พ.ร.บ. ล้มละลาย ม. 60
********ถาม พ.ร.บ. ล้มละลาย ม. 60 หน่อยคับ********
มาตรา 60 ถ้าลูกหนี้ผิดนัดไม่ชำระหนี้ตามที่ได้ตกลงไว้ในการประนอมหนี้ก็ดีหรือปรากฏแก่ศาลโดยมีพยานหลักฐานว่า การประนอมหนี้นั้นไม่อาจ ดำเนินไปได้โดยปราศจากยุติธรรม หรือจะเป็นการเนิ่นช้าเกินสมควรก็ดีหรือ การที่ศาลได้มีคำสั่งเห็นชอบด้วยนั้นเป็นเพราะถูกหลอกลวงทุจริตก็ดี เมื่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์รายงานหรือเจ้าหนี้คนใดมีคำขอโดยทำเป็นคำร้องศาลมีอำนาจยกเลิกการประนอมหนี้และพิพากษาให้ลูกหนี้ล้มละลาย แต่ทั้งนี้ไม่กระทบถึงการใดที่ได้กระทำไปแล้วตามข้อประนอมหนี้นั้น
***แต่ทั้งนี้ไม่กระทบถึงการใดที่ได้กระทำไปแล้วตามข้อประนอมหนี้นั้น***
คือจะถามว่า ถ้าผู้ค้ำประกัน (ในการประนอมหนี้) ได้ชำระเงินบางส่วนให้เจ้าหนี้ของลูกหนี้ไปแล้ว จะขอคืนไม่ได้
อยากทราบว่าแล้วผู้ค้ำประกันจะไปเรียกเงินที่ชำระแล้วยังไงหรอคับ จะเรียกตาม ว.2 คือถือว่าเป็นหนี้ที่ขึ้นในระหว่างวันที่ศาลได้มีคำสั่งเห็นชอบด้วยการประนอมหนี้ ถึงวันที่ศาลพิพากษาให้ลูกหนี้ล้มละลาย ได้หรือเปล่าคับ
หรือจะเรียกตามม. 101 "ถ้าลูกหนี้ร่วมบางคนถูกพิทักษ์ทรัพย์ ลูกหนี้ร่วมคนอื่นอาจยื่นคำขอรับชำระหนี้สำหรับจำนวนที่ตนอาจใช้สิทธิไล่เบี้ยในเวลาภายหน้าได้ เว้นแต่เจ้าหนี้ได้ใช้สิทธิขอรับชำระหนี้ไว้เต็มจำนวนแล้ว
บทบัญญัติในวรรคก่อนให้ใช้บังคับแก่ผู้ค้ำประกัน ผู้ค้ำประกันร่วม หรือบุคคลที่อยู่ในลักษณะเดียวกันนี้โดยอนุโลม"
ได้หรือเปล่าคับ
***ผู้รู้ทุกท่านช่วยตอบผมที ขอบพระคุณอย่างยิ่ง***
จากคุณ : หนึ่งกระบี่ท่องทั่วหล้า เขียนเมื่อ : 25 ก.ย. 53 23:32:05
ความคิดเห็นที่ 4
กรณีตามกระทู้ น่าจะเกิดขึ้นได้จริงยากนัก เพราะ น้อยคน ที่จะยอมตนไปค้ำประกันลูกหนี้ตามคำขอประนอมหนี้ในคดีล้มละลาย
แต่อย่างไรก็ตาม กรณีตามกระทู้ได้เคยเกิดขึ้นจริง และ ขึ้นสู่ศาลฎีกามาแล้วครับ
ฎีกาตัดสินเกี่ยวกับปัญหาข้อกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1239/2508 คณหญิงแช่ม ราชนกุล โจทก์
นายเจือ โชติกะพุกกะณะ จำเลย
นายทองอิน โชติกะพุกกะณะ ผู้ร้อง
พ.ร.บ.ล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 56, 57, 60
คดีล้มละลายที่ศาลมีคำสั่งเห็นชอบด้วยคำขอประนอมหนี้ ต่อมาปรากฏแก่ศาลว่าการประนอมหนี้ไม่อาจดำเนินไปได้โดยปราศจากอยุติธรรม ศาลจึงได้มีคำสั่งให้ยกเลิกการประนอมหนี้และพิพากษาให้ลูกหนี้ล้มละลายนั้น คำสั้งศาลที่ให้ยกเลิกการประนอมหนี้ย่อมไม่กระทบถึงการใดที่ได้กระทำไปแล้วตามข้อประนอมหนี้ ฉะนั้น ผู้ร้องซึ่งเป็นผู้ค้ำประกันลูกหนี้และได้ชำระเงินค่าใช้จ่ายตามคำขอประนอมหนี้และเงินที่จะต้องชำระแก่เจ้าหนี้แล้ว จึงขอคืนเงินดังกล่าวไม่ได้
________________________________
คดีนี้ โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยล้มละลายศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์จำเลยเด็ดขาด ต่อมาเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์นัดประชุมเจ้าหนี้ครั้งแรก และรายงานต่อศาลว่าเจ้าหนี้ลงมติพิเศษยอมรับคำขอประนอมหนี้ ศาลไต่สวนลูกหนี้โดยเปิดเผยแล้วมีคำสั่งเห็นชอบด้วย
ต่อมาเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์รายงานต่อศาลว่า ได้อนุญาตให้นายเชวงและนายศิลป์ ขอถอนคำขอชำระหนี้และเห็นว่าคนทั้งสองนี้น่าจะไม่ใช่เจ้าหนี้ที่แท้จริง การประนอมหนี้ไม่อาจดำเนินไปได้โดยปราศจากอยุติธรรม ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้วมีคำสั่งให้ยกเลิกการประนอมหนี้แล้วพิพากษาให้จำเลยเป็นบุคคลล้มละลาย
