Group Blog All Blog
|
ข่าวร้ายที่รอคอย ตอน ร้องไห้บนแจกัน..4 ลับ..ลวง..พราง.. " ขอเก็บตัวอย่าง AP-SN11 ส่งแล็ปอีกครั้งนะจิ๋ว ขอด่วนเลย.. " รตา ยกหูโทรศัพท์แจ้งลูกทีมของเธอ " ทำไมมันถึงออฟสเปคได้นะ.. ลูกค้ายิ่งเร่งอยู่ด้วย.." รตา คิดพลางมองดูผลค่าผลตัวอย่างทีแสดงในมอนิเตอร์ส่วนตัว " กีอกๆ " เสียงเคาะประตูทำทำงานดังขึ้นเบาๆ " เชิญค่ะ " รตา ส่งเสียงบอกคนเคะประตู " มีอะไรน่าเป็นห่วงหรือเปล่าครับ..? เห็นจ้องคอมตาไม่กระพริบ.." เสียงชายหนุ่มถามขึ้น " พี่มานพ.. ตากำลังตรวจสอบผลตัวอย่าง ที่เราทำไพลอตแพลนท์ ตาว่ามันไม่ปรกติ.. " " ไหนขอดูหน่อยนะครับ.." มานพ ยื่นใบหน้าเข้ามาใกล้จอคอมพิวเตอร์ของรตา สายตาของมานพ เพ่งดูผลแล็ป มือพลางเลื่อนเม้าท์ขยับหน้าจอย้อนไปมาหลายครั้ง ด้ายท่าทีจริงจังของเขา ทำให้หญิงสาวแอบลอบมองใบหน้าอันเขร่งขรึมของเขาอย่างไม่รู้ตัว.. " ไม่ใช่แล้ว..!!" มานพ โพล่งออกมา รตา สะดุ้งเล็กน้อย ดึงสติกลับมาอยู่ที่หน้าจอคอมพิวเตอร์อีกครั้ง " ถ้าลูกค้ากำหนดสเปคแบบนี้ เราไม่มีทางทำได้แน่.." มานพ พูดต่อ " จริงเหรอคะ่ พี่นพ แต่สเปคตัวอย่างในลิสทั้งหมดทางเคเอสเป็นคนกำหนดมาให้เรานี่คะ " รตาตอบกลับ " จริงเหรอ..? ไม่น่าเป็นไปได้.." มานพ พูดพลางเอามือลูบคางตัวเอง " เคเอสไม่น่าจะผิดพลาดขนาดนี้นะ แล้ว..แล้วเราเหลือเวลาอีกเท่าไหร่..ก่อนส่งแพลตฟอร์มให้ลูกค้า " " อีกหนึ่งเดือนคะ " รตา ตอบ " หนึ่งเดือน.. เฉียดฉิวมากเลยนะ หากเราต้องรีวิว สเปคของตัวอย่างทั้งหมด.. " มานพ แสดงอาการหนักใจ.. " เดี๋ยวผมจะเมล์ไปคุยกับทางเคเอสเอง ว่าทำไม่เขาถึงกำหนดสเปคของไพล๊อตแพลนด์เอาไว้อย่างนี้.." มานพ กล่าว พร้อมทำท่าจะเดินออกจากห้องทำงานของรตาไป.. " ไม่เป็นไรคะพี่นพ " รตา ท้วงขึ้นพร้อมเผลอเอามือของเธอไปคว้ามือของมานพไว้โดยไม่ตั้งใจ มานพ หันกลับมาพร้อมมองที่มือทั้งคู่สัมผัสกัน รตา รีบชักมือกลับทำท่าเขินอาย มานพ ยิ้มน้อยๆพร้อมพูดเย้าว่า " จับนานๆก็ได้ครับ.. ผมไม่หวงหรอก " เขาพูดพลางยิ้มพลาง รตา แก้เขินด้วยการพูดเลื่ยงไปว่า " เอ้อ.. เดี๋ยวตาจะติดต่อกับทางเคเอสเองค่ะ.. " เธอพูดโดยไม่ยอมสบตาเขา " โอเคครับ แต่ถ้ามีอะไรเร่งด่วน บอกผมได้ทันทีเลยนะไม่ต้องเกรงใจ " เขาตอบสายตาเป็นมิตร " ขอบคุณค่ะพี่นพ " เธอรับคำ.. มานพเดินออกจากห้องทำงานของรตาไปแล้ว แต่ตัวเธอเองกลับนั่งถอนหายใจยาว ที่ดันเผลอตัวเผลอใจสติหลุดลอยไปหลายครั้งเมื่ออยู่ใกล้ๆกับชายหนุ่ม.. เรียนคุณรตา ดิฉันได้อ่านเมล์ของคุณแล้ว ทางเคเอสขอยืนยันว่า สเปคของตัวอย่างไพล๊อตแพลนด์ทั้งหมดนั้นถูกต้องตามที่เราได้ยืนยันกับทางลูกค้าไปแล้ว และต้องขออภัยที่เราไม่สามารถจะเปลี่ยนแปลงข้อกำหนดใดๆได้ ด้วยความเคารพ คาร่า ปาร์ค รตา หน้าแดงกร่ำ เมื่ออ่านเมล์จากเคเอสจบ " นี่มันแกล้งกันชัดๆ " เธอคิดในใจ กำมือแน่นจนเหงื่อชุ่มมือ " นี่เขาจงใจ หลอกให้เราเข้าไปเป็นพาร์ตเนอร์ โดยใช้โปรเจคนี้เพื่อจะดีสเครดิตของพีดีที.." เธอคิดต่อ " แต่..เขาทำอย่างนี้ไปเพื่ออะไรกัน..? " เธอครุ่นคิด " แล้วเราจะทำยังไงต่อไปดี.. ? " รตา อ่านแล็ปรีพอร์ต แล้วถอนหายใจยาวเมื่อผลตัวอย่างตัวสำคัญยังเหมือนเดิม เงื่อนไข..ที่ยากเกินจะทำใจ " โปรเจคนีโอพลาสติกที่สิงคโปร์ ที่ทางเคเอสเป็นแม่งานด้านคอนทรัคชั่น แล้วให้ทางพีดีทีเป็นพาร์ตเนอร์รับผิดชอบในการทำไพล็อตแพลนต์ มีปัญหาเรื่องของสเปคโปรดักส์บางตัว ทำให้หากเราทำไพล็อตแพลนต์ ตามที่เคเอสส่งมาแล้วให้ลูกค้าสตาร์ทอัพโรงงานแล้ว ผลที่จะเกิดขึ้นก็คือ รีแอคเตอร์ ของลูกค้าจะเสียหายก่อนจะถึงเทรินอะราวด์รอบแรกด้วยซ้ำ.. " " และเราจะไม่ยอมให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นกับลูกค้าอย่างเด็ดขาด " รตา กล่าวในที่ประชุมกับทีมงานอย่างเคร่งเครียด " เราได้ทำการทักท้วงไปทางเคเอสหลายครั้ง แต่ผลก็คือทางเคเอสยืนยันจะให้เราทำตามข้อกำหนดให้ได้ " " ถ้าเราฝืนทำไป สุดท้ายคนที่เสียหายตัวจริงไม่ใช่แค่ลูกค้า แต่จะเป็น.. พีดีที " มานพ กล่าวเสริม " และดิฉันก็ได้แจ้งไปทางผู้ใหญ่ทราบเรียบร้อยแล้ว.." รตา กล่าวต่อ " ตื๊ด..ตื๊ดๆๆ " เสียงโทรศัพท์มือถือของรตาดังขึ้น " ขอเวลาสักครู่นะคะ " รตาเดินออกจากนอกห้องประชุม เบอร์โทรศัพท์ทืไม่คุ้นตา เธอตัดสินใจกดปุ่มรับสาย " ฮัลโหล สวัสดีค่ะ " " สวัสดีค่ะ คุณรตา.. " เสียงปลายสายดังขึ้น " เสียงที่คุ้นหูทำให้รตาจำเจ้าของเสียงได้อย่างแม่นยำ " คุณคาร่า.. " เธอพูดตอบ " คุณมีเบอร์ของฉันได้อย่างไรคะ..? " เธอถามคาร่า " เรื่องนั้นเอาไว้ที่หลังเถอะค่ะ .. ดิฉันจะโทรมาเจรจากับคุณเรื่อง