|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | 29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
ตลาดโบราณเมืองสุพรรณ
ช่วงที่สุพรรณกำลังแล้งๆนี้ชวนกันไปเที่ยวสุพรรณเป็นขวัญกำลังใจให้ชาวนากันเถอะครับ ปีก่อนพาเที่ยวเมืองโบราณของสุพรรณไปสองบล็อกรวด มาวันนี้ขอพาเที่ยวตลาดโบราณบ้าง
ช่วงหลังๆ ตลาดน้ำบูมขึ้นมาตามกระแสการท่องเที่ยวที่คนนิยมหวนระลึกถึงบรรยากาศเก่าๆ (แม้ว่าพวกเขาเหล่านั้นจะเกิดไม่ทันก็ตาม เช่นเดียวกับที่ชีริวชอบเที่ยวโบราณสถาน แม้จะเกิดไม่ทันยุคกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี) แต่ถ้าอยากเที่ยวตลาดน้ำหรือตลาดโบราณจริงๆก็ไปตามชุมชนอายุราวๆร้อยกว่าปีขึ้นไปที่เคยใช้เส้นทางน้ำเป้นเส้นทางคมนาคมหลักซึ่งภาคกลางตอนล่างนี้มีกันให้พรึ่บเลยละครับ กทม. เองก็มีตลาดตลิ่งชันกับตลาดคลองลัดมะยม แต่ที่ผมเห็นว่าน่าสนใจอยากจะหยิบจับมาเล่าให้ฟังก็คือตลาดเก่าของสุพรรณบุรีที่มีครบทุกรูปแบบทั้งตลาดโคตรอนุรักษ์อย่างตลาดเก้าห้อง ไปจนถึงตลาดเน้นขายนักท่องเที่ยวอย่างตลาดสามชุก ผมขอแบ่งตลาดโบราณเป็นสามจำพวกตามเกณฑ์สั่วๆของตัวเองครับ - ตลาดโบราณปลอม - ตลาดที่สร้างขึ้นเพื่อการท่องเที่ยวแล้วใส่บรรยากาศย้อนยุค เช่น ตลาดน้ำอโยธยา, ตลาดน้ำสี่ภาคพัทยา, ตลาดน้ำหัวหิน
- ตลาดโบราณบรรยากาศปลอม - ตลาดที่มีอายุเก่าแก่ แต่ถูกปรับปรุงเพื่อการท่องเที่ยวจนเปลี่ยนวิถีชีวิตของผู้คนและตัวตลาดแทบไม่เหลือสภาพเดิม เช่น ตลาดอัมพวา, ตลาดสามชุก
- ตลาดโบราณ - ตลาดโบราณที่ยังคงสภาพโบราณไว้ เช่น ตลาดเก้าห้อง, ตลาดศรีประจันต์, ตลาดศรีรายา
มาเลยมาสุพรรณกัน... เส้นทางยอดนิยมคือเส้นบางบัวทองครับ ตีเข้าเส้น 340 ผ่าน อ.ลาดบัวหลวง ดิ่งเข้าตัวเมืองสุพรรณ จะเจอ อ.บางปลาม้า ตอนใต้ของ อ.