หากใครเคยได้ยินหรืออ่านข่าวเรื่องราวของคนที่ เสียชีวิตไปแล้วกลับ..ฟื้นขึ้นมาได้ เรื่องอย่างนี้สร้างความแปลกประหลาดใจ ให้แก่ญาติพี่น้อง มิตรสหาย หริอแม้แต่ วงการแพทย์
ที่ไม่สามรถอธิบายเหตุผลของ ปรากฏการณ์ นี้ได้เต็มปากเต็มคำนัก..
บางคนเชื่อว่าเป็นเรื่องของ โชคชะตา ประมาณว่า ชะตายังไม่ถึงฆาต หรือ ยังไม่ถึงเวลาตาย
เรื่องของการที่ คนตายแล้วฟื้น ไม่ใช่ประเด็นใหม่ในสังคมชาวพุทธอย่างเราๆท่านๆ
เพราะเราก็ต่างเคยได้ยินเรื่องราวเหล่านี้มาบ้างแล้วจากการบอกเล่า หรือ ในหนังสือแนว
ความเชื่อทางศาสนา หรือเรืองเร้นลับ ที่ดูเหมือนเป็น คำถาม ที่ยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจน
ว่าเรื่องอย่างนี้มีจริงหรือ หรือเพียงแค่การเสริมแต่งเรื่องราวให้ดู น่าตื่นเต้น โดยหวังผลเป็น
เรื่องของความ ศรัทธาในกฏแห่งกรรม เท่านั้น..
แถมยังมีบางกรณีที่สามารถอ้างอิงได้ว่า คนที่ตายแล้วฟื้น ได้บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับ
ชีวิตหลังความตาย อย่างละเอียดละออว่าตนได้ไปพบกับใคร สถานที่ไหน คำพูดและบรรยากาศ
ที่เหมือนกับตัวเขาได้ประสบพบพามาจริงๆ ไม่ใช่เรื่องที่มโนภาพเอาเองหรือฝันร้ายไปชั่วขณะ
เช่น การได้ไปพบกับ ญาติพี่น้องหรือคนรู้จักที่เสียชีวิต ไปก่อนหน้านี้นานแล้วหรือเพียงไม่นานนัก
หรือการอ้างอิงถึงชื่อ บุคคล สถานที่ที่ไม่เคยรู้จัก และไม่เคยไปในชีวิต ได้ถูกต้องแม่นยำราว
กับเคยได้ไปเหยียบสถานที่นั้นมาแล้วอย่างโชกโชน..
แถมยังมี คำฝาก จากคนที่ตายไปแล้วว่าให้คนที่ยังมีชีวิตอยู่ อย่าได้ประมาทให้รีบสร้างความดี
สร้าง บุญกุศล ให้มากๆเพื่อจะได้ไม่ เสียใจและทุกข์ทรมาน หลังจากได้ตายมาแล้ว..
นี่คือ ปริศนา ของ ชีวิตหลังความตายใช่หรือไม่..?
คนที่ไม่เชื่อ ต่างก็มีเหตุผลไปตามความเชื่อของตน ซึ่งถามว่า ผิด หรือไม่ ก็ต้องตอบว่า
ไม่ผิด แน่นอน เพราะทุกต่างก็มี สิทธิ์ ที่จะ เชื่อหรือไม่เชื่อ อะไรตาม กำลังใจ ของตนเอง
ไม่สามารถไปบังคับใจของใครให้ เชื่อหรือศรัทธา อะไรๆได้
ส่วนคนที่เชื่อ เพราะว่ามี จริต มาในแนว ศรัทธา อยู่แล้วก็คงเร่งขวนขวายสร้าง บุญความดี
ไว้เป็น เสบียง เอาไว้ช่วยชีวิตตนในยามลาโลก เลิกสร้างกรรมชั่ว เลิกเบียดเบียนตนเอง
และผู้อื่นเสียทีก็นับว่า ไม่ประมาทในชีวิต ที่เหลืออยู่
คนที่ตายแล้วฟื้น โลกหลังความตาย ภพชาติใหม่ อำนาจของกรรม คงเป็นเรื่องที่เกินคาดเดา
สำหรับผู้ที่ยังสงสัย ว่าสิ่งเหล่านี้มีจริงหรือไม่ หรือเพียงแค่เรื่องเล่าที่คอยเรียก ศรัทธาของคน
เพื่อการดำรงอยู่ของศาสนา เพื่อการเป็นอยู่ที่ สงบสุข ไม่เบียดเบียนกันเท่านั้น..
ไม่มีใครตอบแทนใครได้หรอก หากจะต้องลงมือ เรียนรู้ และ พิสูจน์ ด้วยตนเองทั้งสิ้น
หรือมีอยู่สองทางเลือกคือ หนึ่ง รอให้ญาติพี่น้องที่ตายไปแล้วกลับมาบอกเล่า..
หรือ สอง เราคงต้อง ลองตาย ไปเสียก่อน จึงจะตอบได้ว่าเรื่องนี้ จริงหรือหลอก กันแน่..
แต่ใครจะกล้าเสี่ยง จริงใหม..?
ผู้ติดตามบล็อก : 22 คน [