No. 719 บล๊อกประจำวัน จันทร์ - พฤหัสบดี |
|
|
ย้อนไปหลายสิบปี เมื่อครั้งเป็น เด็กหนุ่มกระทง ยังไม่หลงทาง |
อยู่บ้านทรงโบราณ บ้านไม้หลังโต ฝาบ้านใช้ไม้แผ่นกว้างขนาด 30 ซ.ม สูง 3 เมตรได้มังครับ |
ไม้พื้นแผ่นโตสีคล้ำ ขัดมัน หลังคาเป็นกระเบื้องดินขอแผ่นเล็ก ไม่มีฝ้าเพดาน |
ตอนนั้นบ้านทันสมัยมีไฟฟ้าใช้แล้ว เคยปีนไปบนฝาบ้าน ปีนไปตรงไม้พาดกลางข้างบนฝาอีกด้านไป |
สายไฟที่ตีติดฝา กับโยงไปอีกห้อง เป็นสายไฟแข็งชนิด ใช้เส้นใยถักหุ้มยางอีกชั้น |
|
บ้านเราอยู่ติดคูเมืองเชียงใหม่ มีถนนพาดขวาง ริมคูน้ำเป็นกำแพงเมืองเชียงใหม่ที่หัก พังทลายพอเห็น |
เศษอิฐสีแดงแผ่นโตกว่า อิฐปัจจุบันหลายเท่า
|
เคยโหนเชือกที่ผูกไว้กับคาคบ ต้นฉำฉา กระโดดน้ำเล่นบ่อย ต้นนี้ใช่เลย อายุยืนจังเลย
ดำผุดดำว่ายสนุกมาก อีกฝั่งคูเมืองเป็นสำนักพิมพ์ |
เป็นที่ทำงานของนักข่าว นักหนังสือพิมพ์ ประเภทข่าวจังหวัด ออกตามหวยออก หุหุ |
มีเพื่อนพี่ ทำงานที่นั่นด้วย รู้จักในชื่อ สนิท ส. เคยฟังพี่เขาคุยบ่อย รู้แต่เพียงเป็นนักข่าว กับนักแต่งเพลง |
อีกหลายปีต่อมา อ๋อ สนิท ส.. คนนี้เองที่แต่ง เพลง วังบัวบาน |
|
คือตอนนั้นคนมีกะตังค์ใช้แต่แผ่นเสียงชนิด ใช้มือหมุน ๆ 555 คนมีฐานะดีจึงได้ฟังเพลงกัน |
เชียงใหม่ระหว่างนั้น มีความหนาว ๆ สุด ๆ
|
เรื่องอาบน้ำเหรอ สองสามวันอาบครั้ง ต้องตักน้ำใส่กาลามัง ตากแดด ตอนเย็น หนาวเย็นลงเรื่อย ๆ รีบ |
กลับบ้าน จะได้อาบน้ำที่ยังอุ่นให้ทัน... เกรงใจครูปรียา บ่นพวกผมว่า |
เต่าพวกเธอที่ มีกลิ่นแรงมาก นายประสิทธิ์ นายไวน์ เอาตังค์นี่ไปซื้อสารส้มร้านขายยา มาทาจักกะแร้ซะ |
หุ หุ ผมงี้อ๊าย อาย.. ต้องกลั้นใจอาบน้ำบ้างแหละ
|
|
กลางคืน พี่สาวสองคน พี่ชายอีกหนึ่ง จะนั่งล้อมกองไฟที่พวกเราก่อไว้ให้อบอุ่น แล้วนั่งคุยกัน
ใต้ถุนหลองข้าว..ไม่รู้จักเหรอ
|
หลองข้าวก็ ยุ้งข้าว สูงจากพื้น 2 เมตรข้างบนเขาเก็บข้าวเปลือกไว้
|
เราเอามันเทศ มันอะลู หมกขี้เถ้าให้ระอุ พอสุกได้ที่จะดังปุ ๆ หรือไม่ก็ฟี้ ๆ เขี่ยออกมาให้อุ่นแล้ว บิกิน
เพื่อน ๆ อยากทำตาม เอาไม้จิ้มมัน ก่อนเผาหรือหมกนะครับ ไม่งั้นมันจะระเบิดปุ๊.. เจ็บนะครับ
|
อร่อยสุด ๆ พร้อมกันนั้น มีเสียงเพลงด้วย ไม่เบาเลยแหละ |
|
เพื่อนพี่สาว เขาเป็นชายหนุ่มนัยตาบอดตั้งแต่เกิด อยู่เลยบ้านไปหน่อย จะนำไวโอลินมาเล่นที่บ้านเราบ่อย |
เสียงสีไวโอลินไพเราะ พริ้วหวาน
|
พี่สาว จะฮัมเพลงตาม เมื่อลมฝน บนฟ้า มาลิ่ว ต้นไม้พลิ้ง ลู่กิ่งใบ ภายหลังจึงทราบว่า เป็นเพลง พระราชนิพนธ์ ของในหลวง
รัชกาลที่ 9 ของพวกเรา..
