Group Blog
 
<<
มีนาคม 2555
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
6 มีนาคม 2555
 
All Blogs
 
'มาฆบูชา' ยิ่งใหญ่ฉลอง 'พุทธชยันตี 2,600 ปี' แห่งการตรัสรู้ 'พระพุทธเจ้า'!






'มาฆบูชา' ยิ่งใหญ่ฉลอง 'พุทธชยันตี 2,600 ปี' แห่งการตรัสรู้ 'พระพุทธเจ้า'!

สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ร่วมกับสำนักงานส่งเสริมคุณธรรมและจริยธรรมแห่งสถาบัน ชาติ พระศาสนาและพระมหากษัตริย์จัดงานวันมาฆบูชา 2555 เพื่อเฉลิมฉลอง “พุทธชยันตี 2,600 ปี แห่งการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า” หรือเรียกว่า “พุทธชยันตี” อันเป็นวันที่พระพุทธศาสนาได้ถือกำเนิดขึ้น ระหว่างวันที่ 5-7 มีนาคม 2555 ณ วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร โดยมีกิจกรรมส่งเสริมพระพุทธศาสนาและคุณธรรมจริยธรรมของเยาวชนและพุทธศาสนิกชนมากมาย





นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า งานเฉลิมฉลอง “พุทธชยันตี 2,600 ปี แห่งการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า” ถือเป็นวาระสำคัญของชาวพุทธทั่วโลก ในประเทศต่างๆ ที่มีชาวพุทธเข้มแข็งได้ประกาศให้มีการเฉลิมฉลองในวาระนี้เป็นเวลา 3 ปี (2553-2555) ดังเช่นในประเทศศรีลังกา พม่า อินเดีย เป็นต้น ก็ได้มีการจัดงานเฉลิมฉลองอย่างตื่นตัวและยิ่งใหญ่ ที่สำนักงานใหญ่แห่งองค์การสหประชาชาติ สหรัฐอเมริกา ก็ได้มีการจัดงานฉลองใหญ่ในช่วงวันวิสาขบูชาที่ผ่านมา สำหรับประเทศไทยรัฐบาลได้เล็งเห็นความสำคัญของวาระพุทธชยันตี 2,600 ปี แห่งการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า และเห็นชอบตามมติของมหาเถรสมาคมที่จะให้ปีพุทธศักราช 2555 เป็นปีแห่งการฉลองพุทธชยันตี โดยกำหนดให้จัดกิจกรรมเป็นพิเศษ ในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาทั้ง 3 วัน คือ วันมาฆบูชา วันวิสาขบูชา และวันอาสาฬบูชา โดยจะเริ่มพิธีเปิดอย่างยิ่งใหญ่ในวันมาฆบูชานี้ รัฐบาลใคร่ขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชนได้ร่วมกันเฉลิมฉลองพุทธชยันตี 2,600 ปี แห่งการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า ด้วยการระลึกถึงพระคุณแห่งองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า และน้อมนำพระธรรมคำสั่งสอนมาเป็นหลักในการดำเนินชีวิต ร่วมกันทำบุญและปฏิบัติบูชาตามแนววิถีพุทธ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในโอกาสทรงเจริญพระชนมพรรษา 85 พรรษา และเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตนเอง ครอบครัว และประเทศชาติสืบไป

นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กล่าวว่า วันมาฆบูชา ที่จะเวียนมาถึงในวันที่ 7 มีนาคม 2555 เป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาอีกวันเนื่องจากเป็นวันที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง “โอวาทปาติโมกข์” แก่พระสงฆ์เป็นครั้งแรกหลังจากตรัสรู้มาแล้วเป็นเวลา 9 เดือน ดังนั้น วันมาฆบูชาปีนี้นอกเหนือจากเป็นวันสำคัญทางศาสนาที่ยึดถือปฏิบัติกันมาทุกปี ยังเป็นวันสำคัญที่พุทธศาสนิกชนจะได้ร่วมเฉลิมฉลองครบรอบ 2,600 ปี ที่พระพุทธองค์ได้ตรัสรู้ธรรม วันมาฆบูชาถือเป็นวันแห่งพระธรรม จึงเป็นวาระสำคัญพุทธศาสนิกชนได้ยึดหลักคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตามหลักเนื้อหาที่ว่า