นีโอพลาสติกสิงคโปร์ " " ดิฉันเพิ่งกลับจากไซท์ของลูกค้า เลยมาแวะที่ประเทศไทย พอจะว่างมาพบดิฉันเป็นการส่วนตัวที่โรงแรมฮอลิเดย์ไหมคะ..? " " เมื่อไหร่ค่ะ..? " รตา ถามกลับ " วันนี้ หกโมงเย็น.." ปลายสายตอบกลับ " โอเคคะ ฉันจะไป " " แล้วเจอกันนะคะ.. " คาร่า ตอบกลับพร้อมวางสาย รตา เดินกลับเข้าไปที่ห้องประชุม โดยไม่ได้เอ่ยเรื่องที่พูดคุยกับ คาร่า กับใคร.. " มีอะไรหรือเปล่าครับ สีหน้าไม่ดีเลย..? มานพ ถาม รตา แสดงอาการเป็นห่วงขณะทั้งคู่เดินออกจากห้องประชุม " พีมานพ.." " พูดมาเถอะครับ ผมอยากช่วยคุณ " ชายหนุ่มเสนอ " คุณคาร่า โทรมานัดให้ตาไปพบเย็นนี้ค่ะ.. " " คาร่า เหรอ..? แล้วตาจะไปพบเขาหรือเปล่า..? มานพถามต่อ " คุณคาร่า บอกว่าจะขอเจรจาเรื่อง นีโอพลาสติกแพลนต์ค่ะ " รตาตอบ " งั้นผมจะไปด้วย.." มานพ พูดขึ้น " แต่..คุณคาร่าอยากพูดกับตาเป็นการส่วนตัว.." " ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวเรื่องนี้ผมจัดการเอง อยากรู้เหมือนกันว่า คาร่าต้องการอะไรกันแน่..?" มานพ กล่าวอย่างแข็งขัน เพราะเห็นความกังวลเล็กๆในแววตาของเธอ จน รตา รู้สึกอุ่นใจขึ้นมาอย่างประหลาด " ขอบคุณนะคะ พี่นพ " รตา ยิ้มพร้อมกล่าวขอบคุณชายหนุ่ม.. ที่ล๊อบบี้โรงแรม ฮอลิเดย์ สิบแปดนาฬิกา.. ชายหนุ่มและหญิงสาวเดินเข้ามาในบริเวณห้องโถงขนาดใหญ่ สายตาทั้งคู่สอดส่ายหาร่างของหญิงสาวที่นัดเอาไว้ หญิงสาวในชุดทะมัดทะแมงนั่งอยู่บนโซฟาหรูหราที่มุมด้านในของห้องโถง " คาร่า.." มานพ ร้องทักขึ้น หญิงสาวหันมามอง พร้อมส่งยิ้มทักทาย " มาร์ค คุณรตา.. " หญิงสาวร้องทักตอบ และลุกขึ้นเดินตรงเข้ามากอดทักทายกับ มานพ " คาร่า คิดเอาไว้ไม่ผิดว่าคุณจะต้องมาด้วย.. " สาวสวยพูดพร้อมจ้องไปที่ใบหน้าของ มานพ " เชิญนั่งสิคะ คุณรตา " คาร่าออกตัวเชื้อเชิญ " เอาละ ตกลงเคเอสต้องการอะไรกันแน่คะ " รตา เปิดฉากยิงคำถามคู่สนทนาทันที " ใจเย็นๆสิคะคุณรตา จะไม่สั่งอะไรมาทานแก้หิวก่อนเหรอคะ.. " คาร่า พูดพร้อมยิ้มเล็กๆที่มุมปาก " ไม่ค่ะ ดิฉันยังไม่หิว ขอบคุณ " รตา ตอบสั้นๆ คาร่า ถอนหายใจเบาๆก่อนเอ่ยว่า " ก็ไม่มีอะไรมากหรอกค่ะ ก็แค่ทางเราอยากให้ทางพีดีที เดินหน้าโครงการนี้ให้จบ.." คาร่า พูดน้ำเสียงราบเรียบ แต่แฝงความเด็ดขาดเป็นนัย.. " ทั้งๆที่รู้ว่าหากทำไปแล้ว