Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2562
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
3 มิถุนายน 2562
 
All Blogs
 

ถนนสายนี้มีตะพาบ กม.ที่ 229 สนามรบ ประสบการณ์ใกล้สนามรบ ในสงครามโลกครั้งที่ 2 ณ กรุงเทพฯ

Diarist
ประสบการณ์ใกล้สนามรบ
สงครามโลกครั้งที่ 2 ณ กรุงเทพฯ

ถนนสายนี้มีตะพาบ กม.ที่ 229
สนามรบ



ขอบคุณของแต่งบล็อกจากอินเทอร์เน็ต
Music Box Hit Collection [Official Playlists]
credit & special thanks to YouTube
& uploader: i am official channel




*******************************************************
โจทย์ถนนสายนี้มีตะพาบหลักกิโลเมตรที่ 229
"สนามรบ" โจทย์โดยคุณ toor36

แม้เราจะไม่เคยต้องจับอาวุธเข้าสู่รบเลย แต่สนามรบที่เราจำแม่นติดตา ติดใจ ติดความกลัวอย่างน่าเวทนาคือสนามรบระหว่างฝ่ายอักษะและสัมพันธมิตรในสงครามโลกครั้งที่ 2 บนแผ่นดินประเทศไทย โดยเฉพาะกรุงเทพฯซึ่งเราเพิ่งเป็นลูกเล็กๆของพ่อแม่ซึ่งมีบ้านอยู่ใกล้จุดยุทธศาสตร์สำคัญคือเป็นที่ตั้งกองกำลังรบของฝ่ายอักษะที่ฝ่ายสัมพันธมิตรต้องการทำลายให้สิ้นซาก (รายละเอียดพร้อมภาพประกอบหาอ่านและชมได้จากวิกิพีเดียและหลายกระทู้ในพันทิป เราไม่อยากเห็นทั้งเรื่องราวและภาพเหล่านั้น)

ที่จะบันทึกไว้ตรงนี้ก็คือสภาพที่ต้องหลบภัยสงครามระหว่างปี 2486 ถึง 2488 ทุกครั้งที่มีสัญญาณภัยทางอากาศ พ่อกับแม่จะรีบรวบรวมของมีค่าซึ่งเราก็มีไม่มาก ใช้ผ้าปูที่นอนห่อของเปล่านั้นแล้วรีบอุ้มเราซึ่งก็ตั้ง 5 ขวบแล้วไปลงหลุมหลบภัย

ความที่เราพอจะได้เห็นเหตุการณ์การทิ้งทั้งระเบิดทำลายและระเบิดเพลิงหลายสิบครั้ง เราก็กลัวสะสมมากขึ้นเรื่อยๆ จนในที่สุดพอได้ยินเสียงสัญญาณภัยทางอากาศ เราก็เริ่มมือเท้าอ่อนแรง จนเมื่อมีสัญญาณปลอดภัยเราก็ขยับร่างกายเพื่อเดินกลับบ้านเองไม่ได้แล้ว พ่อแม่จึงต้องทั้งอุ้มลงหลุมหลบภัยและขึ้นจากหลุมนั้นกลับขึ้นบ้าน

ดังนั้นเมื่อสงครามหนักขึ้นจนสุดจะอดทนอยู่ไหว พ่อแม่จึงย้ายบ้านจากถนนสุรวงษ์ไปซื้อที่ดินปลูกบ้านฝาขัดแตะหลังคามุงจากอยู่ที่ซอยแจ่มจันทร์ที่เป็นซอยเชื่อมซอยทองหล่อและซอยเอกมัยทุกวันนี้ แต่ในตอนนั้นซึ่ง 70 กว่าปีมาแล้ว มันคือป่าที่ไกลปืนเที่ยงทีเดียว และพ่อต้องขี่จักรยานไปทำงานแถวบางรัก ขากลับก็ต้องซื้อกับข้าวสดกลับมาให้แม่ทำกับข้าว แม่ต้องจุดตะเกียงทำกับข้าวสำหรับมื้อในวันต่อๆไปตอนกลางคืนทุกวัน ก็ไม่มีตู้เย็นจะเก็บของสดนี่นา ตอนกลางวันแม่ก็ยังต้องสอนหนังสือให้เราเพื่อไม่ให้เราขาดเรียน

