happy memories
Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2551
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
27 ตุลาคม 2551
 
All Blogs
 
เพลงเมืองเว่ย

ทำบล๊อควาดไผ่แล้วนึกอยากเขียนตัวอักษร เขียนไม่นานก็เสร็จเพราะเป็นบทกวีสั้น ๆ งวดนี้อัพให้อ่านสองบท แต่ ๆ ละบทมีคำอธิบายยาวทั้งคู่เลยแยกเป็นสองบล๊อคเหมียนเดิม อ่านคำอธิบายท้ายบทกวีบทนี้ที่ได้ยินมานานแล้วแต่เพิ่งจะรู้ว่าเป็นคำพูดของท่านซูตงปัว

"ซูตงปัวชมงานของหวังเหว่ยว่า ในบทกวีมีภาพวาด ในภาพวาดมีบทกวี
诗中有画 画中有诗 (ซือจงโหย่วฮว่า ฮว่าจงโหย่วซือ)"



ภาพจากเวบ //downloads.zdnet.com/abstract.aspx?docid=303080

Recall Hometown With Nostalgia - Zhou Xiao Zhou Wei












เพลงเมืองเว่ย
หวังเหวย

ฝนเมืองเว่ยยามเข้า ฝุ่นเปียกชื้น
ที่พักแรม ต้นหลิวสีสันใหม่เขียวขจี
ขอเชิญท่านดื่นสุราให้หมดอีกสักถ้วย
ออกจากด่านหยังกวนไปทางตะวันตก ไร้ผู้คุ้นเคย



หมายเหตุ


เว่ยเฉิงฉวี่เหรือเพลงเมืองเว่ย เป็นซือในสมัยราชวงศ์ถัง (เว่ยเฉิง = เมืองเว่ย ฉวี่ = เพลง) มีชื่อเดิมว่า ซ่งหยวนเอ้อร์สื่ออานซี แปลว่า ส่งหยวนเอ่อร์ไปทำราชการที่เมืองอานซี เมืองอานซีเป็นเมืองบทเส้นทางสายแพรไหม อยู่เลยด่านจยาอวี้กวนออกไป เมืองอานซีเป็นเมืองชุมทางของเส้นทางแพรไหมสายต่าง ๆ กล่าวคือ เมื่อออกเดินทางจากเมืองซีอาน ผ่านเมืองหลายเมืองและด่านจยาอวี้กวนแล้ว เดินทางต่อไปก็จะถึงเมืองซีอาน จากเมืองนี้เส้นทางสายแพรไหมสมัยราชวงศ์ถึงจะแยกเป็น ๓ เส้นทาง ทางแรก เป็นเส้นทางเหนือของเทือกเขาเทียนซาน (เทียนซานเป่ยลู่) ทางที่สอง เป็นเส้นทางใต้ของเทือกเขาเทียนซาน (เทียนซานหนานลู่) และ ทางที่สาม เป็นเส้นทางเหนือภูเขาคุนหลุน (คุนหลุนเป่ยลู่ หรือ กู่หนานเต้า)

นอกจากนั้น ซือบทนี้ยังมีชื่ออื่น ๆ อีก คือหยังกวนฉวี่ (เพลงด่านหยังกวน) หยังกวนซานเตี๋ย (ซ้ำคำว่า หยังกวน ๓ ครั้ง) ในสมััยราชวงศ์ถังได้นำซือบทนี้ไปใส่ทำนอง และเพิ่มเนื้อร้องเป็นเพลง ชื่อว่า เว่ยเฉิงฉวี่ (เพลงเมืองเว่ย) นอกจากเป็นชื่อเพลงแล้ว ได้กลายมาเป็นชื่อบทของซือด้วย เมืองเว่ยตั้้งอยู่ทางฝั่งเหนือของแม่นำ้เว่ย (เว่ยเหอ) ทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองซีอาน มณฑลส่านซี สมัยราชวงศ์ฉินเรียกว่า เมืองเสียนหยัง สุสานของจักรพรรดิ์ฉินสือหวงตี้ (จิ๋นซีฮ่องเต้) อยู่ในเมืองนี้ ปัจจุบันกลับมาเรียกว่า เสียนหยังอีก มิได้เรียกว่า เว่ยเฉิง ในสมัยราชวงศ์ถัง มักจะเลี้ยงอำลาผู้ที่จะเดินทางจากซีอาน มุ่งไปทางทิศตะวันตกที่เมืองเว่ย

หวังเหว่ย (ค.ศ.๗o๑-๗๖๑) เป็นผู้ประพันธ์ซือ เว่ยเฉิงฉวี่ มีอีกชื่อหนึ่งว่า หวังมั่วจี้ ภูมิลำเนาเดิมอยู่ที่ฉีโจว ปัจจุบันคือ อำเภอฉี มณฑลซานซี ต่อมาย้ายติดตามบิดาไปอยู่ที่ฝูโจว ปัจจุบันคือ อำเภอหย่งจี้ มณฑลซานซี ในค.ศ.๗๒๑ อายุ ๒o ปี สอบได้จิ้นซื่อ ได้เข้ารับราชการเป็นขุนนาง ต่อมา (ค.ศ.๗๕๕) เกิดกบฏอานลู่ซาน หวังเหวงรับราชการกับฝ่ายกบฏ เมืองเจ้าชายรัชทายาทซึ่งตั้งตนขึ้นมาเป็นจักรพรรดิ์ซู่จงปราบกบฏได้ (ค.ศ.๗๕๗) หวังเหวยจึงถูกลดตำแหน่่ง แต่ในภายหลังก็ได้กลับมาดำรงตำแหน่งสูงอีกในบั้นปลายชีวิต ใช้ชีวิตอย่างสงบ เรียบง่าย แต่งบทกวีต่าง ๆ

