เกี่ยวกับการส่งหมายเรียกสำเนาคำฟ้อง และ การเป็นคนค้ำประกัน
ขอคำแนะนำเรื่องเป็นคนค้ำประกัน
พี่ชายได้ค้ำประกันรถยนต์ให้กับพี่เขยเมื่อประมาณปี 2548-2549 แต่รถได้ถูกยึดโดยที่พี่ชายทราบว่ารถถูกยึดแต่ถามพี่เขยว่าจะมีปัญหาอะไรไหม พี่เขยแจ้งว่า ไม่มีปัญหาอะไร ทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว พี่ชายก็วางใจ ดำเนินชีวิตมาเป็นปกติ จนกระทั่งพี่ชายตัดสินใจขายคอนโด (ซื้อเงินสด) ประกาศขายมาเกือบปี จนกระทั่งมีคนมาติดต่อซื้อ กำลังนัดกันโอนและชำำระเงิน ปรากฎว่าพาคนซื้อไปดูคอนโด เพื่อคุยเรื่องทำหนังสือปลอดหนี้จากนิติกร พี่ชายไปพบว่าที่หน้าคอนโดมีหมายบังคับยึดทรัพย์ติดอยู่
หมายเป็นคดีแดง และบังคับยึดทรัพย์แล้ว มูลหนี้อยู่ที่ 80,000 บาท แต่มูลค่าทรัพย์อยู่ที่ 690,000 บาท
พี่ชายสงสัยว่า ไม่เคยได้รับหนังสือแจ้งจากทางศาล คือไม่ได้หมายเรียกเลย ทำไมถึงยึดทรัพย์พี่ชายได้ จากที่อ่านดูในใบปิดหน้าคอนโด พี่ชายเป็นจำเลยที่ 2 ซึ่งในหมายไม่ได้กล่าวถึงตัวพี่เขยเลย นอกจากบอกว่าเป็นจำเลยที่ 1
พี่ชายจะสามารถทำอะไรได้บ้างคะ
ปล. พี่เขยก็ยังอยู่ แต่ไม่สามารถช่วยอะไรได้เลย พี่สาวก็กรี๊ดๆ ร้องไห้โวยวาย เลยไม่อยากจะไปยุ่งกับเค้า
รบกวนขอคำแนะนำด้วยค่ะ ถ้าแนะนำให้ชำระหนี้ เงินก็พอมีแต่เป็นเงินส่วนตัว คือ มีอะไรแนะนำที่จะพอทุเลาการเสียเงินฟรีๆ จากการค้ำประกันครั้งนี้ได้บ้างคะ
จากคุณ : ~ไก่แจ้~ เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 54 09:32:13
ความคิดเห็นที่ 2
เวลาโจทก์เขาฟ้องคดี เมื่อศาลสั่งรับฟ้องแล้ว ศาลจะมีคำสั่งให้ส่งสำเนาคำฟ้องนั้นๆให้จำเลย เพื่อ ยื่นคำให้การหรือไกล่เกลี่ย ภายในระยะเวลาที่ศาลกำหนด
การส่งสำเนาคำฟ้องให้จำเลย โจทก์เขาจะส่งภูมิลำเนาปัจจุบันในขณะยื่นฟ้องของจำเลยไปด้วย(สำเนาทะเบียนบ้าน) โดยเจ้าพนักงานของศาลจะเป็นผู้ไปส่งสำเนาคำฟ้องนั้นๆให้กับจำเลยตามที่อยู่ในทะเบียนบ้านนั้นนั่นเอง
วิธีการส่ง เจ้าพนักงานเขาก็จะไปยังบ้านเลขที่ ตามคำฟ้องโจทก์แล้วส่งหมายให้ ถ้ามีคนอยู่บ้านเขาก็จะให้เซ็นต์รับไว้หรือมีคนอยู่แต่ไม่ยอมเซ็นต์รับหรือไม่มีใครอยู่บ้านเลยเจ้าพนักงานศาลเขาก็จะ"ปิดหมาย"หรือคำฟ้องนั้นๆไว้ที่บ้านนั้นในที่ๆเปิดเผยเห็นได้ง่าย ทั้งนี้เพื่อให้ฝ่ายจำเลยได้รู้ว่าถูกฟ้องและจะได้ต่อสู้คดีอย่างเต็มที่
