เจตนา หรือ ประมาท
หัวข้อสนทนา : ขับรถเมาสุราแล้วไปชนคนทำให้คนถูกชนตายเป็นประมาทหรือเจตนา หมายเลขดำที่ 1696/2548 และหมายเลขคดีแดงที่ 2514/2548
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 31 ส.ค. ที่ห้องพิจารณาคดีที่ 6 ศาลจังหวัดมหาสารคาม น.ส.วรีพร วัฒนชัยนันท์ และนายบุญธรรม วิเศษลา ผู้พิพากษาออกนั่งบัลลังก์พิจารณาคดีอาญา
เมื่อวันที่ 12 มี.ค.ที่ผ่าน มา (ช่วงกลางวัน) นายณัฐพงษ์ รักษาพงษ์ อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 13 ถนนนครสวรรค์ ซอย 37 ต.ตลาด อ.เมือง จ.มหาสารคาม ร่วมวงดื่มสุราขาว 40 ดีกรีกับเพื่อนๆ หมดไป 5 ขวด จนมีอาการเมา จากนั้นขับรถบรรทุก 6 ล้อ หมายเลขทะเบียน 80-5015 มหาสารคาม ของบิดาบุญธรรมไปตามถนนในเขตเทศบาลเมืองซึ่งเป็นย่านชุมชน และพุ่งชนนายสมชาย ศโรภาส ซึ่งขี่จักรยานยนต์สวนมาได้รับบาดเจ็บสาหัส จากนั้นขับหลบหนีด้วยความเร็วสูงไปชนน.ส.กาญจนา อินท์กันหา เป็นรายที่ 2 แขนขาหักได้รับบาดเจ็บสาหัสขณะจอดรถอยู่ข้างถนน นอกจากนี้ ผู้ต้องหายังคงขับรถด้วยความคึกคะนองไปชนจักรยานยนต์ 2 คันที่จอดรอไฟแดงอยู่สี่แยกวิทยาลัยเทคนิค ทำให้น.ส.มาลินี กองจันทร์ น.ส.จุรีลักษณ์ วรไวทย์ และน.ส.มลทะลิกา ประวิทย์ ถูกล้อรถยนต์ทับเสียชีวิตคาที่รวม 3 ศพ และมีผู้ได้รับบาดเจ็บในที่เกิดเหตุอีก 3 คน แต่จำเลยยังคงขับรถยนต์คันดังกล่าวหลบหนีด้วยความเร็วสูงไปทางอำเภอโกสุมพิสัย เมื่อถึงหน้าโรงเรียนบ้านบ่อน้อย ต.ท่าสองคอน อ.เมือง พุ่งชนกับรถปิคอัพ ทำให้นายนิพนธ์ ทินภู่ คนขับรถปิคอัพเสียชีวิตคาที่เป็นศพที่ 4 จากนั้นนายณัฎฐพงษ์ยังขับรถหกล้อ ต่อไปด้วยความเมามัน โดยหลบหนีไปทาง อ.โกสุมพิสัย ด้วยความเร็วสูง พอถึงบริเวณหน้าโรงเรียนบ้านบ่อน้อย ต.ท่าสองคอน อ.เมืองมหาสารคาม รถของจำเลยได้พุ่งชนรถกระบะของนายนิพนธ์ ทินภู่ ทำให้นายนิพนธ์เสียชีวิตคาที่ ส่วนรถจำเลยก็ได้รับความเสียหายและสิ้นฤทธิ์ จึงถูกพ.ต.อ.เจริญวิทย์ ศรีวนิชย์ ผกก.สภ.อ.เมืองมหาสารคาม นำกำลังเข้าจับกุมตีนผีรายนี้ไว้ได้ หลังจากก่อเหตุซิ่งชนแหลกวันเดียวมีผู้เสียชีวิต 4 ศพ บาดเจ็บสาหัสอีก 5 ราย ต่อมาเจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมตัวได้ ส่งอัยการฟ้องดำเนินคดี ศาลจึงมีคำพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา พยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ทำให้เสียทรัพย์ และความผิดตามพ.ร.บ. จราจรทางบก ไม่มีเหตุบรรเทาโทษให้แก่จำเลยได้ จึงให้ลงโทษประหารชีวิตสถานเดียว จากคุณ : จารชน - [25 ส.ค.52 21:05]
ความคิดเห็น ขอร่วมแสดงความเห็นดังนี้
นายณัฐพงษ์ รักษาพงษ์ อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 13 ถนนนครสวรรค์ ซอย 37 ต.ตลาด อ.เมือง จ.มหาสารคาม ร่วมวงดื่มสุราขาว 40 ดีกรีกับเพื่อนๆ หมดไป 5 ขวด จนมีอาการเมา จากนั้นขับรถบรรทุก 6 ล้อ หมายเลขทะเบียน 80-5015 มหาสารคาม ของบิดาบุญธรรมไปตามถนนในเขตเทศบาลเมืองซึ่งเป็นย่านชุมชน และพุ่งชนนายสมชาย ศโรภาส ซึ่งขี่จักรยานยนต์สวนมาได้รับบาดเจ็บสาหัส ^ ^
ส่วนนี้เป็นประมาทเพราะการขับรถขณะเมาสุราเข้าไปในที่ชุมชนด้วยความเร็วสูงจนชนผู้อื่นถือว่าเป็นการกระทำโดยปราศจากความระมัดระวังซึ่งบุคคลในภาวะเช่นนั้นจักต้องมีตามวิสัย และพฤติการณ์ และผู้กระทำอาจใช้ความระมัดระวังเช่นว่านั้นได้ แต่หาได้ใช้ให้เพียงพอไม่
...........................