ในด้านการประพันธ์บทกลอน หวังเหวยได้รับยกย่องว่าแต่งดีเทียบเท่าเมิ่งเฮ่าหราน เป็น หวัง-เมิ่ง แห่งราชวงศ์ถัง ผลงานในระยะต้นมักนำเรื่องชายแดนมาเป็นแก่นในการประพันธ์ แต่งานส่วนใหญ่ที่มีชื่อเสียงมักเป็นเรื่องเกี่ยวกับทิวทัศน์ ภูเขา แม่นำ้ นาสวน ธรรมชาติ รวมทั้งได้แทรกคติธรรมของศาสนาพุทธมหายาน นิกายธยาน (ฌาณ) ไว้ด้วย นักวรรณคดีวิจารณ์กล่าวว่า งานของหวังเหวยพรรณนาดี และมีความละเอียดอ่อน หวังเหวยนอกจากเป็นกวีแล้วยังเก่งด้านดนตรี การเขียนตัวอักษรและการวาดภาพ จึงสามารถนำหลักการวาดภาพและการเล่นดนตรีมาใส่ในบทกวี ซูตงปัวชมงานของหวังเหว่ยว่า ในบทกวีมีภาพวาด ในภาพวาดมีบทกวี (ซือจงโหย่วฮว่า ฮว่าจงโหย่วซือ) ผู้คนชมว่า ซูตงปัวสรุปลีลางานศิลป์ของหวังเหว่ยได้อย่างดี

ส่วนภูมิหลังการประพันธ์ซือ เว่ยเฉิงฉวี่ นั้น หวังเหวยเขียนส่งเพื่อนที่จะเดินทางจากซีอานไปทางทิศตะวันตก เพื่อนออกเดินทางในฤดูใบไม้ผลิ หวังเหวยและเพื่อนอำลากันที่เมืองเว่ย ซือบทนี้สื่อถึงอารมณ์อาลับอาวรณ์ระหว่างพื่อนในยามจากกัน หวังเหวยเขียนพรรณนาได้ดี สื่อความได้แจ่่มชัด ทั้ง ๆ ที่ใช้ซือเพียง ๔ บาทเท่านั้น กวีสมัยราชวงศ์ถังเขียนซือเกี่ยวกับการอำลาไว้หมื่น ๆ บท ซือ เว่ยเฉิงฉวี่ ได้รับการยกย่องว่า เป็นซือส่งเพื่อนที่แต่งได้สุดยอดบทหนึ่ง

ในด้านบทกลอน บาทที่ ๑ สื่อความว่า ในตอนเช้าที่เมืองเว่ยฝนตกไม่มาก แต่ก็ทำให้ฝุ่นเปียกชื้น ไม่ปลิวขึ้นมา

บาทที่ ๒ ke she (เค่อเซ่อ) หมายถึง ที่พักแรมของทางราชการตามทางหลวงต่าง ๆ จะอยู่ห่างกันเป็นช่วง ๆ ในสมัยก่อนใช้เป็นที่พักม้าและที่พักแรมของคนส่งสาร ขุนนางที่ไปปฏิบัติราชการต่างเมืองก็แวะพักที่เค่อเซ่อระหว่างการเดินทาง นอกจากนั้นใช้เป็นที่เลี้ยงส่งอำลากันด้วย เค่อเซ่อแต่ละแห่งมักปลูกต้นหลิวรายรอบ สมัยก่อนมีการคำณวนไว้เลยว่าจากเมืองนี้ไปเมืองโน้นใช้เวลากี่วัน ตามรายทางมีเค่อเซ่อที่ไหนบ้าง การมีเค่อเซ่อช่วยให้เดินทางส่งสารได้รวดเร็ว เป็นทางหนึ่งในการช่วยควบคุมหัวเมืองรวมอำนาจเข้าสู่ศูยน์กลาง

บาทที่ ๔ ด่านหยังกวงเป็นด่านที่อยู่เลยเมืองอานซีออกไปบนเส้นทางแพรไหมสายคุนหลุนเป่ยลู่ เป็นด่านเกือบสุดท้ายในเส้นทางนี้ อยู่แถบเมืองตุนหวง พ้นจากนี้ก็เป็นเขตเวิ้งว้างไกลสุดตาของทะเลทรายมีผู้คนอยู่น้อย เส้นทางแพรไหมทางตะวันตกของจีนมีชนกลุ่มน้อยเผ่าต่าง ๆ อาศัยอยู่หลายเผ่า

นักวรรณคดีวิจารณ์กล่าวว่า ซือบทนี้เด่นต่างจากซืออำลาทั่ว ๆ ไปที่เขียนถึงอารมณ์บีบคั้น ความเศร้าสลด แต่ซือบทนี้ไม่เขียนเช่นนั้น ไม่มีสักคำที่พูดว่าเสียใจ กวีเขียนในแนวสบาย ๆ สองทางแรกสื่อถึงภาพยามเช้าและต้นหลิวเขียวขจี สองบาทหลัง ชวนดื่มเหล้า คุยกันอย่างจริงใจด้วยนำ้มิตร และยำ้ความอาลัยอาวรณ์ว่า พ้นจากด่านหยังกวนแล้วไม่มีผู้คุ้นเคย

ข้อความในบล๊อคนี้นำมาจากหนังสือ​ "หยกใสร่ายคำ"
บทพระราชนิพนธ์แปลในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี


บีจีและไลน์จากคุณญามี่






Create Date : 27 ตุลาคม 2551
Last Update : 20 มิถุนายน 2556 21:01:50 น. 43 comments
Counter : 3559 Pageviews.

