ์ใหญ่แห่งวงการปิโตรเคมีของเอเชียแปซิฟิค เพียงเพราะเหตุผลว่า เขายังไม่คู่ควร..


และภาพความแห่งความสนิทสนมในฐานะ เพื่อนชายคนสนิท ของคาร่า 


" ทำไมลูกไม่ลองเปิดใจ ให้โอกาสหนุ่มเกาหลีดีๆ ที่เข้าแถวรอให้ลูกชี้ตัวตั้งมากมาย.. "

" คนที่มีคุณสมบัติเพียบพร้อมคู่ควรกับลูก มีตั้งเยอะแยะ.." 

ท่านประธานพูดเบาๆ พร้อมกับเอื้อมมือไปจับมือลูกสาวคนเดียวของเขาอย่างทะนุถนอม


" มันก็คงเป็นเหตุผลเดียวกันกับที่ คุณพ่อเลือกคุณแม่นั่นแหละค่ะ " คาร่า ตอบย้อนกลับไป


ประธานคังจู ถึงกับนิ่งอึ้งไป เมื่อได้ยินคำตอบของหญิงสาว..


" แล้ว..เขายังดีกับลูกอยู่หรือเปล่า.. ? " ผู้เป็นพ่อถามต่อ

" มาร์ค เขายังทำดีกับ คาร่า เหมือนเดิมค่ะ " หญิงสาวตอบ

" เพียงแต่ คาร่า รู้สึกว่าในความเหมือนเดิมของเขา มันไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป.."


หญิงสาวพูดพลางซบหน้าลงบนอกของผู้เป็นพ่อ น้ำเสียงสั่นเครือ

ผู้เป็นพ่อทอด วงแขนไปโอบกอดลูกสาว พร้อมตบที่ศีรษะเบาๆเป็นเชิงปลุกปลอบ

สมาชิกในครอบครัวเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่ นับตั้งแต่ภรรยาของเขาจากไปเมื่อเกือบสิบปีก่อน..



รางวัลที่ว่างเปล่า


รตา มาถึงที่ทำงานแต่เช้า เดินยิ้มทักทายทีมงานอย่างอารมณ์ดี

แม้จะเลยเวลาประชุมเช้าแล้ว แต่เธอก็ยังไม่เห็นวี่แววของ มานพ จะเข้ามาที่ทำงาน


" พี่มานพ เข้าไปในไซต์งานหรือคะพี่เอ.. ? " 

ประเสริฐ ทำท่าเหมือนนึกอะไรได้ " เอ่อ.. ตา ผมลืมบอกไปว่า มานพ เขาไปอเมริกา ตั้งแต่คืนวันเสาร์ "

" อเมริกา ไปทำไมคะ..? " รตา รีบถามกลับ

" อืม.. ผมก็ไม่รู้รายละเอียดมากนักนะ แต่คุณก็รู้ไม่ใช่หรือว่า มานพ เขาไม่ใช่พนักงานของเราเต็มตัว

เขาเป็นเซ็คกันเม้นต์ เป็นมือปืนรับจ้างที่เราจ้างมาเท่านั้น.. " ประเสริฐ พูดต่อ

" ทราบค่ะ แต่.. พี่มานพไม่ได้แจ้งล่วงหน้านี่คะ.. ? " รตา ถามต่อ

" ใช่ เขาไม่จำเป็นต้องแจ้งเรา เพราะในสัญญาจ้าง เขามีสิทธ์หยุดพักได้เมื่อทำงานครบสามเดือน

โดยลาพักได้ครั้งละสองวีค "  

รตา หลับตาถอนหายใจเบาๆ " สองสัปดาห์.." รตา นึกในใจ " จากสี่สิบแปดชั่วโมงกลายเป็นสิบสี่วัน.. ที่ฉันจะไม่ได้เจอคุณ"


รตา เดินกลับไปที่โต๊ะทำงานอย่างหง่อยๆ แต่เธอก็ต้องเรียกสติกลับมาก่อน

" ทำงานๆๆๆ  อย่าฟุ้งซ่านนะ เดี๋ยวเขาก็กลับมาเองแหละ.. " เธอคิดในใจ..