|
พอพี่ร้องเพี้ยน พี่สีไวโอลินก็บอกว่า เอาใหม่นะ ร้องให้เสียงเท่า ๆ กับเสียงไวโอลิน
|
เอ้าร้องกันใหม่.... ส่วนผมนั่งเขี่ย ไม้ฟืน กับปิ้งข้าวเหนียวจี่ ที่ใช้ข้าวเหนียวปั้นยาว ๆ เสียบไม้ นำไข่ไก่ที่เลี้ยง |
ไว้ตีให้เข้ากันกับเกลือ ใช้ช้อนทาข้าวปิ้งไฟที่ระบุ เริ่มหอม กินซิครับ |
ก็ร้องไม่เป็นนี่นา แต่ฟังบ่อยมาก |
พี่นัยตาบอด จะเล่นเพลงอะไรไม่รู้ เสียงหวาน เย็น |
พี่บอกว่าเพลงชื่อ เทนเนสซี่ วอลซ์ แพตตี่ เพจ ร้อง แต่งโดย เร็ต สจ๊วต เนื้อเพลงรำพึงว่า หญิงสาวไปเต้นรำกับ |
คนรัก และเธอได้เจอเพื่อนเก่า เลยแนะนำคนรัก ให้รู้จัก แล้วต่อมาก็รู้ว่า เขากับเธอ(เพื่อนชอบกัน) |
เธอจึงเสียที่รัก ไปกับ เพื่อนรัก เศร้า...มาก ๆ |
|
(ไม่เหมือนเพลงวัยรุ่นสมัยนี้ พิธีกรบอกว่า เพลงเศร้า..ดนตรีก็ดังชนิด ตีกลองโฉ่งฉ่าง ตะลุ๊บ ตุ๊บ ๆนักร้อง ๆ เศร้าโว้ย ๆ ๆ |
Sheไม่รัก ก็ไม่บอก ร้องไป ใบหน้ายิ้มหัวเราะร่า..ฟังแล้ว ไงไม่รู้ซิ) |
|
พวกเรานั่งฟังเพลงไวโอลินกัน บ่อย พี่นัยตาบอด จะเล่นเพลงซ้ำ ๆ ไม่รู้ว่า พี่เขาชอบ หรือเล่นได้แค่นั้น หุ หุ |
เริ่มปากจัดมาตั้งแต่เด็ก รู้แต่ว่าเสียงไวโอลิน หวาน เศร้า... จำติดหูมาตลอด |
|
ต่อมา แม่เขาเจียดเงิน ซื้อวิทยุเครื่องเบ่อเริ่มน่าจะ ฟิลลิปมั้ง ช่างปีนพะองไม้ไผ่ ไปผูกเส้นลวด ต้นมะพร้าว |
หน้าบ้าน ไปโยงกับ ต้นปอสูงใหญ่ แล้วโยงสายเข้าสู่ วิทยุ |
เสียงแรก ที่ช่างเปิด น่าจะเป็นเสียง ผู้ดำเนินรายการเสียงทุ้ม จากค่ายทหาร กาวิละ โฮ้ย ดีใจกันมาก |
พวกเรามีวิทยุ ฟังแล้วโว้ย 555 |
กะว่าจะไปคุยฟุ้งที่ โรงเรียน ยุพราชที่ เรียนอยู่..... แล้วคนดำเนินรายการก็เปิดเพลงให้ฟัง แต่ให้ตายซิ |
จำจังหวะเพลงไม่ได้เลย.. ดูกระป๋อง ๆ ไงไม่รู้ น่าจะเป็นเสียงยาน ๆ เนิบ นาบ.. |
น่าง่วงนอน |
|
แต่เรายังติดใจพี่นัยตาบอด เสมอ... นั่งฟังเพลงใต้ถุนยุ้งข้าว กันบ่อยในค่ำคืนหนาว อันยาวนาน |
แต่ไม่เคยร้องเพลงหรือ ฮัมตามเลย |
