สัปดาห์ที่ 13 : ปวดเข่า
ผลพวงจากการฝืนออกกำลังกายแบบไม่ลืมหูลืมตาเมื่อเดือนที่แล้ว เดือนนี้ทั้งเดือนฉันเลยมีอาการปวด เท้า เข่า และ ขา ตามลำดับ ทวีความรุนแรงมากขึ้นตามปริมาณงานของฉันที่ทำในแต่ละวัน ปวดมากบ้าง น้อยบ้าง แต่ก็ปวดทุกวัน
ตัดสินใจไปหาหมอที่คลีนิล ท่านผู้อ่านคะ การไปหาหมอที่คลีนิคในตอนเช้า ท่านควรจะไปเช้าๆ ได้คิวแรกได้ยิ่งดีนะคะ เพราะคุณหมอจะไม่รีบไปขึ้นเวร OPD ที่รพ. ทำให้เรามีเวลาโอภาปราศัยกับคุณหมอเกี่ยวกับอาการเจ็บป่วยของเราได้นานขึ้นกว่าคนที่มาสายอย่างดิฉัน
หมอรีบตรวจรีบไป เราแทบไม่ได้พูดอะไรกันเลย นอกจาก "ลดน้ำหนักนะ งดของทอดของมัน น้ำหวานของหวานนี่ไม่ต้องเลยนะ แล้วก็ช่วงนี้ยังออกกำลังกายไม่ได้ เพราะกล้ามเนื้อขาไม่แข็งแรง เดี๋ยวไปดึงหลังนะ อ่ะ ฉีดยา"
นอนคว่ำให้หมอเอาเข็มปักก้น ฉีดยา (ยาอะไรก็ไม่รู้ ไม่ทันได้ถาม) หมอมือหนักได้ใจจริงๆค่ะ แต่ก็ให้อภัยเพราะนอกจากเรื่องมือหนักแล้ว หมอสุภาพมากๆ ไม่ดุ ไม่น่ากลัวเหมือนคุณหมอท่านอื่นๆ
ฉีดยาเสร็จก็ รอดึงหลัง การดึงหลังนี่ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด ที่จริงก็ไม่ได้คิดว่ามันน่ากลัวอะไรนะ แต่นึกไม่ออกว่าเค้าทำกันยังไง ขั้นแรกก็ไปนวดเข่า หรือทำอะไรซักอย่างที่เข่า เอาเจลมาทา เอาเครื่องมากดๆวนๆ ไม่เจ็บ แต่ไม่เคย เลยเกร็งตลอดจนนวดเสร็จ เมื่อยขากันไป จากนั้นก็ไปดึงหลัง วิธีการก็ไม่ยุ่งยากอะไร ขึ้นไปนอนบนเตียงดึงหลัง ยกขาขึ้นวางบนเก้าอื้ที่อยู่บนเตียงอีกที แล้วนักกายภาพฯก็จัดการรัดเข็มขัดให้ตัวเราอยู่ติดกับเตียง อึกอัดนิดหน่อย ที่แผ่นรองหลังรู้สึกอุ่นๆ จากนั้นเตียงก็แยกออกจากกัน ทำให้แผ่นหลังของเรายืดออก สบายแบบแปลกๆจนเกือบเคลิ้มหลับ ประมาณ 10 นาทีก็เสร็จพิธีการ
สรุปว่าจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไร สรุปว่า อ้วนเกินไป เอายามากิน แล้วก็ลดน้ำหนัก
แต่อีกไม่กี่วันก็จะสิ้นเดือนแล้ว น้ำหนักของฉันก็ยังไม่ลดเลย