 
เมื่อครู่เข้ามาเม้นท์ไม่ได้
ไม่รู้จะไปแจ้งใครเลยนั่งรอ

ถ้ามีเพลงบรรเลง ขฃุ่ยจีน ประกอบบลอกนี้คง เพลินไปเลย


โดย: ลุงแอ๊ด วันที่: 27 ตุลาคม 2551 เวลา:22:29:51 น.  

 
สวัสดีครับคุณไฮกุ

อุตส่าห์มาโฆษณาไว้เสียดิบดี
ปรากฏว่าวันนี้งานยุ่งมากมายจนอัพบล็อกไม่ไหวครับ 5555

ต้องขออภัยด้วยนะครับ




รูปทำเสร็จแล้วล่ะครับ
แต่ไม่มีแรงเหลือพอที่จะอัพบล็อกเลยครับ 55555


ขอพลัดไปอีกพลัดเป็นเย็นพรุ่งนี้นะครับ




ราชวงศ์ถังเป็นยุคทองของศาสนาพุทธและบทกวีจริงๆนะครับ
มีพระอริยะ และกวีอัจฉริยะหลายท่านมากมาย

เป็นยุคที่ผมคิดว่าเจริญและเสื่อมที่สุดในประวัติศาสตร์จีนเลยครับ

เป็นสัจธรรมที่เตือนใจเราได้ดีครับ
ว่าบ้านเราก็อาจมีชะตากรรมแบบนี้
ถ้าเราไม่ระวังให้ดี






โดย: ก.วรกะปัญญา (กะว่าก๋า ) วันที่: 27 ตุลาคม 2551 เวลา:22:45:04 น.  

 


มาบอกว่าปายนองกางริ้ว...ดึกแย้ววว...

และมาบอกว่าคิดถึงโด้ยยยละ...

ป้าหู้เอ่านก็ช้าพิมพ์ก็ช้าเลยมาทักทายช้าปายด้วย

กว่าจะผ่านด่านต่างๆมาถึงอ่ะจ่ะ...อย่าเคืองป้าเลยน้า มารอฟังเพลงด้วยจ่ะ


โดย: ป้าหู้เองจ่ะ (fifty-four ) วันที่: 28 ตุลาคม 2551 เวลา:0:21:43 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับคุณไฮกุ
วันนี้วันพระ ลุงกล้วยขอให้คุณไฮกุมีจิตใจแจ่มใสและมีความสุขนะครับ


โดย: ลุงกล้วย วันที่: 28 ตุลาคม 2551 เวลา:7:03:03 น.  

 
ชอบนกตัวที่เกาะอยู่มุมซ้ายจังค่ะ ..แล้วก็อยากจะหาต้นเหมยไปปลูกที่ไร่ซัก 4-5 ต้น จะหาพันธ์ที่ไหนได้ฮ่ะคุณไฮกุ..

ปล.คุณไฮกุได้รับสินค้ายังค่ะ ลืมถามอ่ะ อิชั้นส่งไปนานแล้วฮ่ะ


โดย: pukpui IP: 124.121.106.183 วันที่: 28 ตุลาคม 2551 เวลา:8:01:47 น.  

 
อ่านบล็อกวันนี้แล้วทำให้คิดถึงหนังที่เราดูๆ กันสมัยก่อน
จังเลยอ่ะค่ะคุณไฮกุ แบบว่าอ่านไปแล้วเหมือนว่าภาพมันค่อยๆ
ผุดขึ้นมาเรื่อยๆ เหมือนที่เราเคยดูทีวีผ่านตา ...

เราพยยามอ่านกลอน หรือว่าบทกวีให้เหมือนกับ
ที่เคยดูหนังจีนน่ะค่ะ แต่เอ ดูท่าว่าท่าทางเหมือน
แต่ว่าอารมณ์ยังไม่ค่อยได้เลยค่ะ


โดย: JewNid วันที่: 28 ตุลาคม 2551 เวลา:12:59:20 น.  

 
สวัสดีครับคุณไฮกุ


รีบมาบอกว่าอัพบล้อกภาพเขียนของชาโจ้แล้วครับ
หุหุหุ

อัพแต่หัววัน
เพราะกลัวเย็นนี้มาดามจะชวนไปเดินห้างก่อนครับ 555555


เห็นหมึกกับกระดาษแล้วไม่อยากใช้
แต่ชาโจ้ย้ำแล้วย้ำอีกครับว่า
ซื้อมาให้ใช้ ว่าแล้วแกก็ฝนหมึกโชว์ซะเลย
หมึกแหว่งไปเลยครับ




สมุดพอผมบอกว่าจะเก็บไว้
แกก็เอามาแล้วก็เขียนโชว์ซะเลย 555555



คงได้เอามาใช้แน่ๆครับ
แต่เดี๋ยวขอตั้งสมาธิให้ดีดีสักหน่อยครับ

ช่วงนี้มัวแต่มุ่งไปที่เรื่องการทำบุญของเด็กนักเรียนครับ
ต้นเดือนหน้าคงเรียบร้อยแล้ว
จะมานั่งวาดพู่กันเดียวสักชุดครับ










โดย: ก๋าคุง (กะว่าก๋า ) วันที่: 28 ตุลาคม 2551 เวลา:14:44:50 น.  

 
เมื่อคืนแวะเข้ามาหนหนึ่งแล้วค่ะ

แต่เข้าบ้านไม่ได้



อ่านภาษษจีนสักน้อย เผื่อความจำจะฟื้นมาบ้าง


โดย: หยุ่ยยุ้ย วันที่: 28 ตุลาคม 2551 เวลา:20:00:56 น.  

