ยินดีต้อนรับครับผม
Group Blog
 
<<
เมษายน 2553
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
26 เมษายน 2553
 
All Blogs
 
บังคับดคี.. ยึดที่ดิน..ขายชอบหรือไม่...........

หัวข้อสนทนา : บังคับดคี.. ยึดที่ดิน..ขายชอบหรือไม่...........
...... เรื่องมีอยู่ว่า .. นายตำรวจนายหนึ่ง.. ได้ไปกู้ยืมเงิน นาง ก. โดยมีหลักฐานเป็นหนังสือถูกต้องตามกฎหมาย เมื่อหนี้ถึงกำหนด นายตำรวจคนนี้ไม่ชำระหนี้ นาง ก. ก็ฟ้องคดี จนศาลมีคำพิพากษา ให้นายตำรวจคนนี้ชำระหนี้ให้นาง ก. ศาลมีคำบังคับและศาลก็ออกหมาบบังคับคดีเพื่อให้ นายตำรวจคนนี้ปฎิบัติตามคำพิพากษา แต่เขาก็ยังเฉยทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยครับ....
ต่อมา.. วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2552 นาง ก. ได้ตรวจสอบกรรมสิทธิ์ที่ดินมีโฉนดของนายตำรวจคนนี้ 2 แปลงโดยได้มีการถัดถ่ายสำเนาและราคาประเมินรับรองความถูกต้องจากเจ้าพนักงานที่ดิน..... ( โฉนดทั้งสองไม่มีภาระผูกพันใด ๆ เลยครับ )
ต่อมา.. วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2552 นาง ก. ได้ไปที่กรมบังคับคดี เพื่อที่เรื่อง ยึดที่ดินทั้ง 2 แปลง ของนายตำรวจดังกล่าว ( ยึดทรัพย์ ณ ที่ทำการ ) เจ้าพนักงานบังคับคดีรับเรื่อง ต่อมาวันที่ 1 มีนาคม 2552 เจ้าพนักงานบังคับคดีแจ้งคำสั่งการยึดที่ดินทั้ง 2 แปลงดังกล่าว ให้เจ้าพนักงานที่ดินและนายตำรวจ(ลูกหนี้ทราบ )
ต่อมา. เจ้าพนักงานบังคับคดีประกาศแจ้งวันขายทอดตลาดที่ดินทั้ง 2 แปลงให้เจ้าหนี้ และลูกหนี้ได้ทราบ
และเมื่อวันที่ 19 มกราคม 2553 ( วันขายทอดตลาด ) ได้มี นาง ก. ( เจ้าหนี้ ) และบุคคลภายนอกร่วมประมูลทรัพย์ที่ ดิน ทั้ง 2 แปลงดังกล่าว โดยการขายทอดตลาดนั้น เจ้าพนักงานบังคับคดีได้เคาะไม้ขายที่ดิน ทั้ง 2 แปลงดังกล่าวให้กับ นาง ก. ( เจ้าหนี้ ) ซึ่งเป็นผู้ที่ให้ราคาสูงสุด
( ในวันขายทอดตลาด นายตำรวจคนนี้ ( ลูกหนี้ ) ไม่มาในวันขายทอดตลาดครับ....
หลังจากวันขายฯ ... นาง ก. ( เจ้าหนี้ ) ได้นำเงินมาชำระให้กับเจ้าพนักงานบังคับคดี จนครบจำนวน และเจ้าพนักงานบังครับคดีได้ออกหลักฐานให้เพื่อนำไปเปลี่ยนแปลงทางทะเบี่ยนกับเจ้าพนักงานที่ดินต่อไป.....
ต่อมา นาง ก. ได้ไปที่สำนักงานที่ดิน เพื่อขอเปลี่ยนแปลงทางทะเบียนในที่ดินดังกล่าว โดยเจ้าพนักงานที่ดินรับเรื่องแล้วและนัดให้มาทำเรื่องโอนที่ดิน 2 แปลง ในสัปดาห์หน้าครับ......
พอถึงวันนัดโอนที่ดิน เจ้าพนักงานที่ดินแจ้งกับนาง ก. ว่า เจ้าพนักงาน.. ที่ทำเรื่องให้นั้น ลาไปรับปริญญาลูกที่กรุงเทพฯ ให้มาใหม่ในสัปดาห์หน้าครับ.......
สัปดาห์ต่อมา .... นาง ก. ได้ไปที่สำนักงานที่ดินอีกครั้งหนึ่ง เจ้าพนักงานคนนี้.. แจ้งว่า ที่ดิน 2 แปลง ของนายตำรวจคนนี้ ไม่สมารถโอนให้ได้ เนื่องจากเขาเป็นตำรวจ ไปยึดที่ดินเขามาทำไม่ เขาใช้ประกันผู้ต้องหาอยู่นะ คุณ ไม่รู้เหรอ แล้วเจ้าพนักงานที่ดิน ก็แจ้งให้นาง ก.ไปขอคำสั่งศาล มาก่อนเขาจึงจะโอนให้...
ภายหลัง เจ้าพนักงานที่ดิน ตรวจสอบ ที่ดิน 2 แปลงของนายตำรวจคนนี้ว่าได้มีการนำที่ดิน 2 แปลงดังกล่าวนั้นไปประกันผู้ต้องหาจริง แต่ได้ทำสัญญาประกันผู้ต้องหาในวันที่ 5 มิถุนายน 2552 ( ซึ่งเป็นเวลาภายหลังที่ นาง ก. ได้ทำเรืองยึดที่ดิน 2 แปลงดังกล่าว ใน วันที่ 19 กุมภาพันธุ์ 2552 และเจ้าพนักงานบังคับคดีได้แจ้งคำสั้งยึดที่ดินทั้ง 2 แปลงดังกล่าว ให้ นายตำรวจ( ลูกหนี้) และเจ้าพนักงานที่ดินทราบแล้ว เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2552 ครับ...
................ ผมขอถามพี่ ๆ ว่า การขายทอดตลาดที่ดินทั้ง 2 แปลง โดยมี นาง ก. ( เจ้าหนี้ ) เป็นผู้ซื้อได้ ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ครับ .... และเจ้าพนักงานที่ดินโอนที่ดินให้ นาง ก. ได้ไหมครับ และต้องดำเนินการอย่างไรครับ
............. การกระทำของ นายตำรวจ ( ลูกหนี้ ) นั้น มีวิธิการตามกฎหมายอย่างไรครับที่จะเอาผิดกับเขาได้ครับ
จากคุณ : ขอความเป็นธรรม - [24 เม.ย.53 11:38]

