|
|
กรณีข่าวตบตำรวจ
!! อ้าว พ่อแม่พี่น้อง ใครอยากตบเจ้าหน้าที่ ขณะปฏิบัติหน้าที่ เชิญครับ เสียแค่พันเดียวเอง!!
อ่านข่าวแล้วเศร้า
ปรับแค่พันเดียว
จากคุณ : น้าออด
เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 53 11:48:51
ถูกใจ : Akira-deang
ความคิดเห็นที่ 15
เจอด่านตรวจเหล้า หมอกร่าง ลงตบหน้าตำรวจ!
ทั้งที่ตัวเองไม่ได้เป็นคนขับ จบ 'ศิริราช' -ฝึกอบรมรพ.ตร. แค่ไหว้ขอโทษโดนปรับ1พัน
หมอฝึกอบรมโรงพยาบาลตำรวจเมาแล้วกร่าง ทำซ่าแทนเพื่อนกลางด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์ริมถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ก่อนปรี่เข้าไปตบหน้า ส.ต.ท. 2 ฉาดใหญ่ ขึ้นโรงพักยังมีอาจารย์หมอมาช่วยเคลียร์บอกเก่ง แถมทวงบุญคุณเป็นแพทย์รักษาตำรวจด้วย ทว่าสุดท้ายยอมไหว้ขอโทษ เจอปรับแค่ 1,000 บาท ด้าน นายแพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ แจงชัดแค่มาฝึกหลักสูตรเฉพาะทางกระดูก สั่งตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงแล้ว
แพทย์ฝึกอบรมโรงพยาบาลตำรวจเมากร่างตบ ส.ต.ท. กลางด่านตรวจแอลกอฮอล์ เปิดเผยเมื่อเวลา 02.00 น. วันที่ 7 ก.พ. ขณะที่ พ.ต.ท.ไพรัช ไสยเลิศ พนักงานสอบสวน (สบ2) สน.มักกะสัน ปฏิบัติหน้าที่อยู่บนโรงพัก มี ส.ต.ท.บุญชู แสนราช ผบ.หมู่ จร. สน.มักกะสัน กับพวก ช่วยกันนำตัวนายภัทรพล ปธานวนิช อายุ 29 ปี ที่อยู่ในอาการมึนเมาอ้างเป็นแพทย์ รพ.ตำรวจ ไปส่งมอบให้ ดำเนินคดี หลังก่อเหตุทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่บริเวณด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์ แยกศูนย์วิจัย 4 ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กทม.
ส.ต.ท.บุญชู แสนราช ผบ.หมู่ จร. ลำดับเหตุการณ์ ว่า ระหว่างกำลังตั้งด่านตรวจแอลกอฮอล์ตามคำสั่งผู้บังคับบัญชาบริเวณดังกล่าว ได้มีรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซีวิค แต่งซิ่ง สีเลือดหมู ทะเบียน กข 2823 อำนาจเจริญ ขับผ่านมาจึงเรียกตรวจปกติพบนายณัฐสรณ์ คุปกาญจนา อายุ 29 ปี เป็นคนขับ มีหญิงสาวไม่ทราบชื่อนั่งข้าง ส่วนนายภัทรพล ปธานวนิช นั่งเบาะหลัง ตนจึงขอดูใบอนุญาตขับขี่ของนายณัฐสรณ์ แต่เจ้าตัวทำท่าไม่ค่อยพอใจเหมือนจะไม่ให้ความร่วมมือในการตรวจ แล้วจู่ๆ เพื่อนชายที่นั่งอยู่เบาะหลังอยู่ในสภาพมึนเมาก็เปิดประตูเดินลงมาหาเรื่องตน ก่อนปรี่ตบหน้าตนอย่างแรงถึง 2 ฉาดใหญ่ แต่ตนไม่ได้ตอบโต้ กระทั่งตำรวจที่ตั้งด่านด้วยกันเข้ามาช่วยล็อกตัวไว้