 



คุณไฮกุคะ น่าทึ่งนะคะภาษาแปล ที่แปลออกมาออกมา
เพราะคนไม่รู้ ก็จะไม่รู้ เชื่อตามคนแปล แปลออกมายังไง คนอ่านก็ซึมซับเอาตามนั้นเลย คำแปลสี่วรรคเท่านั้นที่แปลออกมาได้ความรู้สึกจริงๆ

คนไทยอ่านภาษาไทยบางทีไม่รู้ว่าเข้าใจถูกไหม
ตัวหนังสือจีนคุณไฮกุเป็นคนเขียน
หมายเหตุมาจากบทพระราชนิพนธ์ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

ส่วนกวีบทนี้
ฝนเมืองเว่ยยามเข้า ฝุ่นเปียกชื้น
ที่พักแรม ต้นหลิวสีสันใหม่เขียวขจี
ขอเชิญท่านดื่นสุราให้หมดอีกสักถ้วย
ออกจากด่านหยังกวนไปทางตะวันตก ไร้ผู้คุ้นเคย

สมเด็จพระเทพแปลหรือว่าคุณไฮกุแปลด้วยตัวเองอีทีค่ะ

กวีสี่วรรคของคุณไฮกุอ่านแล้วนึกถึงตัวเองคะ เป็นคนที่ต้องตะลอนๆ
บางที่เราเจอที่ที่ชอบ เพื่อนร่วมทางที่ดีๆ ได้พูดคุยกัน
ตอนจากกันจะรู้สึกแบบกลอนบทนี้ ยังไงไม่รู้ค่ะ รู้สึกถึงความห่วงใย
แม้มันจะไม่เท่ากับที่เพื่อนจริงๆ ของเราจะมี
แต่ก็ทำให้การเดินทางเพียงลำพัง รู้สึกดีขึ้นค่ะ

บทกวีของบทที่ไปฝากไว้ที่บ้านไก่ ชอบมากๆค่ะ
ขอบคุณนะคะ มีบทไหนถูกใจคุณไฮกุเอาไปแปะไว้ที่บ้านไก่บ้างนะคะ จะได้อ่านไปด้วยกัน


โดย: Sweety-around-the-world วันที่: 29 ตุลาคม 2551 เวลา:0:05:37 น.  

 
บล็อกวันนี้ กลิ่นชาจีน-หมั่นโถวลอยคลุ้งเลยค่ะ


โดย: angy_11 วันที่: 29 ตุลาคม 2551 เวลา:9:51:35 น.  

 
ลุงแอ๊ด...สงสัยลุงแอ๊ดจะเข้ามาตอนกะลังแก้บล๊อคอยู่เลยเม้นท์ไม่ได้

อืม คุณลุงแนะนำเข้าท่าดี เดี๋ยวจะลองหาเพลงมาแปะให้ฟังค่ะ

คุณก๋า...ขอบคุณที่อัพรูปคุณซาโจ้ให้ดูนะคะ เดี๋ยวแวะไปดูที่บล๊อคค่ะ

ถ้าได้อุปกรณ์ดีๆก็ช่วยให้เขียนภาพได้สวยขึ้นนะ ทั้งหมึกทั้งกระดาษที่คุณซาโจ้ให้มา เห็นแล้วเสียดาย เป็นเราคงเก็บเข้าตู้แหงมๆ ไว้จะรอดูภาพพู่กันเดียวบนกระดาษญี่ปุ่นของคุณก๋าค่ะ

หนังสือเล่มนี้ให้ความรู้เกี่ยวกับบทกวีจีนเยอะเลยค่ะ นอกจากจะได้อ่านบทกวีที่เพราะๆแล้ว สมเด็จพระเทพฯยังทรงอธิบายความหมายอย่างถูกต้อง และมีเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเกี่ยวกับบทกวีด้วย อ่านแล้วเพลินมากเลยค่ะ

ขออนุโมทนาบุญกับคุณก๋าด้วยนะคะ

ป้าหู้...มาช้าดีกว่าไม่มา ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมนะคะ สาวน้อยที่ป้าหูพามาด้วยทั้งสวยทั้งเซะซี่เลย

ลุงกล้วย...ขอบคุณที่แวะมาอวยพรแต่เช้าเลย ลุงกล้วยรักษาสุขภาพด้วยนะคะ

คุณปุย...เอ ต้นเหมยเหรอ ไม่รู้เหมือนกันแฮะ เคยเห็นแต่ในรูปวาดจีน ต้นจริงๆยังไม่เคยเห็น สงสัยถ้าคุณปุยอยากปลูกจริงๆคงต้องถ่อไปขอพันธุ์ที่เมืองจีนละมั้ง

ปล. ขอบคุณมากนะคะที่ส่งดีวีดีให้ ยังไม่ได้รับเลยค่ะ รออยู่นานแต่เกรงใจไม่กล้าทวงฮ่ะ สงสัยว่าจะตกหล่นกลางทางซะแว้ววว

คุณนิด...หนังที่นึกถึงคงเป็นฉากห้องเรียนสอนบทกวีแหงมๆถ้าจะอ่านให้ได้อารมณ์ คุณนิดต้องเลียนแบบในหนัง เวลาอ่านกลอนไปต้องส่ายหัวไปด้วย

ถ้าคุณนิดอ่านคำแปล อารมณ์อาจจะไม่ค่อยได้ เพราะไม่มีคำคล้องจองอย่างเวลาอ่านกลอนไทย เคยฟังเหล่าซือที่สอนแต่งโคลง รู้สึกว่าจะมีคำคล้องจอง มีเสียงหนัก-เบาของคำที่ใช้ เวลาฟังท่านอ่านแล้ว ถึงจะฟังไม่รู้ความหมายแต่ก็รู้สึกว่าเพราะค่ะ

