No. 667 บล๊อกประจำ จันทร์ - พฤหัสบดี |
|
|
พวกเรา คงเคยไปร้านอาหารที่ขายผัก ปลูกเอง ชนิดไร้ดิน ใช้ต้นผักเล็กสอดใส่รู |
แผ่นโฟม ใช้น้ำเป็นตัวแช่รากให้ดูดซึม สารอาหารสำหรับผัก หรือที่เรียกว่าปุ๋ยน้ำ ร้านต่าง ๆ |
พวกนี้ขายดีมาก แม้จะแพง แต่เราก็สบายใจที่จะจ่ายเงิน กินอาหารที่ |
ปลอดภัยจาก สารฆ่าแมลง |
|
แต่ให้สังเกตนะว่า พื้นที่การปลูกที่เราเห็น น่าจะไม่เกิน 5 ไร่ ร้านขายดีมาก ใช้ผักน่าจะ |
อย่างต่ำวันละ 300 กว่ากิโลกรัม พื้นที่เพียงเท่านั้นจะพอขายหรือ
|
|
นั่นซิ เคยถามผู้รู้ว่า ร้านเขามีเครือข่ายปลูกผักออแกนิค เขามีลูกสวนลูกไร่ปลูกให้ ร้านค้าจะ |
ให้เมล็ดพันธ์ หรือควบคุมการใช้สาร หรือเมื่อให้สารกันแมลงเสื่อมสลายแล้ว |
จึงจะเก็บส่งร้านได้ |
|
ไม่กี่วันมานี้ ได้อยู่บนดอยอ่างขาง ได้ไปเที่ยวในสถานีทดลองปลูกพืช มีพื้นที่มาก แต่น่าจะ |
เป็นแปลงทดลองปลูกมากกว่า |
|
เพาะพันธ์พืช หรือทดลองปลูก จึงเก็บข้อมูลและ |
แก้ปัญหาได้ แล้วนำไปให้ ลูกสวน หรือลูกไร่นำไปใช้ วิธีการปลูก รักษา กำจัดโรค หรือป้อง |
กันโรค |
แล้วใครเป็นคนปลูกที่แท้จริง แล้วโครงการณ์หลวง มีพืชขายตลอด
ตรงนี้เรียกว่า ไร่สตรอเบอรี่ นอแล |
....
|
ระหว่างเดินทางดูทิวทัศน์ สัมผัสความหนาวเย็น บนดอย เห็นชาวไทยภูเขาปลูกพืช |
บนไหล่ดอยสูง เอียงลาดกว่า 35 องศา เป็นไร่ที่ดูแล มานาน ไม่เลื่อนลอยแบบเมื่อก่อน |
แล้วเขาใช้พื้นที่ได้หรือ นั่นซิ ไร่นี้อยู่ สันดอยของ ไทย กับ เมียนม่า
|
ยืนถ่ายภาพ ตรงถนนสันดอย ซ้ายมือ เป็นเขต ไทย... แล้วอีกแอ่งดอยข้างล่างนี้ละ ของไทย หรือ เมียนม่า
|
ได้พูดคุยกับ คนขายพืชผล คนปลูก คนรดน้ำ เลยได้รู้ว่า ไร่สตอเบอรี่ที่เห็น ข้างล่างหลาย |
เจ้าของ จะเก็บผลิตผลส่ง โครงการหลวง ซึ่งเขาควบคุมการปลูก การใช้ยา ปุ๋ย |
....
...
สังเกต แปลงสตรอเบอรี่ข้างบน ชาวไร่ใช้ใบตองตึง หรือใบพลวง วางเอียงใช้ไม้ไผ่เจียกเล็ก เสียบลง กันดินพัง
ป้องกันหญ้าขึ้น
รวมทั้ง เก็บอุ้มน้ำความชื้นมิให้ระเหย เร็วเกินไป เป็นภูมิปัญญาชาวบ้าน และคงได้รับคำแนะนำจาก โครงการหลวงด้วย
ส่วนภาพข้างล่าง พื้นที่เอียงลาดกว่า 35 องศา ดินทะลายง่าย
ชาวไร่ได้รับคำแนะนำจาก จนท.โครงการหลวง ซึ่ง
ในหลวง ร.9 ของพวกเรา ทรงคิดค้น และโปรดให้ถ่ายทอดความรู้ คือปลูกหญ้าแฝก..ให้รากชอน แนวดิ่ง กันดินทะลาย
แฝกมีหลายชนิด บางพันธ์แผ่รากกว้าง ใช้ไม่ได้ แตพันธ์นี้ เป็นพันธ์รากลงแนวดิ่ง
เคยไปขอแบ่งที่ สำนักพัฒนาที่ดิน จันทบุรี ไปปลูกในสวน อ.แก่งหางแมว จันทบุรี เพราะที่นั่นที่ดินเอียงลาดน้อยกว่า แต่กันปุ๋ยไหลไปกับน้ำฝน
แต่ผักกาดใบใหญ่ ไม่แน่ใจนะครับว่า เขาปลูกไว้กิน ไว้ขาย หรือปลูกให้แมลงกินแทน ต้นใบสตรอเบอรี่
|
โครงการหลวง ควบคุมใช้พื้นที่มิให้บุกรุกป่า มากกว่านั้นอีก |
....
|
แน่นอนเราได้อุดหนุน ซื้อผลผลิตกลับไปกินด้วย แต่ผลผลิต ไม่โต หรือไม่สวยเท่าที่เรา |
ซื้อจากร้านค้าของโครงการ สันนิษฐานว่า ที่เราซื้อ เป็นผลิตผล ตกเกรด หรือ |
ส่วนที่ปลูกเกินโควต้า ที่โครงการกำหนด |
...