เมืองสุพรรณบุรีกันก่อนเลย ที่นี่มีตลาดเก้าห้อง เป็นตลาดโบราณที่อนุรักษ์สภาพเดิมไว้ได้อย่างถึงที่สุดราวกับถูกหยุดเวลาไว้หลายสิบปี เถ้าแก่บุญรอด เหลียงพานิช หรือนายฮง ชาวจีนได้มาทำงานค้าขายและสร้างโบสถ์แถวนี้ เขาได้แต่งงานกับลูกหลานขุนนาง ร่วมกันสร้างตลาดนี้ขึ้น โดยต่อแพค้าขายหน้าบ้านของตัวเองอยู่ริมแม่น้ำท่าจีนใกล้วัดลานคา หลังจากนั้นตลาดได้ย้ายขึ้นมาบนบกข้ามมายังอีกฝั่งของบ้านเก้าห้องในปี พ.ศ.2449 กลายเป็นที่ตั้งตลาดเก้าห้องในปัจจุบัน นับจนถึงวันนี้ตลาดบกเองก็มีอายุ 109 ปีแล้วครับ
ตลาดเก้าห้องแบ่งเป็นสามตลาด - ตลาดบน, ตลาดกลาง, ตลาดล่าง แต่ก็ไม่ได้ใหญ่โตอะไร แต่ละตลาดมีถนนเส้นเดียวและมีร้านอยู่สองข้างทาง ผมไปที่นี่สองครั้ง ครั้งแรกไปตอนบ่ายสองตลาดวายแล้วค่อนข้างซบเซา อีกรอบนึงไปตอนสิบโมง ก็ยังซบเซาอยู่ดี สรุปว่าตลาดนี้ซบเซาเหงาหงอยจริงๆครับ ตลาดนี้เคยเป็นศูนย์กลางการค้าขายของบางปลาม้าแถบตะวันตกในอดีต ปัจจุบันก็เปลี่ยนแปลงไปตามเวลา เหลือเพียงคนรุ่นเก่าที่ยังค้าขายในตลาดอยู่
ตลาดบนสร้างปี พ.ศ.2479 มีห้องแถวไม้โบราณตลอดสองข้างทาง เป็นจุดเรียกนักท่องเที่ยวเพราะสภาพดูได้ที่สุดในบรรดาสามตลาดครับ หน้าตลาดด้านบนติดฮู้ใหญ่โบราณ เพื่อป้องกันพลังด้านลบจากเมรุวัดลานคาที่หันมาหาตลาดนี้พอดี คุณยายเสื้อน้ำเงินในภาพนี่ละครับชี้ให้ดูกลัวเราจะพลาดจุดสนใจไป ผมจำคุณยายได้เพราะตอนมารอบสองผมพายาย (ยายจริงๆ) มาเที่ยวสุพรรณอยากซื้อครกไปใช้ที่บ้าน เลยแวะมาดูที่ร้านคุณยาย ซึ่งคุณยายทั้งสองยายก็รู้ว่าครกสมัยนี้ฝีมือสู้สมัยก่อนไม่ได้นะครับ นี่ละความละเอียดของคนรุ่นที่ตำเครื่องแกงได้ครึ่งค่อนวันกว่าจะทำกับข้าวให้หลานๆกินสักมื้อ
ภายในร้านประชานิยม อันนี้เข้ามาถ่ายเพราะคุณพี่เจ้าของร้านชวนให้เข้ามาถ่ายเลย อุตส่าห์เก็บของเก่าๆไว้มากมายเพราะรู้ว่านักท่องเที่ยวชอบ ไม่ซื้อของไม่เป็นไร อยากให้คนได้เห็นของเก่าของดี (ขอยืนยันว่าคนตลาดนี้น่ารักจริงๆ) ไฮไลต์ก็คือตู้เย็นใช้แก้สครับ เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยมีคนใช้แล้วนะ เปิดดูด้านในมีผลไม้ปลอมแช่ไว้ด้วย มั่นใจได้ว่ามีเพื่อโชว์จริงๆ