และแล้วเกิด สนใจวงดนตรีของโรงเรียนยุพราชที่เรียนอยู่ โฮ เสียงตีกลองดังตุ้ม ๆ เสียงฉาบดัง |
ทรัมเป็ต พิคโคโล่ ฟลูทอันยาว เขาเล่น ซ้อมกัน น่าดู เท่ ไม่เบา
|
เลยเรียบ ๆ เคียง ๆ จะขอเล่นกับเขาบ้าง แฮ่.. ตอนนั้นเริ่มมี รุ่นพี่ สาว ๆ เรียนชั้น ม.7 หรือ ม.8 อยากสาวดูว่าเข้านั่น |
|
เลยไปสมัคร ครูดนตรีคงกลั้นใจ สอน ให้อ่านโน๊ต โด เร มี ฟา ซอล โด่.... หัดออกเสียง... แต่จำไม่ได้เลย
|
หัวผมช้ามาก ๆ ทั้งคณิตศาสตร์ หรือ เสียงดนตรีอะไรบ้าง ตอนนั้นก็ยังไม่รู้ว่า บันใดเสียง 5 เส้นหมายถึงอะไร |
ฝึกอ่านเขียน โน้ต โด่ หัวขาว คือ 4 จังหวะ หัวดำคือ 1 จังหวะ ขะเบ็ตมีหางห้อย ครึ่งจังหวะ
|
และแล้วครูก็ให้ ตีกลองแต๊ก ๆ ให้เข้ากับจังหวะ มาร์ช ในห้อง เขายังไม่ให้ตีกลอง เพราะกลองมีจำกัด |
เอาซิ..เหลาไม้เอง ไปเคาะจังหวะที่บ้านแทน
|
เวลากลางวัน เสาร์ อาทิตย์ ชาวบ้านคงมอง ๆ มันตีอะไรหว่า ยังไม่พอ ใช้ไม้ตีพื้นไม้เคาะจังหวะกลางคืน |
อีก แม่ กับพี่เขาห้ามก็ไม่ฟัง เพราะอยากตีเข้าจังหวะกับเพื่อน ๆ ได้ |
ผลคือ หลังคาเจอก้อนอิฐ เขวี้ยงใส่... อดเลยเรา 555
|
สรุปคือ เลิกเรียนดนตรี ไม่ได้เข้าวงดนตรีกับเขา เลย เศร้า...หรือเสียใจดี อดเล่นให้พี่สาว ๆ เขาดู เฮ้อ |
ไปเสริฟน้ำเย็นดีกว่า ให้ รุ่นพี่ สาว ๆ เขาเล่นบาสเก็ต ได้กลิ่นเต่า พี่เขาแรงมาก หนีซิครับ |
สาวแต่เต่าแรง มะอาว... นึกเลยว่า ครูปรียาคงเหม็นเต่า พวกเราแบบนี้เอง 555
เริ่มรู้แลัวว่า เราก้มดมจักกะแร้ตนเอง ไม่ได้กลิ่น คงชินกลิ่น คนอื่น....ได้กลิ่น ก็ อ๊วก.. |
|
วันหนึ่งในชั้นเรียน ม.4 ครูให้นักเรียนขึ้นร้องเพลงฝึกไปด้วย ที่หน้าห้อง ผมงี้ บิดไปบิดมา.. กลัว งะ.. แต่ก็ต้องขึ้นร้อง |
สูดหายใจ เอาวะ เราฟังเพลงมาเยอะ ฟังบ่อย ไปหน้าห้องแล้วร้องเพลง
|
ถึงม้วยดิน สิ้นฟ้า มหาสมุทร (คำมั่นสัญญา) ความที่ไม่เคยร้องเพลง แม้แต่ฮัมก็ไม่เคย เลยร้องเสียงดัง |
