มิถุนายน 2561

 
 
 
 
 
1
2
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
 
3 มิถุนายน 2561
All Blog
เหม็นสาป..มนุษย์..!!




มีใครเคยคิดว่า คนสมัยโบราณรุ่นคุณปู่คุณย่า คุณตาคุณทวด 

มี ความทุกข์ มากกว่าคนสมัยเราบ้างใหม..?


ผู้เขียนก็เป็นคนหนึ่งที่เคยคิดอย่างนั้นเหมือนกัน..


นั้นเป็นเพราะเราคิดว่า ในสมัยก่อนเทคโนโลยีดีๆเด็ดๆก็ยังไม่มี

จะติดต่อญาติพี่น้องกันทีต้องเขียนจดหมาย แล้วฝากให้คนเดินทางหรือพ่อค้าที่จะไปต่างเมือง

ช่วยเอาไปให้  กว่าจะคุยกันรู้เรื่องรู้ราวอาจจะต้องรอกันเป็นเดือนๆ..



หรือแม้แต่การเดินทางถนนหนทางก็ยังไม่พัฒนา 

จะเดินทางไปไหนที่ก็ต้องอาศัย เรือ เป็นพาหนะสัญจร ผ่านเส้นทางที่เราเรียกว่า แม่น้ำ

แถมยังต้องดูว่าน้ำท่า ว่ามีปริมาณเพียงพอให้ล่องเรือได้หรือไม่

ไม่เหมือนสมัยนี้ที่เรามีทั้งทางด่วน มอเตอร์เวย์ เอ็กเพรสเวย์ โทลเวย์ ฯลฯ



เรามีพาหนะที่วิ่งได้เร็วเกินหนึ่งร้อยยี่สิบกิโลเมตรต่อชั่วโมงได้สบายๆ..

แต่โดนจำกัดความเร็วไม่ให้วิ่งเกินเก้าสิบ ไม่งั้นอาจมีใบสั่งอัตโนมัติตามมาถึงบ้านได้..

ซึ่งถ้าเป็นสมัยก่อนเราจะเดินทางสักยี่สิบกิโลเมตร  อาจจะต้องใช้เวลาเดินเท้าเป็นวันๆ



ความเจริญทางการแพทย์หรือก็ล้าหลัง..

คุณผู้หญิงแม่บ้านจะคลอดลูกที ก็มีความเสี่ยงเปอร์เซนต์ที่จะเสียชีวิตสูงมากๆ

ซึ่งในสมัยปัจจุบัน หากไม่สุดวิสัยเกินไป ก็เรียกได้ว่ากำหนดวันเวลา ฤกษ์ผานาทีกันได้เลย

จะเอาเลขสวยอย่างไรก็ไม่ว่าขอเพียงแค่คุณหมอไม่ผิดคิวและมีเงินในกระเป๋าพอ

ก็แทบจะสมความปราถนากันได้ทุกคน..



ครับ ความจริงของชีวิตของคนในสมัยนั้นกับยุคสมัยของเรามันเป็นอย่างนั้นจริงๆ ไม่เถียง..



แต่หากจะดูกันให้ดีๆแล้ว มันกลับเป็นเรื่องของ ความทุกข์ทางกาย

เป็นความกดดันบีบคั่นทางกายภาพ ความไม่สะดวกสบายทางกายเสียมากกว่า ความทุกข์ทางใจ

หรือจะเรียกว่า ความทุกข์ทางจิตวิญญาณ ก็ได้



เรื่องของจิตใจ เรื่องของจิตวิญญาณ

ที่ต้องการความสงบสุขอย่างแท้จริง ไม่ใช่แค่ประเดี๋ยวประด๋าวนั้น 

อาจจะไม่จำเป็นจะต้องถูกป้อนปรนเปรอโดย อาหารทางวัตถุธาตุ

อาจไม่จำเป็นต้องแลกมาด้วยราคาค่าเงินที่มากมายอะไร..

เพียงแค่ขอให้มันเป็น อาหารใจ ที่ไม่ต้องการ การปรุงแต่งรสชาติและสีสันจนเกินพอดี

เมื่อดื่มกินเข้าไปแล้ว มันก็ช่วยไประงับดับความเร่าร้อน ยับยั้งความหิวกระหายทางใจ ทางอารมณ์..

ก็เป็นอันว่า ใช่ได้..



ผิดกับอาหารทางกาย ที่เราทำได้แค่ผ่อนปรนความหิวกระหายได้เพียงชั่วครั้งชั่วคราว..

