ขับรถมั่วทัวร์ขอนแก่น
ขอนแก่นครับขอนแก่น! จะหมดภาคอีสานแล้วครับ ต่อจากบล็อกชัยภูมิคราวที่แล้วก็ขอพาชมจังหวัดถัดมาอย่างขอนแก่นต่อ ทริปไม่ได้ต่อกันนะครับ อันนี้รวบรวมจากการท่องเที่ยวขอนแก่น 4 รอบ แต่ขอนแก่นก็เหมือนกับโคราช คือถึงจะไปบ่อยแต่มันจะเป็นจังหวัดที่เที่ยวพร้อมๆกับจุดหมายอื่นๆ ทำให้เวลาอัพบล็อกมันจะกระจายไปรวมกับที่อื่นๆ ถึงยังไงก็ยังเหลือสถานที่ท่องเที่ยวของขอนแก่นที่ยังไม่ได้จับลงบล็อกไหน เลยขอรวบรวมมาเป็นบล็อกนี้ ให้ชื่อเอนทรี่นี้ว่า "เก็บตกเศษเหลือๆของขอนแก่น"
...ช้าก่อน! อย่าเพิ่งปิดหน้าหนีไปไหน! ขอนแก่นมีที่เที่ยวเด็ดๆทุกแนวจนไม่สามารถกระพริบตาได้เลยล่ะเธอ ทั้งซากอิฐยุคขอม ซากกระดูกยุคหิน ซากฟอสซิลยุคไดโนเสาร์ (ทำไมมีแต่ซาก?)
ประตูเข้าสู่เมืองขอนแก่นทำเป็นรูปพระธาตุขามแก่นที่โด่งดังของจังหวัดนี้
สถานที่ท่องเที่ยวแรกขอแวะเที่ยวก่อนถึงตัวเมืองขอนแก่นก่อนครับ กู่แก้ว อยู่ภายในเขตวัดกู่แก้วสามัคคี จากสาย 2 ก่อนถึงตัวเมืองขอนแก่นเลี้ยวเข้าเส้น 2131 มาจนตัดกับ 2062 ลงมาถึงสี่แยกบ้านนาดี เลี้ยวซ้ายมา 750 เมตร พบทางแยกแล้วเลี้ยวขวาอีก 500 เมตร จะถึงกู่แก้ว เป็นอโรคยาศาลที่สร้างขึ้นในสมัยของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 พุทธศตวรรษที่ 18
ใกล้กับบารายมีอาคารเก็บโบราณวัตถุบางส่วนที่ขุดพบบริเวณนี้แต่ยังไม่ได้ประกอบเข้าไป หลายๆชิ้นก็นำไปเก็บรักษาไว้ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติขอนแก่นครับ แต่ไม่พาไปดูแล้วนะ เคยพาไปในบล็อกเมืองโบราณฟ้าแดดสงยางครั้งกระโน้นแล้ว
เข้ามาในตัวเมืองมีบึงแก่นนครอยู่ใจกลางเมือง เดิมชื่อบึงบอน แต่ผมไม่เคยลงไปถ่ายบึงนี้สวยๆเลย เพราะเที่ยวรอบนั้นตั้งแต่ปี 2012 กล้องยังเป็นคอมแพ็คตัวกระเปี๊ยก คุณภาพตอนถ่ายที่มืดกะหลั่วมาก
ริมบึงแก่นนครมี พระธาตุหนองแวง หรือพระมหาธาตุแก่นนคร สร้างขึ้นในปี พ.ศ.2540 ฉลองเมืองขอนแก่นอายุครบรอบ 200 ปี ภายในองค์พระธาตุมี 9 ชั้น ชั้นล่างสุดมีพระบรมสารีริกธาตุประดิษฐานอยู่ เป็นพระอุรังคธาตุ (อก) และพระธาตุสาวก 100 องค์ เสียดายวันที่เข้ามาเวลาไม่เยอะแถมมืดแล้วเลยไม่ได้เดินดูชั้นอื่นๆเลย
ปี 2014 ไปเที่ยวแถวน้ำพองครับ สมัยก่อนน้องชายมาเที่ยวแถวนี้บ่อยเพราะแฟนทำงานอยู่โรงไฟฟ้าของ กฟผ. ที่น้ำพอง ก่อนออกจากตัวเมืองที่สถานีรถไฟขอนแก่นมีขอนไม้ที่วิศวกรรถไฟเอาไม้ตะเคียนทองมาตั้งประดับเป็นสัญลักษณ์ของสถานีรถไฟขอนแก่น ดังไปเลย มันไม่ได้มีอะไรเก่าแก่เกี่ยวกับขอนไม้นี้นะครับ
ที่เที่ยวต่อไปของเราคือ วัดพระธาตุขามแก่น น้องเคยเที่ยวแล้วถ่ายรูปมาให้ดู จุดที่ชอบคือสิงโตที่ปั้นได้น่ารักสุดใจขาดดิ้น ผมเห็นรูปที่น้องถ่ายมาแล้วต้องถึงกับต้องอัญเชิญไกจินมานั่งดูกันเลย
(ใครจ้องรูปข้างบนนานๆระวังหน้าเหียกแบบไกจินนะครับ)
วันนี้แวะมาดูเจ้าสิงโตว่าจะมีการอัพเกรดอะไรไหม คุณพระ! มันทาสีใหม่พร้อมติดตั้งเสื่อเพิ่มพลังป้องกัน +2 ส่วนหน้าตาสิงโตก็ยังคงเหมือนคิวทาโร่เช่นเดิม
คนอ่าน: เอ็งจะตลกกับสิงโตอีกนานมั้ยครับ คนรอชมพระธาตุขามแก่นอยู่เฟ้ย!