แล้วเธอก็สะดุ้ง เมื่อเสียงโทรศัพท์ที่โต๊ะทำงานดังขึ้น..  " ค่ะ..พี่เอ" " ตา คุณเข้ามาที่ห้องผมหน่อย " 

รตา เดินเข้ามาในห้องของหัวหน้าเธอ..

" พี่เอ มีอะไรหรือเปล่าคะ..? " รตา ถาม" ผมมีเข่าวดีจะแจ้งให้คุณทราบ "

" ข่าวดีอะไรคะ ..? " เธอถามต่อ " ผมเพิ่งได้รับโทรศัพท์จากท่านรองโกมุท ท่านอยากให้ผมไปช่วยงานที่สำนักงานใหญ่ "

" ยินดีด้วยนะคะพี่เอ สงสัยพี่เอจะได้เลื่อนตำแหน่งแน่ๆเลยค่ะ.. " รตา ยิ้มอย่างจริงใจ..

" ขอบคุณนะ แต่มันไม่ใช่ข่าวดีของผมคนเดียวหรอกนะ.. มันเป็นของคุณด้วย.. "

" ข่าวดีของตา ด้วยหรือคะ..? " รตา ถาม 

" ใช่ เพราะคนที่จะทำหน้าที่ผู้จัดการแผนกของเราคนต่อไป ก็คือ..คุณ "

รตา ทำหน้าแปลกใจเล็กน้อย " ผู้จัดการแผนกคนใหม่.. " เธอรำพึงเบาๆ


" ผู้ใหญ่ท่านเห็นผลงานของคุณแล้วรู้สึกประทับใจ เลยอยากจะให้โอกาสคุณได้พิสูจน์ฝีมือ.."

" และสำหรับตัวผม ไม่มีข้อสงสัยในความสามารถของคุณเลย คนที่ทุ่มเททำงานอย่างคุณ

สมควรได้รับรางวัล.. ผมขอฝากทีมของเราเอาไว้กับคุณ.. ขอให้คุณดูแลพวกเขาต่อจากผม.. "



ประเสริฐ พูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง พร้อมพยักหน้าและยิ้มน้อยๆ

" ขอบคุณพี่เอ ที่ให้โอกาสกับตาคะ ตาจะทำให้มันให้ดีที่สุดคะพี่เอ.. "

" แม้คำสั่งจากเอชอาร์จะยังไม่ประกาศ แต่ตั้งแต่พรุ่งนี้ คุณเข้ามาเรียนรู้งานจากผมได้เลย

ผมจะโค๊ชชิ่งให้คุณเอง.." ประเสริฐ ยิ้มอย่างใจดี

รตา ยกมือไหว้ขอบคุณ และเดินออกมาจากห้องของหัวหน้าด้วยความรู้สึกยินดี



แต่เมื่อเธอเดินผ่านโต๊ะทำงานที่ปราศจากร่างของ มานพ 

เธอกลับรู้สึกว่า หากเขารู้ข่าวนี้ เขาจะร่วมยินดีกับเธอหรือเปล่าหนอ..?

รางวัลแห่งการทำงานนี้ นอกจากพ่อและแม่ของเธอแล้ว คงจะมีคนไม่กี่คนในโลกที่พร้อมจะแสดงความยินดีกับเธอ

หนึ่งในนั้นเธออยากจะให้เป็นเขา ถ้าเขาอยู่ด้วยก็คงจะดีไม่น้อย

รางวัลนี้มันอาจจะดูน่าภาคภูมิใจ แต่ทำไมในใจเธอถึงรู้สึกว่า มันว่างเปล่าเหลือเกิน..



ฟ้าลิขิต..


" ได้โปรดช่วยเธอด้วย... พระเจ้าได้โปรดประทานความเมตตาต่อเธอด้วย.."


เสียงรำ่ไห้คร่ำครวญอย่างน่าสงสาร ดังกึกก้องวนเวียนในหัวของ มานพ ซ้ำไปซ้ำ้มา

มานพ สะดุ้งตื่น เหงื่อกาฬผุดแตกเป็นเม็ดเต็มใบหน้าของเขา


ฝันอีกแล้วเหรอ..