แต่การอยู่ที่นั่นก็ใช่จะปลอดภัยดี พ่อห้ามแม่พาเราออกไปเดินถึงซอยทองหล่อเพราะในตอนนั้นซอยทองหล่อยังมีคลองเชื่อมกับคลองแสนแสบและทหารญี่ปุ่นก็มักพายเรือมาจอดนอนตามร่มไม้ชายคลอง

ที่สำคัญ ตอนนั้นไม่มีใครในประเทศไทยยกเว้นพวกเศรษฐีสงครามจะเห็นดีเห็นงามกับญี่ปุ่นที่มาบังคับใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่านไปพม่าและอินเดีย และไม่มีสาวๆคนไหนทั้งสวยและไม่สวยจะชื่นชมทหารญี่ปุ่นเหมือนที่สาวๆสมัยนี้ชื่นชมโกโบรินั่นเลย นอกจากสาวๆที่ค้าขายตลาดมืดกับญี่ปุ่น

วันนี้หญิงชราซึ่งกำลังงอมแงมกับสุขภาพขอตอบโจทย์นี้เพียงเท่านี้นะคะ ไม่มีภาพประกอบเลยก็จะเงียบเหงาไปหน่อย ขอฝากภาพน้ำท่วมลานพระบรมรูปทรงม้าและหน้าพระที่นั่งอนันต์เมื่อปี 2485 ซึ่งญี่ปุ่นก็เข้ามาเต็มเมืองก่อนหน้านั้นหลายปีแล้ว ไว้ให้ชมกันค่ะ



เครดิต: วิกิพีเดีย

คุยกันท้ายบล็อกนิดนึงนะคะ
ช่วงนี้จขบ.ไม่สู้สบายจนรู้สึกว่า
บางหมวดที่จะเขียนต่อๆไป
ควรปิดคอมเม้นท์เสียบ้างค่ะ

Diarist




 

Create Date : 03 มิถุนายน 2562
31 comments
Last Update : 16 มิถุนายน 2562 18:49:24 น.
Counter : 1180 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณไวน์กับสายน้ำ, คุณtoor36, คุณInsignia_Museum, คุณโอน่าจอมซ่าส์, คุณtuk-tuk@korat, คุณดาวริมทะเล, คุณสองแผ่นดิน, คุณTui Laksi, คุณตะลีกีปัส, คุณALDI, คุณอุ้มสี, คุณกะว่าก๋า, คุณหอมกร, คุณnewyorknurse, คุณkae+aoe, คุณอาจารย์สุวิมล, คุณเรียวรุ้ง, คุณฟ้าใสวันใหม่, คุณnonnoiGiwGiw, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณmcayenne94, คุณSai Eeuu, คุณJinnyTent, คุณSweet_pills, คุณสันตะวาใบข้าว, คุณAsWeChange, คุณhaiku, คุณเนินน้ำ, คุณที่เห็นและเป็นมา

 

พี่ยังอุตส่าห์เขียนเล่าให้พวกเราได้รู้สภาพสงคราม
โลกครั้งที่ 2

คุณพ่อพี่อดทนมากนะครับปั่นจักรยานซอยแจ่มจันทร์
ไปบางรัก...

เคยอ่านหนังสือของ คุณสด กูรมะโลหิต เรื่องระย้า
ทหารญี่ปุ่นร้ายกาจแบบที่พี่เล่าเลย

 

โดย: ไวน์กับสายน้ำ 3 มิถุนายน 2562 19:58:36 น.  

 

สมัยนี้ถ้าเกิดสงครามขึ้นบ้านเมืองคงเสียหายกันมากกว่าสมัยก่อน ดีไม่ดีอาจหายไปทั้งเมืองในพริบตาก็ได้ สงครามเป็นสิ่งที่โหดร้ายเเสมอ

 

โดย: คุณต่อ (toor36 ) 3 มิถุนายน 2562 20:10:13 น.  

 

สงครามไม่เคยสร้างคุณประโยชน์อันใดเลยนะครับพี่ภา
ขนาดอ่านเรื่องราวในบล้อกพี่ภา
ยังรู้สึกเลยว่าเครียด กดดันอันตรายแฝงอยู่ในทุกลมหายใจ
ไม่ใช่ภาวะที่คนไทยจะมีความสุขเลยครับ

 

โดย: กะว่าก๋า 3 มิถุนายน 2562 20:12:43 น.  

