No. 687 บล๊อกประจำ ศุกร์ - อาทิตย์ |
|
|
ระยะนี้ คิดถึงจังหวัดที่เคยอยู่มาตั้งแต่เด็ก อากาศหนาว ฤดูร้อน ก็เจอ ลมฤดูร้อนแรงมาก |
หลังคาบ้านกระเบื้องดินเผาแผ่นเล็ก คนเชียงใหม่ชอบใช้มุงหลังคา
|
เรียกว่า "ดินขอ" หลุดหายไปเป็นแถบ บางปีหมดบ้าน พวกเราต้องนอนแอบริมห้องที่ไม่ |
เปียก หลบฝนที่ร่วงพรู ยามฝนซา จะเห็นแสงแวบมาแล้ว เสียงดังเปรี้ยงตาม |
ฝนเริ่มจะหยุดตก...กว่าเจ้าของบ้านจะปูกระเบื้องหลังคาก็หลายวัน เราเช่าบ้าน เขาอยู่ นอนดูดาวไปก่อน หุ หุ |
ลักษณะบ้านคล้าย บ้านโบราณข้างล่าง
|
แต่ไม่กี่ปีมานี้ ดูข่าวทีวี กับดูข่าวผ่านเน็ต มีคนคัดค้านการสร้างบ้านข้าราชการ |
รุกล้ำเข้าส่วนหนึ่งของเทือกเขาดอยสุเทพ มีคนโพสต์ข้อความคัดค้านการใช้พื้นที่ดอย |
บางคนต่อว่า ค่อนข้างรุนแรง
|
ตอนนั้นใจคิดเลยว่า อืม..ราชการน่าจะมีกฏหมายรองรับ การใช้พื้นที่ แต่ไม่เห็นเอกสาร ไม่กี่วัน |
ได้รับการตอบโต้จากข้างราชการ ว่าจะฟ้องดำเนินคดีผู้ให้ข่าวอันเป็นเท็จ |
ยอมรับเลยว่า กลัวคนให้ข่าว หรือคัดค้าน จะถูกฟ้อง ยิ่งกว่า พายุฤดูร้อนของเชียงใหม่
จริงนะครับ พวกเรา ๆ เปรียบเสมือนคนไม่ค่อยมีเงิน เช่าบ้านเขาอยู่ ต้องรอความเมตตา |
|
เริ่มสนใจ พื้นที่ เอะ อยู่ตรงไหน เลยเข้าดูภาพถ่ายดาวเทียมกูเกิ้ล อ้อตรงนี้เอง |
ยอมรับว่า เสียดายพื้นที่มาก แต่ใจก็คิดแล้วว่า หน่วยงานรัฐคงได้ งบประมาณเข้าสภาจึงจะ |
สร้างได้.. เราคงต้องดูการต่อสู้ จะเห็น ข้าราชการเปรียบเสมือน มวยหลัก ส่วนคนที่คัดค้านร้องเรียน |
น่าจะเป็นมวยแย๊ป.. คงจะถูกน๊อคได้ง่าย |
ฟอร์มมวยจะแย๊บ ๆ เคลื่อนที่สวย ถูกใจคนดูทั่วไป แต่ถ้าเซียนมวยที่ชอบพนัน ย่อมจะถือ |
หางมวยหลัก โอกาศได้เงินพนันมากกว่า |
|
เอะ คุณไวน์ นี่เชียร์ใครแน่
อะ ๆ บอกได้แต่เพียงว่า แล้วกรรมการบนเวที เป็นใครมาจากไหน
|
เป็นคนดูทั่วไปทางทีวี การพนันไม่ข้องแวะ แต่นึกเสียดาย ไม่มีคือ ส.ส. คอยเป็นปากเสียงให้ |
|
วันนี้เลย นั่งนึกดอยสุเทพ ครั้งยังเป็นเด็ก ดอยไม่ไกลจากบ้านมากนัก แต่ก็หลายกิโลเมตร |