(หลังจากถูกคนอ่านตีกบาลแล้วเจ้าของบล็อกก็พามาชมองค์พระธาตุแต่โดยดี) ตามตำนานเล่าว่าขณะกษัตริย์โมริยะอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุไปยังพระธาตุพนมนั้น ได้พักแรมและวางพระธาตุลงบนขอนไม้มะขามตายต้นหนึ่ง แต่พอเดินทางไปถึงก็พบว่าพระธาตุพนมสร้างเสร็จแล้วเลยอดบรรจุพระธาตุที่อุตส่าห์เอามา แต่ขากลับก็พบว่าขอนไม้ตายที่เคยวางพระธาตุไว้นั้นกลับฟื้นคืนชีพอย่างน่าอัศจรรย์ เลยสร้างพระธาตุบริเวณนี้และบรรจุพระธาตุซะเลย
องค์พระธาตุขามแก่นสูง 10 เมตร เรือนธาตุเป็นดอกบัวตูม แม้จะไม่สูงมากแต่เป็นที่มาของชื่อเมืองขอนแก่นในปัจจุบันเลยนะครับ
ว่าแล้วก็เล่าถึงประวัติศาสตร์เมืองขอนแก่นกันหน่อย ประวัติศาสตร์จังหวัดนี้ก็เหมือนหลายจังหวัดในภาคอีสานคือเป็นชุมชนเล็กๆกระจายกันอยู่และอยู่ภายใต้อิทธิพลของอาณาจักรใกล้เคียง อย่างบริเวณขอนแก่นนี้มีเมืองโบราณกระจัดกระจายกันอยู่ ทั้งพื้นที่ๆพบหลักฐานยุคก่อนประวัติศาสตร์อย่างภูเวียงหรือบ้านโนนเมือง ชุมชนสมัยทวารวดีที่เมืองโบราณดงเมืองแอม เมืองสมัยขอมดังปรากฏปราสาทเปือยน้อย กู่ประภาชัย และกู่แก้ว ฯลฯ แต่เมืองขอนแก่นนั้นเพิ่งตั้งขึ้นในสมัยรัตนโกสินทร์ โดยเพี้ยเมืองแพนได้พาผู้คนอพยพจากร้อยเอ็ดมาอยู่ที่บ้านบึงบอนริมบึงบอน (บึงแก่นนครในปัจจุบัน) และขึ้นตรงกับนครราชสีมา ร.1 ได้สถาปนาบ้านบึงบอนเป็นเมืองขอนแก่นในปี พ.ศ.2340 (ขอนแก่นเพี้ยนจากขามแก่น) และแต่งตั้งเพี้ยเมืองแพนเป็นพระนครศรีบุรีรักษ์ เจ้าเมืองขอนแก่นคนแรก
ยังคงอยู่ที่น้ำพองครับ สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกแห่งคือ กู่ประภาชัย หรือกู่บ้านนาคำน้อย เป็นอโรคยาศาล สร้างในสมัยไหนเดาได้ไหมครับ? .....ถูกต้องนะคร้าบ!! (อะไรนะ? ยังไม่ได้เดาอีกเหรอ?) พระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ครับ ตามที่ท่านได้สร้างอโรคยาศาล 102 แห่งซึ่งนับว่ามากมายมหาศาลที่สุดกว่าในสมัยไหนๆ (บริษัทรับเหมารวยแย่) เจอโบราณสถานขอมโนเนมๆสักอันก็เดาว่าสร้างสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ไว้ก่อนเลย
ส่วนเขื่อนอุบลรัตน์กับวัดพระบาทภูพานคำนี่เคยพาไปแล้วในบล็อกทริปอีสานเหนือช่วงปีใหม่ ขอข้ามไปเลยแล้วกันเด้อ