มานพ ยกตัวเองลุกขึ้นจากเตียง เดินเข้ามาล้างหน้าในห้องน้ำ 

เสียงเคาะประตูดังขึ้น " เชิญครับ.. " เขาส่งเสียงบอก

" ตื่นแล้วหรือคะ " เสียงนางพยาบาลเอ่ยถาม " ครับ " เขาตอบสั้นๆ

" คุณหมอ วิลสัน บอกว่าเย็นนี้คุณก็กลับไปพักผ่อนต่อที่บ้านได้แล้วค่ะ " เธอยิ้มใจดี

" ขอบคุณครับ.. " เขาตอบพร้อมยิ้มน้อยๆให้กับเธอ



" ตั้งแต่ซัมเมอร์ที่แล้ว อาการของ สเตฟานี่ แย่ลงเรื่อยๆครับ นี่ถ้าไม่ได้เลือดจากคุณเธอคงไม่สามารถมีชีวิตอยู่มาได้จนถึงวันนี้ "

หมอวิลสัน กล่าวกับ มานพ ที่แสดงสีหน้าเป็นกังวล..

" แล้วโอกาส ที่เธอจะหายจากโรคนี้มีเท่าไหร่ครับหมอ..? " เขาถามด้วยความอยากรู้

" น้อยมากครับ เหลือไม่ถึง ยี่สิบเปอร์เซนต์  ตราบใดที่เรายังไม่สามารถเพาะเซลล์เลือดของเธอได้

แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพจิตใจของเธอด้วยครับ " หมอวิลสัน บอก

" แล้วถ้าตอนนี้ ผมจะขอพบเธอจะได้ไหมครับ..? " ชายหนุ่มเอ่ยถามต่อไป

" อ๋อ.. ได้แน่นอน ก็คุณเป็นพ่อบุญธรรมของเธอนี่น่า.. " หมอวิลสัน ยิ้มใจดี

มานพ กล่าวขอบคุณ แล้วพาตัวเองมาหยุดอยู่ที่หน้าห้องพักฟื้นเด็ก



ชายหนุ่มสูดลมหายใจเข้าเต็มปอด พยายามแสดงสีหน้าสดชื่นก่อนเคาะประตู..

" ใครคะ..? " เสียงคนข้างในร้องถาม " "นี่ฉันเอง มาร์ค.. "

" คุณพ่อ..." เสียงเด็กหญิงร้องออกมาอยา่งดีใจ เมื่อได้เห็นใบหน้าของ มานพ โพล่ออกมาจากหลังประตู

มานพ โผเข้ากอด สเตฟานี่ สาวน้อยผิวสีวัยเจ็ดขวบเศษ

" รู้สึกดีขึ้นหรือยัง สาวน้อยของฉัน.." มานพ กล่าวถามเด็กหญิง

" ดีขึ้นแล้วค่ะ แดดดี้.. แต่เมื่อไหร่หนูจะได้กลับบ้านคะ..? " เด็กหญิงเรียกร้อง

" พรุ่งนี้ฉันจะมารับเธอกลับบ้านเองนะ ไม่ต้องกลัว.. " มานพ บอกพลางเอามือลูบที่หัวเธอเบาๆ..

" แต่คืนนี้เธอต้องนอนที่นี่ก่อนนะเด็กน้อย.." มานพ พูดพลางก้มหน้าไปจุ่มพิตที่หน้าผากของเธอเบาๆ..

" ค่ะ คุณพ่อ.." 


พ่อแม่ของ สเตฟานี่ เสียชีวิตลงพร้อมๆกันจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ เมื่อห้าปีก่อน

เด็กน้อยดวงแข็งเธอรอดชีวิตจากเหตุการณ์นั้นได้อย่างปาฏิหาริย์..

แต่ก็โชคร้ายสองชั้นเมื่อเธอต้องกลายเป็นเด็กกำพร้าตั้งแต่ยังจำความไม่ได้

แถมยังเสียเลือดอย่างมากจนเกือบจะเอาตัวไม่รอด กว่าจะรู้ว่าเธอมีกรุ๊ปเลือดพิเเศษไม่เหมือนใคร

ก็ใช้เวลาหลายชั่วโมง ทางโรงพยาบาลประกาศขอรับบริจาคเลือดกรุ๊ปนี้อย่างเร่งด่วน

เนื่องจากไม่มีสำรองในคลังเลือด และที่สำคัญเธอไม่มีญาติเหลืออยู่เลย..


