No. 710 บล๊อกประจำ ศุกร์ - อาทิตย์
ปกติ ทำอาหารกินที่บ้าน บางเวลาไปกินอาหารแบบข้างบนบ้าง ชีวิตพอเพียงหรือไม่
แล้วการใช้ชีวิตแบบ ข้างล่างนี้ ใช่หรือไม่....? |
|
|
ตั้งแต่เด็ก แม่ผมเลี้ยงพวกเราดีมาก มีข้าวให้กินทุกมื้อ อิ่มดีครับ |
ไม่ค่อยเดือนร้อนเท่าใด แต่คง มีปมด้อย เพราะที่ต้องเช่าบ้านอยู่ ด้วย มั้ง ? ที่มี เกินเพียงพอ คงเป็น กางเกงนักเรียน |
หุ หุ คือ ๆ เอวมันโต ขามันกว้าง เลยต้องใช้เชือกมัดให้แน่น กันมันหลุด 555 ดูแล้ว หัวเหม่งมาตั้งแต่เด็ก |
|
ใช้ชีวิตเดี่ยว ๆทำงานในจังหวัดต่าง ๆ แล้วเริ่มได้กินอาหาร เกินพอเพียงที่ น่าจะ เริ่มตั้งแต่บริษัท ให้ไปประจำสาขาพิษณุโลก |
พักข้างบนบริษัทกินอาหารจานเดี่ยว ณ ร้านข้าวหมูแดง หมูกรอบ
ก๊วยเตี๋ยวร้านมังกรไชย ข้าวหน้าเป็ด
|
ผัดไทย เส้นใหญ่ลาดหน้า ต้มเลือดหมู หน้าโรงหนังเจริญผล ใกล้วงเวียนกลางเมือง
|
วนเวียนแบบนี้ จนเอียน นาน ๆ จะไปกินน้ำพรรค์นั้น แถวบ้านคลอง หุ หุ ผลัดกันซื้อกระแช่ |
น้ำขาว เนื้อเค็มทอดเหนียว ๆ..ถ้ากลางคืนจะซื้ออาหารเลี้ยง พนง.ที่ช่วยเคลียงานให้ทัน
|
เดือนละ สองครั้ง เฉพาะวันปิดงบบัญชี เพื่อส่งสำนักงานใหญ่บริษัทที่กรุงเทพ |
ระยะนั้นบริษัท ให้ไปติดต่องาน ที่อุตรดิตถ์ ด้วย บ่อย เลยมีรายได้เพิ่ม อีกอย่าง ว่าที่ลูกสาวแม่ยาย ย้ายไปอยู่ที่นั่นด้วย |
|
|
|
ทั้งอุตรดิตถ์ มีแม่น้ำสายเดียวกัน คือ แม่น้ำน่าน ไหลลดเลี้ยว ผ่านเขา ท้องนา |
บ้านเรือน มาผ่านตัวเมืองพิษณุโลก |
|
อะ นิยายรักเกิดขึ้นที่พิษณุโลก แต่เป็นความจริงนะเออ ไปเหล่สาวไว้ที่นั่นรู้สึก รอบกายมี |
แต่สีชมพู พาแม่ไปสู่ขอ แล้วเราก็ได้แต่งงานกัน |
|
เช่าบ้านอยู่หลังวัดใหม่ แต่บ้านมันเก่าน่ากลัว ผีหลอก 555 เลยย้ายไปเช่าบ้านอยู่แถวหลัง |
ศาลากลางจังหวัด เป็นบ้านใหม่ หลังโต อยู่สบาย ๆ แต่
|
เราจะต้องเสียเงินค่าเช่าทุกเดือน 25 % ของเงินเดือน เสียดาย แต่มีความฝันมาตั้งแต่ |
เด็กว่า จะปลูกบ้านหลังน้อยชั้นเดียวอยู่บนเนินดิน เราน่าจะใช้เงิน 25 % ของเงินเดือนสร้างบ้านดีกว่า มีเงินออมไว้ไม่มากต้อง |
|
อดออมมากขึ้น ไปซื้อที่ดิน ร้อยกว่าตารางวา..เป็นเงินผ่อน ถนนศรีวิสุทธาราม เลยโคกมะตูม หลังบ้านเป็นทุ่งนา ข้าวสีเหลือง |