ลูกค้าจะเสียหายนี่เหรอคะ..?" รตา ถามกลับทันควัน " ช่วยไม่ได้นะคะ.. โรงงานของลูกค้าสร้างเกือบจะเสร็จอยู่แล้ว คงอีกไม่เกินสามเดือนก็จะเริ่มสตาร์ตอัพได้แล้ว " " หากทางพีดีที ไม่ยอมส่งผลการันตีโปรดักส์ให้ลูกค้าคงมีปัญหาแน่.." คาร่า พูดเชิงขู่เล็กๆ รตา รู้สึกร้อนวูบวาบบนใบหน้าของเธอ เมื่อโดนคำตอบที่กดดัน " เดี๋ยว คาร่า หากเคเอสทำแบบนี้ เราพังทั้งคู่แน่.. ลูกค้าอาจจะรันแพลนต์ได้ก็จริง แต่ปัญหาใหญ่จะเกิดขึ้นแน่ คุณก็รู้ไม่ใช่หรือ.." มานพ พูดแทรกเมื่อเห็นว่า รตา อยู่ในสภาวะเพลี่ยงพล้ำ " นั่นเป็นเรื่องของลูกค้า กับ พีดีที ไม่ใข่กับ เคเอส.." คาร่า พูดที้งท้ายพร้อมจิบน้ำในแก้ว " ฉันไม่คิดเลยว่า บริษัทใหญ่อย่างเคเอส จะไร้ธรรมาภิบาล โยนภาระให้ลูกค้าและพาร์ตเนอรฺ์ " รตา หลุดคำพูดออกไปอย่างสุดยับยั้ง " ใจเย็นๆสิคะคุณรตา ดิฉันแค่อยากจะบอกว่า ทุกอย่างย่อมมีทางออกเสมอ " คาร่า พูดอย่างมีชั้นเชิง " หากทางเคเอสแจ้งไปทางลูกค้าว่า แผนสตาร์ตอัพแพลนต์อาจจะดีเลย์ไปสักเล็กน้อยเพราะมีปัญหาทางเทคนิค" " เต็มที่เคเอสอาจจะเสียเครดิตบ้าง แต่ทางพีดีทีจะไม่ได้รับผลกระทบอะไรเลย เพียงแต่..." คาร่า พูดทิ้งท้ายไว้แค่นั้น " เพียงแต่อะไรคะ..? รตา ถามกลับ " เพียงแต่.. ทาง พีดีที ต้องยอมปล่อยให้ มาร์ค มาร่วมทำงานกับเคเอสสามปี..." รตา กับ มานพ แทบไม่เชื่อหูตัวเองที่ได้ยินข้อเสนอของ คาร่า ทั้งคู่หันมามองหน้ากันโดยไม่ได้นัดหมาย " พี่มานพ มาเกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องนี้คะ..? " รตา ถามกลับเพราะความอยากรู้ " คุณก็รู้ว่า มาร์ค เคยร่วมงานกับเคเอสมาแล้ว และเรากำลังต้องการเขาอย่างเร่งด่วน " คาร่า กล่าวแบบเปิดเผยไมมีกั๊ก เมื่อมานพได้ฟังจบเขาก็ลุกพรวดขึ้น " ทำไมถึงทำอย่างนี้ คาร่า..? " " คุณก็รู้จักผมดีไม่ใช่เหรอ..? " เขาพูดต่อ " ก็เพราะรู้จักดียังไงล่ะคะ ถึงต้องทำแบบนี้.. " คาร่าตอบ มานพ กลั้นความรู้สึกโมโห แล้วคว้ามือของรตาขึ้นมา " กลับกันเถอะตา.." เขาพูด " จะกลับก็ได้ค่ะ แต่โปรเจ็คใหญ่งานแรกของคุณรตา มันก็คงจะพังไม่เป็นท่าแน่ " คาร่า กล่าวทัก มานพ ได้ยินแล้วก็หยุดชะงัก ในหัวของเขามองเห็นภาพในอนาคตที่ไม่สดใสของ รตา ขึ้นมาจางๆ ทันที " อย่ายอมนะคะพี่นพ ตาจะรับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้นเอง.." รตา พูดเชิงร้องขอ " ทำไมคุณถึงเอาพี่มานพมาต่อรอง เขาไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้.. " รตา ตาแดงกลั้นใจถามกลับ มานพ ยืนก้มหน้านิ่ง.. " โอเค..