อย่างไรก็ตาม ปัญหาในทางปฏิบัติ จำเลยส่วนใหญ่จะไม่อยู่บ้านกัน เพราะเวลากลางวันที่ไปเจ้าพนักงานศาลไปส่งหมาย จำเลยและคนในครอบครัวคงไปทำงาน-เรียน การส่งหมายส่วนมากจึงเป็นวิธีปิดหมาย ซึ่งกรณีตามกระทู้เข้าใจว่าเป็นเช่นนั้น ซึ่งถ้ามีการปิดหมายโดยชอบแล้ว ตามกฏหมายก็จะถือว่าจำเลยทราบกระบวนพิจารณาครับ
เป็นไปได้มาก ว่า ปิดหมายแล้ว อาจมีใครมาฉีกไป หรือ อยู่ในหน้าฝนฝนพัดไป หรือ ชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านแต่ตัวจริงๆอยู่อีกที่ ฯลฯ ฝ่ายจำเลยหรือคู่ความที่ไม่ทราบกระบวนพิจารณาเพราะไม่ได้รับหมายในทางปฏิบัติจึงมีมากมายครับ แต่กฏหมายก็บัญญัติไว้เช่นนั้นว่า"ให้การปิดหมายโดยชอบแล้วถือว่าจำเลยทราบกระบวนพิจารณา" เพราะคงไม่มีทางแก้ไขที่ดีกว่านี้ครับ
ตามคำถาม
1. ถ้าแนะนำให้ชำระหนี้ เงินก็พอมีแต่เป็นเงินส่วนตัว คือ มีอะไรแนะนำที่จะพอทุเลาการเสียเงินฟรีๆ จากการค้ำประกันครั้งนี้ได้บ้างคะ
- การค้ำประกัน เป็นการยอมรับรองต่อเจ้าหนี้ว่า ถ้าลูกหนี้ชั้นต้นไม่ชำระหนี้ ผู้ค้ำฯจะชำระหนี้แทน เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาเขามีสิทธิยึดทรัพย์จึงเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้วครับ ทางแก้ไขของผู้ค้ำฯ คือ ต้องไป"จิกหัว"ลูกหนี้ชั้นต้นให้เอาเงินไปใช้หนี้เขาให้ได้ หรือไม่ผู้ค้ำฯอาจฟ้องไล่เบี้ยกับเงินที่เสียไปจากลูกหนี้ชั้นต้นอีกทางหนึ่งครับ
2.เลยอยากทราบว่าจะขอดูรายละเอียดทั้งหมด ว่ามีหมายเรียกกี่ครั้ง นัดมาเมื่อไหร่ ตัดสินวันไหน จะไปหาดูได้จากที่ไหนคะ
- ดูได้ที่ห้องเก็บสำนวนศาลครับ กรณีคงต้องเป็นจำเลยหรือผู้รับมอบอำนาจไปขอตรวจดูเองครับ ในปัจจุบัน บางศาลมีระบบไอทีที่สมบูรณ์พอสมควร อาจตรวจดูได้จากคอมพิวเตอร์หรือในหน้าเพจอินเตอเนตของศาลนั้นๆก็ได้ครับ
ขอร่วมแสดงความเห็นเพียงเท่านี้ครับ
จากคุณ : อุบลแมน เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 54 10:17:51
//www.pantip.com/cafe/social/topic/U11156333/U11156333.html
Create Date : 25 ตุลาคม 2554 |
Last Update : 25 ตุลาคม 2554 13:53:40 น. |
|
1 comments
|
Counter : 1579 Pageviews. |
|
|
|
More Flowers Comments