 

เล่าสนุกครับมากคุณภา
แม้จะเป็นประสบการณ์ที่ไม่อยากเอ่ยถึง ทั้งภาพและเสียง แต่จากการอ่านคำบรรยาย ก็นึกถึงสภาพย่านสุขุมวิท ซึ่งผมเคยเดินทางระหว่างปากคลองตลาดไปสุขุมวิทย่านเอกมัยเพื่อเรียนหนังสือถึง 2 ปีเต็ม ซึ่งก็หลังสงครามแล้วถึง 27 ปีครับ

 

โดย: Insignia_Museum 3 มิถุนายน 2562 20:19:33 น.  

 

แม่เคยเล่าให้ฟังเช่นกันค่ะ ออกไปไหนไม่ได้ ได้ยินเสียงหวอดัง ต้องหลบที่หลุมหลบภัย
ยังแอบแซวแม่เล่นเลยค่ะพี่ภา ทำไมแม่ไม่ไปพบกับ
โกโบริ หล่ะ จะได้ไม่ต้องวิ่งไปที่หลุดหลบภัย

 

โดย: โอน่าจอมซ่าส์ 3 มิถุนายน 2562 20:43:55 น.  

 

เค้าเคยแต่ผ่านยุค 16,18 ตุลาค่ะ

 

โดย: tuk-tuk@korat 3 มิถุนายน 2562 21:14:12 น.  

 

สวัสดีค่ะพี่ภา

ต้องขอโทษด้วยที่แวะมาทักทายช้ามากๆ
เวลาไม่อำนวย อยากจะปิดคอมเม้นท์เหมือนกัน
แต่บางทีก็อยากอ่านความคิดเห็นของเพื่อนๆค่ะ
เลยคิดว่าเปิดไว้แบบนั้นแหละ มีเวลาก็มาอ่านมาตอบ
ไม่มีเวลาก็ไม่มา คิดว่าเพื่อนๆคงเข้าใจค่ะ

ดีใจที่วันนี้ได้เข้ามาอ่านเรื่องเล่า ประสบการณ์เกี่ยวกับสงครามโลกครั้งที่ 2ของพี่
ขึ้นชื่อว่าสงคราม มีแต่ความน่ากลัวนะคะ คนเคยอยู่ในภาวะนั้นย่อมมีความฝังใจ
แม้พี่จะเล่าแค่นิดเดียว แต่ก็เห็นภาพเลยค่ะ จากที่เคยอ่านหนังสือ เคยดูหนังมา
จริงบ้างแต่งบ้าง แต่ก็รู้ว่าสงครามมันโหดร้ายแค่ไหน คนสมัยนั้น ต้องอยู่กันอย่างลำบากมากๆเลยนะคะ

วรรณชอบฟังคนรุ่นเก่าๆเล่าถึงเรื่องราวสมัยก่อนมากๆค่ะ
แต่ตอนนี้ที่บ้านไม่มีคนรุ่นเก่าเหลืออยู่อีกแล้วค่ะ
อยากให้พี่เล่าให้ฟัง แต่เข้าใจว่าพี่ไม่อยากจะนึกถึงหรือเห็นภาพนะคะ

ภาพน้ำท่วมลานพระบรมรูปทรงม้า เคยเห็นอยู่ค่ะ คนรุ่นใหม่นึกไม่ออกเลยค่ะ ว่าจะท่วมขนาดนี้ได้อย่างไร

ก่อนจะลาวันนี้ ขอให้พี่สุขภาพแข็งแรงเร็วๆนะคะ จะได้กลับมาคุยกันได้อีกนานๆค่ะ


 

โดย: ดาวริมทะเล 3 มิถุนายน 2562 21:46:22 น.  