ต่อมามีชายลักษณะท่าทางภูมิฐานเข้ามาอ้างเป็น อาจารย์แพทย์ของนายภัทรพลขอร้องไม่ให้ตำรวจติดใจเอาความกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมให้เหตุผลว่า นายภัทรพลเป็นแพทย์ที่ทำงานเก่ง และมีอนาคตดี ไม่อยากให้เสียอนาคต อีกทั้งยังเป็นแพทย์คอยรักษาเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย เพียงแต่เมื่อคืนที่ผ่านมาไปกินเลี้ยงสังสรรค์กับเพื่อนย่านทองหล่ออาจเกิดอาการมึนเมาจนขาดสติโดยไม่ได้ตั้งใจจะก่อเหตุทำร้ายตำรวจขณะปฏิบัติหน้าที่ตั้งด่านตรวจอยู่
อย่างไรก็ตาม ทั้ง 2 ฝ่ายพยายามเจรจาไกล่เกลี่ยนานพักใหญ่ สุดท้ายนายภัทรพลยอมยกมือไหว้ขอโทษ ส.ต.ท.บุญชูคู่กรณีต่อหน้า พ.ต.ท.คำรณ เมตตาวิวัฒน์ สว.จร.สน.มักกะสัน เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้แจ้งดำเนินคดีนายภัทรพลข้อหาทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงานในขณะปฏิบัติหน้าที่ เสียค่าปรับ 1,000 บาท ก่อนปล่อยตัวกลับไป ท่ามกลางความเคลือบแคลงใจในหมู่ตำรวจจราจรที่อยู่ในเหตุการณ์ ส่วนนายณัฐสรณ์โชเฟอร์หนุ่มรถซิ่งตรวจแล้วไม่พบมีแอลกอฮอล์ในร่างกายเกินกว่ากฎหมายกำหนดจึงกลับออกไปพร้อมเพื่อนด้วยเช่นกัน
ด้าน พล.ต.ท.จงเจตน์ อาวเจนพงษ์ นายแพทย์ใหญ่ (สบ8) รพ.ตร.ชี้แจงกรณีที่เกิดขึ้นว่า นายภัทรพล ปธานวนิช ไม่ได้เป็นแพทย์ตำรวจอย่างที่ปรากฏในข่าว แต่เป็นเพียงแพทย์ฝึกอบรมแพทย์เฉพาะทางด้านกระดูก ชั้นปี 2 ของโรงพยาบาล หลังจบมาจากคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล มีแพทย์ตำรวจเป็นอาจารย์ คอยคุมตามหลักสูตรฝึกอบรม 4 ปี ตนสอบถามอาจารย์หมอที่คุมนายภัทรพลแล้วยืนยันว่า นายภัทรพลปกตินิสัยดี
แพทย์ใหญ่ รพ.ตร.ระบุอีกว่า คืนวันเกิดเหตุทราบว่า นายภัทรพลกับเพื่อนพากันไปเลี้ยงสังสรรค์ฉลองรุ่นน้องจบฝึกอบรมชั้นปี 1 ซึ่งผู้บังคับบัญชากำชับไปแล้วว่า หากใครดื่มสุราต้องให้คนไม่ดื่มขับรถ ปรากฏว่านายภัทรพลดันไปออกตัวแทนเพื่อนที่ไม่ยอมให้ตรวจเป่าวัดแอลกอฮอล์ เพราะต้องการให้เจาะเลือดพิสูจน์ที่โรงพยาบาลตำรวจมากกว่า เมื่อคุยกันไม่เข้าใจเลยกระทบกระทั่งกันบานปลาย เรื่องนี้ได้ให้ตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงแล้ว แต่ทำได้อย่างมากคือตัดคะแนนฝึกอบรม คงไม่ถึงขั้นไล่ออกจากหลักสูตร เพราะจะทำลายอนาคตแพทย์
ที่มา- //www.thairath.co.th/today/view/63705
^
^
^
กรณีตามข่าว พนักงานสอบสวนคงปรับฐานความผิดให้เข้าโทษที่เบาที่สุดตามกฏหมายอาญา คือ ลหุโทษ ดังนี้
มาตรา 391 ผู้ใดใช้กำลังทำร้ายผู้อื่นไม่ถึงกับเป็นเหตุให้เกิด อันตรายแก่กายหรือจิตใจ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
///
ซึ่งหากผู้กระทำผิดยอมเสียค่าปรับในอัตราที่พนักงานสอบสวนเปรียบเทียบ คดีอาญานั้นจะเลิกกันได้ ตามหลักในประมวลกฏหมายวิธีพิจารณาความอาญาดังนี้ครับ
มาตรา 37 คดีอาญาเลิกกันได้ ดังต่อไปนี้