...
|
แหม..นึกถึง ตอนทำโรงงานผลิตสินค้า รับผลิตให้ ตปท. ก็ผลิตกันเต็มที่ เพื่อส่งให้บริษัท |
ให้ทัน คุณภาพเยี่ยมผ่านคิวซี (เขาห้ามผลิตเกินจำนวน) |
แต่ของที่ไม่ผ่านคิวซี เป็นชิ้นส่วนที่เหลือ เขาไม่รับซื้อ แต่วัตถุเป็นของเรา เราก็เลยนำไปดัด |
แปลงนิดหน่อย ขายซิครับ 555 |
ข้างบนนี้ ทีมเที่ยวเรา นั่งพักขา เราไต่ดอยลงไปถ่ายภาพข้างล่าง ชัน ดิ่งลงไป กลับมาพัก คนซ้ายมือ นั่งเขี่ย โทรศัพท์เล่น 555
|
ชาวสวนชาวไร่ที่นี่ คงคล้าย กับเราเนาะ คัดที่ตกเกรด มาขายให้พวกเรานักท่องเที่ยว |
ขนาดตกเกรด ผมว่าลูกสตรอเบอรี่ลูกโต ดีจังเลย
เรานั่งรถไปฐาน ริมชายแดนไทย เมียนม่า ไม่ไกลจากที่ปลูกสตรอเบอรี่เท่าใด เจอฐาน ตลาดก่อน หุ หุ
ที่นี่เขาเรียกว่า ฐาน นอแล
|
...
...
...
....
ที่ฐาน ฝั่งไทยดูขึงขัง ดี แต่ถ้ามองลงไปฝั่งไทย มีโรงเรือนพืชเมืองหนาวอยู่ เสียดายที่มิได้ลงไปดู สักวันคงได้ลงไป
|
แต่ผมก็ดีใจ เมื่อโครงการหลวงเกิดขึ้น ชาวไทยภูเขาก็ลดการ ทำไร่เลื่อนลอย ใช้พื้นที่ซ้ำ ๆ |
และอยู่ในความดูแลของ รัฐ ดีพอสมควร โชเฟอร์พาเราไป ดูไร่ชา 2000 |
ภาพข้างบน เป็นไร่ชา ที่อยู่ข้างล่าง เกือบสุุด เห็นเขาเดินลงกันหลายกลุ่ม ผมก็ลงมั่ง ส่วนเพื่อน ๆ ไม่ยอมลงด้วย....
ขณะไปประมาณ 9 โมงเช้า แสงแดด กับใบชา เป็นสีแบบที่เห็นเปี๊ยบเลย ถ่ายภาพเยอะมาก ใช้ PS ลดขนาดลง อย่างเดียว
สวยตามธรรมชาติ
อากาศยัง หนาวเย็น สวมถุงมือไว้ สบายดีหน่อย
....
...
...
|
...
เพื่อนสองคนนี้ พวกเราไปเที่ยว ลาว เวียตนาม กับที่อื่น.. คอเดียวกัน แต่แหะ ๆ คุณแอ๋ว นี่เห็นขนม ของกิน
ไม่ได้เลย ซื้อตลอด
|
โชเฟอร์รถสองแถวรับจ้าง พาไปเที่ยววันนี้ สามแห่ง ถนนค่อนข้างดี แม้จะชันไปบ้างก็โอเค |
ขากลับก็กลับทางเดิม ลงสู่พื้นราบ |
พาไปแวะ ร้านกาแฟสด ยังสงสัยว่า แวะทำไม โชเฟอร์บอกว่า ขาลงใช้ |
เบรคเยอะ ร้อนฉ่าเลยต้องหยุดพักที่นี่ |
งั้นได้เลย ไม่ว่ากัน เราอุดหนุนกาแฟสด พักประมาณครึ่งชั่วโมง |
รถไปส่งที่ฝากรถของเรา ไว้กับรีสอร์ทกึ่งร้านอาหารใกล้วัด หาดสำราญ |
จ่ายค่า เช่ารถพาไปที่พัก บนดอยอ่างขาง ขับพาไปในโครงการหลวง แล้วไปส่งที่พัก |
ของตอนเย็น ตอนสายพาไปเที่ยวอีก สามแห่ง ขับไปส่งที่ฝากรถข้างล่างดอย |
ค่าบริการ 2,000 บาท/ต่อสองวัน คุ้ม |
....
ภาพลานจอดรถสองแถวรับจ้างขึ้นดอยอ่างขาง ดึงภาพจากูเกิ้ลนะครับ... ของจริงที่เราไป ติดต่อ
รถสองแถวกับ รถที่ฝากไว้ เต็มลาน... วัดนีอยู่ติดถนน 107 ตรงสามแยก
นำภาพมาลงไว้ เผื่อจะเป็นประโยชน์สำหรับ คนรักรถตัวเอง ส่วนรถคนอื่น ชั่ง..หุ หุ ใช้บริการเขาดี..มาก
|
แถมแนะนำให้ไปกิน อาหารกลางวัน ทางกลับเข้าสู่เมืองเชียงใหม่ ห่างจากที่ฝากรถไม่ถึง |
สาม กม. ร้านอาหารนี้สอาด โปร่ง สั่งอาหาร 5 อย่าง จานเปล เรากินข้าวอร่อย |
ค่าอาหารค่าน้ำ 475 บาทถูกมาก ชื่อร้านต้นโมก |
มิน่า ที่ร้านมีคนไปอุดหนุนเยอะ อร่อย ไม่แพง วันหลังต้องแวะอีก |
|
ขอขอบคุณเพื่อนผู้เอื้อเฟิ้อภาพ |
end 1,220,206 |
st. ผู้เข้าชม 1,217,761 |
= 2,545 |
งานเขียนประเภท Diarist |
|