 

โห...สนามรบของคุณพี่ภา อ่านแล้วชอบมากค่ะ
เคยได้ยินคุณแม่เราเล่าให้ฟังตอนเราเด็กมากๆ
ว่าแม่กับพี่สาว ต้องคอยวิ่งลงหลุมหลบภัยเช่นกัน
แต่อยู่ ตจว.ค่ะ ลูกๆนั่งฟังเรื่องราวนี้กันตาแป๋วแหว๋วเลย
เพราะยังไม่เกิดกันทั้นั้นและยังช่วยกันซักถามต่างๆนานา

ภาพน้ำท่วมลานพระรูป โห...อเมสซิ่งมากๆค่ะ
ไม่เคยเห็นมาก่อนเลย นึกถึงตอนเราไปเดินเที่ยวชมงานอุ่นไอรัก
ไม่น่าจะมีน้ำท่วมได้นะคะ...ขอบคุณเรื่องราวที่ชอบฟังชอบอ่าน
และภาพอดีตที่ตอนนั้นเราไม่รู้อยู่ภพไหน อิ อิ

 

โดย: Tui Laksi 3 มิถุนายน 2562 22:40:20 น.  

 

สวัสดีมีสุขค่ะพี่ภาขา

สงครามสนามรบ น่ากลัวนะคะ
อ่านเพลินค่ะ เกิดไม่ทัน
แต่เคยฟังยายกับแม่เล่าให้ฟัง
ตอนได้ยินเสียงหวอ
หนาวเย็นเหมือนจับไข้
ต้องรีบวิ่งลงงหลุมหลบภัยในสวน
ลงท้องร่องแห้งๆในสวน
มีแต่ข้าวตากแห้งๆเอาไว้อมพอประทังชีวิต
ข้าวยากหมากแพง บ้านก็อยู่ใกล้บางกอกน้อย
ระเบิดลงที่วัดใกล้บ้าน
ยังเคยไปดูรอยสะเก็ดที่ผนังโบสถ์ค่ะ
ทั้งโบสถ์หลวงพ่อโบสถ์น้อยและวิหารวัดเงินใกล้บ้าน...ล้วนแต่เรื่องน่ากลัวและทุกข์ยากทั้งนั้นเลยนะคะ

 

โดย: ตะลีกีปัส 3 มิถุนายน 2562 22:48:25 น.  

 


บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
จากเพื่อนถึงเพื่อน Topical Blog ดู Blog
กะว่าก๋า Parenting Blog ดู Blog
ทรงไทยเดิม Food Blog ดู Blog
เริงฤดีนะ Sports Blog ดู Blog
ภาวิดา คนบ้านป่า Diarist ดู Blog

แวะมาอ่านต่อค่ะ

 

โดย: อุ้มสี 3 มิถุนายน 2562 23:54:48 น.  

 

ดูหนังสงครามที่มีญี่ปุ่น ไม่เคยชอบญี่ปุ่นเลยค่ะ
สมัยนั้นสงครามน่ากลัวมากนะคะ ถ้าตอนนี้เกิดสงครามแบบนี้อีก
ไม่รู้จะไปหลบตรงไหนเลยค่ะ

 

โดย: ALDI 3 มิถุนายน 2562 23:57:56 น.  

 



สวัสดียามเช้าครับพี่ภา

 

โดย: กะว่าก๋า 4 มิถุนายน 2562 6:26:24 น.  

 

ภาวิดา คนบ้านป่า Diarist ดู Blog
ยุคสงคราโลกครั้งที่ 2 เนี่ยยุคคุณแม่ค่ะพี่ภา



 

โดย: หอมกร 4 มิถุนายน 2562 8:30:02 น.  

 


สวัสดีค่ะพีภา
พี่สาวก็เล่าเรื่องตอนสงครามโลก ครั้งที่ 2
เหมือนกันค่ะ เวลาสัญญานภัย ทุกบ้าน
ทั้งครอบครัวจะวิ่งไปหลบที่ร่องน้ำ
ที่สวนเขาขุดเป็นร่องๆ

พี่ภาอยู่กรุงเทพ คงมีสัญญาณภัยกว่าต่าง
จังหวัด น่าเห็นใจ บ่อยจนเดินไม่ไหว

 

โดย: newyorknurse 4 มิถุนายน 2562 9:11:20 น.  