ที่นี่มีร้านขนมเปี๊ยะชื่อดังสองร้านคือตั้งกุ้ยกี่และตั้งเช่งกี่ที่ส่งออกขนมเปี๊ยะไปขายในหลายๆที่ ใครเคยกินทั้งสองร้านมาบรรยายให้ฟังหน่อยครับว่าร้านไหนรสชาติเป็นไงบ้าง ผมเคยซื้อตั้งกุ้ยกี่ก็อร่อยดี
ตลาดนี้ไม่ได้มีแต่คุณยายนะ เด็กๆก็มี
ตลาดกลางสร้างปี พ.ศ.2479 เดิมเป็นโรงสีของนายทองดี ซึ่งสภาพโรงสีก็ยังคงเดิม (ไม่เชื่อเลื่อนดูภาพด้านล่างครับ) ที่นี่นิยมใช้เป็นที่ถ่ายทำภาพยนตร์มาหลายเรื่อง ทั้งอั้งยี่ ลูกผู้บายพันธุ์มังกร ดงดอกเหมย อยู่กับก๋ง แม่เบี้ย เจ็ดประจัญบาน ฯลฯ เห็นเขาว่าเลี้ยงหมูป่าอ้วนเชื่องคนอยู่ตัวนึง แต่วันที่ผมไปไม่เจอแฮะ
ในตลาดกลางมีอาหารตามสั่งเก่าแก่หลายร้าน ขนมโบราณหากินยากๆก็มีครับ
ตลาดล่างสร้างปี พ.ศ.2449 เป็นตลาดบกแห่งแรกสุดที่เถ้าแก่ฮงสร้างขึ้น หลังย้ายมาจากตลาดแพหน้าบ้านเก้าห้อง จุดน่าสนใจของตลาดล่างคือหอดูโจร และพิพิธภัณฑ์ตลาดเก้าห้องที่ชาวบ้านร่วมใจกันสร้างขึ้น
ภาพด้านขวานี่หอดูโจรครับ สมัยก่อนโจรชุกชุมมาก เถ้าแก่ฮงเลยสร้างหอดูโจรขึ้นในปี พ.ศ.2477 มีทั้งช่องมอง และช่องส่องปืนซุ่มยิงโจร ช่วยลดขโมยขโจรไปได้เยอะเลย | | เจ๊เซียม ขายขนมโบราณหากินยากๆอย่างขนมไข่ปลา (ในกล่องสีเหลืองๆน่ะ) หนุบหนับๆอร่อยดีครับ ขนมสามัญอย่างขนมกล้วย ขนมเปียกปูน ก็มีนะ
ด้านหลังคือบ้านของเจ๊เซียมเอง มีของเก่าๆสะสมไว้เพียบ ร้านค้าในตลาดนี้หลายๆร้านก็มีของเก่าน่าดูน่าชม และทุกร้านจะเต็มใจให้เราเข้าไปถ่ายรูปได้เต็มที่เลยครับ ผมขอลงเรียกน้ำย่อยไว้ไม่กี่รูป เดี๋ยวสปอยล์มากไปจะไม่มีคนไปเที่ยวจริง ไปกันเถอะครับ ห้องแถวไม้เก่าๆ แสงลอดผ่านอ่อนๆ แบบนี้ถ้าได้ตากล้องขั้นเทพอย่างพวกสาย Travel หรือ Photo Blog เรานี่เก็บภาพกันมาได้งามหมดจดแน่นอน
และด้วยความที่ไม่มีผลประโยชน์มากระทบหรือถูกกระแสกาลเวลาทำให้เปลี่ยนแปลงไปแบบตลาดอื่นนี่แหละครับ ทำให้ที่นี่เป็นแหล่งท่องเที่ยวย้อนยุคในอดมคติแบบไม่ต้องกลัวเจอของปลอมเลย อาคารก็ของเดิม ขนม-อาหารที่ขายอยู่ก็สูตรดั้งเดิม แม่ค้าในตลาดก็เป็นคนเดิมมาเกือบร้อยปี ...เจ้ย!
