|
▷▷▷..เรือกอและของดีชายแดนใต้..
พื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ แม้จะได้ชื่อเป็นดินแดนมิคสัญญี มีเสียงปืน เสียงระเบิดมาเยี่ยมเยียนไม่เว้นวัน จนคนไม่กล้าย่างกรายเข้าไป
แต่พื้นที่เหล่านี้ก็มีวัฒนธรรมมากมายที่พอจะบอกให้เรารู้ว่าไม่ได้โหดเหี้ยมอย่างที่คิด ยังมีความสวยงาม รักในเรื่องศิลปะ ซึ่งได้รับการสืบทอดมาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ หนึ่งในนั่นก็คือ เรือกอและ หรือเรือประมงพื้นบ้าน
ตามชายฝั่งทะเลในพื้นที่นราธิวาสและปัตตานี เราจะเห็นเรือกอและอยู่อยู่เรียงรายตามชายฝั่งทะเล เรือแต่ละลำวาดลวดลายสวยงาม เหมือนดั่งเรือเทวดาบนสวรรค์เลยทีเดียว
วัตถุดิบสำคัญในการทำเรือกอและคือ ไม้ฆาอแร ซึ่งเป็นพันธุ์ไม้ขึ้นอยู่ตามริมแม่น้ำ เป็นไม้เนื้ออ่อน มีน้ำหนักเบา เรือกอและส่วนใหญ่ใช้ในการประมง ชาวบ้านนิยมนำออกไปเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 5-6 ลำ ก่อนขึ้นเรือชาวประมงจะให้ความเคารพ โดยการถอดรองเท้าทุกครั้ง เมื่อเรือจอดอยู่บนฝั่งก็ห้ามผ่านเข้าไปใกล้ หรือเล่นบริเวณหัวเรือ ไม่พูดจาเชิงอวดดีหรือพูดในสิ่งที่ไม่เป็นมงคล เพราะเชื่อว่ามีพระเจ้าหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ความคุ้มครอง
นอกจากนี้เมื่อถึงเทศกาลวันฮารีรายอหรือวันละศีลอดของพี่น้องชาวไทยมุสลิมก็จะงดออกหาปลา คำว่า กอและ ในภาษายาวีมีความหมายว่าโคลงเคลง เรือกอและจึงมีความหมายอันแสดงถึงลักษณะเรือที่มีสภาพโคลงเคลงเมื่ออยู่ในน้ำ ไม่เคยหยุดนิ่งเหมือนกระแสคลื่นในทะเล ที่มาของเรือกอและนั้นสันนิษฐานว่าเกิดขึ้นก่อนสมัยสุโขทัย พร้อมๆกับการแผ่ขยายของอิสลามในประเทศไทย และการเข้ามาตั้งรกรากถิ่นฐานในภาคใต้ตอนล่างเลียบชายฝั่งทะเลอ่าวไทยตั้งแต่นครศรีธรรมราชลงไปถึงแหลมมลายู
และเนื่องจากมุสลิมในภาคใต้มีความเชี่ยวชาญในการออกทะเล เนื่องด้วยคนส่วนใหญ่เป็นชาวพื้นเมือง เครื่องไม้เครื่องมือในการทำประมงแต่เดิมใช้ใบในการขับเคลื่อน และเป็นเรือที่มีความคล่องตัวสูง โต้คลื่นได้ดี และคว่ำยาก เนื่องจากท้องเรือมีลักษณะกลม อันเป็นรูปทรงที่รับกันกับลักษณะของคลื่นในทะเล จึงสามารถแล่นบนน้ำทะเลได้อย่างมั่นคง เรือกอและคือสัญลักษณ์แห่งท้องทะเลฝั่งตะวันออกของแหลมมลายู นับตั้งแต่ อ.ยะหริ่ง อ.ปะนาเระ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี เรื่อยไปจนถึง อ.ตากใบ จ.นราธิวาส
ริมฝั่งด้านนี้น้ำตื้นเหมาะกับการออกเรือเล็กเพื่อทำประมงชายฝั่ง ตำนานของเรือกอและเริ่มต้นที่นั่น เรือกอและเป็นเรือประมงที่ใช้ในแถบจังหวัดภาคใต้ตอนล่าง มีลักษณะเป็นเรือยาวที่ต่อด้วยไม้กระดานโดยทำให้ส่วนหัวและท้ายสูงขึ้นจากลำเรือให้ดูสวยงาม นิยมทาสีแล้วเขียนลวดลายด้วยสีฉูดฉาดเป็นลายไทยหรือลายอินโดนีเซีย ซึ่งนำมาประยุกต์ให้เหมาะกับลำเรือ
เรือกอและมี 2 แบบคือ แบบหัวสั้นและแบบหัวยาว ขนาดของเรือแบ่งเป็น 4 ขนาด โดยยึดความยาวของลำเรือเป็นเกณฑ์ในการแบ่งคือ ขนาดใหญ่ยาว 25 ศอก ขนาดกลางยาว 22 ศอก ขนาดเล็กยาว 20 ศอก และขนาดเล็กมากเรียกว่า ลูกเรือกอและ ยาว 6 ศอกโดยประมาณ ด้านนอกซึ่งค่อนขึ้นไปทางขอบเรือทำเป็นขอบนูนออกมา ลักษณะเป็นกันชนของเรือยาวตลอดลำเรือ เรียกว่า ปาแปทูวอ ที่ตอนล่างของปาแปทูวอทำรอยแซะเนื้อไม้ด้วยกบให้เป็นแนวยาวตลอดลำเรือ เรียกว่า กอมา เรือทั้งลำแบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนหัวเรียกว่า ลูแว ส่วนท้ายเรียกว่า บูเระแต ถ้าแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ส่วนหัวเรียกว่า ปาลอ ส่วนกลาง (ลำเรือ)เรียกว่า ตือเราะ ส่วนท้ายเรียกว่า ปูงง
ก็ได้แต่หวังว่า สถานการณ์ชายใต้สงบเมื่อไรจะได้ไปชมการแข่งขันเรือกอและอีกครั้ง รื้อฟื้นความทรงจำเก่าๆที่เคยไปเชียร์จนเสียงแหบ
ที่มา : หนังสือพิมพ์โลกวันนี้รายวัน ปีที่ 13 ฉบับที่ 3229 ประจำวันพฤหัสบดีที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 คอลัมน์ วัฒนธรรมบ้านเรา โดย กรวี
credit : dailyworldnews
Create Date : 16 กุมภาพันธ์ 2555 |
Last Update : 16 กุมภาพันธ์ 2555 13:31:42 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1218 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
Upper Midwest United States
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 68 คน [?]
|
"ตลอดเวลาที่บาปยังไม่ส่งผล คนพาลสำคัญบาปเหมือนน้ำผึ้ง เมื่อใดบาปให้ผล คนพาลย่อมเข้าถึงทุกข์เมื่อนั้น" ขุ.ธ. 25/15/24 เวลา 4.57PM :sat,Mar 29,2557
| | | |