 

สวัสกี ค่ะ พี่ภา

สงครามมันโหดร้ายมากจริง ๆ นะคะ ถึงหนูจะ
ไม่ทันได้อยู่ในเหตุการณ์สงครามโลกครั้งที่สอง แต่
ก็ได้ยินจากแม่เล่าให้ฟังค่ะ สามล้อที่กำลังถีบอยู่
บนถนน ระเบิดลง ตัดหัวของคนขี่สามล้อ คนขับก็
ยังขับไปได้อีกไกล คงตกใจขายังคงทำงานต่อไป
สักพัก ฟังแล้ว หวาดเสียวมาก
เวลาดื้อ แม่ชอบว่าหนูว่า ไอ้พวกผีสงครามมา
เกิด มันถึงได้ดื้อแบบนี้ อิอิ
โหวดหมวด บันทึกประสบการณ์ชีวิต

 

โดย: อาจารย์สุวิมล 4 มิถุนายน 2562 10:28:15 น.  

 

ขอบคุณที่มาเล่าประสบการณ์นะคะพี่ภา
รุ้งก็คิดอยู่ว่าคงมีแต่พี่ภาล่ะมั้งที่สามารถบอกเล่าประสบการณ์สมัยสงครามโลกครั้งที่สองได้แต่ก็คงเด็กน้อยอยู่มาก ความกลัวคงทำให้จำฝังใจมาก พี่ถึงบอกเล่าได้อย่างเห็นภาพเลย

รุ้งเกิดไม่ทัน แต่ก็ไม่อยากเห็นสงครามที่ีต้องเสียเลือดเสียเนื้อไม่ว่าจะชนชาติใดก็ตาม

 

โดย: เรียวรุ้ง 4 มิถุนายน 2562 10:38:50 น.  

 

ชีวิตทุกวันนี้ก็เหมือนอยู่ในสนามรบเหมือนกันนะคะ
อยู่ที่เราจะใช้ชีวิตให้อยู่รอดปลอดภัยได้ยังไง

---------------

น้องหนามที่บ้านบานวันเดียวแล้วก็บานแค่ครึ่งวันเช้าด้วยค่ะ
มาไวไปไว แต่มีบางครั้งแอบเซอร์ไพรส์ด้วยนะคะ
คือต้นดอกสีแดงผิวเข้ม ๆ โลบิเวียเหมือนกัน เขาแอบบานตอนกลางคืนด้วยค่ะ

จริง ๆ ก็แอบบานมานานแค่ไหนแล้วไม่รู้
เพราะปกติกลางคืนคนก็หลับอุตุไปแล้ว ไม่ได้โผล่มาชมสวนตอนดึก ๆ เลย

 

โดย: ฟ้าใสวันใหม่ 4 มิถุนายน 2562 15:54:42 น.  

 

การเดินมาทำงานเช้าๆ แกงก็ไม่ต่างจากสนามรบ
ต้องฝ่าฟันกับการจราจร...

สงครามน่ากลัวนะคะ ไม่ชอบเลย

 

โดย: สันตะวาใบข้าว 4 มิถุนายน 2562 16:23:44 น.  

 

คิดถึงอังสุมาลินเลยค่ะ

 

โดย: nonnoiGiwGiw 4 มิถุนายน 2562 17:46:02 น.  

 

ฟังดูสภาพบ้านเมืองเราตอนนั้น ก็ไม่น่าจะมีใครชอบทหารญี่ปุ่นหรอกนะคะ

ขอให้พี่ภาหายป่วย สุขภาพแข็งแรงเป็นปกติในเร็ววันค่ะ

ไม่ต้องปิดคอมเมนท์หรอกค่ะพี่ เผื่อเพื่อนบล็อกมาเยี่ยมพอได้อ่านเพลิน ๆ เนาะคะ

 

โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ 4 มิถุนายน 2562 18:54:04 น.  

 

หลีกเลี่ยงสงครามได้ดีที่สุดนะคะ
อ่านที่พี่ภาเขียน และอ่านจากคุณทมยันตี
แล้วเป็นภาวะที่น่าหวาดกลัวมากทีเดียว

โกโบริ เป็นแค่ตัวละคร
ประวัติศาสตร์ทหารญี่ปุ่นทิ้งความเจ็บช้ำ
ให้แก่ประเทศเพื่อนบ้านให้จดจำค่ะ

 

โดย: mcayenne94 4 มิถุนายน 2562 19:13:38 น.  

