No. 672 บล๊อกประจำวัน ศุกร์ - จันทร์ |
|
เช้ามืดในฤดูหนาวที่หนาวเหน็บของ อ.ปาย แม่ปลุกลูก ๆ ทั้งสามคนขึ้นจากที่นอน |
แสงตะเกียงวับแวมสลัวเห็นพี่แข. พี่สาวคนโตกำลังช่วยแม่ ห่อข้าวด้วยใบตองแห้ง
|
เสียงกระดิ่งม้าต่าง เสียงม้าสบัดหาง สลับกับเสียงหายใจฟืดฟาดของม้า หลายตัว ชะโงกไปดู |
ผู้ชาย 4 คนนำ ของใช้ พาดหลังม้า ดึงสายรัดทึบ ให้แน่นกับตัวม้า
อยู่บนลานดินหลังบ้าน |
แม่เรียกพี่ชาย กับพี่สาวคนรอง ดูการสวมเสื้อผ้าให้แน่น ใช่ครับ เราเสียพ่อไป เราต้องอพยพ |
บ้านไปอยู่เชียงใหม่
|
แสงไฟวับแวม เห็นใบหน้าแม่เรียบเฉย มีน้ำตาค่อย ๆ ไหลลงร่องแก้ม
|
พวกเราลง เดินผ่านชานบ้าน ลงบันใดสู่ลานดิน เสียงเพื่อน ๆ ของแม่พูดคุย รอพวกเราเดินทาง |
แม่หันกลับ ยืนดูบ้านที่เคยอยู่ จำต้องเปลี่ยนมือให้ คนอื่น เพื่อจะได้นำเงินมา |
เลี้ยงดูลูกที่กำลังจะโต |
|
พวกเราถูกกอดรัดจาก น้า ๆ ป้า ๆ คนละหลายที บางคนนำขนมชิ้น เล็กยัดใส่มือ ป้าคนหนึ่ง นำผ้าห่มผืนเล็ก หุ้มพันตัวให้ ตูน ๆ ตัวเล็กที่สุด |
ป้า ๆ น้า ๆ ยืนร้องให้ ทำเอาต้องกลั้นน้ำตาไว้มิให้ไหล |
|
แม่บอกพวกเราว่า เราขาดพ่อ ไม่เป็นไร เราต้องอยู่ได้ แม่จะพากลับไปหา คุณตาที่เชียงใหม่ |
บ้านที่ดิน ที่นา ต้องขายให้คนอื่นไป สินค้าพวกดินสอ สมุด ของในร้านจำต้องฝากคนอื่นช่วย |
เก็บไว้ขายแล้วค่อยส่งให้แม่
|
คนที่อยู่ด้วย เช่น ขมุ หรือ อ้ายคำช่างตัดผม แม่ให้เงินนิดหน่อยไป หากินกันเอง อ้ายคำเป็น |
ช่างตัดผม เป็นคนติดยาฝิ่นเวลายืนตัดผม ยืนหลับบ้าง ชาวบ้านต้องคอยกระตุกผ้าให้เริ่มตัด |
ช่างมีทั้งอำเภอมีคนเดียว
|
แม่พยักหน้า ให้ นายฮ้อยหัวหน้าม้าต่าง เริ่มเดินทาง พวกเราโบกมือลาคนส่งเกือบ 30 คน |
แสงแรกของวันเริ่มส่องสว่าง เห็นน้ำตาของผู้ใหญ่ รวมทั้งแม่ ไหลเอ่อ ใช้มือเช็ดออก |
แม่ตัดใจจูงมือเดินตามคนอื่นไป |
|
ใช่แล้วครับ อ.ปายตอนนั้น ยังไม่มีรถยนต์วิ่ง ต้องใช้ม้าต่าง วัวต่างบันทุกของ ลัดเลาะไปตาม |
ร่องเขา ข้ามห้วยลำธาร จะมีถนนดินลูกรังสีแดง ร่องน้ำตัดผ่าขาดเป็นระยะ |
จำได้ว่า ม้าต่างจะเดินช้า ๆ และหยุดพักให้ม้ากินน้ำในลำห้วย
|
ตูนกับพี่ชายอายุต่างกัน 2 ปี เดินไม่ค่อยไหว ยังเล็กขาสั้น เดินเท้าเปล่า แม่ให้คนคุมม้าต่าง |
|
จับใส่หลังม้าแกลบ จูงเดินโยกไปเยกมาเจ็บก้นมาก หลังม้ามีเพียงกระสอบป่านคลุม |
บางครั้งจับตัวตูน เปอะใส่หลัง แบบขี่โก่ง ค่อยสบายหน่อย ยังจำกลิ่นเหงื่อของน้าผู้ชาย |
แม้อากาศจะหนาวเย็น แต่ร่างกายต้องใช้กล้ามเนื้ออย่างหนักขึ้นดอย
|
