No. 611 บล๊อกประจำ จันทร์ - พฤหัสบดี |
|
|
นั่งอ่านในเฟช เห็นเขาโพสต์ การทำไร่ ทำสวนเกษตร มีขายสินค้า แบบออนไลน์พวก |
กระเป๋า เครื่องสำอางค์ ใบหน้าอิ่มเอม กัน บางคนก็เผยว่า กำลังมีปัญหา ด้านขาย |
ก็สินค้า ด้านเกษตร |
ขายอย่างอื่น ปลื้มที่ยอดขายสูง บอกว่าเหนื่อย แพลมว่า สิบล้านแล้วจ้า 555 ยังกับวิธีโฆษณา
ของนักสร้างหนังไทย "ดอกดิน" สมัยโบราณ ล้านแล้วจ้า.. ยอมรับเลยว่า ใจเขาสู้มาก
|
|
เลยนึกย้อนหลังไปเมื่อปี 2538 - 2542 การค้าที่เคยรุ่งเรื่อง เปลี่ยนไป เพราะมีการ |
เก็งกำไรจาก การซื้อบ้าน ซื้อที่ดิน คนบ่น เรื่องการค้า ไม่ดีเลย แต่ราชการ ก็ยังบอกว่า ไทย |
ยังมีกำลังซื้อดีอยู่... แต่ผมนำ แอลซี เล็ตเตอร์ออฟเครดิต ไปแพคกิ้งเครดิตคือกู้เงิน กับธนาคาร ๆ ขอ งด |
ผจก.ธนาคารบอกเป็นการส่วนตัว ว่า ธนาคารมีเงินน้อย.. เฮ้อ |
|
ระยะนั้นทำงานโรงงานในนิคมบางปู ทำหน้าที่ GB เจอเนอรัลเบ๊ หน้าที่หลายอย่าง 555 |
มีคนสั่งสินค้าดี..มาก แต่เก็บเงินไม่ค่อยได้ |
บางราย เราส่งทีมงานไปติดตั้ง ชุดครัวฝรั่ง เราเรียกเงินมัดจำเพียง 25 % |
เมื่อ ขนของไปลงไซท์งาน ลูกค้าก็โอเค
|
ทีมงานเร่งงาน เก็บงานจนเสร็จ เนี๊ยบ... ทำแบบฟอร์มส่งงาน ให้ลูกค้าเซ็นรับงาน จะได้ |
ไปวางบิล ตามข้อตกลง |
แต่ลูกค้า อิดออด ไม่ค่อยยอมเซ็นรับงาน ไม่ว่างมา ตรวจงานแล้ว ต้องแก้ไข 3 ครั้ง |
ไม่ว่ากัน (แหะ ๆ ให้ได้ยิน) วางบิลได้ พอครบกำหนด นำเช็คไปขึ้นเงิน เด้ง..อีก |
ตามซิครับ |
ถ้าได้ลูกค้ารายย่อย ดีหน่อย เขามีเงิน ตกแต่งห้องครัว ใช้ของมียี่ห้อ แพง |
แต่เรา... ต้องใช้เงินสดซื้อ ของ ตปท.ที่มีไม่กี่บริษัท วงการค้าระยะนั้น เป็นแบบนั้นจริง ๆ |
เงินสดมันหายไปไหนไม่รู้... |
แต่เศรษฐกิจเมื่อก่อน เงินไม่มีในธนาคาร แตกต่างกับ เศรษฐกิจในปัจจุบัน ธนาคารมีเงินเยอะ ล้นเหลือ จนต้อง ลดดอกเบี้ย
จ่ายแก่ผู้ฝาก(คือพวกเรา) ระยะนี้คนเลยใช้เงินแบบระมัดระวัง... คนไม่ซื้อสินค้า รัฐก็ได้รับ ภาษีมูลค่าเพิ่ม น้อย..ลง
เท่ากับ คนมีเงินเยอะ(นายทุน)ไม่นำเงินลงทุนเพิ่ม
|
อาการเศรษฐกิจโดยรวม ทั่วไป แย่ (ไม่ใช่ตอนนี้ แหะ ๆ เจี๋ยว กลัวถูกเรียกไปปรับทัศนคติ) |
ยอดขายตก..อย่างน่าใจหาย แทบจะไม่มีงานให้ ช่างในโรงงานทำ |
เลยขอคณะกรรมการบริหารบริษัท ลดเวลาทำงาน
|
ผู้บริหารเห็นด้วย ให้ทำงานอาทิตย์ละ 3 วันและ เขา ขอลดค่าจ้างทุกคน |
ทุกคนโอเค ไม่ว่ากัน ลูกน้องใช้เวลาว่าง 4 วันไปวิ่งวินมอไซค์ ก็มี 555 สถานะการเงินยังไม่ดี |
อยู่นาน ปีกว่า หน้าแห้งเหี่ยวเป็นทิวแถว |
ไม่ไหวจริง ๆ เลยขอ บริษัทเลิกจ้าง พนง. และชดเชยการเลิกจ้าง เต็มตามอัตราจ้างก่อนลด |
พวกช่าง เขาจะยอมเหรอ |
ผมคุยกับ ช่างว่า จะจ่ายตาม พรบ.แรงงาน จ่ายเป็นเช็คล่วงหน้า 4 งวดให้แต่ละคน เขายอม |
งั้นโอเค เอาตามนั้น |
|
คงเหลือ ช่าง ที่เคยอยู่กันมานาน 8 คนไว้ ทำงานตามออเดอร์จาก ตปท. |
โชคดีที่มีเครื่องจักรดี ทำแทนคนได้เกือบหมด... แต่การเงินก็ยังไม่ดี ทุกคนก็ต้องหางานเสริม |
|
สนง.บัญชีส่วนตัวที่ทำควบคู่กันมา ลูกค้าปิดตัวเองเกือบหมด เหลือเพียง 3 บริษัท เก็บเงินได้ |
บ้าง ไม่ได้บ้าง เซ็ง.. เลยไปลงทุน |
|
ทำสวนที่ อ.แก่งหางแมว จันทบุรี เริ่มลงมือ ปลูกขนุน สะตอ เงาะ |
มังคุด มะม่วง น้อยหน่า ทะยอยปลูก พวกนี้แหละ กะว่าถ้า การค้าที่บริษัทไม่ไหว ก็ค่อยหอบหิ้วลูกเมีย |
ไปกิน ผัก กินหญ้า หาปูป่า เลี้ยงไก่ ในป่ากิน หุ หุ
(กะแบบนั้นจริง ๆ) |
....
.....
|
เข้าปีที่ 3 ขนุน มะม่วง เริ่มออก ลูก ก็ตัดลูกทิ้งบ้าง คือออกเยอะเกินกิ่งจะหัก ลูกจะเล็ก |
พ่อค้าที่เคยติดต่อว่าจะ ไปรับซื้อถึงที่สวน ก่อนจะทำสวน ก็หาตัวไม่เจอ
|
พอเจอตัว พ่อค้าอิดออด ไม่สนใจ ที่จะซื้อขนุน ทำใจ วิ่งหาตลาดเองที่ตลาดสี่มุมเมือง |
แถวบางกะปิ กับตลาดไท ดูเขาขายส่งกันแบบไหน
|
|
พอผลไม้เริ่มออก... มีทางเดียวก็ ตัดแจกเพื่อนแถวกรุงเทพ ไม่มีเวลาไปขาย นำไปฝากขาย |
กับคนรู้จัก เป็นมุสลิม แถว สวนสยาม ลำบากมาก อยู่กันพักใหญ่ งานโรงงานดีขึ้น |
ติดต่องานรับงานผลิต ส่งญี่ปุ่นได้เพิ่มอีก 6 เดือน ป้อนโรงงาน การค้าเริ่มดี
|
และแล้วก็ |
ถูกเรียกตัว ให้ไปรับงาน เรื่องภาษีกับวางระบบงานเงินของผับ บาร์ หนุ่ม ๆ และ ดารานักแสดง |
ร่วมกันเปิดผับ
พวกเขากลัวเรื่องภาษี |
เขาได้ยินชื่อเสีย เอ้ยชื่อเสียงของผมมาบ้าง เลยเรียกคุย |
|
วันนัดหลังเลิกงาน ขับรถจากนิคมบางปู ไปถนน เพชรบุรีตัดใหม่ เป็นผับ ที่เปิดใหม่ ดัดแปลงจาก |
อาคารเก่าสวยมีลานจอดรถกว้าง ส่วนที่ต่อเติม สียังใหม่
|
พอไปถึง หนุ่มสาวแต่งกายแบบ คนกลางคืนเหมือนกันคือ สีดำ เท่ สวยกันทั้งนั้น มาทัก |
ทาย เชิญไปนั่งที่ บาร์น้ำด้านนอกอาคาร ส่วนข้างในเขาทำการถ่ายโฆษณา การเปิดตัวผับ
(เป็นภาพแทนนะครับ)
|
|
หนุ่ม ๆ ชุดดำให้สัมภาษณ์ต่อหน้ากล้องถ่าย ทีละคน มีการจัดแสง |
เมคอัพหน้า ทั้งหญิง ชาย พูดได้นิด.. ก็หยุด เติมแต่งหน้าชาย ทรงผม กว่าจะเสร็จเกือบ |
สี่ทุ่ม..กองถ่ายเลิก พวกนายแบบ นางแบบ ก็เดินมาคุย |
พวกเขาเป็นหุ้นส่วน 10 กว่าคน
|
และพาผมเดินไปดู ผับ พวกห้องโถงเพลง ธรรมดา ห้องเธคที่เปิดเสียงดังสุด ๆ แสงไฟ |
วูบวาบ ห้องครัว ห้องน้ำ บาร์ ห้องสโตร์
|
วันนั้นมีลูกค้า มาเที่ยว ท่ามกลางแสงไฟสลัว เสียงดนตรี ดังเร้าใจมาก จากวงหนุ่ม |
ฟังตั้งนาน ไม่รู้ว่าเป็นเพลงไทย หรือสากล 555 |
|
คือเขาตกลง จ้างผมทำงานเรียบร้อย หลังจากคุยกันได้ไม่ถึง 10 นาที ผมรับปากว่าจะ |
จะมาทำงานกลางคืนให้ อาทิตย์ละ 2 วัน และจะส่งบัญชีกำไรขาดทุนทุกเดือน
|
และจะทำ โฟลว์ชาร์ท วิธีทำงาน ระบบงานการเงิน เป็นแนวทางให้ฝ่ายจัดการทำต่อ |
ระหว่างนั้น ผมสังเกต เห็นโต๊ะที่ลูกค้านั่งเป็น โต๊ะสูงเล็ก ๆ เก้าอี้ลูกค้านั่งเป็นไม้เปือย |
ไม่ทาสี ขรุขระ แบบเก้าอี้นักเรียน... ใจคิดเลยว่า
|
จะไหวเร้อ
|
ไปดูแล ได้ 2 คืน ตามที่พูดไว้ คืนนั้นนั่งทำงานที่บ้าน กัปตันโทรมาเล่าว่า นักเที่ยวกลุ่มใหญ่ |
ตบหน้าบ๋อย กับตบหน้า รปภ. แถมพูดว่า รู้ ปะ ก-รูลูกใคร จะปิดร้านไม่ให้ทำ.. |
|
ลูกคนดังด้วย แล้วผับจะเปิดขายได้หรือเปล่า นี่ซิ.. |
ยังคิดเลย โธ่ อดยากปากแห้งได้งานทำ ถึงคราวจอดอีกแล้วมั้ง |
ทำไงดี... |
|
ขอบคุณเพื่อนผู้เอื้อเฟื้อภาพ |
end 884,012 |
st. ผู้เข้าชม 881,832 |
= 2,180 คน |
งานเขียนประเภท Diarist |
|
สวัสดียามเช้าครับพี่ไวน์
ผมว่าสถานการณ์ประเทศในตอนนี้คล้ายๆช่วงฟองสบู่แตกครับพี่ไวน์
แบงค์ก็ไม่มีเงิน หรือมีแต่ไม่ปล่อยกู้
เกษตรก็ราคาตกต่ำ ภาคธุรกิจเอสเอ็มอีก็ร่วง
มีอยู่ไม่กี่ตระกูลที่รวยผูกขาดไปกับภาครัฐ
ร้านอาหารของดาราก็เปิดกันเยอะจริงๆครับในตอนนี้
ผมก็ว่าเหนื่อยเหมือนร้านในอดีตที่พี่ไวน์เล่าเลยครับ 5555
เพียงแต่ไม่มีใครเบ่งแล้วว่า "รู้มั้ยตรูลูกใคร"
เพราะเดี๋ยวนี้มีการถ่ายคลิปทุกสิ่งอย่าง 55555
ขึ้นถามแบบนั้น ได้ดังในโลกโซเชี่ยลแน่นอน 555
โหวตครับพี่