No. 641 บล๊อกประจำ จันทร์ - พฤหัสบดี |
|
ประเทศไทยเจริญด้านเศรษฐกิจ หลายปี มีการจ้างงาน มีการลงทุนเพิ่มมาก
|
จนกระทั่งเกิด ต้มยำกุ้ง เพราะคนเก็งกำไรค้าที่ดิน คอนโด รัฐอู้ฟู่เงินเยอะจากเก็บภาษี |
สถาบันการเงินไทย นำเงินเข้าจาก ตปท.มาปล่อยกู้ต่อ เงินมีน้อยเพราะไปอยู่ใน |
สิ่งก่อสร้าง สร้างต่อไม่ได้ กิจการส่วนใหญ่ แย่ เศร้า...
เอาละซี คนไม่มีเงินก็ไม่ซื้อ ไม่จ่าย ไม่เที่ยว รัฐเลยเก็บภาษีได้น้อย แต่ |
รายจ่ายเงินเดือนข้าราชการ ประจำ คงที่ ลดไม่ได้ |
|
ส่วนปัจจุบัน กลับกัน สถาบันการเงินมีเงินเยอะ จะปล่อยให้กู้ก็ไม่ดี..ไม่ค่อยมีคนลงทุน. เลยลดต้นทุน |
จ่ายดอกเบี้ยให้ ลูกค้าเงินฝากประจำ 1 % กว่า ๆ ต่อปี โครงการลงขนาดใหญ่ ไม่มี |
คนทั่วไปก็จ่ายเงิน ซื้อของหรือใช้น้อยลง เอาละซี ภาษีก็ต้องลดน้อยลง |
แต่รายจ่ายเงินเดือนข้าราชการ ประจำ คงที่ อีกแหละ |
|
ย้อนหลังไปตอนต้มยำกุ้ง ผมเองลดเงินเดือนเหลือครึ่งเดียว ถูกตัดเงินค่าน้ำมัน ค่ารับรองหมด ใจฝ่อ |
เลยใช้เวลาวันเสาร์อาทิตย์ ไปบุกเบิก ทำสวนผลไม้ ที่จันทบุรี |
|
ไม่ได้รวยนะเออ บังเอิญเพื่อนชาวสุพรรณบุรี ไม่มีเงินใช้หนี้ เลยยกที่ดินในป่ายางพาราให้แทนแต่ต้องจ่ายเงินเพิ่ม |
อีกหลาย....ผมดูแล้ว ที่ดินมีค่าน้อย มีแต่ป่าหญ้า แต่รูปที่ดินสวย มีลำห้วยไหลผ่าน เลยตัดสินใจกำอึ ดีกว่า กำ ตด หยาบ |
หน่อยคิดว่า ต้องทำสวนผลไม้ เพราะ |
ก. กะว่า ถ้าอยู่ กท.ไม่ได้ เจ้าหนี้มาทวงบ่อย หลบไปอยู่ในป่า จันทบุรี ปลูกผักกาด คะน้า |
หอม จับกบ เขียดเลี้ยงไก่ เลี้ยงปลา ให้ครอบครัวจะได้กิน ไม่อดตาย |
|
ข. ที่ดินว่างเปล่ามีแต่หญ้า ถ้าปลูกผลไม้ไว้ มูลค่าที่ดินจะสูง โอกาศขายได้ มีแน่นอน |
อันนี้สำคัญที่สุด |
ก่อนทำมีคนค่อนแขะ จะไหวเร้อ ทำบัญชีจะไปทำไร่ มือไม่เคยจับจอบ จับเสียม ดายหญ้า |
เจอแดดก็เป็นลม |
คือเพื่อนสองคนนี้ เป็นลูกจ้างเขา ไม่เคยขายของ หรือขายอะไร คงพูดไม่รู้เรื่อง ช่างมัน หุ หุ |
เราใช้สมอง และแรงกายบางส่วนทำสวนนี่นา |
|
ละแวกนั้น เขาทำ ป่ายางพารา 90 % มีปลูกผลไม้ พริกไทยบ้าง ถ้าปลูก |