ความคิดเห็นที่ 1 :
กรณีตามกระทู้

การยึดทรัพย์ของเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ทำโดยชอบแล้วตามหลักใน ปวิ.แพ่งดังนี้ครับ

มาตรา 304 การยึดอสังหาริมทรัพย์ของลูกหนี้ตามคำพิพากษานั้น ให้เจ้าพนักงานบังคับคดีจัดทำโดยนำเอาหนังสือสำคัญสำหรับทรัพย์สิน นั้นมา และฝากไว้ ณ สถานที่ใด หรือแก่บุคคลใดตามที่เห็นสมควร และแจ้งการยึดนั้นให้ลูกหนี้ตามคำพิพากษาและเจ้าพนักงานที่ดิน ผู้มีหน้าที่ทราบ ให้เจ้าพนักงานที่ดินบันทึกการยึดไว้ในทะเบียน ถ้าหนังสือสำคัญยังไม่ได้ออก หรือนำมาแสดงไม่ได้หรือหาไม่พบ ให้ถือว่าการที่ได้แจ้งการยึดต่อลูกหนี้ตามคำพิพากษาและเจ้าพนักงาน ที่ดินนั้น เป็นการยึดตามกฎหมายแล้ว
การยึดอสังหาริมทรัพย์นั้น ครอบไปถึงเครื่องอุปกรณ์และดอก ผลนิตินัยของอสังหาริมทรัพย์นั้นด้วย เว้นแต่จะได้มีกฎหมายบัญญัติ ไว้เป็นอย่างอื่น ดอกผลธรรมดาที่ลูกหนี้ตามคำพิพากษาจะต้องเป็น ผู้เก็บเกี่ยวหรือบุคคลอื่นเก็บเกี่ยวในนามของลูกหนี้นั้นเมื่อเจ้าพนักงาน บังคับคดีได้แจ้งเป็นหนังสือให้ทราบในขณะทำการยึดว่า จะทำการ เก็บเกี่ยวเองแล้วเจ้าพนักงานบังคับคดีอาจจัดให้เก็บเกี่ยวดอกผลนั้น ได้เมื่อถึงกำหนด และทำการขายทอดตลาดตามบทบัญญัติในลักษณะนี้

////

คือ มีการแจ้งการยึดให้ลูกหนี้ตามคำพิพากษา และ เจ้าพนักงานที่ดิน ทราบว่าได้มีการยึดที่ดินนั้นๆไว้เพื่อจะทำการขายทอดตลาดต่อไป