ในปี 2553 ที่นี่ถูกน้ำท่วมหนัก และปี 2554 ก็เจอมหาอุทกภัยซ้ำอีกรอบ น้ำสูงประมาณเมตรนึง ยังหลงเหลือคราบอยู่เลยครับ ตึกนี้คือพิพิธภัณฑ์ตลาดเก้าห้อง เดิมทีเป็นร้านขายยาโบราณ แต่เจ้าของเก่าเสียชีวิตไปและลูกหลานที่เข้าไปทำงานที่กรุงเทพไม่คิดจะสานต่อกิจการ ผู้คนในชุมชนจึงร่วมกันออกค่าเช่าห้อง เปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ที่คนในชุมชนจะเอาของเก่ามารวบรวมไว้จัดแสดงให้นักท่องเที่ยวดู และคนบ้านใกล้เรือนเคียงก็จะสลับกันมาทำหน้าที่เฝ้าพิพิธภัณฑ์และคอยแนะนำนักท่องเที่ยว วันที่ผมไปคุณป้าร้านข้างๆเป็นคนเฝ้าพิพิธภัณฑ์ครับ เล่าเรื่องของตลาดเก้าห้องได้อย่างละเอียด ผมชอบไปเที่ยวที่ๆคนในท้องถิ่นมีความภาคภูมิใจกับบ้านเกิดเมืองนอนแบบนี้แหละ ^^ ยิ่งคนในท้องที่รักที่ๆเขาอยู่ก็แสดงว่าสถานที่นั้นมอบสิ่งดีๆให้พวกเขา และมันก็ชวนให้คนที่ไปเยี่ยมเยียนหลงรักที่แห่งนั้นไปด้วย
ผู้คนในตลาดเก้าห้องส่วนใหญ่เป็นลาวพวนที่มาตั้งรกรากบริเวณนี้ตั้งแต่สมัย ร.3 ผสมผสานกับชาวจีนที่เข้ามาค้าขาย คุณป้าเล่าว่าเธอเห็นบ้านเรือนเหล่านี้มาตั้งแต่สมัยเด็กๆ และตลาดแห่งนี้แทบไม่มีการเปลี่ยนแปลงเลย จะต่างกันก็แค่พื้นที่เคยเป็นทรายซึ่งคุณป้าและเพื่อนๆวิ่งเล่นเท้าเปล่ากันเดี๋ยวนี้ก็เปลี่ยนมาเทปูน เด็กๆในตลาดส่วนใหญ่ออกไปหางานทำที่อื่นกันหมดแล้ว เหลือเพียงคนรุ่นเก่าบางส่วนที่ต้องการอนุรักษ์ตลาดนี้ไว้ ที่นี่ไม่มีการสร้างอาคารใหม่ มีก็เพียงการบำรุงซ่อมแซมไม่ให้มันพังลงมา ดังนั้นอาคารทุกหลังที่เราเห็นนี่อายุรุ่นคุณยายทั้งนั้นละครับ
มองไปฝั่งตรงข้ามแม่น้ำท่าจีนนั่นละครับบ้านเก้าห้อง ที่มาของชื่อตลาดแห่งนี้ เป็นบ้านเรือนไทยใต้ถุนสูง ที่นี่คือบ้านของขุนกำแหงฤทธิ์ ซึ่งถูกใจความขยันหมั่นเพียรของนายฮง จึงยกหลานสาวให้แต่งงานด้วย และทั้งสองก็ร่วมกันสร้างตลาดแพขึ้นหน้าบ้านแห่งนี้เอง
ชีวิตของเถ้าแก่ฮงแม้จะร่ำรวยแต่ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ พอเปิดตลาดบนแพร่ำรวยได้สักพัก พวกโจรก็บุกมาปล้นบ้านและฆ่าภรรยาเถ้าแก่ฮงเสียชีวิต แต่พวกโจรก็ถูกรวบตัวได้ในวันรุ่งขึ้น เถ้าแก่ฮงได้แต่งงานกับภรรยาคนที่สอง และย้ายตลาดเก้าห้องขึ้นบกมาอยู่บนบกฝั่งตรงข้าม จนเป็นตลาดเก้าห้องในปัจจุบัน ส่วนพวกโจรปัจจุบันกลับตัวกลับใจไปบวชพระครับ ที่พิพิธภัณฑ์มีรูปให้ดู
จบไปหนึ่งตลาดเงียบๆน่ารักและอบอุ่น เรามาเพิ่มความคึกคักในตลาดที่สองกันต่อครับ คราวนี้มาที่ อ.ศรีประจันต์ ชื่อตลาดก็ตามชื่ออำเภอละจ้า ตลาดศรีประจันต์ ที่นี่อยู่ด้านเหนือของ อ.เมืองสุพรรณบุรี ส่วนใหญ่เราจะขับผ่านกันตอนจะไปดอนเจดีย์น่ะครับ
ตลาดศรีประจันต์อยู่ริมแม่น้ำท่าจีน ลำน้ำเส้นเดียวเลี้ยงสุพรรณจากเหนือจรดใต้มาแต่โบราณจริงๆ เดิมทีตลาดนี้เกิดจากชุมชนที่มาปักหลักขายของบริเวณท่าเรือริมแม่น้ำท่าจีน และในปี พ.ศ. 2493 ก็เริ่มมีการก่อสร้างห้องแถวไม้สองชั้นเป็นแนวยาวเรียงกัน ก่อนจะเปิดตลาดสดตรงกลาง และกลายเป็นตลาดศรีประจันต์มาจนทุกวันนี้
ตลาดนี้อายุร้อยกว่าปีแล้ว แต่ก็ยังคงมีการใช้งานเป็นตลาดจริงๆ ร้านรวงในตลาดปัจจุบันปิดตัวไปเยอะ คนเที่ยวก็น้อย ส่วนใหญ่จะเป็นชาวบ้านในชุมชนมาจ่ายตลาดมากกว่านักท่องเที่ยวครับ ร้านค้าเก่าแก่บางร้านเปิดให้เข้าไปชมของเก่าในร้านด้วยนะ
ที่นี่เป็นถิ่นกำเนิดของ ป.อ.ปยุตโต พระสงฆ์ที่โด่งดังสร้างผลงานหนังสือมากมายจนได้ชื่อว่าเป็นกวีแห่งพุทธศาสนา บ้านของท่านเรียกว่าบ้านท่านเจ้าคุณหรือชาติภูมิสถาน ป.อ.ปยุตโต เปิดให้เข้าชมฟรี (ปิดวันจันทร์) ภายในจัดแสดงภาพถ่ายและข้าวของเครื่องใช้สมัยก่อนไว้ มีห้องที่ท่านตอนเด็กๆใช้เป็นห้องเรียนสอนเด็กๆแถวบ้านด้วย
ด้านหลังตลาดติดแม่น้ำท่าจีนครับ มาให้อาหารปลาหรือจะนั่งเรือข้ามฟากไปวัดบ้านกร่างฝั่งตรงข้ามก็ได้ ตลาดศรีประจันต์ในมุมนี้ก็สวยดีนะ ได้เห็นวิถีชีวิตชาวบ้านริมน้ำ
เอ้า ขึ้นต่อมาทางเหนืออีกเยอะๆเลยครับ ที่ อ.สามชุก มีตลาดที่โด่งดังที่สุดของสุพรรณบุรีอย่างตลาดสามชุกอยู่ และน่าจะเป็นตลาดร้อยปีแห่งแรกๆที่บูมขึ้นมาทำเอากระแสเที่ยวตลาดโบราณเป็นเทรนด์ฮิตของนักเที่ยว และเกิดตลาดโบราณปลอมขึ้นมาเต็มบ้านเต็มเมือง อันที่จริงตลาดแห่งนี้เพิ่งจะบูมในช่วงสิบปีมานี้เองครับ
เดิมทีสามชุกเป็นเมืองท่าริมน้ำใช้ติดต่อค้าขายกับกรุงเทพ จนกระทั่งต้นพุทธศตวรรษที่ 26 เริ่มมีถนนหนทางมากขึ้น การค้าขายทางน้ำก็ซบเซาลงไป สามชุกก็เกือบจะเป็นเหมือนตลาดโบราณอีกหลายๆแห่งที่ถูกลืมไปตามกาลเวลา ราชพัสดุที่เป็นเจ้าของที่ดินคิดจะโละตลาดเก่าที่เสื่อมโทรมนี้ทิ้งซะ แต่ชาวบ้านในพื้นที่ได้ร่วมกันตั้งคณะกรรมการพัฒนาตลาดสามชุกในปี พ.ศ.2543 ฟื้นฟูประเพณี จัดกิจกรรม รีโนเวทอาคารบ้านเรือน ออกประชาสัมพันธ์ ฯลฯ สามชุกก็ฟื้นกลับมาคึกคักในเวลาอันรวดเร็ว จนกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ชื่อดังของสุพรรณบุรีไปเลย