“ทำความดี ละเว้นความชั่ว ทำจิตใจ ให้บริสุทธิ์” เป็นหลักในการประพฤติปฏิบัติสืบต่อกันมาอย่างต่อเนื่องในปัจจุบัน ปีพุทธศักราช 2555 จึงนับเป็นปีแห่งการปฏิบัติบูชาของพุทธศาสนิกชนทั่วประเทศ การจัดงานวันมาฆบูชา 2555 ในปีนี้ถือเป็นการเฉลิมฉลอง “พุทธชยันตี 2,600 ปี แห่งการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า” โดยวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร จัดกิจกรรมส่งเสริมพระพุทธศาสนาสำหรับเยาวชนและประชาชนทั่วไป วันที่ 5-7 มีนาคม 2555 เช่น การปล่อยขบวนรถบุปผชาติประชาสัมพันธ์งานมาฆบูชา การประกวดสวดมนต์หมู่สรรเสริญพระรัตนตรัยสรภัญญะ การประกวดร้องเพลงส่งเสริมศีลธรรม การประกวดตอบปัญหาธรรม การประกวดนิทานคุณธรรม การประกวดหนังสั้นส่งเสริมคุณธรรม การเจริญพระพุทธมนต์ปาติโมกข์ การเวียนเทียน สักการะพระบรมสารีริกธาตุ การเจริญพระพุทธมนต์และเจริญจิตตภาวนาถวายพระราชกุศลฯ และการสาธยายธรรม ธรรมทัศนา เนื่องในพุทธวาระมาฆบูชา 2555 ในรูปแบบของสื่อผสมที่จะทำให้พุทธศาสนิกชนได้เข้าใจถึงที่มาความหมายและความสำคัญของพุทธชยันตีอย่างแท้จริง"

สำหรับกิจกรรมที่จัดขึ้นในงานสัปดาห์เผยแผ่พระพุทธศาสนาเนื่องในเทศกาลวันมาฆบูชา ณ พุทธมณฑล ในวันที่ 3-7 มีนาคม 2555 มีกิจกรรมที่เน้นการปฏิบัติบูชาต่างๆ เช่น การปฏิบัติธรรม กิจกรรมเผยแผ่พระพุทธศาสนาและพิธีเวียนเทียน พิธีเจริญพระพุทธมนต์เสริมสร้างความเป็นสิริมงคล การประกวดจัดโต๊ะหมู่บูชาและโคมแขวน วันที่ 7 มีนาคม 2555 เวลา 07.30 น. ทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ 1,250 รูป เวลา 16.00 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้นายอำพล เสนาณรงค์ องคมนตรี เป็นผู้แทนพระองค์ประกอบพิธีเวียนเทียนที่ลานองค์พระประธานพุทธมณฑล เป็นต้น

พระพรหมสิทธิ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร กล่าวว่า พุทธชยันตีเป็นวาระที่สำคัญยิ่งในพระพุทธศาสนา พุทธชยันตี โดยรากศัพท์ของคำว่าชยันตีมาจากคำว่า “ชย” คือชัยชนะ อันหมายถึง ชัยชนะของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่มีต่อหมู่มารและกิเลสทั้งปวงอย่างสิ้นเชิง อันทำให้พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้บังเกิดขึ้นในโลก




“พุทธชยันตี” จึงมีความหมายว่าเป็นการตรัสรู้ และการบังเกิดขึ้นของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าด้วย ในปัจจุบันพุทธชยันตียังถูกตีความในความหมายถึงชัยชนะของพุทธศาสนาและชาวพุทธด้วย ส่วนวันมาฆบูชา ซึ่งถือว่าเป็นวันพระใหญ่ที่มีความสำคัญต่อพระพุทธศาสนาเช่นกันคือเป็นที่ตรงกับ 15 ค่ำเดือน 3 ซึ่งในปีนี้คือวันที่ 7 มีนาคม 2555 มีพระสงฆ์จำนวน 1,250 รูป มาประชุมพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย ณ วัดเวฬุวัน เมืองราชคฤห์ แคว้นมคธ เพื่อสักการะพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระสงฆ์ที่มาประชุมทั้งหมดล้วนแต่เป็นพระอรหันต์ ผู้ได้อภิญญา 6 พระสงฆ์ทั้งหมดได้รับการอุปสมบทโดยตรงจากพระพุทธเจ้า หรือ "เอหิภิกขุอุปสัมปทา" และเพราะเกิดเหตุอัศจรรย์ 4 ประการข้างต้น ทำให้วันมาฆบูชา เรียกอีกชื่อหนึ่งได้ว่า "วันจาตุรงคสันนิบาต" ซึ่งคำว่า "จาตุรงคสันนิบาต" นี้ มีความหมายการประชุมด้วยองค์ 4" นั่นเอง

