สิงหาคม 2560

 
 
1
3
4
5
6
7
8
9
10
11
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
28
29
30
31
 
 
All Blog
หยิบข่าวเล่าธรรม ตอน แม่ไม่อยู่แล้วนะ..




เนื่องในโอกาส วันแม่ ได้มาเยือนอีกครั้งในปีนี้

ผู้เขียนได้มีกำลังใจที่จะเขียนบทความเกี่ยวกับ 

ผู้หญิงธรรมดาๆคนหนึ่งที่ชื่อว่า แม่ กันอีกสักครั้ง


แต่ครั้งนี้ไม่ได้เขียนถึงแม่ของผู้เขียนเองหรอกครับ แต่เป็น คุณแม่ของบุคคลอีกท่านหนึ่ง

ซึ่งตอนนี้เวลานี้คุณแม่ท่านนั้น ก็ไม่ได้มีชีวิตอยู่บนโลกนี้อีกแล้ว..


หากย้อนไปเมื่อประมาณสามสิบกว่าปีก่อน

ข่าวพระเอกหนุ่มที่กำลังโด่งดังสุดขีด ต้องโชคร้ายประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์

ขณะถ่ายทำภาพยนต์ที่จังหวัดเชียงใหม่

จนต้องกลายเป็น เจ้าชายนิทรา ขณะที่มีอายุเพียงยี่สิบห้าปีเท่านั้น..


ข่าวนี้ได้สร้างความตกตะลึงให้กับแฟนๆภาพยนต์ของดาราหน่มอย่างมาก

และแน่นอน คนที่ช๊อคและเจ็บปวดกับเหตุการณ์นี้ที่สุดคงหนีไม่พ้น 

คนในครอบครัวและคุณแม่ของเขานั้นเอง

ขออนุญาตเอ่ยนาม คุณแม่อำไพ ยอดบุตร ผู้เป็นทุกสิ่งทุกอย่าง 

ของพระเอกหนุ่ม อโนเชาว์ ยอดบุตร นั่นเอง..



ระหว่างการรักษาตัวของพระเอกหนุ่ม หมอผู้ให้การรักษา ได้แจ้งอาการของผู้ป่วย

ให้ญาติและคุณแม่อำไพ ทราบว่า 

มีโอกาสน้อยมากทีดาราหนุ่มจะฟื้นกลับมา และจะสามารถใช้ชีวิตได้เหมือนเดิมอีกครั้ง

และให้ทำใจยอมรับภาระค่าใช้จ่ายที่สูงมากที่จะตามมาในอนาคต

และแนะนำให้ถอดสายอ๊อกซิเจนออก เพื่อลดความทรมานของผู้ป่วยเนื่องจากประเมินแล้วว่า

ดาราหนุ่มนั้นอาการหนักหนาสาหัสเกินไป

โดยที่ขณะนั้น อ๊อกซิเจน อาจเป็นเพียงสิ่งเดียวที่ยังพยุงสัญญาณชีวิตของอโนเชาว์

ไม่ให้จากโลกนี้ไปตามความหมายทางการแพทย์..



คุณแม่อำไพปฏิเสธคำแนะนำของคุณหมอ

ด้วยความหวังที่เชื่อว่า ลูกของเธอจะต้องกลับมา 

ลูกฉันจะต้องหาย และกลับมาอยู่ด้วยกันเหมือนเดิม

แม้จะต้องใช้เวลาและเงินทองสักเท่าไหร่ " ฉันก็จะรอ "


" ปาฎิหาริย์ จะต้องมีจริง "


หลังจากนั้น คงไม่ต้องเล่าบรรยายอะไรให้มากมาย

ภาพของหญิงชราผู้เป็นแม่ ที่เฝ้าประคองกอด ป้อนข้าวป้อนน้ำ เช็ดเนื้อเช็ดตัวดาราหนุ่ม

ที่คนภายนอกเรียกว่า นอนเหมือนผัก ไม่สามารถรับรู้เรื่องราวภายนอกใดๆได้อีก

ก็ไม่เคยห่างหายไปจากข้างกายลูกชาย เป็นภาพที่คนในครอบครัวและเพื่อนบ้านเห็นจนชาชิน..


ความเป็น แม่หัวใจเพชร ของเธอถูกโจทย์จันเล่าขานกันจากปากสู่ปาก

จากวันเป็นเดือน จากเดือนเป็นปี

ที่เธอเสียสละทุ่มเททำหน้าที่นี้ โดยมี ลูกๆที่เหลืออยู่คอยสนับสนุนแรงกายแรงใจแรงทรัพย์

หวังเพียงให้เห็น ความฝันของแม่อำไพ จะต้องเป็นจริงในสักวัน..


รางวัลแม่ดีเด่นแห่งชาติ ประจำปี พ.ศ. ๒๕๔๕

อาจจะการันตีความ ยอดเยี่ยม ในฐานะของความเป็นแม่ของลูกคนหนึ่งได้ดี

แต่หาได้เป็นที่สุดของความสุขในชีวิตแม่อำไพไม่

คำขอบคุณที่โลกยังเห็นความดีของเธอ แต่หากแลกได้เธอขอไม่เอารางวัลแห่งความดีใดๆ

ขอเพียงให้ลูกชายของเธอได้ตื่นลืมตามาเห็น ภาพใบหน้าเธอเป็นคนแรกสักครั้งก่อนตาย..