ซึ่ง การแจ้งการยึดตามม.๓๐๔ ข้างต้นจะมีผลดังนี้ครับ

มาตรา 305 การยึดทรัพย์สินของลูกหนี้ตามคำพิพากษาดั่ง บัญญัติไว้ในสอง มาตรา ก่อนนี้ มีผลดั่งต่อไปนี้
(1) การที่ลูกหนี้ตามคำพิพากษาได้ก่อให้เกิด โอนหรือเปลี่ยนแปลง ซึ่งสิทธิในทรัพย์สินที่ถูกยึดภายหลังที่ได้ทำการยึดไว้แล้วนั้น หาอาจ ใช้ยันแก่เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาหรือเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ไม่ ถึงแม้ ว่าราคาแห่งทรัพย์สินนั้นจะเกินกว่าจำนวนหนี้ตามคำพิพากษา และค่าฤชาธรรมเนียมในการฟ้องร้องและการบังคับคดี และลูกหนี้ตาม คำพิพากษาได้จำหน่ายทรัพย์สินเพียงส่วนที่เกินจำนวนนั้นก็ตาม
(2) ถ้าลูกหนี้ตามคำพิพากษาได้รับมอบให้เป็นผู้อารักขา สังหาริมทรัพย์มีรูปร่างที่ถูกยึด หรือเป็นผู้ครอบครองอสังหาริมทรัพย์ที่ ถูกยึดลูกหนี้ชอบที่จะใช้ทรัพย์สินเช่นว่านั้นได้ตามสมควร แต่ถ้าพนักงานบังคับคดีเห็นว่าลูกหนี้ตามคำพิพากษาจะทำให้ทรัพย์ที่ได้รับมอบไว้ในอารักขา หรือทรัพย์ที่อยู่ในครอบครองเสียหาย หรือ เกลือกจะเสียหาย โดยเจ้าพนักงานบังคับคดีเห็นเองหรือเมื่อเจ้าหนี้ ตามคำพิพากษาหรือบุคคลผู้มีส่วนได้เสียในการบังคับคดีแก่ทรัพย์สิน นั้นร้องขอ เจ้าพนักงานบังคับคดีจะระวังรักษาทรัพย์สินนั้นเสียเอง หรือตั้งให้ผู้ใดเป็นผู้จัดการทรัพย์สินนั้นก็ได้

////

ตามม.๓๐๕(๒) หากมีการแจ้งการยึดโดยชอบตามม.๓๐๔แล้ว การที่นายตำรวจตามกระทู้ซึ่งเขาเป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษา จะไปทำนิติกรรมใดๆกับที่ดินแปลงนั้น เช่น การเอาไปประกันตัวผู้ต้องหาตามที่ จขกท.ถามมา จึง "หาอาจ ใช้ยันแก่เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาหรือเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ไม่"

คือ การทำนิติกรรมของลูกหนี้ ภายหลังการยึด เปรียบว่า ไม่มีผลใดๆนั่นเองครับ

การขายทอดตลาดตามกระทู้ นางก.เป็นผู้ซื้อได้โดยชอบด้วยกฏหมาย และ เจ้าพนักงานที่ดินต้องโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินให้นางก.ต่อไป

กรณีนายตำรวจตามกระทู้ ถ้าจะเอาเรื่องกัน น่าจะเป็นความผิดฐานโกงเจ้าหนี้ ตามป.อาญาดังนี้ครับ

มาตรา 350 ผู้ใดเพื่อมิให้เจ้าหนี้ของตนหรือของผู้อื่นได้รับชำระ หนี้ทั้งหมดหรือแต่บางส่วน ซึ่งได้ใช้หรือจะใช้สิทธิเรียกร้องทางศาล ให้ชำระหนี้ ย้ายไปเสีย ซ่อนเร้นหรือโอนไปให้ผู้อื่นซึ่งทรัพย์ใดก็ดี แกล้งให้ตนเองเป็นหนี้จำนวนใดอันไม่เป็นความจริงก็ดี ต้องระวาง โทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา 351 ความผิดในหมวดนี้เป็นความผิดอันยอมความได้


ขอร่วมแสดงความเห็นเพียงเท่านี้ครับ
จากคุณ : พลายงาม - [24 เม.ย.53 11:54]
ความคิดเห็นที่ 2 :
ขอแก้ข้อความข้างต้นนึดนึงครับ

///////

ตามม.๓๐๕(๒) หากมีการแจ้งการยึดโดยชอบตามม.๓๐๔แล้ว การที่นายตำรวจตามกระทู้ซึ่งเขาเป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษา จะไปทำนิติกรรมใดๆกับที่ดินแปลงนั้น เช่น การเอาไปประกันตัวผู้ต้องหาตามที่ จขกท.ถามมา จึง "หาอาจ ใช้ยันแก่เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาหรือเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ไม่"


เป็น

ตามม.๓๐๕(๑) หากมีการแจ้งการยึดโดยชอบตามม.๓๐๔แล้ว การที่นายตำรวจตามกระทู้ซึ่งเขาเป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษา จะไปทำนิติกรรมใดๆกับที่ดินแปลงนั้น เช่น การเอาไปประกันตัวผู้ต้องหาตามที่ จขกท.ถามมา จึง "หาอาจ ใช้ยันแก่เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาหรือเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ไม่"

//////

ขอแสดงความเห็นเพิ่มเติมเท่านี้ครับ

จากคุณ : พลายงาม - [24 เม.ย.53 11:57]
ความคิดเห็นที่ 3 :
ผมขอขอบคุณมาก ๆ เลยครับ
จากคุณ : ขอความเป็นธรรม - [24 เม.ย.53 12:21]


ที่มา - //www.thaijustice.com/webboard.asp?sub=0&id=1463623


Create Date : 26 เมษายน 2553
Last Update : 26 เมษายน 2553 8:55:56 น. 2 comments
Counter : 1555 Pageviews.

 


โดย: หาแฟนตัวเป็นเกลียว วันที่: 26 เมษายน 2553 เวลา:11:23:02 น.  

 


โดย: thanitsita วันที่: 26 เมษายน 2553 เวลา:17:37:48 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

อุบลแมน
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]




Friends' blogs
[Add อุบลแมน's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.