คาร่า ถ้าคุณต้องการตัวผม ผมก็จะไป " มานพ หันมาพูดกับ คาร่า " ไม่นะคะพี่นพ.." รตา พูดขอร้องชายหนุ่ม " ไม่เป็นไรตา เขาแค่ต้องการตัวผม และผมไม่อยากให้คุณต้องเสียหาย.." ชายหนุ่มพูดพร้อมกุมมือของหญิงสาว " แต่.. " รตา พยายามพูดต่อ " คาร่า ผมตกลง แต่ต้องให้โปรเจ็คนีโอพลาสติกจบลงก่อน.." " ได้ค่ะ มาร์ค เคเอสรอคุณได้เสมอ.." คาร่า พูดพร้อมยิ้มน้อยๆที่มุมปาก " เรากลับได้หรือยัง..? " มานพ ถามกลับ คาร่า " เซิญคะ หมดเรื่องแล้ว.." คาร่า ยิ้ม " อ้อ..ผมลืมบอกไปอย่างหนึ่งนะคาร่า เวลาสามปีที่เคเอส มันจะจบลงพร้อมความสัมพันธ์ของเรา.." มานพ กล่าวทิ้งท้ายให้ คาร่า คิด แล้วเขาก็เดินจูงมือ รตา เดินจากออกมาโดยไม่หันกลับไปมองข้างหลังอีกเลย.. สำหรับ รตา แล้ว มันเป็นข้อเสนอที่ยากจะทำใจยอมรับได้จริงๆ.. ได้อย่างเสียอย่าง.. รตา และ มานพ นั่งนิ่งเงียบในขณะที่รถยนต์ส่วนตัว เร่งเครื่องออกจากโรงแรมหรู " หิวข้าวไหม..? " มานพ เอ่ยถามหญิงสาว รตา ส่ายหน้าช้าๆเป็นการปฏิเสธ " เดี๋ยวผมจะพาไปกิน ก๋วยเตี๋ยวหมูเจ้าอร่อย ปากซอยข้างหน้า " มานพ พูดเบาๆ รตา ไม่มีอารมณ์จะกินอะไรทั้งนั้น แต่ก็เกรงใจมานพเธอจึงไม่ปฏิเสธเขา หลังจากทั้งคู่หย่อนกายลงนั่งบนเก้าอี้ที่ไม่มีพนักพิงในร้านก๋วยเตี๋ยวเจ้าอร่อย " เหมือนเดิมครับเฮีย แต่วันนี้ขอสองที่ครับ .." มานพร้องบอกชายวัยกลางคนที่บริเวณหน้าร้าน " กินสักหน่อยนะ เดี๋ยวจะไม่มีแรง.. มื้อนี้ผมเป็นเจ้ามือเอง.. " ชายหนุ่มพูดแบบยิ้มๆ " คุณคาร่า เขาเป็นคนอย่างไรคะ..? รตา เอ่ยถามชายหนุ่ม เมื่อเห็นว่าเขาใจเย็นลงมากแล้ว " ความจริง คาร่า เป็นคนดีมากนะ.. เพียงแต่เราไม่สามารถพัฒนาความสัมพันธ์ให้ไปไกลเกินกว่าคำว่า เพื่อน ได้.. " ชายหนุ่มตอบ " เพราะอะไรคะ..? " รตา ถามต่อ " เราต่างกันเกินไป.. " มานพ พูดสั้นๆ บทสนทนาของทั้งสองชะงักลงเมื่อเฮียเจ้าของร้านนำสินค้าที่สั่งมาส่ง ก๋วยเตี๋ยวร้อนๆถูกส่งผ่านมาวางอยู่ตรงหน้าทั้งคู่ รตา ตักชิมช้าๆ " อื้ม.. อร่อยจริงๆคะ " รตา