จากนั้นขับหลบหนีด้วยความเร็วสูงไปชนน.ส.กาญจนา อินท์กันหา เป็นรายที่ 2 แขนขาหักได้รับบาดเจ็บสาหัสขณะจอดรถอยู่ข้างถนน นอกจากนี้ ผู้ต้องหายังคงขับรถด้วยความคึกคะนองไปชนจักรยานยนต์ 2 คันที่จอดรอไฟแดงอยู่สี่แยกวิทยาลัยเทคนิค ทำให้น.ส.มาลินี กองจันทร์ น.ส.จุรีลักษณ์ วรไวทย์ และน.ส.มลทะลิกา ประวิทย์ ถูกล้อรถยนต์ทับเสียชีวิตคาที่รวม 3 ศพ และมีผู้ได้รับบาดเจ็บในที่เกิดเหตุอีก 3 คน แต่จำเลยยังคงขับรถยนต์คันดังกล่าวหลบหนีด้วยความเร็วสูงไปทางอำเภอโกสุมพิสัย เมื่อถึงหน้าโรงเรียนบ้านบ่อน้อย ต.ท่าสองคอน อ.เมือง พุ่งชนกับรถปิคอัพ ทำให้นายนิพนธ์ ทินภู่ คนขับรถปิคอัพเสียชีวิตคาที่เป็นศพที่ 4 จากนั้นนายณัฎฐพงษ์ยังขับรถหกล้อ ต่อไปด้วยความเมามัน โดยหลบหนีไปทาง อ.โกสุมพิสัย ด้วยความเร็วสูง พอถึงบริเวณหน้าโรงเรียนบ้านบ่อน้อย ต.ท่าสองคอน อ.เมืองมหาสารคาม รถของจำเลยได้พุ่งชนรถกระบะของนายนิพนธ์ ทินภู่ ทำให้นายนิพนธ์เสียชีวิตคาที่ ส่วนรถจำเลยก็ได้รับความเสียหายและสิ้นฤทธิ์
^ ^
ส่วนนี้ถือว่าเป็นการกระทำโดยเจตนา
การกระทำจะเป็นเจตนาหรือไป ต้องดูว่าผู้กระทำรู้สำนึกในการกระทำนั้นหรือไม่และผู้กระทำต้องประสงค์ต่อผลหรือย่อมเล็งเห็นผลของการกระทำนั้นๆตามประมวลกฏหมายอาญามาตรา 59
1.กรณีเมาแล้วขับตามคดีข้างต้นในส่วนการหลบหนี ผู้กระทำผิดน่าจะยังพอมีสติที่รู้สำนึกในการกระทำในการขับรถหนีแล้วไปชนคนอีกหลายคน ว่าการกระทำของเขาคือการขับรถชนผู้อื่นและทำให้ผู้อื่นบาดเจ็บหรือถึงแก่ความตายแล้ว
2.การขับรถหกล้อด้วยความเร็วสูงๆและพุ่งใส่รถคนอื่น เขาย่อมเล็งเห็นผลได้ว่าอาจทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายได้
ผมเห็นว่าคีย์เวิด ของเรื่องนี้คือ กระทำโดยรู้สำนึกหรือไม่ตามข้อ 1 ซึ่งในชั้นศาลน่าจะสืบพยานได้ตามที่กล่าวมาข้างต้น ศาลเลยรับฟังได้ว่าจำเลยกระทำผิดโดยเจตนาครับ
ขอร่วมแสดงความเห็นเท่านี้ครับ
Create Date : 07 กุมภาพันธ์ 2553 |
Last Update : 7 กุมภาพันธ์ 2553 18:08:16 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1061 Pageviews. |
|
|
|
|
|