ยางพาราโตอีก 7 ปีจะกรีดยางได้ ทำเป็นแผ่นแล้วขายได้ ก.ก.ละ 16 - 18 บาทปีหนึ่งกรีดได้ |
ไม่กี่เดือน ต้องให้ต้นยางพักฟื้น จากใบร่วง
ตัดสินใจไม่ปลูกยางเด็ดขาด |
|
เลยปลูก ขนุนพันธ์ทองประเสริฐ มะม่วงสามสายพันธ์ สะตอดาน เงาะ อย่างละ 5 ไร่ที่เหลือปลูก |
กล้วย ชะอม มังคุด น้อยหน่า ให้เต็ม 32 ไร่ ทะยอยปลูก ใช้เวลารวม 2 ปี ต้องรอฝนด้วยก็ปลูกครบ |
|
วันธรรมดาก็ทำงานในโรงงาน วันศุกร์ เดินทางไปจันทบุรี ไปดูคนงาน กินนอนที่นั่น |
เช้ามืดวันจันทร์ ตีรถเข้า นิคมบางปู ไปทำงาน.. ใช้เวลา ไม่ถึง 3 ชม.ก็ทัน |
นั่งฝันหวาน... กะว่า 3 - 5 ปีผลไม้ออก จะได้ขาย |
|
ระยะนั้น ติดต่อขายที่สวน จัดทำวิดิโอ แผ่นผับ ตั้งค่านายหน้า..ไม่น่าเชื่อ ขายที่ไม่ได้ เงียบฉี่ นานหลายปี |
|
ทำงานอยู่กับบริษัทที่เดิม อย่างเหนียวแน่น เกาะขานายไม่ปล่อย หุ หุ สามปีกว่า
|
เศรษฐกิจทั่วไปเริ่มดี มีคนตามตัว ให้ไปทำงานด้านบัญชี แบบทั่วไปส่งงบการเงินปีละครั้ง กับแบบ ส่งงบการเงิน ทุกเดือน |
ผับ บาร์ ร้านอาหาร โมเดลลิ่ง นำเนื้อจาก ตปท. ร้านทอง บริษัทนำทองเข้า บริษัทรับก่อสร้าง |
รับทำงานให้ 20 กว่าแห่ง อัตราค่าจ้างทำบัญชี ต่างกันเยอะ |
ต้นผลไม้เริ่มติดผล ออกเยอะขึ้น นำใส่รถไปขายได้บ้าง เหลือบ้าง แจกบ้าง แบ่งเวลาทำงาน |
ไม่ได้เลย ทำไงดี คือ ไม่มีเวลา ทำงาน |
ลูกสาวแม่ยายก็ด่า ว่า กระแดะปลูกผลไม้แล้วเป็นไง ไม่มีปัญหาขาย หุ หุ |
|
ระยะนั้น ดูข่าว ฟังข่าว ตปท.ด้านอุตสาหกรรมต่าง ๆ รวมทั้งยานยนต์ ดูดีขึ้น |
รัฐบาลชุดนั้น ค้าขายเป็น
|
ผมเลยคิด โค่นต้นผลไม้ออกทั้งหมด
สวนมะม่วง 5 ไร่ ต้นขนาดนี่
สวนสะตอ บังเอิญค้นภาพไม่เจอ เลยใช้ภาพข้างล่างนี้แทน ต้นโตกว่าที่ผมปลูก ต้องโค่นทิ้งอีก 5 ไร่
ส่วนเงาะ ยังเล็กสูงท่วมหัว ส่วนน้อยหน่า ออกลูกแล้ว อร่อย มีเพียง 2 ไร่ ต้องไถทิ้ง
ใช่ครับ เป็นการตัดสินใจพลาดที่ทำสวนผลไม้ แต่ไม่ท้อ กะจะขายที่ดินให้ได้ |
เริ่มศึกษาพันธ์ยางพารา ที่ดินของเราเป็นที่เอียงลาด มีที่ลุ่มน้อย
|
ต้องใช้พันธ์ 600 สอบราคาบริการ รถไถ รถขุด ..ได้ราคามาหมด รวมทั้งราคาพันธ์ยาง |
มีใบกิ่งเป็น 2 ฉัตร คือยอดแตกเป็น 2 ชั้นแล้วตกต้นละ 19 บาท |
|