ลืมความทุกข์ที่เพิ่งเกิดขึ้นในใจเมื่อครึ่งชั่วโมงที่แล้วไปชั่วขณะ มานพ ยิ้มอย่างใจดี พร้อมมองใบหน้าหญิงสาวอย่างเอ็นดู.. " บอกแล้วว่าอร่อยๆจริงๆ " ทั้งคู้กินอาหารเย็นไปคุยกันไปเบาๆ สำหรับ รตา มันเป็นมื้อธรรมดาที่สุดวิเศษมากทีเดียว หากไม่นับเรื่องที่เกิดขึ้นที่ล๊อบบี้โรงแรมหรูแล้ว มันคงเป็นเวลาที่น่าจดจำมากๆสำหรับเธอ "ขอบคุณนะคะที่พามากินของอร่อยๆ" รตา กล่าวขอบคุณชายหนุ่ม มานพ ยิ้มแล้วตอบว่า " หากตาชอบใจ ผมก็ดีใจ เราเจอเรื่องแย่ๆมาแล้ว เจอเรื่องดีๆบ้างก็ดีนะ " " ตั้งแต่วันนี้ไป เราคงจะได้ร่วมงานกันน้อยลง.. แต่ไม่เป็นไรหรอกชีวิตก็อย่างนี้แหละ ได้อย่างก็ต้องเสียอย่าง.. เหมือน.. ลูกสาวของผม.. " " ลูกสาว..!! พี่นพมีลูกแล้วเหรอคะ..? " รตา ถามสีหน้าตกใจ " มีแล้วครับ สเตฟานี่ ลูกบุญธรรมวัยเจ็ดขวบของผมที่อเมริกา.." เขาตอบ " เธอน่ารัก เป็นเด็กดี แต่เป็นกำพร้า และเป็นโรคร้ายแรง.." มานพ พูดเสียงเศร้าๆ " ถ้าไม่เป็นการล่วงเกิน พี่นพจะกรุณาเล่าเรื่องของ สเตฟานี่ ให้ตาทราบได้ไหมคะ..? รตา พูดเชิงอยากจะรู้จักผู้ชายที่กำลังขับรถให้เธอนั่งมากกว่านี้.. " ได้สิ แต่ยาวหน่อยนะ.. " มานพกล่าวยิ้มๆ แล้วทั้งคู่ก็สนทนาถึงเรื่องราวของ สาวน้อยสเตฟานี่ และความเป็นมาของชายหนุ่มอย่างออกรส รถมาจอดที่หน้าคอนโดกลางเมืองของรตา เวลาเกือบสามทุ่มแล้ว " ตา อยากจะเจอสเตฟานี่จังเลยคะ ตาเข้าใจแล้วว่าทำไมพีนพถึงไม่พาเธอมาอยู่ที่เมืองไทย.. " " ตา เป็นคนที่สองต่อจาก คาร่า ที่รู้เรื่องของสเตฟานี่นะ และหากมีวาสนาตาคงจะได้พบเธอแน่นอน" ชายหนุ่มกล่าวแบบยิ้มๆ " สเตฟานี่ต้องดีใจแน่ ที่จะมีพี่สาวใจดีอยากจะรู้จักเธอ.. " มานพ กล่าว " จริงสิคะ ชีวิตคนเราเมื่อมีได้อย่างก็อาจจะต้องสูญเสียอะไรออกไป.. เราไม่มีทางครอบครองได้ทุกอย่างจริงๆ.." มานพ ยิ้มอ่อนๆ " ขึ้นห้องเถอะครับ มืดมากแล้ว.. แล้วเจอกันครับ " " ขอบคุณอีกครั้งนะคะ สำหรับอาหารมื้อนี้ และ สำหรับความเสียสละของพี่นพ.. " รตา กล่าวเศร้าๆ มานพ ยิ้มและไม่ได้ไม่พูดอะไรต่อ เขาปิดกระจกรถแล้วขับออกไปอย่างช้าๆ ทิ้งรตาให้ยืนมองตามแสงไฟท้ายรถ และคิดอะไรบางอย่างที่เธอเคยเข้าใจเขาผิดต่อไป.. |
นายสมมุติ
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 22 คน [?] Link |