คุณยุ้ย...สงสัยคุณยุ้ยจะเข้ามาเวลาเดียวกะลุงแอ๊ดแน่เลย เพราะกะลังอัพบล๊อคอยู่ อาจจะกดผิดกดถูก คุณยุ้ยเลยเข้าบ้านอิฉันไม่ได้

คุณไก่...แฮะ แฮะ พิมพ์ตกไปคำนึง คุณไก่ตาดีจัง ที่จริงต้องเป็นบทพระราชนิพนธ์แปลค่ะ ขอบคุณที่ถามนะคะ นอกจากตัวอักษรจีนแล้ว ทั้งหมดก็นำมาจากหนังสือ "หยกใสร่ายคำ" ที่สมเด็จพระเทพฯทรงแปลไว้ บทกวีในเล่มแต่ละบทเพราะทั้งนั้นเลยค่ะ พระองค์ท่านทรงศึกษาภาษาจีนอย่างลึกซึ้งและแตกฉาน ทำให้ทรงแปลบทกวีจีนได้อย่างไพเราะเพราะพริ้งและความหมายไม่เพี้ยน

เราเคยเรียนภาษาจีนมาหลายปีแต่เลิกไปนานแล้ว ตอนที่เรียนก็ยังแปลบทความหรือเพลงได้บ้าง แต่บทกวีจีนนี่ฝีมือยังไม่เข้าขั้นหรอกจ๊ะ

อิจฉาคุณไก่อ่ะ มีโอกาสเดินทางไปในโลกกว้าง ได้เปิดหูเปิดตาและเห็นสิ่งแปลกๆใหม่ๆ ขอบคุณที่ทำบล๊อคเผื่อแผ่ประสบการณ์การเดินทางให้เพื่อนๆนะคะ

ดีใจที่ชอบไฮกุที่เอาไปฝากนะคะ

จี้...พูดถึงก็ต้องรีบคว้ามาเสิร์ฟให้เลยเทียว



โดย: haiku วันที่: 29 ตุลาคม 2551 เวลา:11:00:13 น.  

 
ผมว่าคุณไฮกุเขียนได้สบายเลยครับ
เพราะลายมือคัดกับลายมือหวัด
คงจะแตกต่างกันในเรื่องของ "จังหวะ" เท่านั้นเอง

อันนี้วัดจากตัวเองนะครับ
เพราะผมเขียนลายมือได้หลายแบบครับ
หวัดก็ได้ แบบทางการก็ได้ครับ





โดย: ก๋าคุง (กะว่าก๋า ) วันที่: 29 ตุลาคม 2551 เวลา:11:44:40 น.  

 
ฮ้าจริงเหรอฮ๋ะ อิชั้น ส่งไปประมาณเกือบ / เดือนแล้วน่ะค่ะ เดี๊ยนต้องตามแล้วล่ะฮ่ะ
ต้องขอโทษจริงๆ ไม่ได้ถามคุณไฮกุว่าส่งไปนานแล้วได้รับล่ะยัง งั้น เด่วเผาส่งให้ใหม่ น่ะฮ่ะ โด่ ทำให้คุณไฮกุรอแย่เลย ขอโทษด้วยฮ๋ะ เด่วจะตามให้ค่ะ


โดย: pukpui_s วันที่: 29 ตุลาคม 2551 เวลา:13:32:24 น.  

 
คุณก๋า...ที่จริงตัวหวัดหรือบรรจงอิฉันก็เขียนได้โลดค่ะ แต่ติดตรงตัวหวัดต้องมีตัวอย่างมาถึงจะเขียนได้ เพราะขีดในตัวอักษรมันจะน้อยกว่าเดิม มันไปไม่ค่อยถูกว่าต้องลดขีดหรือจุดไหนมั่ง

คุณปุย...ขอบคุณอีกครั้งค่า คุณปุยเลยต้องเสียเวลาตามพัสดุให้อีก Many thanks from the bottom of my heartนะจ๊ะ


โดย: haiku วันที่: 29 ตุลาคม 2551 เวลา:15:35:09 น.  

 
อืมม์..ลึกซึ้งดีนะคะ

อยากอ่านภาษาจีนเก่งๆ ได้มั่งจังนะนี่


ชอบทานของหวานเหมือนกันเหรอคะ? เหมือนกันเลยอ้ะ


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 29 ตุลาคม 2551 เวลา:17:12:25 น.  

 


โดย: big-lor วันที่: 29 ตุลาคม 2551 เวลา:17:15:42 น.  

 
ค่ำสวัสดิ์ครับคุณไฮกุ
ขอบคุณมากครับ ขอบคุณในกุศลเจตนาที่จะร่วมบุญ แค่นี้บุญก็ส่งเสริมมากแล้วครับ จิตเป็นกุศล ลุงกล้วยขอให้มีความสุขมากๆครับ สาธุ


โดย: ลุงกล้วย วันที่: 29 ตุลาคม 2551 เวลา:18:36:30 น.  