ก็พอแล้ว..  ดีใจแล้ว..



ครับคุณแม่ท่านนี้ ได้ทำหน้าที่ของท่านอย่างสมเกียรติ.. 

สมกับที่โลกและธรรมชาติได้มอบหมายหน้าที่และภาระกิจที่ยิ่งใหญ่ที่สุด

ของผู้หญิงคนหนึ่งจะทำได้ อย่างสมบูรณ์ที่สุด อย่างน่ายกย่อง จนวาระสุดท้ายของเธอ..



" อย่าทิ้งน้องนะ " 

คำสั่งเสียสุดท้าย ที่แม่อำไพ ฝากฝังอย่างหนักแน่นกับลูกๆที่เหลือของเธอ..

ซึ่งพี่ๆทุกคนของ อโนเชาว์ ก็ร่วมกันสือทอดเจตนารมณ์ของคุณแม่ต่ออย่างเข้มแข็ง



คุณแม่จากไปอย่างสงบด้วยโรคมะเร็งในปอด 

ที่เธอต่อสู้กับความเจ็บปวดทรมานมาหลายเดือน ในวัยแปดสิบแปดปี

ลูกๆไม่ยอมบอกว่าเธอป่วยเป็นอะไร เพราะกลัวว่าเธอจะเป็นทุกข์หนักกว่าเดิม 

ที่จะไม่ได้อยู่ทำหน้าที่ ที่เธอเสียสละอดทนทำมากว่า ยี่สิบห้าปี..



ครับ เรื่องราวของคุณแม่อำไพ ยอดบุตร ท่านก็ได้ทิ้ง สาระ เอาไว้บนโลกใบนี้ได้จดจำ

น้ำใจของแม่ ไม่เคยเหือดแห้งไปจากหัวใจของท่าน 

หากปาฏิหารย์มีจริง  อโนเชาว์ ได้ตื่นขึ้นมา ได้รับรู้เรื่องราวที่คุณแม่ ปฏิบัติต่อเขามาหลายสิบปี

คำว่า ทดแทนบุญคุณ คงไม่เพียงพอที่จะรองรับ น้ำใจที่ยิ่งใหญ่จากแม่ของเขาได้เลย..


และถึงแม้ความฝันของคุณแม่อำไพ จะไม่เคยเกิดขึ้นจริง

เพราะทุกสิ่งทุกอย่างย่อมมาจากเหตุปัจจัยที่เราไม่สามารถควบคุมได้

แต่ในวันที่คุณแม่ของอโนเชาว์ได้จากไปแล้วนั้น

คำที่พี่ๆได้กระซิบข้างหูของเขานั้นคือ " แม่ไม่อยู่แล้วนะ "

" แต่ไม่เป็นไร จากนี้พี่จะทำหน้าที่แทนแม่เอง.. "


ผู้เขียนขอชื่นชมในความเสียสละของครอบครัว ยอดบุตร

ที่เป็นแบบอย่างที่ดีในสังคม เป็นแบบอย่างที่น่ายกย่อง

สมกับที่ คุณแม่อำไพ ท่านได้ปลูกฝังคุณธรรมความดีเอาไว้ให้



วันแม่ปีนี้ หากใครยังมีคุณแม่อยู่ ก็อย่าลืม โทรศัพท์ ส่งสียง ส่งรูป ไปบอกรักหาท่านบ้าง

เทคโนโลยีสมัยนี้พยายามที่จะทำให้เรา สื่อสารกันง่ายขึ้น ใกล้ชิดกันง่ายขึ้น

แต่ ใจ ของเราต่างหาก ที่กลับกลายเป็นอุปสรรคของกันและกัน ไปสร้าง ความเหินห่าง แทน



ในวันที่ชีวิตเรายังรุ่งโรจน์ เรายังพูด เรายังสื่อสารด้วยกายสัมผัสกันได้

อย่าได่ปล่อยเวลานาทีทองนี้ให้หายไป พร้อมกับ สังขารที่ร่วงโรยของแม่

หากคุณรู้ว่า คนที่เขาไม่มีโอกาสที่จะพูดบอกรักใครได้ เขารู้สึกอย่างไรที่พูดไม่ได้

เชื่อว่า คุณจะไม่ยอมเสียเวลาแม้แต่นาทีเดียวเพื่อ บอกรักแม่ แน่นนอน..

สุขสันต์วันแม่ทุกท่านนะครับ..





ผู้เขียนขออภัยที่ต้องเอ่ยนามผู้เกี่ยวข้องในบทความ 
เพียงเพื่อเป็นการสรรเสริญคุณงามความดีของแม่เท่านั้น
หากข้อความใดๆผิดเพี้ยนจากความเป็นจริง และได้ไปล่วงละเมิดสิทธิ์ของผู้ใด
ผู้เขียนต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ
ขอขอบคุณเจ้าของรูปทุกรูปครับ





Create Date : 12 สิงหาคม 2560
Last Update : 12 สิงหาคม 2560 16:39:09 น.
Counter : 1515 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

นายสมมุติ
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 22 คน [?]