ด้วยเสียงสูง... ล่มครับ ๆ อายสุด ๆ เพื่อนปรบมือฮาตึง |
เข็ดครับ เข็ดจริง ๆ ให้ดิ้นตาย... เลยละทิ้งการร้องเพลงไปเลย
|
อีกหลายปีเข้าเรียนต่อในกรุงเทพ พักแถว ตรอกแม้นศรี.....แถวหน้าวัดสระเกศ ได้ยินเพลงในวิทยุ |
เปิดเพลงเรือนแพ คุณชรินทร์ร้องประกอบหนัง ชื่อเรื่องเดียวกัน บ่อย ไพเราะมาก |
เลยเปิดวิทยุฟัง แล้ว ฝึกร้องเพลง เรือนแพ...จนร้องคล่อง....ทีนี้ชาวบ้านกัน ไม่ว่าอะไรเลย |
หนึ่งในคนฟังเป็นหญิงจีน อาซิ้มฟันทอง ยกนิ้วให้ ลี ลี... อาตี๋ |
โห้ยปลื้มใจ ขนาดอาซิ้ม ยังชม |
ไปละครับ ขอไปชมรมดนตรีร่มไม้ในสวนที่ ผมกระแดะ ก่อตั้ง..9 ปีกว่าแล้ว. เพราะรู้ว่าเพื่อนแต่ละคน มีความรู้ด้านเสียง
ช่วยเหลือ ชมรมของพวกเราเลยผ่านมา ค่อนข้างดี
|
ดูภาพ เพื่อน ๆ เขาแต่งตัวแปลกตา ก็ดูแล้ว สวยตามวัย
ผู้ชายก็หล่อ แบบเหี่ยว ๆ หุ หุ
บอกเพื่อน ๆว่า ผมไม่ค่อยรู้เรื่องดนตรีนะ ให้สังเกตุ คนฟังว่า เขาชอบเพลงประเภทไหน ก็ร้องเพลงนั้นให้ดีที่สุด
เหมือนกันเราไปตกปลา เราชอบกิน สเต็กเอาสเต็กไปตก เขาไม่ชอบ แต่ปลาชอบกิน ปลาร้าก็ให้ป้อนเขาด้วยปลาร้า
ขณะจะขึ้นเวที ดูว่า คนดู อายุรุ่น ส.ว. เยอะไม่ควรนำเพลง วัยรุ่นขึ้นร้อง
|
ขอบคุณเพื่อนผู้เอื้อเฟื้อภาพ |
L 1,362,722 |
st. ผู้เข้าชม 1,359,972 |
= 2,750 |
งานเขียนประเภท Diarist |
|
สวัสดียามเช้าครับพี่ไวน์
ถ้าจำไม่ผิดคูเมืองแถวนั้นน่าจะอยู่แถวๆทางไปประตูเชียงใหม่ใช่ไหมครับพี่
แต่อยู่คนละฝั่งกัน
เชียงใหม่เมื่อตอนที่ผมมาอยู่ใหม่ๆ
สองทุ่มครึ่งนอนเล่นกลางถนนได้เลย
เพราะอยู่ในซอยไม่มีรถ บ้านเช้าหลังแรกของผมอยู่แถวกาดสมเพชรครับ
แล้วหน้าหนาวของเชียงใหม่นี่หนาวจริงๆ
สามสี่ปีหลังหน้าหนาวบางวันยังต้องเปิดแอร์เลยครับ 555
ไวโอลินถ้าเล่นดีดี
เศร้าเจียนขาดใจจริง
เสียงหวานเศร้าลึกๆ
ผมเคยอยากลองเล่น
แต่พอสีไปนิดเดียวทุกคนก็ขอให้หยุด
เลยกลับมาเล่นกีตาร์เหมือนเดิมจนถึงทุกวันนี้ครับ 555
โหวตครับพี่