 




ตาดีแต่ตอนอ่านค่ะ เพราะอ่านทีไรจะผิดไม่ค่อยได้
เพราะผิดที ต้อรือ้งานทดลองใหม่ที่นี้แหละยาวววว เลยล่ะคะ
ว่ากันไปน่ะค่ะคุณไฮกุ งานบังคับน่ะคะ

งานที่ทำ ทำให้ต้องตะลอนๆค่ะ ไม่รู้สุขไหม สุขๆทุกข์ค่ะ
ตอนนี้ยังโอเคมากๆ ก็ทำไปเรื่อยๆ
มันอาจจะอยู่ตัวด้วยเพราะตะลอนมานานแล้ว
ตั้งแต่สมัยเรียนน่ะคะ ไปตามวาระ และบุญ กรรมค่ะ

ภาษาจีนเรียนได้ ก็เยี่ยมแล้วล่ะคะ

รูปนี้อะไรค่ะ

จะว่ามันโถก็เล็กจัง
จะว่าซาลาเปาก็ดูผิดรูป เฉลยด่วนค้า
ถ้าไม่เกรงใจจะให้ส่งpost ของน่ากินให้นะคะนี่
เกรงใจค้าว่าจะเน่าซะก่อน






โดย: Sweety-around-the-world วันที่: 29 ตุลาคม 2551 เวลา:19:46:47 น.  

 
สงสัยเหมือนกันค่ะว่าเป็นอะไร

หมั่นโถวเล็กหรือเปล่าเอ่ย

ไม่ใช่อะไร

นึกถึงขาหมู ถ้ามีด้วย

ก็เหมาะเจาะเลยค่ะ


โดย: หยุ่ยยุ้ย วันที่: 29 ตุลาคม 2551 เวลา:20:10:40 น.  

 


ไปฟังเพลงกันค่ะ...

คืนนี้ฝันดีน้า...


โดย: ป้าหู้เองจ่ะ (fifty-four ) วันที่: 29 ตุลาคม 2551 เวลา:21:02:22 น.  

 
มาดูว่ามีเพลงฟังหรือยัง


โดย: ลุงแอ๊ด วันที่: 29 ตุลาคม 2551 เวลา:21:28:24 น.  

 
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

ตาลายค่ะสีตัวหนังสือกลืนไปกับภาพ
เลยไม่รู้ว่าเราพิมพ์ผิดไปไหม
ว่าแต่ว่าจะแวะมาบอกว่า
อ่านเพลินเจ้าค่ะ
แต่ที่ชอบมากๆ
ว่าจะแวะมาขอหมั่นโถวและชาจีนซดให้คล่องคอ
ได้ไหมค่ะ
อิอิอิ


โดย: อุ้มสี วันที่: 29 ตุลาคม 2551 เวลา:21:33:38 น.  

 
สาวไกด์...ชอบหม่ำของหวานค่ะ โดยเฉพาะของหวานไทยๆจะยิ่งชอบใหญ่ ขนมหวานของการบินไทยในบล๊อคสาวไกด์ทำออกมาได้น่ากินมากเลยค่ะ

นายบิ๊ก...

ลุงกล้วย...ขอบคุณที่แวะมานะคะ

คุณไก่...เสียดายเหมือนกันที่ไม่ได้เรียนภาษาจีนอีก ไม่ได้เรียนแถมไม่ได้ใช้ สุดท้ายก็ลืมโม้ด ดีที่ยังได้ทำบล๊อคเกี่ยวกับภาษาจีน ได้เรียกความจำคืนมามั่ง

รูปที่ถามนั่นเป็นหมั่นโถวไม่ใช่ซาลาเปาค่ะ แต่รูปที่แปะข้างๆโหลดไม่ขึ้นเลยไม่เห็นหน้าตาขนมว่าเป็นยังไง แต่อย่าส่งของกินเลยฮ่ะ กลัวจะเน่าก่อนอย่างคุณไก่ว่า แค่นึกถึงกันก็ซึ้งใจแล้วค่า

คุณยุ้ย...เสิร์ชรูปเองก๊ะมือ หมั่นโถวแน่นอนจ๊ะ เมืองไทยเห็นทำหมั่นโถวเป็นแบบนี้ทั้งนั้น

คุณยุ้ยเจ้าขา ของที่นึกถึงนั่น เหมาะเจาะก็จริงแต่เพิ่มนำ้หนักอย่างแรงเลยนะฮ้า

ป้้าหู้...ดีจัง คุณป้าอัพเพลงให้ฟังอีกแล้ว ไว้จะตามไปฟังค่า

ลุงแอ๊ด...เพิ่งแปะเพลงตะกี้เองค่ะ ไม่รู้ว่าลุงแอ๊ดชอบหรือเปล่า ที่จริงอยากได้เพลงบรรเลงขลุ่ยแบบเก๋ากึ๋ก แต่หาไม่เจออ่ะ

คุณอุ้ม...คุณอุ้มทักเลยเปลี่ยนรูปในกล่องเม้นท์ใหม่แล้วค่ะ

นอกจากหมั่นโถวแล้วก็ขอนำเสนอปาท่องโก๋กะขนมเปียะ ชอบอย่างไหนก็ลุยเลยจ้า



โดย: haiku วันที่: 29 ตุลาคม 2551 เวลา:23:22:15 น.  

 
เรานึกถึงสารคดีทางสายไหม
ที่ทางไทยพีบีเอส เอามาฉายน่ะ


โดย: ณ มน วันที่: 30 ตุลาคม 2551 เวลา:11:05:58 น.  

 
เขียนตัวอักษรจีนสวยมากเลยค่ะ เก่งจัง
เพลงประกอบบล็อกก็เพราะ อ่านเนื้อหาก็ได้ความรู้อีก

ขอบคุณมากค่ะ ที่เล่าเรื่องเมืองเว่ยผ่านบทกวีให้อ่าน

มีความสุขและรักษาสุขภาพนะคะ


โดย: เราสองคน (ฝากเธอ ) วันที่: 30 ตุลาคม 2551 เวลา:12:08:57 น.  

