รายงานความคืบหน้าครั้งที่ 1 : เริ่มแดนซ์แล้วค่ะ
3-4 วันมานี้ ควมคุมเรื่องอาหารไม่ได้เลยค่ะ ช่วงเช้าก่อนหกโมงเย็น พยายามที่จะทานน้อยๆ ระวังเรื่องชนิดและปริมาณของอาหารที่กินเข้าไปตลอด เลยกลายเป็นว่า กินไม่อิ่ม แล้วมาหิวซ่กตอนเย็น จนเขมือบอาหารเย็น(หลังหกโมง)เข้าไปอีกจนเกินพิกัด (ฉันตั้งเป้าเอาไว้ว่า วันๆนึงจะกินไม่เกิน 1,200 กิโลแคลอรี่)
เรื่องอาหารก็ผ่านพ้นไป สู้กันใหม่ในวันพรุ่งนี้
มาที่เรื่องน่าดีใจกันดีกว่า ฉันเริ่มออกกำลังกายโดยการเต้นมา 2-3 วันแล้วค่ะ เป็นพยายามการขยับอย่างหนักในการขยับแขนขาของตัวเองไปตามเพลงและครูฝึก(ฝึกจากติวเตอร์สอนเต้นในยูทูป)วันละันิดวันละหน่อย ใช้เวลาประมาณวันละ 10-20 นาที ก็เหนื่อยมากแล้วค่ะ รู้สึกว่ามึนหัวแล้วก็หัวใจเต้นเร็วมากจนเกือบหอบ แล้วที่เต้นอยู่ก็รู้สึกว่าตัวเองตัวหนักมากจนขยับตัวได้ยาก แสดงให้เห็นว่าประสิทธิภาพทางด้านร่างกายของฉันนั้นแย่มากๆ เริ่มกลัวนิดๆแล้วว่า ถ้าไม่เริ่มออกกำลังกายตั้งแต่วันนี้แล้วยังปล่อยให้ตัวเองอ้วนต่อไปจะเป็นยังไง
น้ำหนักยังไม่ได้ชั่งอีกตามเคยค่ะ ยังหาโอกาสชั่งเงียบๆไม่ได้ เวลาที่ชั่งน้ำหนักฉันชอบแอบชั่งเงียบๆคนเดียวค่ะ เพราะว่าอายคนอื่นและกลัวความจริงบนเครื่องชั่งจะฟ้องว่าฉันนั้นอ้วนแค่ไหน
จะว่าไปแล้วฉันก็เป็นคนชอบหนีปัญหาเหมือนกันนะคะ รู้ตัวว่าอ้วนมาตั้งแต่น้ำหนักแตะที่เลข 60 แต่ก็หนีความจริงมาเรื่อยๆว่ายังไม่อ้วนมาก หนีมานานจนตอนนี้น้ำหนักน่าจะ 80 แล้ว สำหรับใครที่ไม่รู้จักกัน หรือ เพื่อนๆที่นานๆเจอกันทีก็มักจะทักว่าฉันท้องหรือเปล่า?(ฉันอ้วนลงพุงค่ะ ตอนนี้พุงใหญ่จนเหมือนคนใกล้คลอด)แรกๆก็คิดว่าเป็นมุข(ยังจะอุตส่าห์คิดว่าเป็นมุขอีกแน่ะ) พอหลังๆทักกันบ่อยขึ้นๆ ฉันก็เริ่มทนไม่ไหว นึกอยากกจะผอมให้ได้ภายในวันนี้พรุ่งนี้เลยด้วยซ้ำ แน่ะล่ะ ไม่มีปาฏิหารย์สำหรับคนอ้วน กว่าจะน้ำหนักเท่านี้ก็ใช้เวลาสะสมหลายปี จะลดลงให้กลับไปผอมเหมือนเดิมก็คงต้องใช้เวลา(และใช้กำลังใจมากๆ)เหมือนกัน
ฉันกลับมาลดน้ำหนักอีกครั้ง โดยใช้กำหนดเวลาสิ้นปีนี้เป็นเส้นตาย ก็ด้วยความหวังอย่างเดียวว่าจะผอมลงให้ได้ ฉันจะพยายามทำให้ตัวเองผอมลงให้ได้ และจะต้องไม่แพ้อีกเด็ดขาด
ขอแรงใจร่วมสู้กับความอ้วนไปด้วยกันนะคะ
เพิ่มเติมอาหารที่กินเ้ข้าไปวันนี้
เที่ยง : หอดทอด + ชาเย็นปั่นเพิ่มวิป
ดึก : แซนวิชแฮมชีสไข่ดาวของเซเว่นอีเลฟเว่น + ไส้กรอกวุ้นเส้นของเซเว่นฯเช่นกัน 2 อัน + น้ำมะพร้าว + วุ้นมะพร้าว