วันมาฆบูชานี้ถือเป็นวันแห่งพระธรรม พุทธศาสนิกชนจึงควรปฏิบัติบูชาด้วยการศึกษาพระธรรมคำสั่งสอนและนำไปปรับใช้ให้เกิดประโยชน์ ความสุขและสิริมงคลแก่ตนเอง ครอบครัวและสังคมสืบไป และการเฉลิมฉลอง “พุทธยันตี 2,600 ปี แห่งการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า” นั้นพุทธศาสนิกชนควรได้ศึกษาและเข้าใจถึงที่มาแห่งความหมายและความสำคัญของพุทธชยันตีอย่างแท้จริง ปฏิบัติบูชาด้วยการทำจิตใจให้สูงขึ้นตระหนักรู้ละอายชั่วกลัวบาป และใฝ่กุศล ประเทศไทยได้รับการยกย่องว่าเป็นศูนย์กลางแห่งพุทธศาสนา การปฏิบัติบูชาตามแนววิถีพุทธของคนไทย จึงถือเป็นแบบอย่างสำคัญที่ชาวพุทธพึงปฏิบัติ การสืบสานและปกป้องพระศาสนาถือเป็นการจรรโลงพระศาสนาให้คงอยู่สืบไป

**ประวัติการถือปฏิบัติวันมาฆบูชาในประเทศไทย

**

ประเทศไทยเริ่มกำหนดพิธีปฏิบัติในวันมาฆบูชาเป็นครั้งแรกในช่วงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ซึ่งมีการประกอบพิธีเป็นครั้งแรกในปี พ.ศ.2394 ในพระบรมมหาราชวังก่อน โดยมีพิธีพระราชกุศลในเวลาเช้า นมัสการพระสงฆ์จากวัดบวรนิเวศวรวิหาร และวัดราชประดิษฐ์จำนวน 30 รูป ฉันภัตตาหารในพระอุโบสถ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม

 เมื่อถึงเวลาค่ำ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จออก ทรงจุดธูปเทียนนมัสการ พระสงฆ์ทำวัตรเย็นและสวดคาถาโอวาทปาติโมกข์ เมื่อสวดจบทรงจุดเทียน 1,250 เล่ม รอบพระอุโบสถ มีการประโคมอีกครั้งหนึ่งแล้วจึงมีการเทศนาโอวาทปาติโมกข์ 1 กัณฑ์เป็นทั้งเทศนาภาษาบาลี และภาษาไทย ส่วนเครื่องกัณฑ์ประกอบด้วยจีวรเนื้อดี 1 ผืน เงิน 3 ตำลึงและขนมต่างๆ เมื่อเทศนาจบ พระสงฆ์ 30 รูป สวดรับ



ในสมัยรัชกาลที่ 4 นั้น พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จะเสด็จออกประกอบพิธีด้วยพระองค์เองทุกปี แต่มีการยกเว้นบ้างในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เนื่องจากบางครั้งตรงกับช่วงเสด็จประพาสก็จะทรงประกอบพิธีมาฆบูชาในสถานที่นั้นๆ ขึ้นอีกแห่ง นอกเหนือจากภายในพระบรมมหาราชวัง

 ต่อมาการประกอบพิธีมาฆบูชาได้แพร่หลายออกไปภายนอกพระบรมมหาราชวัง และประกอบพิธีกันทั่วราชอาณาจักร ทางรัฐบาลจึงประกาศให้เป็นวันหยุดทางราชการด้วย เพื่อให้ประชาชนจากทุกสาขาอาชีพได้ไปวัด เพื่อทำบุญกุศลและประกอบกิจกรรมทางศาสนา

 นอกจากนี้ในปี พ.ศ.2549 รัฐบาลไทยประกาศให้วันมาฆบูชา ให้เป็นวันกตัญญูแห่งชาติอีกด้วย
▷▷//www.thairath.co.th/content/life/243228


Create Date : 06 มีนาคม 2555
Last Update : 6 มีนาคม 2555 18:48:19 น. 0 comments
Counter : 2127 Pageviews.

Rain_sk
Location :
Upper Midwest United States

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 68 คน [?]





"ตลอดเวลาที่บาปยังไม่ส่งผล
คนพาลสำคัญบาปเหมือนน้ำผึ้ง
เมื่อใดบาปให้ผล คนพาลย่อมเข้าถึงทุกข์เมื่อนั้น"
ขุ.ธ. 25/15/24
เวลา 4.57PM :sat,Mar 29,2557



BlogGang Popular Award # 9


BlogGang Popular Award # 10


BlogGang Popular Award # 11


BlogGang Popular Award # 12


Friends' blogs
[Add Rain_sk's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.