เลยสั่งกิ่งพันธ์ยาง จ่ายเงินมัดจำไว้ ล่วงหน้า ไม่งั้นไม่ได้กิ่งพันธ์ ต้องใช้เวลาหลายเดือน |
|
จ้างรถแทรกเตอร์ ดันต้นผลไม้ ล้ม ใช้รถดุนต้อนไปสุมริมสวน ทิ้งให้แห้งแล้ว เผา |
|
พอเริ่มฝนตก จ้างรถขุดแบคโฮเล็ก ใช้บุ้งกี๋เหล็ก ขุดหลุมเพื่อปลูกยางพารา ภาพรถข้างล่างเป็นภาพแทน แต่ขนาดรถ เท่ากัน
|
รถขุดเล็กก็ ใช้ขุดดินขึ้นหลุมละ 5 บาท 2,400 กว่าหลุม คนงานที่จ้างก็ เอายาฟูราดาน |
ใส่ก้นหลุม ป้องกันปลวก ให้ฝนตกชะให้เปียกดินก็ดูดซึมยาเก็บไว้ |
|
เทปุ๋ยยางลงก้นหลุม ก็ลงกิ่งพันธ์ยาง ฝนโปรยปราย ความเย็นแผ่สร้านไปทั่ว |
อีกเดือนต่อมาเห็นยาง ตั้งตัวใบเริ่มเขียวเข้ม บางต้นแทงยอดใบใหม่ เป็นทิวแถวโห..ชื่นใจ
แต่ลมแรง เลยต้องปักไม้ไผ่ผูกไว้ ใช้ไม้ไผ่อีก 2,000 กว่าอัน หมดเงินอีก
|
แต่ต้องจ้างคนเฝ้า ป้องกันคนลักขุดต้นยางเล็กไปขายต่อ |
ระยะนั้น ตลาดรับซื้อยางแผ่น ตก กก.ละ 80 - 100 บาท ชาวสวนที่มีสวนเริ่มยิ้ม |
อะ..ผมก็เริ่มยิ้ม มีความหวัง กับเขาบ้าง |
ปลูกยางได้ 5 เดือน ได้รับโทรศัพท์ ขอซื้อที่ดินสวนยางทั้ง 32 ไร่ |
เจรจากันสองครั้ง เขามัดจำตามข้อตกลง... นัดทำสัญญาโอนที่ดินให้ทันทีที่ได้รับเงินหมด |
เป็น เงินสดเราใช้วิธีโอนผ่านบัญชีธนาคาร ไม่ถึงครึ่ง ชม.ก็เสร็จ |
|
มีคนถามว่าเสียดายที่ดินหรือเปล่า ไม่เลย ขายที่ได้ก็เอาตังค์ใช้หนี้หมด ส่วนเงินลงทุนทำต้นผลไม้
หักกลบแล้ว กำไร..
|
จ่ายค่านายหน้า 3 % เสร็จ นายหน้ายิ้ม ส่วนผมเหลือบ้านสวนหลังเล็ก กับที่ดินอีกแปลง |
ใกล้กับแปลงที่ขาย แม้ไม่อยู่ใกล้ลำธาร ก็น่าอยู่ ไว้ไปนอนพัก... ก็พอใจ.. |
เสียดาย ต้นสะตอ 5 ไร่เท่านั้นแหละ หุ หุ
|
นึกถึงปัจจุบัน โชคดีที่ขายที่ดินไร่ยางพาราได้ ไม่งั้นเก็กซิม ราคายางลดลงเหลือ ก.ก.ละ |
ไม่กี่บาท ด้วยสาเหตุใด..ไม่ต้องบอกนะ
|
เดี๋ยวจะหาว่าด่า บ้านเมือง รู้ ๆ กันอยู่..
|
การตัดสินใจ กับ จังหวะชีวิตสำคัญที่สุด |
ขอบคุณเพื่อนผู้เอื้อเฟื้อภาพ |
end 1,021,122 |
st. จำนวนผู้ชม 1,008,288 |
= 12,834 |
งานเขียนประเภท Diarist |
ตามมาอ่านด้วยคะ..
ถ้าขายได้..ก็ขายที่ไปเถอะ..
นายหน้าได้ 3%เชียว..
โหวตให้เลยคะ