แล้วจากนั้นก็หิวใหม่ อยากใหม่ อยากลองอยากลิ้ม ของแปลกๆใหม่อยู่เรื่อยไป

มันเป็นข้อจำกัดทางกายภาพ..

ไม่ใช่ความผิดของเราหรือของใครๆ ที่ทำให้เราต้องเกิดมามีอัตตา มีสภาพเช่นนี้..



คนสมัยก่อนเขาอาจจะมีความไม่สะดวกสบายเหมือนเช่นในยุคของพวกเราก็จริงอยู่..

แต่หาได้หมายความว่า พวกเขาเหล่านั้นจะมี ความทุกข์ มากกว่าพวกเราก็หาไม่..


ขอจำกัดทางเทคโนโลยี ความไม่เจริญทางวัตถุธรรมนั้น 

ไม่สามารถมาตีคุณค่า มาตีราคาทางจิตใจของใครๆได้เลย

มันเป็นเรื่องของยุคสมัย เป็นเรื่องของบริบทของสังคมของแต่ละยุค 

ที่ละเอียดอ่อนลึกซึ้งกว่าที่คิด



แค่เราได้โอกาสมาเกิด ได้มีโอกาสมาสัมผัส ก็นับว่าเป็นความรู้ที่ยิ่งใหญ่แล้ว

แม้ว่ามันจะไม่ทำให้เรา ข้ามผ่าน ความทุกข์ที่แท้จริง ของมนุษย์ทุกหมู่เหล่าได้ในเร็ววัน

หรือในช่วงชีวิตอันแสนสั้นของเราก็ตามที..

แต่ก็ดีตรงที่ได้เกิดมา เรียนรู้จัก รัก โลภ โกรธ หลง 

ก็ยังดีกว่าเกิดมาเพราะ ความไม่ตั้งใจของธรรมชาติ ที่เราหลงคิดไปเองว่า

เราบังเอิญได้เกิดมา โดยไม่มีเหตุผลใดๆ..



สรุป ไม่ว่าจะเป็นคนยุคไหนๆ 

จะมีความทุกข์กาย ทุกข์ใจ หนักน้อย หนาเบา สักเพียงใด..

ก็อย่าได้คิดว่าสักแต่เกิดมา ให้ใครเขามองว่าไร้คุณค่า ประเภท เกิดมาก็รกโลก

จนทำให้ ทวยเทพเทวา สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายเหม็นขี้หน้า

จนถึงกับต้อง ส่งสาร ส่งข้อความ ผ่านร่างทรงยุคไฮเทค 

ต่อว่าต่อขาน ที่ไม่ทำตัวให้สมเป็นคนดี..

ทำให้ท่านทนเหม็น กลิ่นสาปสางของพวกมนุษย์ ไม่ไหว

จนต้องเรียกร้องผ่านสื่อโซเซียล ให้หัดชำระล้างกลิ่นตัวกันเสียบ้าง..




จนเราต้องกลับมาคิดกันใหม่เสียแล้วว่า..

แม้ว่าเราจะเป็นคนยุคปัจจุบัน ที่มีเทคโนโลยีสูงส่ง

แม้จะมีเครื่องประทินผิว ชะโลมกาย ดับกลิ่นเหงื่อไคลเป็นร้อยเป็นพันชนิด

ยังไม่สามารถทำให้ ท้าวเทพ ทั้งหลาย ท่านหายใจหายคอโล่งจมูกได้..




สงสัยคงต้องไปเกิดใหม่ ไปเป็น ดอกบัว ชูช่อเบ่งบานในสระมรกต

ที่มีกลิ่นหอมเชิญชวนหมู่แมลงน้อยใหญ่มาดอมดม

น่าจะดีกว่าเกิดมาเป็น มนุษย์สัตว์ประเสริฐ ที่เขาว่าดีนักหนา..

น่าจะทำให้ ทวยเทพเทวดา พอ-อก พอใจบ้าง  ก็คงจะดี.. คุณว่าไหม..?



ขอขอบคุณเจ้าของรูปสวยๆทุกรูปครับ





Create Date : 03 มิถุนายน 2561
Last Update : 3 มิถุนายน 2561 11:08:23 น.
Counter : 1541 Pageviews.

1 comments
  
อ่านจนจบแล้ว ก็แปลกใจว่ามีความคิดเช่นนี้ได้อย่างไร โยงคำว่าเหม็นสาบกลิ่นมนุษย์ไปให้ทวยเทพเทวดา
โดย: หนุ่มร้อยปี (หนุ่มร้อยปี ) วันที่: 4 มิถุนายน 2561 เวลา:8:28:09 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

นายสมมุติ
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 22 คน [?]