ปีเก่าผ่านเลยไป ปีใหม่ผ่านเข้ามา
คงไม่สายเกินไปที่จะกล่าวสวัสดีปีใหม่กันอีกสักครั้งหนึ่ง
ก็ขอให้ความสุขสวัสดีและความเจริญในธรรม จงปรากฏแก่ทุกท่านที่มีใจ ตื่นรู้ และเบิกบาน
ต่อพระสัทธรรมความเป็นจริงของชีวิต ไม่ว่าท่านจะเป็นผู้ที่นับถือศาสนา ลัทธิความเชื่อใดๆก็ตาม
เราต่างก็ล้วนเป็น เพื่อนกรรม ต่อกัน เป็นสหายธรรมด้วยกันทั้งสิ้น..
เพราะเราก็ต่างโดน โลกธรรม ทั้งบวกและลบ กระทบกระแทกจิตใจ
โดนเขาเขย่า โขยก ทุบตี หลอกล่อ เล่นงานให้ฟูฟ่อง ฝ่อแฝบไปตามๆกัน
เหมือนกันทุกๆคน ไม่มีเว้น..
หากชีวิตในปีที่ผ่านมานั้น เปรียบได้กับเสมือน น้ำในแก้วๆหนึ่ง
แก้วน้ำใบนี้ ก็จะมีหน้าที่รองรับเรื่องดีๆ และเรื่องร้ายๆทั้งหลายที่ผ่านเข้ามาในชีวิต
ใน ๓๖๕ วันที่ผ่านมา
ในวันที่ชีวิตมีความสุข ก็เหมือนกับว่าเรา ได้เติม น้ำหวาน หรือเครื่องดื่มรสละมุนลิ้น
มีสีสันสดใสลงไปในแก้ว
แต่เมื่อวันที่เรื่องราวเลวร้าย น่าปวดหัวผ่านเข้ามา ก็เหมือนกับว่าเราได้เติม ยาขม สีดำคล้ำ
เหมือนกับน้ำท่วมขังรอการระบายลงไปแทน
หากวันไหนเรามีชีวิตที่ราบเรียบ สงบสงัดไม่กวัดแกว่งฟุ้งซ่าน ก็เท่ากับว่าเราได้เติม น้ำเปล่า
ใสๆ รสชาติธรรมดาๆ ลงไปในแก้วน้ัน..
เป็นอย่างนี้ทุกวันๆ จนกระทั้งวันสุดท้ายของปี..
ทีนี้เราก็ลองหยิบแก้วที่เต็มไปด้วยน้ำแก้วนั้นขึ้นมาดูสีสัน
เชื่อว่า แก้วน้ำ ของคนธรรมดาๆอย่างเราๆท่านๆ สีสันของมันก็คงจะไม่แตกต่างกันเท่าไหร่..
นั่นคือ ดูไม่จืด เพราะไม่รู้ว่ามันสีอะไรกันแน่ มั่วไปหมด
คนที่มีความสุขมาก เจอเรื่องดีๆเยอะหน่อย สีก็จะออกแนว หวานๆ พอดูได้
ส่วนคนที่เจอแต่เรื่องวุ่นวายใจ โศกเศร้ามันทั้งปียิ่งกว่าละครหลังข่าว สีสันของมันก็คงไม่พ้น
ดำปิ๊ดปี๋ เห็นแล้วแทบอยากจะโยนทิ้งในโถส้วมเพื่อนบ้าน
แต่สำหรับคนที่เขา รู้จักทำจิตทำใจให้ สงบรำงับไม่กวัดแกว่ง กับเรื่องดีร้ายทั้งหลาย
น้ำในแก้วของเขาก็คงดูเป็น น้ำเปล่าธรรมดา แก้วหนึ่ง ที่ไร้สีสันไม่น่าดึงดูดใจ
และสุดท้ายที่เราต้องทำก็คือ ยกแก้วน้ำแห่งปีของเราขึ้นมา ดื่ม
ดื่มมันลงไป สัมผัสรสชาติของมันให้ลึกซึ้ง ค่อยๆละเลียดผ่านลำคอ
จะชอบหรือไม่ชอบ เราก็ต้องดื่มมันลงไป..
เพราะนั่นคือ น้ำในแก้ว ของเราเอง เราเป็นผู้รินเทน้ำสีต่างๆลงไปเอง..
คนที่ชอบรสหวานหอมของมัน สุดท้ายก็จะกลายเป็นพวก ติดสุข ยึดมั่นในสุขเวทนา
ส่วนคนที่เจอแก้วน้ำแห่งความขมขื่น ก็จะกลายเป็นคน เกลียดและขยาดในความทุกข์
แต่ก็จะขยาดกลัวแค่ชั่วครั้งชั่วคราว พอลืมๆก็จะเติม น้ำดำรสขม ลงไปอีก
และสำหรับคนที่ชอบรสชาติอันจืดสนิทของน้ำเปล่าๆ เขาก็เห็นเป็นมันเป็นแค่ น้ำแก้วหนึ่ง เท่านั่น..
ชีวิตของเรา ชีวิตของใครๆ ก็ไม่แตกต่างกัน
ส่วนใหญ่ก็ รักสุขเกลียดทุกข์ ด้วยกันทั้งนั้น..
ต่างดิ้นรนค้นหาความสุข หลีกหนีความทุกข์ เหมือนๆกัน
โดยไม่รู้ว่า สุขและทุกข์ทั้งหลาย จะมีผลต่อชีวิตเรามากหรือน้อยนั้น
กลับขึ้นอยู่ที่ เราวางใจ ต่อความสุขและความทุกข์ต่างๆได้แค่ไหน
แกว่งมากก็ทุกข์มาก แกว่งน้อยหน่อยก็ทุกข์น้อยหน่อย
วันเดือนผ่านไป ปีเก่า ปีก่อนก็ผ่านไป
จะปีไหนๆ เวลา ก็เป็นเพียงสิ่งที่ ผู้รู้ เขาเรียกว่า สิ่งสมมุติเท่านั้น ไม่เคยมีจริงไม่เคยมีอยู่จริง
แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปก็คือ ความโง่เขลา ของเราเอง
เรายังยินดีที่จะมาเกิดเพื่อ ดื่มกินน้ำในแก้วของเรา ทุกปีๆ ไม่รู้เบื่อ..
ในปีที่ผ่านมาไม่ว่า น้ำในแก้วใบเก่าของเราจะมี สีสันรสชาติหวานขมเช่นไร
ก็ขอบอกว่า ปล่อยมันไป อย่าได้ไปอาลัยอาวรณ์กับมันเลย
ตั้งสติเรียกความรู้สึกตัวของเรากลับมา เพื่อเตรียมตัว รินน้ำลงในแก้ว ของปีนี้ให้ดี
จะเอาแบบหวานๆ ขมๆ จืดๆ ก็เลือกเอาตามสบาย
หากเข้าใจแล้วว่า ไม่มีใครจะมาขีดเส้นชีวิตให้เราได้
ไม่มีใครจะมาครอบงำ ความสุขหรือทุกข์ ให้กับเราได้ นอกจากตัวเราเอง..
แต่หากยังไม่เบื่อที่จะดื่มกิน รสชาติของโลกธรรม ในแก้วใบใหม่ๆไปเรื่อยๆ
ก็ขอเซิญยกแก้วขึ้นพร้อมๆกัน
เอ้า..ดื่มแก้วต่อไป..
ขอขอบคุณเจ้าของรูปสวยๆทุกรูปครับ