นี่แหละพลังแห่งความร่วมมืออันยิ่งใหญ่ ...ย่อมมาพร้อมการเปลี่ยนแปลงอันใหญ่ยิ่ง พอตลาดสามชุกบูม นักท่องเที่ยวแห่กันเข้ามามากมายก็มีคนสนใจเข้ามาลงทุนเพิ่มมากขึ้น หลายๆร้านเป็นคนจากต่างถิ่นเข้ามาค้าขายในตลาด แยกออกด้วยความน่ารักเป็นกันเองของพวกพ่อค้าแม่ค้าครับ ถ้าเป็นคนท้องถิ่นก็จะน่ารักเหมือนอีกสองตลาดข้างบนนั่นแหละ แต่ถ้ามาจากกรุงเทพก็น่ารักเท่าพ่อค้าสำเพ็งจ้า ผมได้ยินเสียงผู้คนในตลาดอื่นๆมีทั้งบอกว่าไม่อยากเป็นแบบสามชุก บ้างก็บอกว่าสามชุกเขาได้ดีไปแล้ว เราจะค่อยๆตามไป อย่างไรก็นับว่าสามชุกประสบความสำเร็จในการเป็นตลาดท่องเที่ยว เช่นเดียวกับอัมพวาที่ตลาดน้ำเล็กๆอื่นๆจะเจริญรอยตามหรือหาอัตลักษณ์ที่แตกต่างก็ขึ้นกับผู้คนในตลาดนั้นละครับ เรามนุษย์เมืองจะไปบอกว่า "พวกเธอว์จงอนุรักษ์!" แล้วตัวเองแร่ดไปเที่ยวสามชุกกับอัมพวารัวๆเพราะตลาดโบราณแท้ๆมันซบเซาน่าเบื่อหน่ายมันก็ยังไงๆอยู่
กลางตลาดมีพิพิธภัณฑ์บ้านขุนจำนงจีนารักษ์อยู่ ขุนจำนงฯได้เช่าที่ราชพัสดุปลูกบ้านขึ้นในปี พ.ศ.2459 ประกอบอาชีพขายเหล้าขายฝิ่น (ตอนหลังประกาศห้ามสูบฝิ่นก็เปลี่ยนไปทำไร่แทน) ท่านเป็นผู้นำชุมชนช่วยเหลือผู้คนมากมายจนได้ยศท่านขุน คณะกรรมการพัฒนาตลาดสามชุกได้ปรับปรุงบ้านขุนจำนงฯ และเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ให้นักท่องเที่ยวเข้าชม มีการจัดแสดงประวัติขุนจำนงฯ และแนะนำร้านค้าต่างๆในตลาดสามชุก ชั้นบนแสดงข้าวของเครื่องใช้ของขุนจำนงฯ ด้วย
โรงแรมอุดมโชค โรงแรมเก่าแก่อันดับสองของตลาดสามชุก (อันดับหนึ่งคือโรงแรมสำราญรมย์ซึ่งปิดกิจการไปแล้ว) เจ้าของคนแรกเดินทางมาจากประเทศจีนราวๆร้อยปีก่อนมาเปิดโรงแรมขึ้น ปัจจุบันไม่ได้ให้เข้าพักนะครับ แต่เป็นร้านกาแฟ โชว์ของเก่าๆแทน
ลานโพธิ์ และศูนย์บริการนักท่องเที่ยว เคยเป็นที่ว่าการอำเภอสามชุกเก่า
จบแล้วครับสำหรับสามตลาดโบราณของสุพรรณบุรี สนใจเที่ยวตลาดแนวไหนกันมั่งเอ่ย...?