 

รักษาสุขภาพค่ะ พี่ภา ไม่ต้องไปตอบคอมเม้นต์ที่บล๊อกหรอกนะคะ

 

โดย: Sai Eeuu 4 มิถุนายน 2562 19:15:34 น.  

 

สวัสดีครับพี่ภา

พี่ภาเล่าเรื่องสมัยก่อนสนุกดี ชอบครับ
ในสภาวะสงครามแบบนั้น ไม่ใช่เรื่องน่าสนุกเลย
มีคำว่า “เศรษฐีสงคราม” ด้วย เพิ่งเคยได้ยิน
แสดงว่ามีคนแสวงหาความร่ำรวยจากความหายนะของคนหมู่มากเสมอ

แล้วมันก็ทำให้เห็นว่า ในวิกฤตนั้น มักจะมีโอกาสเสมอ
แบบตอนน้ำท่วมปี 54 ก็คงมี “เศรษฐีน้ำท่วม” เหมือนกันนะครับ

แถวทุ่งมหาเมฆยังมีพื้นที่บ้านอยู่อาศัยเยอะอยู่เลยนะครับพี่ภา
ผมชอบบรรยากาศแถวนั้นนะครับ ดูสงบร่มรื่น บ้านเรือนเก่าๆ เยอะอยู่

ดาวพิษเวิร์มวู้ดบทที่ 5 ปีกเทวดาตกสวรรค์ ผมอ่านแล้วนะครับ
ยังคงสนุกตื่นเต้น จนต้องรอ บทที่ 6 ออนแอร์ต่อไป

พี่ภารักษาสุขภาพด้วยนะครับ

 

โดย: สีเมจิก (สมาชิกหมายเลข 5106714 ) 4 มิถุนายน 2562 19:27:23 น.  

 

คนรุ่นหลัง นึกภาพสงครามโลก
ผ่านหนังเรื่องโกโบริ จะมีทั้งโหดร้ายและรักซาบซึ้ง

สงครามจริง ๆ นั้น คงมีแต่ความโหดร้าย สูญเสีย
และอยากให้สถานการณ์เลวร้านเหล่านั้น
ผ่านพ้นไปเสียโดยเร็ว

สงครามไม่ได้ให้อะไรกับใครเลย
นอกจากความสูญเสีย

ขอให้พี่ภาหายป่วยเร็ว ๆ นะคะ
เดี๋ยวฝน เดี๋ยวแดดร้อน ไม่สบายได้ง่าย
แวะทักทายกันเอาที่พี่ภาสะดวกค่ะ ไม่ต้องฝืน
ระลึกถึงกันเสมอ เป็นห่วงนะคะ

 

โดย: JinnyTent 4 มิถุนายน 2562 19:30:31 น.  

 

ผมโชคดีที่พ่อกับแม่ก็ไม่เคยตีครับ
แต่ด่าเป็นเรื่องปกติ 555
รุ่นหมิงผมเปลี่ยนวิธีเลี้ยงแล้ว
อย่างตอนนี้ผมแทบไม่ดุลูกเลย
ใช้การพูดคุย ใช้เหตุผล
ใช้การรับฟัง
มันอาจจะเปลี่ยนตัวเค้าช้า
แต่ผมเชื่อว่ามันดีกว่าการตี หรือลงโทษแบบรุนแรงแน่ๆครับ

 

โดย: กะว่าก๋า 4 มิถุนายน 2562 22:17:06 น.  

 

สวัสดีค่ะพี่ภา

เหตุการณ์ทิ้งระเบิดขณะเกิดสงคราม
หากต๋าต้องเจอกับตัวเองโดยเฉพาะในวัยเด็ก
ความกลัวและภาพคงติดตาติดใจจนถึงตอนนี้ค่ะ

ทุกครั้งที่ได้ยินข่าวสงครามไม่ว่าเกิดที่ไหน
ก็ภาวนาให้เป็นครั้งสุดท้ายค่ะพี่ภา
ขอบคุณพี่ภาสำหรับประสบการณ์ที่แบ่งปันนะคะ

ขอให้พี่ภาหายจากอาการไม่สบาย
มีสุขภาพแข็งแรงโดยเร็วค่ะ

 

โดย: Sweet_pills 4 มิถุนายน 2562 23:24:39 น.  