มานพ หนุ่มวิศวกรฝึกหัดของบริษัทค้าน้ำมันรายใหญ่ในรัฐนั้น มาฝึกงานที่เมืองนี้พอดี

เขาได้รับข่าวจากทางวิทยุสื่อสารของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย จึงเดินทางมาร่วมบริจาคเลือด

ที่โรงพยาบาลร่วมกับคนที่มีกรุ๊ปเลือดใกล้เคียงกับเธออีกสามสิบคน ..

แล้วก็เหมือนฟ้าลิขิต เลือดของ มานพ เป็นเคสเดียวที่เข้ากับเลือดของ สเตฟานี่ได้..

ทำให้หมอและพยาบาลแปลกใจอย่างมากที่ เลือดของหนุ่มชาวเอเชีย 

สามารถต่อชีวิตให้กับเด็กน้อยผิวสีผู้โชคร้ายได้..


นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา มานพ ก็ขอเป็นเป็น พ่อบุญธรรมของ สเตฟานี่ ตามหลักเกณฑ์ของรัฐนี้

นอกจาก สเตฟานี่จะมีเลือดกลุ่มพิเศษแล้ว เธอยังมีอาการจากความผิดปรกติของเม็ดเลือดอีกด้วย

ซึ่งทำให้ มานพ จะต้องถ่ายเลือดให้เธออยู่เป็นประจำ ซึ่งเขาก็ยินดีทำอย่างยิ่ง



" เมื่อไหร่คุณจะกลับมาหาหนูอีกค่ะ..?" เด็กน้อยถามตาละห้อย..

" ไม่นานหรอกนะจ๊ะสาวน้อย ฉันจะโทรมาหาเธอทุกคืนวันศุกร์เหมือนเดิมนะ " เขาบอก

" ผมฝากดูแล สเตฟ ด้วยนะครับ คุณแมรี่..

" ไม่ต้องห่วงนะคะ คุณมานพ เด็กๆทุกคนที่นี่จะได้รับการดูแลอย่างดีและเท่าเทียมกันแน่อนค่ะ "

มีสซีสแม่รี่ เจ้าหน้าที่บ้านเด็กกำพร้าประจำเมืองกล่าวยืนยัน



" ฉันต้องไปแล้วนะ ฉันจะคิดถึงเธอทุกๆวัน " มานพ โน้มตัวลงไปพูดกับ สเตฟานี่ ใกล้ๆ

" แล้วรีบกลับมานะคะ คุณพ่อ.. " เด็กน้อยพูดพลางเอามือปาดน้ำตาที่แก้ม

" แน่นอนจ่ะ ฉันรักหนูนะ สเตฟานี่ " มานพ กลั้นใจไม่ให้เธอเห็นดวงตาที่เริ่มร้อนผ่าวของเขา 

ด้วยการหันหน้าหนีแล้วรีบเดินจากมา ก่อนจะหันไปโบกมืออำลาอีกครั้ง..



พบกันครึ่งทาง


มานพ กลับมาทำงานในสภาพที่อิดโรยเล็กน้อย เป็นเพราะต้องเดินทางไกลหลายชั่วโมง

ข่าวการเลื่อนตำแหน่งของ รตา เขารู้จากอีเมล์ของบริษัท และตั้งใจจะไปกล่าวแสดงความยินดีกับเธอด้วยตัวเอง

แต่วันนี้ รตา ไม่อยู่ในห้องทำงาน เขาจึงส่งเมล์ แสดงความยินดีไปเป็นการส่วนตัว

วันนี้ รตา ยุ่งมากจนไม่มีเวลาอ่านเมล์ที่เขาส่งมาให้ กว่าจะได้อ่านก็เป็นเวลาที่เขากลับไปที่พักแล้ว

สรุปคือวันนี้ เขาและเธอไม่ได้เจอกัน เพียงแต่ทำได้แค่ส่งเมล์หากันเท่านั้น..