เย็นวันแรก ของการเดินทางหัวหน้าม้าต่างแวะหยุดพักค้างคืน ริมลำห้วยที่มีน้ำไหลริน ต่างคนนำ |
ของลงจากหลังม้า จูงม้าไปกินน้ำผูกไว้กับต้นไม้ริมลำห้วย |
|
เทข้าวโพดแห้งจากถุงผ้ายาว ๆ ให้ม้ากินตัวละไม่มาก แล้วไปหาหญ้า สด |
ให้ม้ากิน... อีกคน 2 คนตัดไม้ไผ่ |
มาทำเพิงหมาแหงน หลังคาใช้ใบตองกล้วยป่าสด มุงกันน้ำค้างตกให้พวกเราพักนอนค้างคืน |
|
แม่ ขา คิดถึงบ้าน อยากอยู่บ้าน อยากอาบน้ำที่บ่อน้ำ. พี่ฟ้า พี่สาวคนรองพูดปนสะอื้น |
แม่นั่งเตรียมหุงข้าว ใช้มือป้องเป่าไฟให้ลุก หันหน้ามาปลอบ |
|
เราจำเป็นต้องย้ายไปอยู่เชียงใหม่นะฟ้า ลูกจะได้เรียนหนังสือ ถ้าเรียนเก่งจะได้สบายนะลูก |
อย่างตูน จะได้เป็น นายอำเภอแบบคุณตาไง ดีไหม |
|
ตูนพยักหน้า นึกถึงคุณตาเดินไปตามตลาด ชาวบ้านจะทรุดตัวนั่งยอง ๆ ยกมือไหว้เป็นแถว |
แม่ กับพี่สาวคนโต ทำกับข้าวกันเงียบ ๆ |
|
ทำให้นึกถึง บ้านหลังโตมีบริเวณกว้าง ที่บ้านเป็นร้านขายของจากเชียงใหม่ สมุดดินสอ แม้ |
แม้กระทั่งน้ำตาลอ้อยเป็น แผ่นหนากลม ยาสูบ |
|
เวลาแม่ ขายของ หรือเย็บผ้าในเวลาว่าง ตูนก็จะลงเล่นน้ำในร่องหน้าบ้านข้างถนน น้ำใสไหล |
มาจาก วัดน้ำฮูที่อยู่ไกลผ่าน ทุ่งนาบ้านคน ในน้ำจะมีปลาสีขาวว่ายวิ่งไปมา |
ตูนคิดถึงบ้านเหรอลูก |
ครับแม่ |
แม่ใช้ฝาหม้อพัดไฟฟืนให้ลุก ควันลอยถูกหน้าแม่เป็นบางครั้ง แม่ใช้นิ้วมือ เช็ดน้ำตาที่ไหลริน |
เรา 5 คนนั่งล้อมวงกินข้าว กับเนื้อเค็มกันเงียบ ๆ ส่วนนายฮ้อยหัวหน้าม้าต่างกับลูกน้อง |
คนแยกไปกินต่างหาก |
|
แสงไฟตะเกียงรั้ววับแวม ส่องสว่างสลัวเพียงวงกว้างไม่เกิน สองเมตรหันไปมองรอบกาย มีแต่ |
ความมืด จากต้นไม้ในป่า อากาศเริ่มหนาวเย็นลงเรื่อย ๆ กินอิ่มก็ลุกไปล้างมือที่ริมห้วยที่มือ |
|
นายฮ้อยก่อกองไฟ ช่วยให้สว่างขึ้นมาก เราต่างนั่งผิงไฟให้อุ่น แม่นั่งกอดตูน เล่าว่า |
พวกเราจะย้ายไปอยู่บ้านเช่า ใกล้บ้านคุณตา(ขุนศรีสวัสดิ์ สวัสดิพงษ์) แม่จะเปิดร้านเล็ก ๆขายของ |
กับร้บจ้างเย็บผ้าเหมือนเดิม |
ลูก ๆ จะลำบากหน่อย แต่ได้เรียนหนังสือ แม้ทุกคนจะเสีย พ่อไปแล้วแต่ไม่เป็นไร ที่เชียงใหม่ |
ต้องดีกว่า อ.ปายแน่นอน เอาละเข้านอนกัน
|
|
แม่นอนริมสุด พี่สาวคนโต คนรอง กับพี่ชายนอนติดกับตูน ใช้ผ้าต๊วบ(ผ้าห่ม) ซ้อนกัน 3 ผืนอุ่น |
|
หัวหน้าม้าต่าง บอกแม่ว่า คุณนายไม่ต้องห่วงอะไร พวกเขาจะคอยเติมฟืนให้ลุกสว่างทั้งคืน |
นอนหลับให้สบาย |
พวกเรานอนหลับไปนานแสนนาน แต่หลังของตูนหนาวเย็น พี่ชายคงจะดึงผ้าห่มม้วนตัว |
เกิดช่องว่างอากาศหนาวเข้าจับ ตูนค่อย ๆ ดึงกลับมาห่มผ้าเงียบ ๆ |
|