 

สวัสดียามเช้าครับพี่ภา

 

โดย: กะว่าก๋า 5 มิถุนายน 2562 6:41:36 น.  

 

รักษาสุขภาพด้วยนะคะคุณภา แวะมาเยี่ยมค่ะ รออ่าน ดาวพิษ บทที่หก อยู่ค่ะ

 

โดย: มุล (Pikku Mul ) 5 มิถุนายน 2562 14:36:57 น.  

 

เรื่อง สนามรบ นั่น เรื่องราวอาจดูไม่งาม
แต่มอเตอร์เวย์มีปัญหาแบบนั้นมานาน ไม่เคยปรับปรุง ทั้งที่ทำให้ดีขึ้นได้ เขียนไปก็มีเจตนา เพื่อเห็นการเปลี่ยนแปลงให้ดีขึ้นน่ะค่ะ
ปัญหาคงไม่ได้เกิดที่ เย็นคนเดียวค่ะ. เพราะรถมาจอดและคนกันลงมาเต็มค่ะ

 

โดย: mcayenne94 6 มิถุนายน 2562 10:24:09 น.  

 

29..ขออภัยค่ะ คุณหมอ ที่ทำให้เข้าใจผิด
เหมือนพักนี้พี่จะพูดไม่ค่อยถูกอยู่เรื่อยเลย

พี่ไม่ได้คิดว่าเรื่องที่คุณหมอเขียนนี้ไม่งาม
พี่เห็นด้วยทุกประการ เห็นมาตั้งแต่มีจุดบริการ
แบบนี้บนทางด่วนนี้เลย เมื่อก่อนไปพัทยาบ่อย
และอยากได้ใช้บริการที่นี่ แต่ในที่สุดต้องเตรียม
การเพื่อเลี่ยงการใช้ไปเสีย ยิ่งเมื่อมีอายุมากขึ้น
ก็ยิ่งกลั้นสภาวะนี้ไม่ได้ จนเมื่อผ่าตัดลำไส้ใหญ่
แล่วต้องตัดหูรูดทิ้งไปด้วยก็หมดสิทธิ์ไปเลย
ใครต้องตกอยู่ในสภาวะแบบพี่ แล้วต้องไปรอคิว
แบบนั้นจะน่าเวทนากว่าคนปกติมาก แล้วก็คงยาก
ที่จะมีคนคิดแก้ไข ซึ่งก็จริงนะคะ พี่หวังพึ่งที่นี่ไม่ได้
มากว่ายี่สิบปีแล้วมั้งคะ ไม่หวังแบบลืมไปเลยค่ะ
มาเห็นคุณหมอนำเรื่องนี้มาเขียนแบบพี่นึกไม่ถึง
ก็รู้สึกว่าเป็นสนามรบที่กินขาดทุกสนามที่มีผู้เขียนถึง
ในโจทย์นี้ ชมน่ะค่ะ ไม่ได้ติแต่อย่างใดเลย

 

โดย: ภาวิดา คนบ้านป่า 6 มิถุนายน 2562 15:18:29 น.  

 

สงครามมีแต่ความสูญเสียนะคะ
ซอยแจ่มจันทร์แม้จะไกลปืนเที่ยงในสมัยนั้น แต่เชื่อว่าบรรยากาศต้องดีมาก ๆ อยากย้อนวันเวลากลับไปเหมือนเดิม ที่ชาวบ้านลงเล่นน้ำคลองได้ นึกถึงภาพยนต์เรื่องแสนแสบด้วยนะคะ

เรื่องการบ้านไม่ต้องซีเรียสนะคะ พักผ่อนเยอะ ๆ ขอให้พี่ภาสุขภาพแข็งแรงค่ะ

 

โดย: เนินน้ำ 6 มิถุนายน 2562 15:39:52 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ภาวิดา คนบ้านป่า
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 140 คน [?]




BG Pop.Award #17
BG Pop.Award #16
BG Pop.Award #15
BG Pop.Award #14
BG Pop.Award #13
BG Pop.Award #12
BG Pop.Award #11
BG Pop.Award #10
BG Pop.Award #9
BG Pop.Award #8
BG Pop.Award #7
BG Pop.Award #6
*****
*****
Friends' blogs
[Add ภาวิดา คนบ้านป่า's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.