อายุความหนี้ค้างชำระค่าใช้บริการโทรศัพท์
ทวงหนี้ค่าโทรศัพท์ตั้งแต่ 6-7 ปีที่แล้ว
สวัสดีครับ ผมมีเรื่องอยากจะรบกวนนักกฎหมายหน่อนน่ะครับ เพราะผมไม่มีความรู้ด้านนี้เลย
เมื่อประมาณปี 2547 ผมได้เปิดใช้โทรศัพท์สัญญานหนึ่ง ซึ่งจดทะเบียนเป็นรายเดือน เดือนละ 900 บาท(ไม่รวมvat) สัญญา 1 ปี
แต่พอผมใช้ไปได้เดือนแรก มีค่าโทรถึง 2,500+- ผมก็ตกใจ ว่าทำไมมันถึงได้เยอะขนาดนี้ ทั้งๆที่ไม่ค่อยได้โทรเท่าไหร่ ใบแจ้งหนี้ก็ไม่ได้แจ้งว่าโทรไปเบอร์ไหนบ้าง
เดือนแรกผมก็จ่ายไปแบบเสียดายเงิน
พอเดือนที่สองผมก็ไม่ค่อยโทร โทรน้อยกว่าเดือนแรกอีก ก็ยังเกิน 2,000 อยู่อีก เอ๊ะยังไง แต่ก็ยังจ่ายเหมือนเดิม
พอมาเดือนที่สามผมปิดเครื่องเลย ไม่โทร ไม่รับ ลองดูว่าจะโดนเท่าไหร่ ใบแจ้งหนี้มาสิ้นเดือน เกือบสองพัน โอ้ววววว เกิดอะไรขึ้นเนี่ย โทรไม่ได้โทร รับก็ไม่ได้รับ ผมก็เลยไม่จ่าย
ผมก็เลยโทรไปที่คอลเซ็นเตอร์เพื่อจะแจ้งระงับ แต่เขาบอกว่าระงับไม่ได้ เพราะติดสัญญา 1 ปี ต้องจ่ายขั้นต่ำต่อเดือนตามที่ทำสัญญาไว้
สิ้นเดือนมาก็ยังเรียกเก็บ เดือนละเกือบสองพัน ทั้งๆที่ผมเลิกใช้แล้ว ผมก็เลยไม่จ่าย
จนหมดสัญญา 1 ปี ผมเป็นหนี้เขาอยู่กว่าสองหมื่น เขาก็ส่งจดหมายทวงหนี้มาที่บ้านทุกเดือนๆ
จนมีอยู่เดือนหนึ่ง ทางเขาส่งจดหมายมาว่าขออภัยเนื่องจากระบบคำนวนค่าใช้จ่ายผิดพลาด จึงขอลดให้ ประมาณ 2,500 บาทเห็นจะได้ (ผมก็จำไม่ค่อยได้ว่าเท่าไหร่แน่แต่อยู่ประมาณ 2,000 เพราะมันนานมากแล้ว เอกสารก็ทิ้งไปหมดเลย)
แต่ตอนนั้นผมคิดว่า อ้าว คำนวนเงินผิด แล้วลดให้แค่นี้ ที่เหลืออีกเป็นหมื่นๆเลย จะเอาเงินที่ไหนไปใช้เขาได้ ตอนนั้นผมยังเรียนอยู่เลย ยังไม่มีงานทำ
เดือนถัดมาเขาก็ส่งจดหมายมาทวงเหมือนเดิม และจำนวนเงินก็ไม่ได้หักส่วนลดที่แจ้งมาเมื่อเดือนก่อนนี้อีกตั้งหาก
เขาส่งจดหมายทวงมา 3 ปี ก็เงียบหายไป
จนมาปีนี้ ผมทำงานอยู่บริษัทแห่งหนึ่ง เขาก็โทรมาที่บริษัท จะโทรมาทวงหนี้กับผม แต่ตอนนั้นผมไม่อยู่ เขาก็ทวงผ่านฝ่ายบัณชีมา (ทำให้ผมเสียหน้ามาก และผมก็นึกถึงกฎหมายคุ้มครองลูกหนี้ แต่ผมไม่ค่อยเข้าใจกฎหมายเท่าไหร่)
จนมาวันนี้ 24/03/53 เขาก็ส่งจดหมายส่งฟ้องศาลมาที่ทำงานผมเลย จ่าหน้าซองปั๊มตัวแดงเลยว่าจดหมายดำเนินคดี
ผมกลัวครับ เลยอยากจะถามว่าผมต้องทำยังไง เขาบอกว่าจะส่งฟ้องศาลภายในวันที่ 2 เมษายนนี้
ขอคำแนะนำด้วยครับ ว่าควรจะทำยังไงดี ถ้าปล่อยไว้เฉยๆไม่ทำอะไรเลย จะโดนยึดทรัพย์ หรือ ต้องติดคุกมั้ยครับ
ก่อนหน้านี้ก็มีจดหมายทำนองนี้มาทวงที่บ้าน แต่ผมก็ไม่ได้ทำอะไร กลัว และก็ไม่มีกำลังทรัพย์ไปใช้ แต่ก็เงียบหายไปอีกเป็นปีๆ จนป่านนี้ก็เกือบจะ 7 ปีแล้ว
ผมจะเสียประวัติด้วยมั้ยครับ เผื่อต่อไปจะทำธุรกรรมการเงินต่างๆ
เพราะเงินจำนวนนั้นผมก็ยังไม่มีให้เขาด้วย