เสียงสะอื้นร้องให้จากแม่ดัง แม่คงจะว้าเหว่ ต้องเลี้ยงพวกเรา 4 คน ต้องย้ายไปเช่า |
บ้านที่ไหนไม่รู้ สงสารแม่.....ที่สุด แม่เดินลำบากกว่าเพื่อน เพราะมีน้อง อยู่ในท้อง อีกไม่กี่เดือนก็
ลืมตาดูโลก แม้เราจะเล็กมาก ๆ ยังจำฝังใจ
|
เสียงน้ำในลำห้วยไหล จุ๋งจิ๋ง สลับกับเสียงม้า สบัดหาง ฟืดฟาด ทุกสิ่งค่อย ๆ เงียบ..ไปพร้อม |
กับ ความมืด หลับ...ไปนานแสนนาน |
เช้าตรู่วันแรก ของการพักแรมในป่า ตื่นขึ้นมา สดชื่นมากมายมองรอบกาย เห็นป่าไม้ อากาศที่ |
หนาวเย็น... นายฮ้อยหัวหน้าม้าต่างกำลังหุงข้าว ลูกน้องกำลังนำของขึ้นหลังม้าแกลบ |
ส่วนพวกเรา บางคนก็ไปหา ดอกไม้ ยิงกระต่ายกันในป่า อันนี้จากความทรงจำ..ไม่ค่อยรู้สึก |
ทุกร้อนเท่าใด |
|
ท่ามกลางแสงแรกของวัน ใบหน้าของแม่ ดูยิ้มแย้ม นั่งม้วนผ้าห่มมัดให้แน่น รอส่งให้คนคุม |
ม้าไปมัดติดกับตัวม้า.อีก 3 คืนพวกเราจึงจะเดินทางถึง อ.แม่แตงเชียงใหม่ แล้วนั่งรถยนต์ต่อ |
เข้าตัวเชียงใหม่..
ภาพข้างล่าง เป็นที่ ตูน เกิดจากท้องแม่ บ้านหลังเดิมที่เป็นร้านค้า ถูกรื้อ สร้างใหม่ ที่ดินและบ้าน คงเปลี่ยนมือหลายครั้งแล้ว
|
นั่นเป็นความทรงจำที่ดี บางครั้งก็เศร้า.... หลังจากนั้นอีกหลายสิบปี ตูน กับแม่ พี่น้อง ลูก |
พาแม่กลับไปเที่ยว อ.ปาย บ้านเกิดของตูน แต่ละคนดูสดชื่นที่ได้ยืนอยู่ริมน้ำปาย
ครอบครัว เรากลับไปเที่ยวหลายครั้ง ภาพข้างล่างถ่าย ถนนหน้ารีสอร์ทที่พัก
่
|
ชีวิตของแม่และพวกเรา มีการเปลี่ยนแปลงดีขึ้น
|
อ้อ..เพื่อน ๆ คงสงสัยว่า ตูนจะได้เป็นนายอำเภอหรือไม่ โถ..แค่เสมียนอำเภอยังไม่ได้เป็น |
ตูนทำงานบริษัท แถวเพลินจิต กับค้าขายผ้า ควบคู่กันไปสนุก
นำภาพครั้งยังไม่เหี่ยว มาให้ดูหน่อยนะครับ แฮ่..
|
|
แม่ของผม ตัดสินใจถูกมากที่พา พวกเราไปอยู่และเรียนต่อที่เชียงใหม่ แล้วเรียนต่อที่กรุงเทพ ทำให้มี วันนี้ |
ผมรักแม่ครับ
เรียบเรียงจาก ความทรงจำจาก แม่ จาก ตูนตัวเล็ก ๆ(เมื่อก่อน) จากพี่ ๆ เรามักจะกลับไปเที่ยว อ.ปาย
แม้จะไม่มีญาติ หรือคนรู้จักเลย แต่บางครั้งเจอคนรู้จักกับแม่บ้าง เลยนั่งพูดคุย
|
ขอบคุณเพื่อนผู้เอื้อเฟื้อภาพ |
end 1,237,485 |
st.ผู้เข้าชม 1,234,557 |
= 2,928 |
งานเขียนประเภท Diarist |
เคยอยู่คุ้นเคยมาแต่เด็ก ความผูกพันย่อมมีมาก
เพิ่งรูว่าพี่ไวน์เกิดที่ปาย ยังสงสัยนามสกุลล็อกอินอยู่ว่า
ทำไมต้องมีคำว่า ปาย ต่อท้าย เกี่ยวอะไรกับเมืองปายหรือเปล่า
วันนี้กระจ่างแล้วค่ะ
เริ่องราวแต่เยาว์วันของพี่น่าสนใจมาก
คุณแม่พี่เก่งมากๆค่ะ เลี้ยงดูลูกมาได้อย่างดี
ที่เชียงใหม่ก็น่าอยุ่นะคะ