Bloggang.com : Rain_sk : งูหัวกะโหลก

งูหัวกะโหลก

รายงาน(วันสุข) จากหนังสือพิมพ์ โลกวันนี้ วันสุข ปีที่ 7 ฉบับที่ 335 ประจำวัน จันทร์ ที่ 28 พฤศจิกายน 2011 คอลัมน์/บทความ - เรื่อง งูหัวกะโหลก โดย Paa Yuu
ช่วงที่ก่อนน้ำจะถล่มกรุงเทพฯ ก๊วนออฟโรดของผมได้ตระเวนไปช่วยเหลือชาวบ้านหลายแห่ง นอกจากจะอิ่มอกอิ่มใจแล้ว ผมยังมีเรื่องมาโม้กับคุณผู้อ่านด้วยล่ะครับ

เรื่องของเรื่องคือ ระหว่างเดินลุยกอผักตบชวาเข้าไปหมู่บ้านแห่งหนึ่งก็มีเสียงตะโกนว่า “งู! งู!” พร้อมกับเกิดความวุ่นวายโกลาหล และกว่าผมจะแหวกวงล้อมเข้าไปได้ เจ้างูโชคร้ายตัวนั้นก็โดนสามัคคีบาทาจนตายสนิทแล้ว

จากการชันสูตรพลิกศพ...เจ้าของร่างบอบบางขนาดนิ้วก้อยนั้นคือ งูหัวกะโหลก (Puff-faced Water Snake; Homalopsis buccata) ซึ่งเป็นสัตว์ชนิดแรกๆของโลกได้รับการสำรวจพบและตั้งชื่อ โดยถูกบันทึกข้อมูลมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1758 โน่นล่ะครับ

งูหัวกะโหลกเป็นงูน้ำจืดที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่ โตเต็มที่จะยาวประมาณ 2 เมตร ในวัยเด็กจะมีสีสันจี๊ดจ๊าดตามประสาวัยรุ่น โดยมีลำตัวสีดำหรือน้ำตาลเข้มสลับเหลืองสด แต่พออายุมากขึ้นก็จะสวยไปอีกแบบคือ สีจะซีดลงกลายเป็นสีน้ำตาลหรือน้ำตาลอมแดง และมีลวดลายสีจางๆ

ชื่อของงูชนิดนี้มาจากลวดลายตรงกระหม่อมที่ดูคล้าย “หัวกะโหลกคน” (ขณะที่ฝรั่งกลับเห็นว่าเหมือนงูใส่หน้ากาก; Masked Water Snake) และนั่นก็ทำให้ภาพพจน์ของเจ้าพวกนี้ในสายตาคนทั่วไปดูเลวร้ายเข้าไปอีก เพราะมักจะถูกเหมาว่าเป็นงูอันตราย หรือโดนกัดแล้วต้องตาย สอดคล้องกับที่ผมเคยดูเกมโชว์แนวตอบคำถามรายการหนึ่ง คนที่ได้แชมป์เขาจัดอันดับให้เป็นงูพิษร้ายแรงเฉยเลยครับ!? ทั้งที่ฤทธิ์เดชของพิษงูหัวกะโหลกรวมทั้งงูน้ำจืดยี่ห้ออื่นๆมีผลอย่างมากกับสัตว์ขนาดเล็กที่เป็นเหยื่อเท่านั้นเอง

งูหัวกะโหลกยังมีอีกชื่อว่า “งูเหลือมอ้อ” ซึ่งน่าจะมาจากที่มักจะเจอะเจอตามพงต้นอ้อริมน้ำ ประกอบกับมีลวดลายตอนโตที่ดูเผินๆแล้วคล้ายกับงูเหลือม-หลาม ชาวบ้านก็เลยนำคำเหล่านี้มารวมกันซะเลย

สัปดาห์หน้ามาคุยกันต่อครับ

ที่มา : นิตยสารโลกวันนี้วันสุข ปีที่ 7 ฉบับ 335 วันที่ 26 พฤศจิกายน – 2 ธันวาคม 2554 หน้า 57 คอลัมน์ เราไม่แปลก โดย PaaYuu

Create Date : 28 พฤศจิกายน 2554

Last Update : 28 พฤศจิกายน 2554 11:07:41 น.

0 comments

Counter : 2668 Pageviews.