ผู้ใหญ่เล่าให้ฟังว่า บนดอยจะมีวัด ดอยสุเทพอยู่ท่ามกลางป่าไม้ ทึบ มีต้นไม้ใหญ่มาก ๆ สูงชลูด
|
ก้อนหินจะมีตะไคร่น้ำสีเขียว กิ่งไม้จะมี หนวดเคราฤาษีพาดแขวน
|
ต้องบอกเลยว่า อยากจะเห็นสภาพป่าแบบนั้นบ้าง เขาว่า ข้างบนอากาศหนาวมาก สภาพป่าทึบ |
ยืนบนวัดจะเห็นกิ่งก่าบินได้ ถลาร่อนจากต้นไม้สูง ลงสู่กิ่งไม้ที่ต่ำกว่า |
ฝันอยากจะเห็นแบบนั้นบ้าง
|
|
|
พวกเราอยู่ในเมือง มีอากาศหนาวมาก ๆ ต้องปั่นจักรยานไปโรงเรียนฝ่า สายหมอก |
ที่ปกคลุมไปทั่วเมืองเชียงใหม่ แสงอาทิตย์เริ่มสาดเป็นลำสู่พื้นดิน หมอกที่เริ่มลอยเป็นแผ่น
|
บางเป็นชั้น สวย.. ถึงโรงเรียนต้องรีบจอดจักรยาน วิ่งเข้าหากองไฟที่เพื่อน ๆ นั่งล้อมผิงไฟ |
|
ตอนเย็นกลับบ้านจะปั่นจักรยาน แวะดูปลา ตัวเล็ก ๆ ว่ายไปมา ในร่องน้ำแคบ ๆ ที่ |
เคียงคู่ไปกับถนน แถวบ้าน
|
กลางคืน เราจะอยู่ในบ้าน อบอุ่นดีหน่อย แม่จะเล่าให้ฟังว่า บนดอยสุเทพใคร ๆ ก็อยากไป |
สมัยแม่เข้ามาใหม่ จะมีรถยนต์ ของเจ็ก(อาเจ็ก)หมาแดง คอยบริการพาคนขึ้นดอยสุเทพ |
เป็นรถสี่ล้อ มีหลังคา หน้ายาวแบบที่เรียกว่า รถขนหมู |
|
ฟังแม่เล่าตื่นเต้นดี ถนนที่ขึ้นดอยสุเทพ |
ตุ๊เจ้าครูบาศรีวิชัย ริเริ่มชักชวน ประชาชน กำนันผู้ใหญ่บ้าน ทำถนนด้วยแรงกาย สองมือ |
ของแต่ละคน ขุดดิน มีคนไปร่วมเยอะมาก และกว่าจะเสร็จก็นานหลายปี
|
แม้จะเป็นถนนเล็ก ๆ ไม่ได้ลาดยาง พารา อุ๊บส์... เผลอไป 555 คือเป็นถนนดินลูกรังสีแดง |
ทำให้คนไปนมัสการพระธาตดอยสุเทพสดวกขึ้น |
|
พวกผมจะเป็นกลุ่มเด็กหนุ่มที่เริ่มแตกพาน ไม่ได้แตกเนื้อสาวนะเออ.. คือมีกล้ามเนื้อที่แข็งแรง |
จากการเล่นฟุตบอล วิ่งแข่ง เชียร์สาวรุ่นพี่เล่นบาสเก็ตบอล เริ่มสนใจสิ่งสวยงาม
|
ชอบดูครับ แหะ ๆ พี่ ๆ เขารูปร่างดี เวลาแครี่ ลูกบาส โห สวยงาม อยากใกล้ชิดสาว ๆ |
เลยหยิบแก้วน้ำเย็นไปส่งให้ พี่สาวคนสวย |
แต่ให้ตายซิ พอส่งแก้วน้ำให้ เห็นพี่เขาหายใจสะท้อน อก ขึ้นลง หยาดเหงื่อหยด ยิ้มให้ ผมต้องรีบเดินหนี |
กลัวครับ กลิ่นเต่าพี่แรงมาก 555 |
|
พวกเราวางแผน จะเดินขึ้นดอยสุเทพ แบบรุ่นพี่ ๆ จะได้เห็นป่าไม้ ต้นไม้สูง |