นายทองอินผู้ร้องยื่นคำร้องต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ขอรับเงินที่ชำระไว้ทั้งหมดในฐานะผู้ค้ำประกันคืน
เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์สั่งว่า เงินที่ชำระทั้งหมดเป็นการกระทำตามคำขอประนอมหนี้ของลูกหนี้ การสั่งยกเลิกการประนอมหนี้และพิพากษาให้ลูกหนี้ล้มละลายย่อมไม่กระทบถึงการที่ได้กระทำไปแล้ว เจ้าพนักงานจึงไม่อาจคืนให้ผู้ร้องได้ ให้ยกคำร้อง
นายทองอินยื่นคำร้องขอคืนเงินต่อศาล
ศาลแพ่งเห็นชอบด้วยคำวินิจฉัยของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ จึงสั่งให้ยกคำร้อง
นายทองอินผู้ร้องอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
นายทองอินผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย มาตรา ๖๐ วรรคแรก ที่ว่าถ้าลูกหนี้ผิดนัดไม่ชำระหนี้ตามที่ได้ตกลงไว้ในการประนอมหนี้ก็ดี หรือปรากฏแก่ศาลโดยมีพยานหลักฐานว่าการประนอมหนี้นั้นไม่อาจดำเนินไปได้โดยปราศจากความอยุติธรรมหรือจะเป็นการเนิ่นช้าเกินสมควรก็ดี หรือการที่ศาลได้มีคำสั่งเห็นชอบด้วยนั้นเป็นเพราะถูกหลอกลวงทุจริตก็ดี เมื่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์รายงานหรือเจ้าหนี้คนใดมีคำขอโดยทำเป็นคำร้อง ศาลมีอำนาจยกเลิกการประนอมหนี้และพิพากษาให้ลูกหนี้ล้มละลาย แต่ทั้งนี้ไม่กระทบถึงการใดที่ได้กระทำไปแล้วตามข้อประนอมหนี้นั้น เห็นว่าเมื่อผู้ร้องได้นำเงินมาชำระตามคำขอประนอมหนี้ ก็ได้ชื่อว่าได้กระทำการไปแล้วตามข้อประนอมหนี้ตามความในมาตรา ๖๐ ซึ่งในมาตรานี้ระบุไว้ชัดแจ้งว่า คำสั่งศาลที่ให้ยกเลิกการประนอมหนี้ไม่กระทบถึงการใดที่ได้กระทำไปแล้วตามข้อประนอมหนี้ ฉะนั้น ผู้ร้องจึงขอคืนเงินไม่ได้
พิพากษายืน ให้ยกฎีกาผู้ร้อง
( สอาด นาวีเจริญ - สวิง ลัดพลี - วิเชียร เศวตรุนทร์ )
ศาลแพ่ง - นายเสถียร ลิมปิษเฐียร
ศาลอุทธรณ์ - นายสิทธิ เกตุทัต
//////////
คำพิพากษาศาลฎีกาดังกล่าวได้วินิจฉัยไว้ตั้งแต่ปี 2508 โดยไม่ได้วินิจฉัยต่อไปว่า ผู้ค้ำประกันลูกหนี้ตามคำขอประนอมหนี้จะต้องทำเช่นไร
ในความเห็นส่วนตัว
การยกเลิกการประนอมหนี้ ย่อมทำให้ลูกหนี้เข้าสู่ภาวะล้มละลายอีกครั้ง โดยเจ้าพนักงานพิทักทรัพย์ประกาศแจ้งคำพิพากษาในราชกิจจานุเบกษาและในหนังสือพิมพ์รายวัน เพื่อให้บรรดาให้เจ้าหนี้ทั้งหลายเสนอคำขอรับชำระหนี้ "ที่ลูกหนี้ได้กระทำขึ้นในระหว่างวันที่ศาลได้มีคำสั่งเห็นชอบด้วยการประนอมหนี้ " ตาม ม.60 วรรคสอง
ดังนั้น ผู้ที่ค้ำประกันลูกหนี้ตามคำขอประนอมหนี้+ผู้ค้ำประกันได้มีการชำระเงินแทนลูกหนี้ไปตามคำขอประนอมหนี้นั้นๆ และ ต่อมาคำขอประนอมหนี้ถูกยกเลิก ผู้ค้ำประกันนั้น ย่อมถือว่ามีสิทธิในฐานะเป็นเจ้าหนี้ของลูกหนี้ที่จะไล่เบี้ยเอาเงินที่ชำระแทนนั้นๆดดยวิธียื่นคำขอรับชำระหนี้คืนจากกองทรัพย์สินของลูกหนี้ได้
ทั้งนี้น่าจะเป็นภายในเวลา 2 เดือนนับแต่การประกาศแจ้งคำพิพากษา และ ภายใต้เงื่อนไขของ ม.101
ซึ่งตามความเข้าใจของคุณ จขกท. ที่ถามมาตามกระทู้ จึงน่าจะถูกต้องแล้วครับ
ขอร่วมแสดงความเห็นเพียงเท่านี้ครับ
แก้ไขเมื่อ 26 ก.ย. 53 17:37:47
จากคุณ : อุบลแมน เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 53 16:19:06 //www.pantip.com/cafe/social/topic/U9732126/U9732126.html
Create Date : 01 ตุลาคม 2553 |
Last Update : 1 ตุลาคม 2553 23:16:18 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1725 Pageviews. |
|
|
|
|
|