ทองถ้าเราปลูกบ้านหลังเล็ก ก็พออยู่
ตอนนั้นอายุ 20 กว่านิดหน่อย อีกอย่างคงจะ แก่แดด |
|
วันเสาร์ อาทิตย์ปั่นจักรยานจากบ้านหลังศาลากลาง ไปฟันหญ้าในที่ดิน จะปลูกบ้านกลางที่ดิน แต่มีต้นตาลอยู่กลางที่ดิน
ขอบคุณคุณสมศักดิ์ ด้วยนะครับ เป็นต้นตาลที่คล้ายกันมาก
|
|
ไปยืมขวานโยนก็ขวานใหญ่มีด้ามยาว ไปตัดต้นตาลสูงใหญ่
|
เวลาโยนหน้าขวานที่คมไปถูกเปลือกที่แข็ง กระเด้งกลับต้องโยนซ้ำ ๆ ที่เดิมหลายครั้ง เปลือกแข็ง |
ค่อย ๆ หลุด.. จนเหลือเนื้อลำต้นเหมือนเนื้อไม้ทั่วไป
|
ฟันบากไปข้างหนึ่ง จะให้ต้นตาลล้มไปยังทิศที่ต้องการ และก็ล้มได้ตามที่จะให้ล้ม |
ทำคนเดียว 3 วันจึงสำเร็จ ฝ่ามือที่ เคยทำในออฟฟิศ บวมช้ำ เจ็บไปหมด |
|
จะปลูกบ้านแบบกระท่อม พออยู่กันสองคน มีห้องน้ำ ห้องนั่งเล่น ห้องครัว ห้องน้ำก็พอ |
|
ผู้ใหญ่ที่รู้จัก บอกว่า คุณไวน์ จะปลูกบ้าน ต้องมีเงินกองไว้หน้าตัก สูงหลายนิ้ว จึงจะปลูกได้นะ
|
แต่ผู้ใหญ่หญิงผู้นั้นยังเช่าบ้าน อยู่ริมแม่น้ำน่าน
ผมคิดแย้งในใจ ไม่จริง... ไม่ต้องคิดแบบนั้น |
|
ปรึกษา ลูกสาวแม่ยาย เราจะปลูกบ้านหลังเล็ก ซื้อไม้จากคนมีสี ที่เขาบอกว่า มีไม้เป็นของ |
เขาเอง ขนให้ถึงที่ สมุห์ปลูกบ้านได้เลย ราคา........ บาท คิดแล้ว น่าจะดี
|
จะได้ตัดค่าเช่า จะลำบากหน่อยที่ไม่มีเงินเก็บ ก็หลายปี เราต้องงดไปงานเลี้ยงบางงาน แต่ใส่ซอง |
ช่วยงานเขาไปตามปกติทุกงาน แต่เราจะกินอยู่ตามปกตินะ |
|
ว่าจ้างครูออง เหมาค่าแรงปลูกกระท่อม แห่งความฝัน เตี้ยมกันไว้เลย เสาไม้ซื้อจากร้านไม้ |
ส่วนไม้พื้น ไม้ฝา โครงหลังคาใช้ไม้ คนมีสี
|
ครูออง ขุดหลุม ฝังเสาไม้ ขึ้นโครง... พอรถขนไม้คนมีสีมาถึง ครูก็จัดการปลูกต่อ |
ครูอองวาง ไม้พื้น แล้วใช้ตาปูตี น้ำของไม้ปูดมาตาม ตาปูที่แทรก แสดงความสดของไม้ |
ปลูกบ้านด้วยไม้สด ครูออง ใช้แคล้มเหล็กบีบอัดตอกตรึงตาปู เมื่อไม้แห้งคงจะห่างเล็กน้อย |
|
ส่วนห้องน้ำห้อง ผมขุดด้วยตนเอง ในวันหยุด เพราะอยู่นอกเหนือราคาค่าแรงเหมาปลูกบ้าน |
ใช้เวลาขุด 3 วันลึกแค่คอ..ลงถังบ่อเกรอะบ่อซึม
|
วางหัวส้วมเสร็จ ครูอองจัดการ เทพื้นปูน ทำฝาห้องน้ำจนแล้วเสร็จ แต่ทั้งบ้านยังไม่ได้ติด ประตูหน้าต่างเลย ประหยัดไม่ต้อง
จ่ายค่าเช่า อีกเดือน เลยย้ายเข้าไปอยู่ วันนั้น ฝนตกหนัก สาดเข้าบ้าน ต้องใช้เสื่อรำแพน ตีปิดหน้าต่าง ประตูไว้ ประตูหน้าต่าง
สั่งทางรถไฟ ที่แพร่ยังไม่มา อยู่อย่างพอเพียง มิให้เปียกไปก่อน
|
|
เราอยู่บ้านหลังเล็กอย่างมีความสุข หน้าบ้านปลูกไม้ดอก จำได้ว่าเป็นดอกฟอร์เก็ตมีน๊อต |
สีม่วงที่เขาเรียกว่า แวววิเชียร กุหลาบ หลังบ้านปลูกผักสวนครัว
|
เพื่อน ๆ ที่บริษัทไปเยี่ยม ทำอาหารเลี้ยงกัน แล้วนั่งดูท้องนา ฤดูฝนจะเห็นท้องนาเป็นสีเขียวสดใส สวย |
|
เราอยู่กันอย่างพอเพียง อาหารไม่ต้องห่วง น้าหญิงกับ ลูกสาวแม่ยายจัดการทำทุกวัน |
ไม่อดอยากเลย.. วันว่างก็ไปหาปลา ในทุ่งนา(คนอื่น)
|
นึกย้อนหลัง เวลาช่างตอกตาปูลงที่ไม้ มีน้ำปูดออกมาด้วยคงเป็นไม้เถื่อนแน่เลย ก็ผมไม่รู้นี่ครับ |
ป่านนี้ขาดอายุความ ไปนานแล้ว อีกทั้ง แหะ ๆ กระท่อมน้อยนั้น ผมรื้อออกหมด เพราะเราย้ายไปอยู่กรุงเทพหลายปี
|
แล้วสร้างบ้านหลังค่อนข้างโตแทนหลังเดิม มีห้องนอน ห้องต่าง ๆ ทั้งบนทั้งล่าง 9 ห้อง สองห้องน้ำที่จอดรถให้เขาเช่า |
เก็บตังค์ไว้ใช้ ซื้อปิ๊ดซ่า กะ ขนมจีบแล้วครับ 555
แต่ปัจจุบัน เสียดาย พื้นที่หลังบ้านที่เป็นทุ่งนา กลายเป็นบ้านคน ไปหมดแล้ว บ้านอยู่หลังธนาคารกรุงศรีอยุธยานั่นใช่เลย
|
|
การอยู่ การกิน แบบชาวบ้านทั่วไป มีความสุขแบบ พอเพียง ไม่เดือดร้อนอะไรเลย |
ใช้ชีวิต ไปงานเลี้ยง ใช้ภาษีสังคม ไปท่องเที่ยวต่างจังหวัด ไปต่างประเทศเช่นเดียวกับคนอื่น |
ส่วนอาหารนอกบ้าน ไปบ้างนะครับ กินบ่อย อ้วน ไม่สบายเนื้อตัว
ไปเที่ยวต่างประเทศ ยังอดไปดู ชีวิตคนธรรมดา แบบข้างล่างนี้ |
|
|
|
การทำงาน การอยู่ การกิน การครองชีพแบบที่ผมเล่าข้างบน เป็น ชีวิตที่ พอเพียง หรือไม่... นั่นซิ |
มีหลุด หรือเข้าสู่อบายมุข บ้าง ไปกินอาหารร้านหรู แพงบ้าง เพื่อผ่อนคลาย.. ผมว่า ก็ ดีนะ เพื่อนว่า จริง หรือเปล่า...
|
|
ขอบคุณเพื่อนผู้เอื้อเฟื้อภาพ |
L 1,335,312 |
st. ผู้เข้าชม 1,333,309 |
= 2,003 |
งานเขียนประเภท Diarist |
|
รอตั้งนาน
รอว่าเมื่อไหร่พี่ไวน์จะเล่า Love Story
มาเจอใน ตะพาบ 208 ชีวิตพอเพียง นี่เอง
กระท่อมน้อยปลายนา
เอ๊ย !! หน้าท้องนา
ด้วยน้ำพักน้ำแรง
สุดสอดจริงๆค่ะ