มีเคราฤาษี เกสรต้นชมภูป่าสีชมภูปนขาว
ร่วงสู่พื้นสวยงาม แหะ ๆ เริ่มเห็นอะไรสวย ๆ |
แล้วนะเออ.... เราเตรียมตัวไปกันล่วงหน้าเป็นเดือน |
|
ระยะนั้นถนนไปดอยสุเทพ ยังเป็นถนนเล็กลาดยางมะตอย รถวิ่งสวนไปมา มีน้ำจากห้วยแก้ว |
ไหลในร่องน้ำเล็ก ๆ ขนานไปสองข้างทาง |
|
|
ภาพนี้ผมก๊อบจากเน็ตมา จากไหนจำไม่ได้แล้ว แต่เคยเห็นว่า คุณตุ๊ก ตุ๊ก โคราชนำมาลง |
เป็นคนแรก เลยขออนุญาตคุณตุ๊ก คนเจียงใหม่ไปอยู่โคราชเน่อครับ |
|
คืนเดือนเพ็ญ ตอนสี่ทุ่ม พวกเราต่างไปยืนคอยกัน ที่แจ่งหัวริน เป็นภาพกลางวัน ตอนนั้นเรื่องถ่ายรูปเรื่องใหญ่ไม่มีเงินซื้อกล้อง
หนุ่มสาวไปกันเยอะมาก
|
หนึ่งในนั้นคือ ประสิทธิ์ สวาทญาติ จรูญตั๋น ตั๋นชื่อพ่อมันนะครับ 555 |
ณรงค์ ป๊อก แฮ่..ตัวมันต่ำเตี้ย เลยเรียกว่า "ป๊อก" กับเพื่อนอีกหลายคน น่าจะมี ไกรทอง |
เอ้ย กำธร เชื้อเจ็ดตนอยู่ด้วย... ทดสอบไฟฉายแต่ละคน คนมันไม่มีเงินซื้อไฟฉายจะถือ |
ขี้ย้า (ขี้ใต้) ไม้ขีด เทียนไขดุ้นโตไปด้วย |
|
เรามาพร้อมกันแล้ว ก็เดินเท้า ท่ามกลางความมืด หนาว...มาก ๆ มู่งสู่ |
ห้วยแก้ว ตัดเข้าสู่น้ำตก ไต่ดอยเป็นทางเดินป่าเล็ก ๆ
สู่ วังบัวบาน ตอนนั้นไม่กลัวผีบัวบาน |
หญิงสาวที่กระโดดน้ำตายที่นั่น เราอยู่กันเยอะ อีกอย่างคนตายก็ตายไปนาน เป็นคนรุ่นเดียว |
กับแม่เรา.. เริ่มสู่ ผาลาด ตรงผาลาดเจอถนนดินลูกรัง |
เรามิได้เดินตามถนนที่ครูบาสร้าง เลยหยุดพัก นอนเอาแรงนิด เหนื่อยครับ หนาวก็หนาว จะต้องเดินในความมืดผ่านลำห้วย
|
แต่ส่วนใหญ่ ไต่ขึ้นดอย โหนกิ่งไม้ ต้นไม้ เถาวัลย์ ถ้ากลางวันจะสวยแบบนี้ แต่กลางคืน มืดมองไม่เห็นอะไร
|
อ้าว ๆ เขียนเพลิน ดูแล้ว 80 บรรทัด เหมาะสมแล้ว แม้จะมีกฏของบล๊อกแก๊งให้สิทธิ์ไว้ |
เดี๋ยวจะหาว่า ผม บุกรุกพื้นดินบนดอย เอ้ย บุกรุกพื้นที่บล๊อก จนเพื่อนอ่านแล้วเมื่อยตา |
เพื่อนบางคนอาจ ทนอ่านได้ 5 บันทัดก็คลิ๊กหนีแล้ว 555 ไม่ว่ากัน |
|
ขอบคุณเพื่อนผู้เอื้อเฟื้อภาพ |
L 1,280,955 |
st. ผู้เข้าชม 1,279,107 |
= 1,848 |
งานเขียนประเภท Diarist |
|