โดยหลักทั่วไปแล้ว
เจ้าหนี้สามารถบังคับชำระหนี้จากทรัพย์สินของลูกหนี้ได้โดยสิ้นเชิง นั่นคือ ทรัพย์สินใดๆก็ตามที่เป็นของลูกหนี้หรือเชื่อได้ว่าเป็นของลูกหนี้ เจ้าหนี้สามารถยึดทรัพย์นั้นๆเพื่อนำมาขายทอดตลาดนำเงินมาใช้หนี้เขาได้ครับ
ตามหลักกฏหมายในประมวลกฎหมายแพ่งและพานิชย์ ดังนี้
มาตรา 214 ภายใต้บังคับบทบัญญัติแห่ง มาตรา 733 เจ้าหนี้มี สิทธิที่จะให้ชำระหนี้ของตนจากทรัพย์สินของลูกหนี้จนสิ้นเชิง รวม ทั้งเงินและทรัพย์สินอื่น ๆ ซึ่งบุคคลภายนอกค้างชำระแก่ลูกหนี้ด้วย
อย่างไรก็ตาม เมื่อมีหลัก ก็ต้องมีข้อยกเว้น ซึ่ง กฏหมายจะมีข้อยกเว้น ว่า ทรัพย์สินใดบ้างของลูกหนี้ ที่"ไม่อยู่ในความรับผิดแห่งการบังคับคดี" หรือ พูดง่ายๆว่า ยึดไม่ได้นั่นแหละครับ ดังนี้ครับ
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
มาตรา 285 ทรัพย์สินของลูกหนี้ตามคำพิพากษาต่อไปนี้ ย่อม ไม่อยู่ในความรับผิดแห่งการบังคับคดี (1) เครื่องนุ่งห่มหลับนอนหรือเครื่องใช้ในครัวเรือน หรือเครื่องใช้สอยส่วนตัวโดยประมาณรวมกันราคาไม่เกินห้าหมื่นบาท ในกรณีที่ศาลเห็นสมควร ศาลจะกำหนดทรัพย์สินดังกล่าวที่มีราคาเกินห้าหมื่นบาท ให้เป็นทรัพย์สินที่ไม่ต้องอยู่ในความรับผิดแห่งการบังคับคดีก็ได้ ทั้งนี้ โดยคำนึงถึงความจำเป็นตามฐานะของลูกหนี้ตามคำพิพากษา (2) เครื่องมือหรือเครื่องใช้ที่จำเป็นในการเลี้ยงชีพหรือประกอบวิชาชีพ โดยประมาณรวมกันราคาไม่เกินหนึ่งแสนบาท แต่ถ้าลูกหนี้ตามคำพิพากษามีคำขอโดยทำเป็นคำร้องต่อศาลขออนุญาตยึดหน่วง และใช้เครื่องมือหรือเครื่องใช้อันจำเป็นเพื่อดำเนินการเลี้ยงชีพหรือการประกอบวิชาชีพ อันมีราคาเกินกว่าจำนวนราคาดังกล่าวแล้ว ให้ศาลมีอำนาจที่จะใช้ดุลพินิจอนุญาตหรือไม่อนุญาตภายในบังคับแห่งเงื่อนไข ตามที่ศาลเห็นสมควร (3) วัตถุ เครื่องใช้ และอุปกรณ์ที่จำเป็นต้องใช้ทำหน้าที่แทน หรือช่วยอวัยวะของลูกหนี้ตามคำพิพากษา (4) ทรัพย์สินอย่างใดที่โอนกันไม่ได้ตามกฎหมาย หรือตาม กฎหมายย่อมไม่อยู่ในความรับผิดแห่งการบังคับคดี ทรัพย์สินของลูกหนี้ตามคำพิพากษาอันมีลักษณะเป็นของส่วนตัว โดยแท้เช่นหนังสือสำหรับวงศ์ตระกูลโดยเฉพาะ จดหมายหรือ สมุดบัญชีต่าง ๆ นั้น อาจยึดมาตรวจดูเพื่อประโยชน์แห่งการบังคับ คดีได้ ถ้าจำเป็นแต่ห้ามมิให้เอาออกขายทอดตลาด ประโยชน์แห่งข้อยกเว้นที่บัญญัติไว้ใน มาตรานี้ ให้ขยายไปถึง ทรัพย์สินตามวรรคหนึ่ง อันเป็นของภริยาหรือของบุตรผู้เยาว์ของ ลูกหนี้ตามคำพิพากษาซึ่งทรัพย์สินเช่นว่านี้ตามกฎหมายอาจถือได้ ว่าเป็นทรัพย์สินของลูกหนี้ตามคำพิพากษา หรือเป็นทรัพย์สินที่อาจ บังคับเอาชำระหนี้ตามคำพิพากษาได้ คำสั่งของศาลตามวรรคหนึ่ง (1) และ (2) ให้อุทธรณ์ไปยังศาลอุทธรณ์ได้ และคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลอุทธรณ์ให้เป็นที่สุด
ตามที่คุณจขกท.ถามมา ตามตอนท้าย " หม้อ ไฮกระเทียมหรือแม้แต่ช้อนจานชาม เราก็ยึดได้ไหมครับ" คำตอบจึงสามารถตอบได้ว่า ยึดไม่ได้ เพราะทรัพย์นั้นๆเป็น"เครื่องใช้ในครัวเรือน"ไม่อยู่ในความรับผิดแห่งการบังคับคดี ตาม ม.๒๘๕(๑) นั่นเองครับ แต่ก็ต้องดู"ราคา"ด้วยนะครับ ถ้า หม้อฯนั้นๆราคาเกินกว่าห้าหมื่นบาท ก็จะต้องถูกเจ้าหนี้ยึดทรัพย์ได้เหมือนกันครับ
สรุปง่ายๆ คือ โดยหลักแล้วเจ้าหนี้มีสิทธิยึดทรัพย์ทุกอย่างของลูกหนี้ แต่มีข้อยกเว้นบางประการที่กฏหมายระบุไว้ว่าห้ามยึดทรัพย์นั้นๆของลูกหนี้(ปวิพ.ม.๒๘๕)
แก้ไขเมื่อ 10 พ.ย. 55 22:41:27 จากคุณ | : อุบลแมน | เขียนเมื่อ | : 10 พ.ย. 55 21:37:41 | |