 
ในบทกวีมีภาพวาด ในภาพวาดมีบทกวี .....เหมือนเคยได้ยินที่ไหนมาก่อนเหมือนกัน

มันคงเป็นอารมณ์ว่า อ่านบทกวีแล้ว มันทำให้เกิดมโนภาพขึ้นมา และพอดูภาพแล้ว มันทำให้สร้างบทกวีขึ้นมาได้เช่นกัน

คิดๆ แล้วก็อยากลองไปอยู่ยุคแบบนั้นบ้างจังเลยอ่ะ นั่งจิบชา ชมความงามธรรมชาติ ท่องบทกลอน คงสุขสงบดีพิลึก พอเทียบกับชีวิตที่ยุ่งเหยิงวุ่นวายทุกวันนี้




โดย: กวางตุ้งหวาน วันที่: 30 ตุลาคม 2551 เวลา:21:58:36 น.  

 
เอ่อ.... เห็นไฮกุบอกว่าเปลี่ยนรูปในกล่องเม้นท์ ไม่รู้เรามาตอนเปลี่ยนแล้วรึยังอ่ะ เพราะตัวหนังสือสีขาว กับพื้นหลังขาวๆ อันนี้ มันยิ่งกลืนกันใหญ่เลยอ่ะไฮกุ (แอบมึนด้วยคน)


โดย: กวางตุ้งหวาน วันที่: 30 ตุลาคม 2551 เวลา:22:00:34 น.  

 


From...Pahu and Pamaew karrr!!!...


โดย: ป้าหู้เองจ่ะ (fifty-four ) วันที่: 31 ตุลาคม 2551 เวลา:14:34:50 น.  

 



คุณไฮกุค่ะ มาส่งสารค่ะ
ทำไม่ได้งอนค่ะ


อันนี้ ย้ำ ย้ำ และ ย้ำ
อันนี้แถมมาน้า นอกเรื่องค่ะ แบบไม่มีว่ากันนะคะ
มาชวนเล่าเรื่องความฝันน่ะคะ
(ความใฝ่ฝัน ฝันที่เป็นจริง ไม่รวมที่ฝันเมื่อคืนนะ)
ถ้าส่วนตัวมากไปก็ไม่เป็นไรนะคะ เว้นไปได้ค่ะ
มาชวนเผื่อจะไดเเชร์กันค่ะ ไม่มีงอนถ้าไมมาแชร์ค่ะ
ย้ำมากหน่อย กลัวว่า จะว่ากันน่ะคะ

แต่ถ้าโอเค แล้วก็ถ้ามีหลายฝันไม่ว่ากันคะ
จะได้รู้จักกันมากขั้นนะ นะ นะคะ



โดย: Sweety-around-the-world วันที่: 31 ตุลาคม 2551 เวลา:23:31:02 น.  

 
ย่องๆ มาหาสาระความรู้นิสนึง

สบายดีนะคับ


โดย: canx วันที่: 1 พฤศจิกายน 2551 เวลา:1:01:25 น.  

 
ภาพนี้เป้น ภาพที่สวยงามมากเลยครับ


โดย: everything on วันที่: 2 พฤศจิกายน 2551 เวลา:20:35:20 น.  

 
ณ มน...สารคดีสายไหมนี่เก่ามากเลยนะ เราเคยดูตอนที่เอามาฉายครั้งแรก ลืมไปแล้วว่าฉายทางช่องไหน แต่จำได้แม่นอยู่อย่างคือ ดนตรีประกอบนี่แหละ ได้ยินทีไรก็นึกถึงสารคดีชุดนี้ทุกที

ฝากเธอ...ขอบคุณสำหรับคำชมค่า อ่านเม้นท์แล้วอะฮั้นยิ้มแป้นเลยฮ่ะ

ตุ้ง...สองวรรคนี่เป็นคำพูดอมตะเลยนะเนี่ย เราได้ยินครั้งแรกจากหนังจีนเมื่อน๊านนานมาแล้ว ตุ้งพูดได้ถูก ภาพวาดและบทกวีของจีนประสานเป็นหนึี่งเดียว ภาพวาดงดงามเหมือนบทกวี บทกวีให้ภาพงดงามดั่งภาพวาด

นั่งจิบน้ำ ชมธรรมชาติ ตามด้วยท่องบทกลอน...อืมม สุนทรีย์สุดๆเลยนะจ๊ะ ที่จริงไม่ต้องย้อนยุคก็ทำได้น้า ชงชาสักถ้วย หาหนังสือบทกวีสักเล่มมาอ่านแล้วนั่งชมธรรมชาติเงียบๆก็แสนจะสุขีสุโขแว้ววว แต่อยู่กทม.คงหาวิวงามๆได้ยากหน่อยอ่ะนะ

เปลี่ยนสีตัวหนังสือให้แล้ว ลืมดูไป ขอบคุณที่บอกนะจ๊ะ

ป้าหู้...ขอบคุณคุณป้าที่แวะมาอวยพรวันปล่อยผีค่า

คุณไก่...เราคนกันเอง ไม่ว่ากันหรอกจ๊ะ แล้วจะตามไปแจมที่บล๊อคค่า

canxกะคุณแมท...ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมค่า



โดย: haiku วันที่: 2 พฤศจิกายน 2551 เวลา:21:02:04 น.  

 









คุณไฮกุ เราใจเดียวแต่ตรงกันหลายอย่างเลย
บางทีไก่ก็เที่ยวแบบhispeed ไปหน่อย
ก็ได้แต่บันทึกความทรงจำไว้ด้วยรุป เท่าที่จะทำได้ พอแก่แล้วมันจะเลือน

แต่ไปที่ไหนก็ไม่เคยลืมจะเข้าmuseumค่ะ หลงรักเหลือเกิน
โดยเฉพาะภาพเขียน อันนี้แยกกันไม่ได้เลย
มีครั้งหนึงไปLondon ห้าวันเข้าmuseum ฟรีไปสี่วัน
เพื่อนที่นั่นยังถามเลยว่าไปทำอะไรนักหนา
ที่อังกฤษดีค่ะ museum เขาฟรีตลอด
แต่เขาห้ามถ่ายรูป


โดย: Sweety-around-the-world วันที่: 3 พฤศจิกายน 2551 เวลา:1:50:55 น.  