" เดือนหน้า เราจะมีโปรเจคใหม่ ที่ทางเคเอสเป็นเจ้าของงาน และเราจะเป็นทีมซับพอร์ต

ที่คอยสนับสนุนเรื่องข้อมูลทางเทคนิคให้กับเขา จนกว่าดีลนี้จะสำเร็จ.."

รตา กล่าวในที่ประชุมเช้ากับทีมงาน " โปรเจคนี้สำคัญมาก เพราะลูกค้าตั้งวงเงินการันตีเอาไว้สูง

หากเกิดข้อผิดพลาด ทั้งทางเคเอส และทางเรานอกจากจะสูญเม็ดงินหลายล้านดอลล่าแล้ว

เราทั้งสองบริษัทจะเสียเครดิตในอุตสาหกรรมนี้ไปด้วย " รตา กล่าวเน้นย้ำ


" ฉันจึงต้องขอความร่วมมือจากพวกเราให้ร่วมกันพลักดันให้ โครงการนี้สำเร็จให้ได้

และผู้ใหญ่ก็ไว้ใจให้ทีมของเราเป็นหัวเรือในเรื่องนี้ "

มานพ แอบมองท่าทีที่แข็งขันของ รตา แล้วอดชื่นชมเล็กๆอยู่ในใจไม่ได้

แววตาที่มุ่งมั่นของเธอช่างดูน่าเกรงขาม ช่างผิดกับใบหน้าที่ดูอ่อนหวาน รูปร่างที่บอบบางของเธอยิ่งนัก..

เข้าตำรา ทั้งสวยทั้งเก่ง..



" เอาไงก็เอากันครับ หัวหน้า.. " มานพ ออกเสียงเชียร์เธอเชิงเย้าเล็กๆ  จนทุกคนในทีประชุมได้ยินกันหมด

รตา ซ่อนความเขินอายเอาไว้เต็มที่ แล้วกล่าวออกมาสั้นๆว่า " ขอบคุณนะคะ ที่ให้ความร่วมมือ "



" คุณคาร่า ส่งเอกสารพร้อมรายละเอียดของโครงการมาให้แล้วคะ่ พี่มานพ " รตา กล่าวกับ มานพ ในห้องทำงานของเธอ

" งานนี้ คาร่า ถึงกับลงมือเองแสดงว่าต้องสำคัญจริงๆ " เขาคิดในใจ

" อืม.. แล้วจะให้ผมช่วยอะไรก็บอกได้นะครับ หัวหน้า.." มานพพูดพร้อมอมยิ้ม

" อย่างแรก ก็ช่วยเลิกเรียก ตา ว่าหัวหน้าก่อนดีไหมคะ " เธอย้อนกลับ มานพ แบบเรียบๆ

" ตา ไม่ใช่หัวหน้าพี่มานพนะคะ และที่สำคัญ ตำแหน่งที่ปรึกษาพิเศษโครงการ ก็ไม่ใช่ลูกน้องของใครด้วยค่ะ "

" โอเคๆ ผมจะเลิกเรียกตาว่าหัวหน้า แต่ตา ก็ต้องเลิกเรียกชื่อตำแหน่งยืดยาวนี่ของผมเหมือนกัน ตกลงนะ " เขาเสนอ

" ตกลงค่ะ พบกันครึ่งทาง " เขาและเธอยิ้มกว้างให้กันอย่างจริงใจ..



ดูเหมือนว่าสถานะการณ์ความสัมพันธ์ของทั้งสองคน จะพัฒนาขึ้นตามลำดับ แต่ไม่มีใครรู้หรอกว่า

เมฆหมอกแห่งความไม่แน่นอน กำลังก่อตัวขึ้นอย่างช้าๆ 

ท่ามกลางความอบอวนของมิตรภาพ ที่กำลังเบ่งบาน...








Create Date : 13 กุมภาพันธ์ 2561
Last Update : 14 กุมภาพันธ์ 2561 0:14:35 น.
Counter : 712 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

นายสมมุติ
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 22 คน [?]