รบกวนผู้รู้ช่วยให้คำแนะนำผมด้วยครับ ตอนนี้ผมร้อนใจมากเลย
ขอบพระคุณล่วงหน้าครับ
จากคุณ : ลูกจ้าวสมุทร เขียนเมื่อ : 24 มี.ค. 53 12:43:00
ความคิดเห็นที่ 3
กรณีค่าใช้บริการโทรศัพท์ตามกระทู้
อายุความน่าจะเป็นไปตามประมวลกฏหมายแพ่งและพาณิชย์ดังนี้ครับ
มาตรา 193/34 สิทธิเรียกร้องดังต่อไปนี้ ให้มีกำหนดอายุความ สองปี (1) ผู้ประกอบการค้าหรืออุตสาหกรรม ผู้ประกอบหัตถกรรม ผู้ประกอบศิลปอุตสาหกรรมหรือช่างฝีมือ เรียกเอาค่าของที่ได้ส่งมอบ ค่าการงานที่ได้ทำ หรือค่าดูแลกิจการของผู้อื่น รวมทั้งเงินที่ได้ออก ทดรองไป เว้นแต่เป็นการที่ได้ทำเพื่อกิจการของฝ่ายลูกหนี้นั้นเอง (2) ผู้ประกอบเกษตรกรรมหรือการป่าไม้ เรียกเอาค่าของที่ได้ ส่งมอบอันเป็นผลิตผลทางเกษตรหรือป่าไม้ เฉพาะที่ใช้สอยในบ้าน เรือนของฝ่ายลูกหนี้นั้นเอง (3) ผู้ขนส่งคนโดยสารหรือสิ่งของหรือผู้รับส่งข่าวสาร เรียก เอาค่าโดยสาร ค่าระวาง ค่าเช่า ค่าธรรมเนียม รวมทั้งเงินที่ได้ออก ทดรองไป (4) ผู้ประกอบธุรกิจโรงแรมหรือหอพัก ผู้ประกอบธุรกิจในการ จำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม หรือผู้ประกอบธุรกิจสถานบริการตาม กฎหมายว่าด้วยสถานบริการเรียกเอาค่าที่พัก อาหารหรือเครื่องดื่ม ค่าบริการหรือค่าการงานที่ได้ทำให้แก่ผู้มาพักหรือใช้บริการ รวมทั้ง เงินที่ได้ออกทดรองไป (5) ผู้ขายสลากกินแบ่ง สลากกินรวบหรือสลากที่คล้ายคลึงกัน เรียกเอาค่าขายสลาก เว้นแต่เป็นการขายเพื่อการขายต่อ (6) ผู้ประกอบธุรกิจในการให้เช่าสังหาริมทรัพย์ เรียกเอาค่าเช่า (7) บุคคลซึ่งมิได้เข้าอยู่ในประเภทที่ระบุไว้ใน (1) แต่เป็นผู้ ประกอบธุรกิจในการดูแลกิจการของผู้อื่นหรือรับทำงานการต่าง ๆ เรียกเอาสินจ้างอันจะพึงได้รับในการนั้น รวมทั้งเงินที่ได้ออกทดรองไป (8) ลูกจ้างซึ่งรับใช้การงานส่วนบุคคล เรียกเอาค่าจ้างหรือสิน จ้างอย่างอื่นเพื่อการงานที่ทำ รวมทั้งเงินที่ได้ออกทดรองไป หรือ นายจ้างเรียกเอาคืนซึ่งเงินเช่นว่านั้นที่ตนได้จ่ายล่วงหน้าไป (9) ลูกจ้างไม่ว่าจะเป็นลูกจ้างประจำ ลูกจ้างชั่วคราว หรือลูกจ้าง รายวัน รวมทั้งผู้ฝึกหัดงาน เรียกเอาค้าจ้างหรือสินจ้างอย่างอื่น รวมทั้งเงินที่ได้ออกทดรองไป หรือนายจ้างเรียกเอาคืนซึ่งเงินเช่น ว่านั้นที่ตนได้จ่ายล่วงหน้าไป (10) ครูสอนผู้ฝึกหัดงาน เรียกเอาค่าฝึกสอนและค่าใช้จ่ายอย่างอื่น ตามที่ได้ตกลงกันไว้ รวมทั้งเงินที่ได้ออกทดรองไป (11) เจ้าของสถานศึกษาหรือสถานพยาบาล เรียกเอาค่า ธรรมเนียมการเรียนและค่าธรรมเนียมอื่น ๆ หรือค่ารักษาพยาบาล และค่าใช้จ่ายอย่างอื่นรวมทั้งเงินที่ได้ออกทดรองไป (12) ผู้รับคนไว้เพื่อการบำรุงเลี้ยงดูหรือฝึกสอน เรียกเอาค่า การงานที่ทำให้ รวมทั้งเงินที่ได้ออกทดรองไป (13) ผู้รับเลี้ยงหรือฝึกสอนสัตว์ เรียกเอาค่าการงานที่ทำให้ รวมทั้งเงินที่ได้ออกทดรองไป (14) ครูหรืออาจารย์ เรียกเอาค่าสอน (15) ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม ทันตกรรม การพยาบาล การผดุงครรภ์ ผู้ประกอบการบำบัดโรคสัตว์หรือผู้ประกอบโรคศิลปะ สาขาอื่น เรียกเอาค่าการงานที่ทำให้รวมทั้งเงินที่ได้ออกทดรองไป (16) ทนายความหรือผู้ประกอบวิชาชีพทางกฎหมาย รวมทั้ง พยานผู้เชี่ยวชาญ เรียกเอาค่าการงานที่ทำให้ รวมทั้งเงินที่ได้ออก ทดรองไป หรือคู่ความเรียกเอาคืนซึ่งเงินเช่นว่านั้นที่ตนได้จ่าย ล่วงหน้าไป (17) ผู้ประกอบวิชาชีพวิศวกรรม สถาปัตยกรรม ผู้สอบบัญชี หรือผู้ประกอบวิชาชีพอิสระอื่น เรียกเอาค่าการงานที่ทำให้ รวม ทั้งเงินที่ได้ออกทดรองไป หรือผู้ว่าจ้างให้ประกอบการงานดังกล่าว เรียกเอาคืนซึ่งเงินเช่นว่านั้นที่ตนได้จ่ายล่วงหน้าไป /////
คือ กรณีน่าจะมีอายุความเพียง 2 ปี ตามม.193/34(7)
จากข้อเท็จจริงที่ จขกท.ให้มา ถ้าการชำระครั้งสุดท้ายแล้วไม่ชำระอีก นับมาถึงปัจจุบัน เกินกว่า 2 ปี กรณีจึงน่าจะขาดอายุความไปแล้วครับ
ซึ่งเคยมีคำพิพากษาศาลฎีกาวางหลักสนับสนุนไว้ด้วยดังนี้
////////////
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3602/2546 การสื่อสารแห่งประเทศไทย โจทก์
นาย ส. จำเลย
ป.พ.พ. มาตรา 203, 193/34, 387
สิทธิเรียกร้องของโจทก์ในหนี้อันเกิดจากการใช้สินค้าและบริการของผู้ประกอบการค้าหรือผู้ให้บริการ มิได้กำหนดเวลาการชำระหนี้ไว้ชัดเจน ถือได้ว่าเป็นหนี้ที่ไม่มีกำหนดระยะเวลาชำระหนี้เจ้าหนี้ย่อมมีสิทธิเรียกร้องให้ชำระหนี้ได้โดยพลันตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 203
สัญญาเช่าใช้บริการโทรศัพท์ระหว่างโจทก์จำเลย ไม่มีกำหนดระยะเวลาแน่นอนเพื่อให้จำเลยชำระหนี้ที่เกิดจากการใช้บริการโทรศัพท์ แม้ตามเงื่อนไขของสัญญาดังกล่าวระบุให้ผู้ใช้บริการนำเงินค่าใช้บริการไปชำระให้แก่ผู้ให้บริการภายในระยะเวลาที่ระบุไว้ในใบแจ้งหนี้ ก็เป็นเพียงเงื่อนไขของการบอกกล่าวเพื่อให้ชำระหนี้ตามความหมายของประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 387 เท่านั้น ฉะนั้น สิทธิเรียกร้องของโจทก์ที่จะเรียกร้องให้จำเลยชำระหนี้ค่าใช้บริการจึงเกิดขึ้นตั้งแต่จำเลยได้ใช้บริการโทรศัพท์ของโจทก์ในแต่ละครั้ง เมื่อช่วงระยะเวลาที่จำเลยใช้บริการโทรศัพท์จนถึงวันฟ้องเกินกว่า2 ปี คดีของโจทก์จึงขาดอายุความ ///////
ขอร่วมแสดงความเห็นเพียงเท่านี้ครับ
จากคุณ : อุบลแมน เขียนเมื่อ : 24 มี.ค. 53 14:28:57
ที่มา- //www.pantip.com/cafe/social/topic/U9030992/U9030992.html
Create Date : 24 มีนาคม 2553 |
Last Update : 24 มีนาคม 2553 18:06:34 น. |
|
5 comments
|
Counter : 45315 Pageviews. |
|
|
|