อีสานเป็นแผ่นดินเก่าแก่ มีฟอสซิลอยู่มากมาย โดยเฉพาะสองแหล่งที่ขุดพบฟอสซิลมากมายมหาศาลจนกลายเป็นที่ท่องเที่ยวที่โด่งดังในระยะเวลาอันสั้นอย่างภูเวียงที่ขอนแก่น และภูกุ้มข้าวที่กาฬสินธุ์ สำหรับกาฬสินธุ์เราได้ชมกันไปแล้วหนนี้พาไปภูเวียงกันบ้างครับ
หลายๆที่ในขอนแก่นโดยเฉพาะเส้นทางที่มุ่งไปภูเวียงจะมีรูปปั้นไดโนเสาร์ต้อนรับนักท่องเที่ยว พวกมันอุตส่าห์ออกมาต้อนรับกันขนาดนี้แล้วก็ไปชมกันสักหน่อยครับ ออกสาย 12 ไปทางตะวันตกของเมืองขอนแก่น เลย อ.หนองเรือมาหน่อยนึงแล้วขึ้นเส้น 2038 จะเข้าสู่อำเภอภูเวียงครับ
ภูเวียงมีชื่อเสียงมาก่อนภูกุ้มข้าวเนื่องจากเป็นสถานที่แห่งแรกของไทยที่ขุดพบฟอสซิลไดโนเสาร์ในปี พ.ศ.2519 และได้สร้างอาคาร พิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ภูเวียง ที่แสดงนิทรรศการเกี่ยวกับไดโนเสาร์และฟอสซิลที่ขุดพบ ตัวพิพิธภัณฑ์เปิดในปี พ.ศ.2544
ประติมากรรมโลหะโครงกระดูกไดโนเสาร์ที่ตั้งอยู่โดดเด่นกลางโถงนิทรรศการ
สวนไดโนเสาร์ที่จำลองการอยู่ของไดโนเสาร์ในธรรมชาติ จัดแสดงหุ่นไดโนเสาร์ที่พบในภูเวียงและถูกตั้งชื่อเป็นไดโนเสาร์สัญชาติไทยจนเรียกโคตรยาก ทั้งสยามโมไทรันนัส อิสานเอนซิส, สยามโมซอรัส สุธีธรนิ, และภูเวียงโกซอรัส สิรินธรเน รวมทั้งตัวเล็กตัวน้อยตัวอื่นๆ
หน้าพิพิธภัณฑ์มีด้วงหนวดปมอย่างเท่ สงสัยหลุดมาจากยุคจูราสสิค
จากพิพิธภัณฑ์เดินผ่านศูนย์บริการนักท่องเที่ยวจะขึ้นไปชมหลุมขุดค้นได้ เปิดให้ชมสี่หลุมครับ คือหลุม 1, 2, 3 และ 9 บริเวณนี้มีสุสานหอย 130 ล้านปีด้วย เก่าแก่กว่าที่กระบี่กับเพชรบูรณ์เสียอีก แต่ไม่ได้ไปดูนะครับ เวลาไม่พอ แต่ละหลุมห่างกันเป็นกิโลๆอีกต่างหาก
วันนั้นเดินไปดูด้วยความอยากรู้แค่หลุม 3 หลุมเดียว หน้าตาจุดขุดค้นก็ประมาณนี้ครับ ดูแทบไม่ออกเลย เขาว่าเป็นชิ้นส่วนของไดโนเสาร์กินพืชประเภทซอโรพอด (พวกคอยาวๆ) น่ะ อายุ 130 ล้านปีครับ
กลับมาสาย 12 แล้วไปทางตะวันตกต่อ จนถึง อ.ชุมแพ ทริปนั้นเราขึ้นไปเที่ยวภูพระบาท ถ้าตั้งต้นที่ตัวเมืองขอนแก่นแล้วไม่ได้แวะภูเวียง ขึ้นสาย 2 ไปทางเมืองอุดรง่ายกว่ากันเยอะครับ แต่หนนี้อยากแวะเที่ยวเมืองโบราณโนนเมืองที่อำเภอชุมแพด้วย
เมืองโบราณโนนเมือง อยู่บนถนน 201 ใต้ตัว อ.ชุมแพนิดหน่อย เป็นที่อยู่ของคนโบราณ ขุดพบโครงกระดูกและข้าวของเครื่องใช้ที่ถูกฝังทับกันหลายชั้นหลายยุค ตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ตอนปลาย สมัยทวารวดี และสมัยขอม (2,500 - 800 ปีก่อน) ซึ่งตั้งแต่พระพุทธศาสนาเข้ามาในสมัยทวารวดีก็ไม่มีการฝังศพแต่ใช้เผาแทน โครงกระดูกที่พบจึงมีแต่ของยุคก่อนประวัติศาสตร์น่ะครับ ส่วนของยุคหลังๆมีแต่หลักฐานโบราณวัตถุ
ที่นี่มีอาคารคลุมหลุมขุดค้นทั้ง 7 แห่ง จัดแสดงได้น่าชมมาก ทุกชิ้นยังคงอยู่ในที่เดิมที่ถูกขุดพบเลย อีกแห่งที่คล้ายๆกันและน่าเที่ยวก็คือแหล่งโบราณคดีบ้านปราสาทที๋โคราช ไว้จะอัพบล็อกทีหลังครับ
ไหนๆก็มาขอนแก่นหลายรอบ กินไปก็หลายร้าน ขอยกสองร้านที่ชอบที่สุดมารีวิวแล้วกันครับ ร้านแรกข้าวต้มซ้ง 24 น. เป็นร้านข้าวต้มโต้รุ่งที่เมนูหลากหลายมาก ตั้งแต่เมนูที่พบได้ตามร้านข้าวต้มทั่วไปอย่างไข่เจียว ผัดผัก ต้มยำ ไส้พะโล้ แกงจืด ไปจนถึงเมนูภัตตาคาร ร้านตั้งอยู่ทั้งสองฝั่งถนนนะครับ คูหาเดิมไม่พอรับลูกค้าละ สำหรับเมนูเด็ดที่ขึ้นชื่อของร้านนี้ก็คือปูม้าแช่น้ำปลา ....ซึ่งผมไม่ได้สั่งหรอกกินไม่เป็น (แล้วจะบอกทำไม?) หมึกผัดไข่เค็มก็อร่อยนะครับ
โอเคปลาเผา ขายเมี่ยงปลาเผา และอาหารอีสาน รสชาติคนกรุงเทพกินได้ ปลาเผามีให้เลือกหลายไซส์ราคาไม่แพงครับ
อันที่จริงรอบบึงแก่นนครก็มีร้านดังที่น้องสะใภ้แนะนำอีกหลายร้าน แต่กล้องด๋อยมากยุคนั้นถ่ายอาหารตอนมืดๆออกมาเหมือนสิ่งปฏิกูล กลัวเอามาลงแล้วจะเป็นการไล่แขกร้านเขา ที่สำคัญหลายร้านก็เจ๊งไปหมดแล้ว (น้องสะใภ้ตัวซวย) รีวิวไปก็เท่านั้นจ้า
ขอนแก่นมีร้านอาหารเช้าที่ขึ้นชื่อก็เอมโอชเนี่ยครับที่คนขอนแก่นนิยมกิน ซึ่งบ้านผมกินแล้วก็ไม่รู้สึกอร่อยแต่อย่างใด ลองไปหลายอย่างนะครับ ทั้งไข่กระทะ (ซึ่งบังคับขายพร้อมขนมปังแปะหมูแห้งๆ) ก๋วยจั๊บไทย ก๋วยจั๊บญวณ โจ๊ก ฯลฯ ก็ยังไม่รู้สึกว่ามันอร่อยจนต้องกลายเป็นร้านดัง ขนาดไปขอนแก่นอีกรอบ เจออีกสาขา (นิวเอมโอช) ก็ลองเสี่ยงกินเพื่อความมั่นใจอีกทีก็ยังไม่อร่อย สงสัยจะไม่เข้าแนวเราจริงๆ
ส่วนอันนี้ตอนไปขอนแก่นครั้งแรกเลย ไก่ย่างเขาสวนกวาง คุ้นๆว่าอร่อย แต่จำชื่อร้านและรายละเอียดอื่นๆไม่ค่อยได้แล้วเลยไม่ขอรีวิวเช่นกัน
หมดแล้ว มั่วสิ้นดีจริงๆบล็อกนี้ เที่ยวได้กระจัดกระจายมาก แถมไม่ได้เห็นของขึ้นชื่อขอนแก่นอย่างดอกคูนเสียงแคนซักกะแอะ เป็นอันว่าขอนแก่นที่เที่ยวเยอะครับ รถก็ไม่แน่นมากแบบโคราช แถมอยู่ซะกลางภาคอีสาน ใครผ่านเที่ยวจังหวัดภาคอีสานไหนๆก็แวะเที่ยวขอนแก่นสะดวกดีนะ
Create Date : 10 มีนาคม 2560 |
|
52 comments |
Last Update : 10 มีนาคม 2560 22:54:43 น. |
Counter : 6507 Pageviews. |
|
|
|
|
ผู้โหวตบล็อกนี้... |
คุณtoor36, คุณhaiku, คุณรัชต์สารินท์, คุณmastana, คุณคนผ่านทางมาเจอ, คุณกะว่าก๋า, คุณบาบิบูเบะ...แปลงกายเป็นบูริน, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณmambymam, คุณsecreate, คุณอาจารย์สุวิมล, คุณThe Kop Civil, คุณภาวิดา คนบ้านป่า, คุณเรียวรุ้ง, คุณClose To Heaven, คุณไวน์กับสายน้ำ, คุณซองขาวเบอร์ 9, คุณข้ามขอบฟ้า, คุณkae+aoe, คุณทุเรียนกวน ป่วนรัก, คุณอุ้มสี, คุณสาวไกด์ใจซื่อ, คุณanigia, คุณสองแผ่นดิน, คุณtuk-tuk@korat, คุณRinsa Yoyolive, คุณกาบริเอล |
| |
โดย: คุณต่อ (toor36 ) 11 มีนาคม 2560 0:08:57 น. |
|
|
|
| |
โดย: mambymam 11 มีนาคม 2560 12:22:42 น. |
|
|
|
| |
โดย: mambymam 11 มีนาคม 2560 12:24:15 น. |
|
|
|
| |
โดย: secreate 11 มีนาคม 2560 13:16:24 น. |
|
|
|
| |
โดย: mastana 11 มีนาคม 2560 20:55:52 น. |
|
|
|
| |
โดย: mastana 11 มีนาคม 2560 21:05:23 น. |
|
|
|
| |
โดย: ออมอำพัน 12 มีนาคม 2560 14:50:03 น. |
|
|
|
| |
โดย: ภาวิดา (คนบ้านป่า ) 12 มีนาคม 2560 17:36:55 น. |
|
|
|
| |
โดย: คุณต่อ (toor36 ) 12 มีนาคม 2560 17:47:11 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 12 มีนาคม 2560 21:34:40 น. |
|
|
|
| |
โดย: kae+aoe 13 มีนาคม 2560 12:01:25 น. |
|
|
|
| |
โดย: อุ้มสี 14 มีนาคม 2560 1:39:54 น. |
|
|
|
| |
โดย: anigia 14 มีนาคม 2560 11:24:08 น. |
|
|
|
| |
โดย: mambymam 14 มีนาคม 2560 20:37:55 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 14 มีนาคม 2560 20:42:51 น. |
|
|
|
| |
โดย: กาบริเอล 16 มีนาคม 2560 14:48:59 น. |
|
|
|
|
|
สมัยก่อนเค้าอาจจะมองสิงโตเป็นแบบนั้น หรือไม่ก็โดนน้ำฝนหรือกาลเวลาทำให้เป็นแบบนั้นก็ได้ จริงๆ ไม่น่าทาสีใหม่เลย
เรื่องประวัติศาสตร์ ถ้าเก่ากว่ากรุงธนบุรี ความรู้ผมแทบจะเป็นศูนย์เลยครับ
นึกถึงเรื่องไดฌนเสาร์เหมือนกันแต่เค้าขึ้นชื่อเรื่องนี้จริงๆ นะ จะว่าไปไดโนเสาร์มันบูมขึ้นมาแบบสุดๆ ในสมัยจูราสิคปาร์คภาคแรกเลยล่ะครับ
ปิดท้ายด้วยการกิน กินหลากหลายเหมือนกันนะครับ