 
สวัสดีครับคุณไฮกุ


รูปวัดโลกโมฬี
แต่งภาพนิดหน่อยแต่ไม่มากครับ
แค่ปรับแสงให้สว่างขึ้นนิด
และใส่ความคมชัดเท่านั้นเอง

ส่วนใหญ่ทุกภาพทำเสร็จในกล้องแล้วครับ

วัดนี้เค้าใส่ไฟเยอะครับ
เลยถ่ายออกมาแล้วสีทอง
ถ้าไปดูตอนกลางวันก็ไม่ใช่สีทองนะครับ หุหุหุ









โดย: ก๋าคุง (กะว่าก๋า ) วันที่: 3 พฤศจิกายน 2551 เวลา:7:10:09 น.  

 
ไฮกุจ๋าไปเที่ยวเมืองเท่กันเหอะ


โดย: ณ มน วันที่: 3 พฤศจิกายน 2551 เวลา:11:34:32 น.  

 
เข้ามาเยี่ยม จขบ. จ้า ขอบคุณที่ไปเยี่ยมกันนะคะ
ไม่ได้อัพบล๊อกมาจะ 2 ปีละ เพิ่งอัพอ่ะ ไงก้ไปเยี่ยมกันบ่อยๆนะคะ

ปล.เพลงเพราะจัง ชอบเสียงอ่ะ มันคือเครื่องดนตรีอะรหรอคะ


โดย: สวนลอยแห่งบาบิโลน วันที่: 3 พฤศจิกายน 2551 เวลา:11:37:33 น.  

 


ขอให้มีความสุขในวันจันทร์นะคะ


โดย: ป้าหู้เองจ่ะ (fifty-four ) วันที่: 3 พฤศจิกายน 2551 เวลา:14:01:42 น.  

 
แวะมาเยี่ยมตอนบ่าย ๆวันจันทร์ค่ะ
ขอบคุณมากนะคะที่ไปฟังเพลงด้วยกัน
มีความสุขและรักษาสุขภาพนะคะ


โดย: เราสองคน (ฝากเธอ ) วันที่: 3 พฤศจิกายน 2551 เวลา:15:35:23 น.  

 
ขาหมูหมั่นโถว นานๆที น้ำหนักไม่เพิ่มมากหรอกนะคะ

กินเสร็จค่อยลดก็ยังทัน 555


โดย: หยุ่ยยุ้ย วันที่: 3 พฤศจิกายน 2551 เวลา:17:38:13 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับ


มาพร้อมหนุ่มหล่ออีกแล้วครับ อิอิอิ



โดย: ก.วรกะปัญญา (กะว่าก๋า ) วันที่: 4 พฤศจิกายน 2551 เวลา:6:31:31 น.  

 
คุณไก่...แบบนี้ก็คอเที่ยวคอเดียวกันเลยนะคะเนี่ย เราก็ชอบดูงานศิลปะวัฒนธรรมมากกว่าชอปปิ้ง เมืองนอกมีพิพิธภัณฑ์เยอะแยะไปหมด แบบนี้คงถูกใจคุณไก่สุดๆ คุณไก่บอกว่าเข้าmuseumสี่วันซ้อนแล้วนึกถึงอาจารย์ท่านนึง ท่านออกทีวีบ่อยๆ เราจำชื่อไม่ได้แล้ว ท่านเล่าว่าไปฝรั่งเศสกี่รอบก็จะเข้าลูฟว์ทุกที มีหนนึงท่านไปสี่วันติดๆกัน จนผอ.พิพิธภัณฑ์มาเชิญไปทานข้าวด้วยเลย

คุณก๋า...วัดโลกโมฬีงามดีจังค่ะ สงสัยจะใช้สปอร์ตไลท์แบบแรง สีทองออกมาแจ่มมั่กๆ

หลานหมิงของอิฉันหน้าตาสดใสเชียว น่ารักจริงๆเลย

ณ มน...แล้วจะตามไปเที่ยวจ้า

สวนลอยฯ...โห หายหน้าไปนานจริงๆ welcome back to bloggangค่า

ปล. เป็นเพลงจีนบรรเลงด้วยขลุ่ยจีนค่ะ

ป้าหู้...ขอบคุณคุณป้ามากที่แวะมาเยี่ยมนะคะ

เราสองคน...แล้วจะแวะไปฟังเพลงเพราะๆค่า

คุณยุ้ย...อย่าลืมตัวหม่ำหลายรอบละกัน เดี๋ยวลดไม่ลง จะหาว่าดั๊นไม่เตือนนะฮ้า


โดย: haiku วันที่: 4 พฤศจิกายน 2551 เวลา:9:57:26 น.  

 
อ่านแล้วคุ้นๆ เหมือนอ่านแล้ว อ่อ ที่แท้ก้อ่านแล้ว(สงสัย มันจะบ้าแร้น อิจี้)


โดย: angy_11 วันที่: 14 พฤศจิกายน 2551 เวลา:14:29:03 น.  

 
สวัสดีครับคุณไฮกุ

แวะมาทักทายยามเช้า
พร้อมหนุ่มหล่อครับ อิอิอิ





โดย: ก.ก๋า (กะว่าก๋า ) วันที่: 15 พฤศจิกายน 2551 เวลา:7:30:03 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

haiku
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 161 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add haiku's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.