ถ้าคุณชอบท่องเที่ยวแนวอนุรักษ์ ชอบผู้คนใจดีเป็นกันเอง ตลาดเก้าห้องเป็นคำตอบสุดท้ายครับ
ถ้าคุณชอบสถานที่ท่องเที่ยวคึกคักมีร้านค้ามากมาย ตลาดสามชุกเป็นตัวเลือกที่ดีครับ
ถ้าคุณสนใจงานท่าน ป.อ.ปยุตโต ไปเที่ยวตลาดศรีประจันต์เลยครับ
ถ้าคุณชอบไดโนเสาร์ ไปดู Jurassic World ครับ ...ไม่เกี่ยวเลย!
Create Date : 25 มิถุนายน 2558 |
|
61 comments |
Last Update : 5 มีนาคม 2560 18:54:49 น. |
Counter : 3311 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: anigia 25 มิถุนายน 2558 22:38:15 น. |
|
|
|
| |
โดย: anigia 25 มิถุนายน 2558 22:42:33 น. |
|
|
|
| |
โดย: mambymam 26 มิถุนายน 2558 4:19:16 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 26 มิถุนายน 2558 7:23:58 น. |
|
|
|
| |
โดย: kae+aoe 26 มิถุนายน 2558 8:19:06 น. |
|
|
|
| |
โดย: PZOBRIAN 26 มิถุนายน 2558 10:41:47 น. |
|
|
|
| |
โดย: เนินน้ำ 26 มิถุนายน 2558 13:56:05 น. |
|
|
|
| |
โดย: อุ้มสี 26 มิถุนายน 2558 15:26:28 น. |
|
|
|
| |
โดย: sawkitty 26 มิถุนายน 2558 16:51:04 น. |
|
|
|
| |
โดย: ๐โอพีย์๐ (Opey ) 27 มิถุนายน 2558 2:35:33 น. |
|
|
|
| |
โดย: mambymam 27 มิถุนายน 2558 4:20:11 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 27 มิถุนายน 2558 6:31:17 น. |
|
|
|
| |
โดย: kae+aoe 27 มิถุนายน 2558 20:59:41 น. |
|
|
|
| |
โดย: เนินน้ำ 28 มิถุนายน 2558 0:12:18 น. |
|
|
|
| |
โดย: ๐โอพีย์๐ (Opey ) 28 มิถุนายน 2558 0:29:59 น. |
|
|
|
| |
โดย: คุณต่อ (toor36 ) 28 มิถุนายน 2558 0:37:42 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 28 มิถุนายน 2558 23:05:30 น. |
|
|
|
| |
โดย: Dondaran 29 มิถุนายน 2558 6:22:31 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 29 มิถุนายน 2558 7:31:49 น. |
|
|
|
| |
โดย: kae+aoe 29 มิถุนายน 2558 9:32:57 น. |
|
|
|
| |
โดย: mambymam 29 มิถุนายน 2558 11:33:02 น. |
|
|
|
| |
โดย: sawkitty 29 มิถุนายน 2558 17:02:51 น. |
|
|
|
| |
โดย: วรดา โชคปัญญากร IP: 171.6.176.152 29 มิถุนายน 2558 17:47:21 น. |
|
|
|
| |
โดย: คุณต่อ (toor36 ) 30 มิถุนายน 2558 0:08:51 น. |
|
|
|
| |
โดย: anigia 30 มิถุนายน 2558 22:47:34 น. |
|
|
|
| |
โดย: คุณต่อ (toor36 ) 30 มิถุนายน 2558 23:09:57 น. |
|
|
|
| |
โดย: ชีริว 30 มิถุนายน 2558 23:28:00 น. |
|
|
|
| |
โดย: kae+aoe 2 กรกฎาคม 2558 8:11:53 น. |
|
|
|
| |
โดย: tifun 2 กรกฎาคม 2558 13:42:47 น. |
|
|
|
| |
โดย: anigia 2 กรกฎาคม 2558 20:58:48 น. |
|
|
|
|
|
|
|
บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
กะว่าก๋า Literature Blog ดู Blog
ชีริว Travel Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น