(2) ในคดีความผิดที่เป็นลหุโทษหรือความผิดที่มี อัตราโทษไม่สูงกว่าความผิดลหุโทษ หรือคดี อื่นที่มีโทษปรับสถานเดียวอย่างสูงไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือความผิดต่อกฎหมายเกี่ยวกับภาษีอากรซึ่ง มีโทษปรับอย่างสูงไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท เมื่อผู้ต้องหาชำระค่าปรับตามที่พนักงานสอบสวนได้เปรียบ เทียบแล้ว
(3) ในคดีความผิดที่เป็นลหุโทษหรือความผิดที่มี อัตราโทษไม่สูงกว่าความผิดลหุโทษ หรือ คดีที่มีโทษปรับสถานเดียวอย่างสูงไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท ซึ่งเกิดในกรุงเทพมหานคร เมื่อผู้ต้องหา ชำระค่าปรับตามที่นายตำรวจประจำท้องที่ตั้งแต่ตำแหน่งสารวัตรขึ้นไป หรือนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร ผู้ทำการในตำแหน่งนั้น ๆ ได้เปรียบเทียบแล้ว
////
อย่างไรก็ตาม พฤติการณ์ตามข่าว ที่ว่า " ตนจึงขอดูใบอนุญาตขับขี่ของนายณัฐสรณ์ แต่เจ้าตัวทำท่าไม่ค่อยพอใจเหมือนจะไม่ให้ความร่วมมือในการตรวจ แล้วจู่ๆ เพื่อนชายที่นั่งอยู่เบาะหลังอยู่ในสภาพมึนเมาก็เปิดประตูเดินลงมาหาเรื่องตน ก่อนปรี่ตบหน้าตนอย่างแรงถึง 2 ฉาดใหญ่" กรณีน่าจะเข้าองค์ประกอบความผิดฐานต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานในขณะปฏิบัติหน้าที่ ตามกฏหมายอาญาดังนี้ครับ
มาตรา 138 ผู้ใดต่อสู้หรือขัดขวางเจ้าพนักงานหรือผู้ซึ่งต้องช่วยเจ้าพนักงานตามกฎหมายในการปฏิบัติการตามหน้าที่ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ถ้าการต่อสู้หรือขัดขวางนั้น ได้กระทำโดยใช้กำลังประทุษร้ายหรือ ขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน สองปีหรือปรับไม่เกินสี่พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
^
^
ซึ่งความผิดดังกล่าวยอมความไม่ได้ซะด้วย
ถ้าจะให้ตรงไปตรงมา และ สังคมไม่วิจารณ์ น่าจะแจ้งข้อหาตาม ม.138 แล้วส่งฟ้องให้ศาลพิจารณาครับ จะลดโทษหรือรอไว้หรือยกฟ้องยังไง ก็แล้วแต่ศาล
เพราะถ้าทำยังงี้ แบบคดีนี้ จะเหมือนคุณน้าออดว่าครับ มันจะกลายเป็นบรรทัดฐาน
วันหนึ่งข้างหน้า ตำรวจที่โดนตบอาจเป็นลูกหลานเรามั่ง ทำไง
อีกอย่าง
ถ้าผู้ต้องหา ไม่ใช่คนระดับคุณหมอเหมือนในข่าวข้างต้น แต่เป็นเด็กแว้น หรือ ลูกตาสีตาสา ผลของคดีจะเหมือนเคสนี้หรือไม่ครับ
ขอร่วมแสดงความเห็นเพียงเท่านี้ครับ
จากคุณ : อุบลแมน
เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 53 19:36:18
| Create Date : 08 กุมภาพันธ์ 2553 |
| Last Update : 8 กุมภาพันธ์ 2553 19:52:52 น. |
|
2 comments
|
| Counter : 1376 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: joykhemmanat (joykhemmanat  ) วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:22:02:20 น. |
|
|
|
|
|
|
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [