Bloggang.com : weblog for you and your gang
happy memories
Group Blog
ใต้ร่มโพธิ์ทอง
ใต้ร่มโพธิ์ทอง (๒)
ถวายอาลัย ในหลวงรัชกาลที่ ๙
พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว
หนังสือ ท่ามกลางประชาชน : เรื่องเล็ก ๆ ในรัชสมัยอันยิ่งใหญ่
Haiku
A Haiku Journey
ศิลปะ (๑)
ศิลปะ (๒)
อังคาร กัลยาณพงศ์
เสพงานศิลป์
เสพงานศิลป์ (๒)
เสพงานศิลป์ (๓)
เสพงานศิลป์ (๔)
พู่กันจีน
หยกใสร่ายคำ
ภาพวาดของละครศักดิ์ พิบูลพล
ผ่านตามาตรึงใจ
ชาวอิตาเลียนในราชสำนักสยาม
Movies in memory
ละคร "บุพเพสันนิวาส"
ดนตรี
เพ็ญศรี พุ่มชูศรี
เจษฎาภรณ์ ผลดี
Song Seungheon
แต่งเนื้อแต่งตัว
หนังสือ
ทักทายกันหน่อย
อยากคุยก็คุย
พ่อฉันเป็นช่างตัดเสื้อ
บล็อกนี้ให้อ่านเล่น เม้นท์หรือโหวตไม่ต้องจ๊ะ
บล็อกนี้ให้อ่านเล่น เม้นท์หรือโหวตไม่ต้องจ๊ะ (๒)
<<
ตุลาคม 2551
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
27 ตุลาคม 2551
เพลงเมืองเว่ย
บทกวีเมืองเหลียงโจว
All Blogs
หนังสือ "หยกใสร่ายคำ"
ภาพวาดฝีพระหัตถ์สมเด็จพระเทพฯ
ชิงผิงเย่ว์
สวนสกุลเสิ่น ๒ บท
ไชโถวเฟิ่ง (ถังหว่าน)
ไชโถวเฟิ่ง
หม่านเจียงหง
หลินเจียงเซียน
อู่หลิงชุน
จุ้ยฮวาอิน
เซิงเซิงมั่น
เตี๋ยเลี่ยนฮวา
ฮ่วนซีซา
อวี่หลินหลิง
ข้ามทะเลหลิงติง
ส่งใจไปเหนือในคืนฝน
อู๋ถี
ท่องไปในภูผา
ไห้เมื่ออำลา
แม่น้ำยามหิมะโปรย
สุ่ยเตี้ยวเกอโถว
หอกระเรียนเหลือง
ขับลำนำ้ยามค่ำ
อี้เจียงหนาน
คืนจันทร์แจ่ม
ส่งเมิ่งเฮ่าหรานไปก่วงหลิง
ออกจากเมืองไป๋ตี้ยามรุ่งอรุณ
อำลาเมื่อข้ามจิงเหมิน
คิดคำนึงในคืนสงบ
เพลงเมืองเว่ย
บทกวีเมืองเหลียงโจว
ดื่มเหล้า บท ๕
ดื่มเหล้า บท ๘
กลับสู่นาสวน บท ๒
กลับสู่นาสวน
จีนเด็ดดอกไม้
เพลงเมืองเว่ย
ทำบล๊อควาดไผ่แล้วนึกอยากเขียนตัวอักษร เขียนไม่นานก็เสร็จเพราะเป็นบทกวีสั้น ๆ งวดนี้อัพให้อ่านสองบท แต่ ๆ ละบทมีคำอธิบายยาวทั้งคู่เลยแยกเป็นสองบล๊อคเหมียนเดิม อ่านคำอธิบายท้ายบทกวีบทนี้ที่ได้ยินมานานแล้วแต่เพิ่งจะรู้ว่าเป็นคำพูดของท่านซูตงปัว
"ซูตงปัวชมงานของหวังเหว่ยว่า ในบทกวีมีภาพวาด ในภาพวาดมีบทกวี
诗中有画 画中有诗 (ซือจงโหย่วฮว่า ฮว่าจงโหย่วซือ)"
ภาพจากเวบ
//downloads.zdnet.com/abstract.aspx?docid=303080
Recall Hometown With Nostalgia - Zhou Xiao Zhou Wei
เพลงเมืองเว่ย
หวังเหวย
ฝนเมืองเว่ยยามเข้า ฝุ่นเปียกชื้น
ที่พักแรม ต้นหลิวสีสันใหม่เขียวขจี
ขอเชิญท่านดื่นสุราให้หมดอีกสักถ้วย
ออกจากด่านหยังกวนไปทางตะวันตก ไร้ผู้คุ้นเคย
หมายเหตุ
เว่ยเฉิงฉวี่เหรือเพลงเมืองเว่ย เป็นซือในสมัยราชวงศ์ถัง (เว่ยเฉิง = เมืองเว่ย ฉวี่ = เพลง) มีชื่อเดิมว่า ซ่งหยวนเอ้อร์สื่ออานซี แปลว่า ส่งหยวนเอ่อร์ไปทำราชการที่เมืองอานซี เมืองอานซีเป็นเมืองบทเส้นทางสายแพรไหม อยู่เลยด่านจยาอวี้กวนออกไป เมืองอานซีเป็นเมืองชุมทางของเส้นทางแพรไหมสายต่าง ๆ กล่าวคือ เมื่อออกเดินทางจากเมืองซีอาน ผ่านเมืองหลายเมืองและด่านจยาอวี้กวนแล้ว เดินทางต่อไปก็จะถึงเมืองซีอาน จากเมืองนี้เส้นทางสายแพรไหมสมัยราชวงศ์ถึงจะแยกเป็น ๓ เส้นทาง
ทางแรก
เป็นเส้นทางเหนือของเทือกเขาเทียนซาน (เทียนซานเป่ยลู่)
ทางที่สอง
เป็นเส้นทางใต้ของเทือกเขาเทียนซาน (เทียนซานหนานลู่) และ
ทางที่สาม
เป็นเส้นทางเหนือภูเขาคุนหลุน (คุนหลุนเป่ยลู่ หรือ กู่หนานเต้า)
นอกจากนั้น ซือบทนี้ยังมีชื่ออื่น ๆ อีก คือหยังกวนฉวี่ (เพลงด่านหยังกวน) หยังกวนซานเตี๋ย (ซ้ำคำว่า หยังกวน ๓ ครั้ง) ในสมััยราชวงศ์ถังได้นำซือบทนี้ไปใส่ทำนอง และเพิ่มเนื้อร้องเป็นเพลง ชื่อว่า เว่ยเฉิงฉวี่ (เพลงเมืองเว่ย) นอกจากเป็นชื่อเพลงแล้ว ได้กลายมาเป็นชื่อบทของซือด้วย เมืองเว่ยตั้้งอยู่ทางฝั่งเหนือของแม่นำ้เว่ย (เว่ยเหอ) ทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองซีอาน มณฑลส่านซี สมัยราชวงศ์ฉินเรียกว่า เมืองเสียนหยัง สุสานของจักรพรรดิ์ฉินสือหวงตี้ (จิ๋นซีฮ่องเต้) อยู่ในเมืองนี้ ปัจจุบันกลับมาเรียกว่า เสียนหยังอีก มิได้เรียกว่า เว่ยเฉิง ในสมัยราชวงศ์ถัง มักจะเลี้ยงอำลาผู้ที่จะเดินทางจากซีอาน มุ่งไปทางทิศตะวันตกที่เมืองเว่ย
หวังเหว่ย (ค.ศ.๗o๑-๗๖๑) เป็นผู้ประพันธ์ซือ เว่ยเฉิงฉวี่ มีอีกชื่อหนึ่งว่า หวังมั่วจี้ ภูมิลำเนาเดิมอยู่ที่ฉีโจว ปัจจุบันคือ อำเภอฉี มณฑลซานซี ต่อมาย้ายติดตามบิดาไปอยู่ที่ฝูโจว ปัจจุบันคือ อำเภอหย่งจี้ มณฑลซานซี ในค.ศ.๗๒๑ อายุ ๒o ปี สอบได้จิ้นซื่อ ได้เข้ารับราชการเป็นขุนนาง ต่อมา (ค.ศ.๗๕๕) เกิดกบฏอานลู่ซาน หวังเหวงรับราชการกับฝ่ายกบฏ เมืองเจ้าชายรัชทายาทซึ่งตั้งตนขึ้นมาเป็นจักรพรรดิ์ซู่จงปราบกบฏได้ (ค.ศ.๗๕๗) หวังเหวยจึงถูกลดตำแหน่่ง แต่ในภายหลังก็ได้กลับมาดำรงตำแหน่งสูงอีกในบั้นปลายชีวิต ใช้ชีวิตอย่างสงบ เรียบง่าย แต่งบทกวีต่าง ๆ
ในด้านการประพันธ์บทกลอน หวังเหวยได้รับยกย่องว่าแต่งดีเทียบเท่าเมิ่งเฮ่าหราน เป็น หวัง-เมิ่ง แห่งราชวงศ์ถัง ผลงานในระยะต้นมักนำเรื่องชายแดนมาเป็นแก่นในการประพันธ์ แต่งานส่วนใหญ่ที่มีชื่อเสียงมักเป็นเรื่องเกี่ยวกับทิวทัศน์ ภูเขา แม่นำ้ นาสวน ธรรมชาติ รวมทั้งได้แทรกคติธรรมของศาสนาพุทธมหายาน นิกายธยาน (ฌาณ) ไว้ด้วย นักวรรณคดีวิจารณ์กล่าวว่า งานของหวังเหวยพรรณนาดี และมีความละเอียดอ่อน หวังเหวยนอกจากเป็นกวีแล้วยังเก่งด้านดนตรี การเขียนตัวอักษรและการวาดภาพ จึงสามารถนำหลักการวาดภาพและการเล่นดนตรีมาใส่ในบทกวี ซูตงปัวชมงานของหวังเหว่ยว่า ในบทกวีมีภาพวาด ในภาพวาดมีบทกวี (ซือจงโหย่วฮว่า ฮว่าจงโหย่วซือ) ผู้คนชมว่า ซูตงปัวสรุปลีลางานศิลป์ของหวังเหว่ยได้อย่างดี
ส่วนภูมิหลังการประพันธ์ซือ เว่ยเฉิงฉวี่ นั้น หวังเหวยเขียนส่งเพื่อนที่จะเดินทางจากซีอานไปทางทิศตะวันตก เพื่อนออกเดินทางในฤดูใบไม้ผลิ หวังเหวยและเพื่อนอำลากันที่เมืองเว่ย ซือบทนี้สื่อถึงอารมณ์อาลับอาวรณ์ระหว่างพื่อนในยามจากกัน หวังเหวยเขียนพรรณนาได้ดี สื่อความได้แจ่่มชัด ทั้ง ๆ ที่ใช้ซือเพียง ๔ บาทเท่านั้น กวีสมัยราชวงศ์ถังเขียนซือเกี่ยวกับการอำลาไว้หมื่น ๆ บท ซือ เว่ยเฉิงฉวี่ ได้รับการยกย่องว่า เป็นซือส่งเพื่อนที่แต่งได้สุดยอดบทหนึ่ง
ในด้านบทกลอน บาทที่ ๑ สื่อความว่า ในตอนเช้าที่เมืองเว่ยฝนตกไม่มาก แต่ก็ทำให้ฝุ่นเปียกชื้น ไม่ปลิวขึ้นมา
บาทที่ ๒ ke she (เค่อเซ่อ) หมายถึง ที่พักแรมของทางราชการตามทางหลวงต่าง ๆ จะอยู่ห่างกันเป็นช่วง ๆ ในสมัยก่อนใช้เป็นที่พักม้าและที่พักแรมของคนส่งสาร ขุนนางที่ไปปฏิบัติราชการต่างเมืองก็แวะพักที่เค่อเซ่อระหว่างการเดินทาง นอกจากนั้นใช้เป็นที่เลี้ยงส่งอำลากันด้วย เค่อเซ่อแต่ละแห่งมักปลูกต้นหลิวรายรอบ สมัยก่อนมีการคำณวนไว้เลยว่าจากเมืองนี้ไปเมืองโน้นใช้เวลากี่วัน ตามรายทางมีเค่อเซ่อที่ไหนบ้าง การมีเค่อเซ่อช่วยให้เดินทางส่งสารได้รวดเร็ว เป็นทางหนึ่งในการช่วยควบคุมหัวเมืองรวมอำนาจเข้าสู่ศูยน์กลาง
บาทที่ ๔ ด่านหยังกวงเป็นด่านที่อยู่เลยเมืองอานซีออกไปบนเส้นทางแพรไหมสายคุนหลุนเป่ยลู่ เป็นด่านเกือบสุดท้ายในเส้นทางนี้ อยู่แถบเมืองตุนหวง พ้นจากนี้ก็เป็นเขตเวิ้งว้างไกลสุดตาของทะเลทรายมีผู้คนอยู่น้อย เส้นทางแพรไหมทางตะวันตกของจีนมีชนกลุ่มน้อยเผ่าต่าง ๆ อาศัยอยู่หลายเผ่า
นักวรรณคดีวิจารณ์กล่าวว่า ซือบทนี้เด่นต่างจากซืออำลาทั่ว ๆ ไปที่เขียนถึงอารมณ์บีบคั้น ความเศร้าสลด แต่ซือบทนี้ไม่เขียนเช่นนั้น ไม่มีสักคำที่พูดว่าเสียใจ กวีเขียนในแนวสบาย ๆ สองทางแรกสื่อถึงภาพยามเช้าและต้นหลิวเขียวขจี สองบาทหลัง ชวนดื่มเหล้า คุยกันอย่างจริงใจด้วยนำ้มิตร และยำ้ความอาลัยอาวรณ์ว่า พ้นจากด่านหยังกวนแล้วไม่มีผู้คุ้นเคย
ข้อความในบล๊อคนี้นำมาจากหนังสือ
"หยกใสร่ายคำ"
บทพระราชนิพนธ์แปลในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
บีจีและไลน์จากคุณญามี่
Create Date : 27 ตุลาคม 2551
Last Update : 20 มิถุนายน 2556 21:01:50 น.
43 comments
Counter : 3559 Pageviews.
Share
Tweet
เมื่อครู่เข้ามาเม้นท์ไม่ได้
ไม่รู้จะไปแจ้งใครเลยนั่งรอ
ถ้ามีเพลงบรรเลง ขฃุ่ยจีน ประกอบบลอกนี้คง เพลินไปเลย
โดย:
ลุงแอ๊ด
วันที่: 27 ตุลาคม 2551 เวลา:22:29:51 น.
สวัสดีครับคุณไฮกุ
อุตส่าห์มาโฆษณาไว้เสียดิบดี
ปรากฏว่าวันนี้งานยุ่งมากมายจนอัพบล็อกไม่ไหวครับ 5555
ต้องขออภัยด้วยนะครับ
รูปทำเสร็จแล้วล่ะครับ
แต่ไม่มีแรงเหลือพอที่จะอัพบล็อกเลยครับ 55555
ขอพลัดไปอีกพลัดเป็นเย็นพรุ่งนี้นะครับ
ราชวงศ์ถังเป็นยุคทองของศาสนาพุทธและบทกวีจริงๆนะครับ
มีพระอริยะ และกวีอัจฉริยะหลายท่านมากมาย
เป็นยุคที่ผมคิดว่าเจริญและเสื่อมที่สุดในประวัติศาสตร์จีนเลยครับ
เป็นสัจธรรมที่เตือนใจเราได้ดีครับ
ว่าบ้านเราก็อาจมีชะตากรรมแบบนี้
ถ้าเราไม่ระวังให้ดี
โดย: ก.วรกะปัญญา (
กะว่าก๋า
) วันที่: 27 ตุลาคม 2551 เวลา:22:45:04 น.
มาบอกว่าปายนองกางริ้ว...ดึกแย้ววว...
และมาบอกว่าคิดถึงโด้ยยยละ...
ป้าหู้เอ่านก็ช้าพิมพ์ก็ช้าเลยมาทักทายช้าปายด้วย
กว่าจะผ่านด่านต่างๆมาถึงอ่ะจ่ะ...อย่าเคืองป้าเลยน้า มารอฟังเพลงด้วยจ่ะ
โดย: ป้าหู้เองจ่ะ (
fifty-four
) วันที่: 28 ตุลาคม 2551 เวลา:0:21:43 น.
อรุณสวัสดิ์ครับคุณไฮกุ
วันนี้วันพระ ลุงกล้วยขอให้คุณไฮกุมีจิตใจแจ่มใสและมีความสุขนะครับ
โดย:
ลุงกล้วย
วันที่: 28 ตุลาคม 2551 เวลา:7:03:03 น.
ชอบนกตัวที่เกาะอยู่มุมซ้ายจังค่ะ ..แล้วก็อยากจะหาต้นเหมยไปปลูกที่ไร่ซัก 4-5 ต้น จะหาพันธ์ที่ไหนได้ฮ่ะคุณไฮกุ..
ปล.คุณไฮกุได้รับสินค้ายังค่ะ ลืมถามอ่ะ อิชั้นส่งไปนานแล้วฮ่ะ
โดย: pukpui IP: 124.121.106.183 วันที่: 28 ตุลาคม 2551 เวลา:8:01:47 น.
อ่านบล็อกวันนี้แล้วทำให้คิดถึงหนังที่เราดูๆ กันสมัยก่อน
จังเลยอ่ะค่ะคุณไฮกุ แบบว่าอ่านไปแล้วเหมือนว่าภาพมันค่อยๆ
ผุดขึ้นมาเรื่อยๆ เหมือนที่เราเคยดูทีวีผ่านตา ...
เราพยยามอ่านกลอน หรือว่าบทกวีให้เหมือนกับ
ที่เคยดูหนังจีนน่ะค่ะ แต่เอ ดูท่าว่าท่าทางเหมือน
แต่ว่าอารมณ์ยังไม่ค่อยได้เลยค่ะ
โดย:
JewNid
วันที่: 28 ตุลาคม 2551 เวลา:12:59:20 น.
สวัสดีครับคุณไฮกุ
รีบมาบอกว่าอัพบล้อกภาพเขียนของชาโจ้แล้วครับ
หุหุหุ
อัพแต่หัววัน
เพราะกลัวเย็นนี้มาดามจะชวนไปเดินห้างก่อนครับ 555555
เห็นหมึกกับกระดาษแล้วไม่อยากใช้
แต่ชาโจ้ย้ำแล้วย้ำอีกครับว่า
ซื้อมาให้ใช้ ว่าแล้วแกก็ฝนหมึกโชว์ซะเลย
หมึกแหว่งไปเลยครับ
สมุดพอผมบอกว่าจะเก็บไว้
แกก็เอามาแล้วก็เขียนโชว์ซะเลย 555555
คงได้เอามาใช้แน่ๆครับ
แต่เดี๋ยวขอตั้งสมาธิให้ดีดีสักหน่อยครับ
ช่วงนี้มัวแต่มุ่งไปที่เรื่องการทำบุญของเด็กนักเรียนครับ
ต้นเดือนหน้าคงเรียบร้อยแล้ว
จะมานั่งวาดพู่กันเดียวสักชุดครับ
โดย: ก๋าคุง (
กะว่าก๋า
) วันที่: 28 ตุลาคม 2551 เวลา:14:44:50 น.
เมื่อคืนแวะเข้ามาหนหนึ่งแล้วค่ะ
แต่เข้าบ้านไม่ได้
อ่านภาษษจีนสักน้อย เผื่อความจำจะฟื้นมาบ้าง
โดย:
หยุ่ยยุ้ย
วันที่: 28 ตุลาคม 2551 เวลา:20:00:56 น.
คุณไฮกุคะ น่าทึ่งนะคะภาษาแปล ที่แปลออกมาออกมา
เพราะคนไม่รู้ ก็จะไม่รู้ เชื่อตามคนแปล แปลออกมายังไง คนอ่านก็ซึมซับเอาตามนั้นเลย คำแปลสี่วรรคเท่านั้นที่แปลออกมาได้ความรู้สึกจริงๆ
คนไทยอ่านภาษาไทยบางทีไม่รู้ว่าเข้าใจถูกไหม
ตัวหนังสือจีนคุณไฮกุเป็นคนเขียน
หมายเหตุมาจากบทพระราชนิพนธ์ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
ส่วนกวีบทนี้
ฝนเมืองเว่ยยามเข้า ฝุ่นเปียกชื้น
ที่พักแรม ต้นหลิวสีสันใหม่เขียวขจี
ขอเชิญท่านดื่นสุราให้หมดอีกสักถ้วย
ออกจากด่านหยังกวนไปทางตะวันตก ไร้ผู้คุ้นเคย
สมเด็จพระเทพแปลหรือว่าคุณไฮกุแปลด้วยตัวเองอีทีค่ะ
กวีสี่วรรคของคุณไฮกุอ่านแล้วนึกถึงตัวเองคะ เป็นคนที่ต้องตะลอนๆ
บางที่เราเจอที่ที่ชอบ เพื่อนร่วมทางที่ดีๆ ได้พูดคุยกัน
ตอนจากกันจะรู้สึกแบบกลอนบทนี้ ยังไงไม่รู้ค่ะ รู้สึกถึงความห่วงใย
แม้มันจะไม่เท่ากับที่เพื่อนจริงๆ ของเราจะมี
แต่ก็ทำให้การเดินทางเพียงลำพัง รู้สึกดีขึ้นค่ะ
บทกวีของบทที่ไปฝากไว้ที่บ้านไก่ ชอบมากๆค่ะ
ขอบคุณนะคะ มีบทไหนถูกใจคุณไฮกุเอาไปแปะไว้ที่บ้านไก่บ้างนะคะ จะได้อ่านไปด้วยกัน
โดย:
Sweety-around-the-world
วันที่: 29 ตุลาคม 2551 เวลา:0:05:37 น.
บล็อกวันนี้ กลิ่นชาจีน-หมั่นโถวลอยคลุ้งเลยค่ะ
โดย:
angy_11
วันที่: 29 ตุลาคม 2551 เวลา:9:51:35 น.
ลุงแอ๊ด...สงสัยลุงแอ๊ดจะเข้ามาตอนกะลังแก้บล๊อคอยู่เลยเม้นท์ไม่ได้
อืม คุณลุงแนะนำเข้าท่าดี เดี๋ยวจะลองหาเพลงมาแปะให้ฟังค่ะ
คุณก๋า...ขอบคุณที่อัพรูปคุณซาโจ้ให้ดูนะคะ เดี๋ยวแวะไปดูที่บล๊อคค่ะ
ถ้าได้อุปกรณ์ดีๆก็ช่วยให้เขียนภาพได้สวยขึ้นนะ ทั้งหมึกทั้งกระดาษที่คุณซาโจ้ให้มา เห็นแล้วเสียดาย เป็นเราคงเก็บเข้าตู้แหงมๆ ไว้จะรอดูภาพพู่กันเดียวบนกระดาษญี่ปุ่นของคุณก๋าค่ะ
หนังสือเล่มนี้ให้ความรู้เกี่ยวกับบทกวีจีนเยอะเลยค่ะ นอกจากจะได้อ่านบทกวีที่เพราะๆแล้ว สมเด็จพระเทพฯยังทรงอธิบายความหมายอย่างถูกต้อง และมีเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเกี่ยวกับบทกวีด้วย อ่านแล้วเพลินมากเลยค่ะ
ขออนุโมทนาบุญกับคุณก๋าด้วยนะคะ
ป้าหู้...มาช้าดีกว่าไม่มา ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมนะคะ
สาวน้อยที่ป้าหูพามาด้วยทั้งสวยทั้งเซะซี่เลย
ลุงกล้วย...ขอบคุณที่แวะมาอวยพรแต่เช้าเลย ลุงกล้วยรักษาสุขภาพด้วยนะคะ
คุณปุย...เอ ต้นเหมยเหรอ ไม่รู้เหมือนกันแฮะ เคยเห็นแต่ในรูปวาดจีน ต้นจริงๆยังไม่เคยเห็น สงสัยถ้าคุณปุยอยากปลูกจริงๆคงต้องถ่อไปขอพันธุ์ที่เมืองจีนละมั้ง
ปล. ขอบคุณมากนะคะที่ส่งดีวีดีให้ ยังไม่ได้รับเลยค่ะ รออยู่นานแต่เกรงใจไม่กล้าทวงฮ่ะ สงสัยว่าจะตกหล่นกลางทางซะแว้ววว
คุณนิด...หนังที่นึกถึงคงเป็นฉากห้องเรียนสอนบทกวีแหงมๆถ้าจะอ่านให้ได้อารมณ์ คุณนิดต้องเลียนแบบในหนัง เวลาอ่านกลอนไปต้องส่ายหัวไปด้วย
ถ้าคุณนิดอ่านคำแปล อารมณ์อาจจะไม่ค่อยได้ เพราะไม่มีคำคล้องจองอย่างเวลาอ่านกลอนไทย เคยฟังเหล่าซือที่สอนแต่งโคลง รู้สึกว่าจะมีคำคล้องจอง มีเสียงหนัก-เบาของคำที่ใช้ เวลาฟังท่านอ่านแล้ว ถึงจะฟังไม่รู้ความหมายแต่ก็รู้สึกว่าเพราะค่ะ
คุณยุ้ย...สงสัยคุณยุ้ยจะเข้ามาเวลาเดียวกะลุงแอ๊ดแน่เลย เพราะกะลังอัพบล๊อคอยู่ อาจจะกดผิดกดถูก คุณยุ้ยเลยเข้าบ้านอิฉันไม่ได้
คุณไก่...
แฮะ แฮะ พิมพ์ตกไปคำนึง คุณไก่ตาดีจัง ที่จริงต้องเป็นบทพระราชนิพนธ์แปลค่ะ ขอบคุณที่ถามนะคะ นอกจากตัวอักษรจีนแล้ว ทั้งหมดก็นำมาจากหนังสือ "หยกใสร่ายคำ" ที่สมเด็จพระเทพฯทรงแปลไว้ บทกวีในเล่มแต่ละบทเพราะทั้งนั้นเลยค่ะ พระองค์ท่านทรงศึกษาภาษาจีนอย่างลึกซึ้งและแตกฉาน ทำให้ทรงแปลบทกวีจีนได้อย่างไพเราะเพราะพริ้งและความหมายไม่เพี้ยน
เราเคยเรียนภาษาจีนมาหลายปีแต่เลิกไปนานแล้ว ตอนที่เรียนก็ยังแปลบทความหรือเพลงได้บ้าง แต่บทกวีจีนนี่ฝีมือยังไม่เข้าขั้นหรอกจ๊ะ
อิจฉาคุณไก่อ่ะ มีโอกาสเดินทางไปในโลกกว้าง ได้เปิดหูเปิดตาและเห็นสิ่งแปลกๆใหม่ๆ ขอบคุณที่ทำบล๊อคเผื่อแผ่ประสบการณ์การเดินทางให้เพื่อนๆนะคะ
ดีใจที่ชอบไฮกุที่เอาไปฝากนะคะ
จี้...พูดถึงก็ต้องรีบคว้ามาเสิร์ฟให้เลยเทียว
โดย:
haiku
วันที่: 29 ตุลาคม 2551 เวลา:11:00:13 น.
ผมว่าคุณไฮกุเขียนได้สบายเลยครับ
เพราะลายมือคัดกับลายมือหวัด
คงจะแตกต่างกันในเรื่องของ "จังหวะ" เท่านั้นเอง
อันนี้วัดจากตัวเองนะครับ
เพราะผมเขียนลายมือได้หลายแบบครับ
หวัดก็ได้ แบบทางการก็ได้ครับ
โดย: ก๋าคุง (
กะว่าก๋า
) วันที่: 29 ตุลาคม 2551 เวลา:11:44:40 น.
ฮ้าจริงเหรอฮ๋ะ อิชั้น ส่งไปประมาณเกือบ / เดือนแล้วน่ะค่ะ เดี๊ยนต้องตามแล้วล่ะฮ่ะ
ต้องขอโทษจริงๆ ไม่ได้ถามคุณไฮกุว่าส่งไปนานแล้วได้รับล่ะยัง งั้น เด่วเผาส่งให้ใหม่ น่ะฮ่ะ โด่ ทำให้คุณไฮกุรอแย่เลย ขอโทษด้วยฮ๋ะ เด่วจะตามให้ค่ะ
โดย:
pukpui_s
วันที่: 29 ตุลาคม 2551 เวลา:13:32:24 น.
คุณก๋า...ที่จริงตัวหวัดหรือบรรจงอิฉันก็เขียนได้โลดค่ะ แต่ติดตรงตัวหวัดต้องมีตัวอย่างมาถึงจะเขียนได้ เพราะขีดในตัวอักษรมันจะน้อยกว่าเดิม มันไปไม่ค่อยถูกว่าต้องลดขีดหรือจุดไหนมั่ง
คุณปุย...ขอบคุณอีกครั้งค่า คุณปุยเลยต้องเสียเวลาตามพัสดุให้อีก Many thanks from the bottom of my heartนะจ๊ะ
โดย:
haiku
วันที่: 29 ตุลาคม 2551 เวลา:15:35:09 น.
อืมม์..ลึกซึ้งดีนะคะ
อยากอ่านภาษาจีนเก่งๆ ได้มั่งจังนะนี่
ชอบทานของหวานเหมือนกันเหรอคะ? เหมือนกันเลยอ้ะ
โดย:
สาวไกด์ใจซื่อ
วันที่: 29 ตุลาคม 2551 เวลา:17:12:25 น.
โดย:
big-lor
วันที่: 29 ตุลาคม 2551 เวลา:17:15:42 น.
ค่ำสวัสดิ์ครับคุณไฮกุ
ขอบคุณมากครับ ขอบคุณในกุศลเจตนาที่จะร่วมบุญ แค่นี้บุญก็ส่งเสริมมากแล้วครับ จิตเป็นกุศล ลุงกล้วยขอให้มีความสุขมากๆครับ สาธุ
โดย:
ลุงกล้วย
วันที่: 29 ตุลาคม 2551 เวลา:18:36:30 น.
ตาดีแต่ตอนอ่านค่ะ เพราะอ่านทีไรจะผิดไม่ค่อยได้
เพราะผิดที ต้อรือ้งานทดลองใหม่ที่นี้แหละยาวววว เลยล่ะคะ
ว่ากันไปน่ะค่ะคุณไฮกุ งานบังคับน่ะคะ
งานที่ทำ ทำให้ต้องตะลอนๆค่ะ ไม่รู้สุขไหม สุขๆทุกข์ค่ะ
ตอนนี้ยังโอเคมากๆ ก็ทำไปเรื่อยๆ
มันอาจจะอยู่ตัวด้วยเพราะตะลอนมานานแล้ว
ตั้งแต่สมัยเรียนน่ะคะ ไปตามวาระ และบุญ กรรมค่ะ
ภาษาจีนเรียนได้ ก็เยี่ยมแล้วล่ะคะ
รูปนี้อะไรค่ะ
จะว่ามันโถก็เล็กจัง
จะว่าซาลาเปาก็ดูผิดรูป เฉลยด่วนค้า
ถ้าไม่เกรงใจจะให้ส่งpost ของน่ากินให้นะคะนี่
เกรงใจค้าว่าจะเน่าซะก่อน
โดย:
Sweety-around-the-world
วันที่: 29 ตุลาคม 2551 เวลา:19:46:47 น.
สงสัยเหมือนกันค่ะว่าเป็นอะไร
หมั่นโถวเล็กหรือเปล่าเอ่ย
ไม่ใช่อะไร
นึกถึงขาหมู ถ้ามีด้วย
ก็เหมาะเจาะเลยค่ะ
โดย:
หยุ่ยยุ้ย
วันที่: 29 ตุลาคม 2551 เวลา:20:10:40 น.
ไปฟังเพลงกันค่ะ...
คืนนี้ฝันดีน้า...
โดย: ป้าหู้เองจ่ะ (
fifty-four
) วันที่: 29 ตุลาคม 2551 เวลา:21:02:22 น.
มาดูว่ามีเพลงฟังหรือยัง
โดย:
ลุงแอ๊ด
วันที่: 29 ตุลาคม 2551 เวลา:21:28:24 น.
ตาลายค่ะสีตัวหนังสือกลืนไปกับภาพ
เลยไม่รู้ว่าเราพิมพ์ผิดไปไหม
ว่าแต่ว่าจะแวะมาบอกว่า
อ่านเพลินเจ้าค่ะ
แต่ที่ชอบมากๆ
ว่าจะแวะมาขอหมั่นโถวและชาจีนซดให้คล่องคอ
ได้ไหมค่ะ
อิอิอิ
โดย:
อุ้มสี
วันที่: 29 ตุลาคม 2551 เวลา:21:33:38 น.
สาวไกด์...ชอบหม่ำของหวานค่ะ โดยเฉพาะของหวานไทยๆจะยิ่งชอบใหญ่ ขนมหวานของการบินไทยในบล๊อคสาวไกด์ทำออกมาได้น่ากินมากเลยค่ะ
นายบิ๊ก...
ลุงกล้วย...ขอบคุณที่แวะมานะคะ
คุณไก่...เสียดายเหมือนกันที่ไม่ได้เรียนภาษาจีนอีก ไม่ได้เรียนแถมไม่ได้ใช้ สุดท้ายก็ลืมโม้ด ดีที่ยังได้ทำบล๊อคเกี่ยวกับภาษาจีน ได้เรียกความจำคืนมามั่ง
รูปที่ถามนั่นเป็นหมั่นโถวไม่ใช่ซาลาเปาค่ะ แต่รูปที่แปะข้างๆโหลดไม่ขึ้นเลยไม่เห็นหน้าตาขนมว่าเป็นยังไง แต่อย่าส่งของกินเลยฮ่ะ กลัวจะเน่าก่อนอย่างคุณไก่ว่า แค่นึกถึงกันก็ซึ้งใจแล้วค่า
คุณยุ้ย...เสิร์ชรูปเองก๊ะมือ หมั่นโถวแน่นอนจ๊ะ เมืองไทยเห็นทำหมั่นโถวเป็นแบบนี้ทั้งนั้น
คุณยุ้ยเจ้าขา ของที่นึกถึงนั่น เหมาะเจาะก็จริงแต่เพิ่มนำ้หนักอย่างแรงเลยนะฮ้า
ป้้าหู้...ดีจัง คุณป้าอัพเพลงให้ฟังอีกแล้ว ไว้จะตามไปฟังค่า
ลุงแอ๊ด...เพิ่งแปะเพลงตะกี้เองค่ะ ไม่รู้ว่าลุงแอ๊ดชอบหรือเปล่า ที่จริงอยากได้เพลงบรรเลงขลุ่ยแบบเก๋ากึ๋ก แต่หาไม่เจออ่ะ
คุณอุ้ม...คุณอุ้มทักเลยเปลี่ยนรูปในกล่องเม้นท์ใหม่แล้วค่ะ
นอกจากหมั่นโถวแล้วก็ขอนำเสนอปาท่องโก๋กะขนมเปียะ ชอบอย่างไหนก็ลุยเลยจ้า
โดย:
haiku
วันที่: 29 ตุลาคม 2551 เวลา:23:22:15 น.
เรานึกถึงสารคดีทางสายไหม
ที่ทางไทยพีบีเอส เอามาฉายน่ะ
โดย:
ณ มน
วันที่: 30 ตุลาคม 2551 เวลา:11:05:58 น.
เขียนตัวอักษรจีนสวยมากเลยค่ะ เก่งจัง
เพลงประกอบบล็อกก็เพราะ อ่านเนื้อหาก็ได้ความรู้อีก
ขอบคุณมากค่ะ ที่เล่าเรื่องเมืองเว่ยผ่านบทกวีให้อ่าน
มีความสุขและรักษาสุขภาพนะคะ
โดย: เราสองคน (
ฝากเธอ
) วันที่: 30 ตุลาคม 2551 เวลา:12:08:57 น.
ในบทกวีมีภาพวาด ในภาพวาดมีบทกวี .....เหมือนเคยได้ยินที่ไหนมาก่อนเหมือนกัน
มันคงเป็นอารมณ์ว่า อ่านบทกวีแล้ว มันทำให้เกิดมโนภาพขึ้นมา และพอดูภาพแล้ว มันทำให้สร้างบทกวีขึ้นมาได้เช่นกัน
คิดๆ แล้วก็อยากลองไปอยู่ยุคแบบนั้นบ้างจังเลยอ่ะ นั่งจิบชา ชมความงามธรรมชาติ ท่องบทกลอน คงสุขสงบดีพิลึก พอเทียบกับชีวิตที่ยุ่งเหยิงวุ่นวายทุกวันนี้
โดย:
กวางตุ้งหวาน
วันที่: 30 ตุลาคม 2551 เวลา:21:58:36 น.
เอ่อ.... เห็นไฮกุบอกว่าเปลี่ยนรูปในกล่องเม้นท์ ไม่รู้เรามาตอนเปลี่ยนแล้วรึยังอ่ะ เพราะตัวหนังสือสีขาว กับพื้นหลังขาวๆ อันนี้ มันยิ่งกลืนกันใหญ่เลยอ่ะไฮกุ (แอบมึนด้วยคน
)
โดย:
กวางตุ้งหวาน
วันที่: 30 ตุลาคม 2551 เวลา:22:00:34 น.
From...Pahu and Pamaew karrr!!!...
โดย: ป้าหู้เองจ่ะ (
fifty-four
) วันที่: 31 ตุลาคม 2551 เวลา:14:34:50 น.
คุณไฮกุค่ะ มาส่งสารค่ะ
ทำไม่ได้งอนค่ะ
อันนี้ ย้ำ ย้ำ และ ย้ำ
อันนี้แถมมาน้า นอกเรื่องค่ะ แบบไม่มีว่ากันนะคะ
มาชวนเล่าเรื่องความฝันน่ะคะ
(ความใฝ่ฝัน ฝันที่เป็นจริง ไม่รวมที่ฝันเมื่อคืนนะ)
ถ้าส่วนตัวมากไปก็ไม่เป็นไรนะคะ เว้นไปได้ค่ะ
มาชวนเผื่อจะไดเเชร์กันค่ะ ไม่มีงอนถ้าไมมาแชร์ค่ะ
ย้ำมากหน่อย กลัวว่า จะว่ากันน่ะคะ
แต่ถ้าโอเค แล้วก็ถ้ามีหลายฝันไม่ว่ากันคะ
จะได้รู้จักกันมากขั้นนะ นะ นะคะ
โดย:
Sweety-around-the-world
วันที่: 31 ตุลาคม 2551 เวลา:23:31:02 น.
ย่องๆ มาหาสาระความรู้นิสนึง
สบายดีนะคับ
โดย:
canx
วันที่: 1 พฤศจิกายน 2551 เวลา:1:01:25 น.
ภาพนี้เป้น ภาพที่สวยงามมากเลยครับ
โดย:
everything on
วันที่: 2 พฤศจิกายน 2551 เวลา:20:35:20 น.
ณ มน...สารคดีสายไหมนี่เก่ามากเลยนะ เราเคยดูตอนที่เอามาฉายครั้งแรก ลืมไปแล้วว่าฉายทางช่องไหน แต่จำได้แม่นอยู่อย่างคือ ดนตรีประกอบนี่แหละ ได้ยินทีไรก็นึกถึงสารคดีชุดนี้ทุกที
ฝากเธอ...ขอบคุณสำหรับคำชมค่า อ่านเม้นท์แล้วอะฮั้นยิ้มแป้นเลยฮ่ะ
ตุ้ง...สองวรรคนี่เป็นคำพูดอมตะเลยนะเนี่ย เราได้ยินครั้งแรกจากหนังจีนเมื่อน๊านนานมาแล้ว ตุ้งพูดได้ถูก ภาพวาดและบทกวีของจีนประสานเป็นหนึี่งเดียว ภาพวาดงดงามเหมือนบทกวี บทกวีให้ภาพงดงามดั่งภาพวาด
นั่งจิบน้ำ ชมธรรมชาติ ตามด้วยท่องบทกลอน...อืมม สุนทรีย์สุดๆเลยนะจ๊ะ ที่จริงไม่ต้องย้อนยุคก็ทำได้น้า ชงชาสักถ้วย หาหนังสือบทกวีสักเล่มมาอ่านแล้วนั่งชมธรรมชาติเงียบๆก็แสนจะสุขีสุโขแว้ววว แต่อยู่กทม.คงหาวิวงามๆได้ยากหน่อยอ่ะนะ
เปลี่ยนสีตัวหนังสือให้แล้ว ลืมดูไป ขอบคุณที่บอกนะจ๊ะ
ป้าหู้...ขอบคุณคุณป้าที่แวะมาอวยพรวันปล่อยผีค่า
คุณไก่...เราคนกันเอง ไม่ว่ากันหรอกจ๊ะ แล้วจะตามไปแจมที่บล๊อคค่า
canxกะคุณแมท...ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมค่า
โดย:
haiku
วันที่: 2 พฤศจิกายน 2551 เวลา:21:02:04 น.
คุณไฮกุ เราใจเดียวแต่ตรงกันหลายอย่างเลย
บางทีไก่ก็เที่ยวแบบhispeed ไปหน่อย
ก็ได้แต่บันทึกความทรงจำไว้ด้วยรุป เท่าที่จะทำได้ พอแก่แล้วมันจะเลือน
แต่ไปที่ไหนก็ไม่เคยลืมจะเข้าmuseumค่ะ หลงรักเหลือเกิน
โดยเฉพาะภาพเขียน อันนี้แยกกันไม่ได้เลย
มีครั้งหนึงไปLondon ห้าวันเข้าmuseum ฟรีไปสี่วัน
เพื่อนที่นั่นยังถามเลยว่าไปทำอะไรนักหนา
ที่อังกฤษดีค่ะ museum เขาฟรีตลอด
แต่เขาห้ามถ่ายรูป
โดย:
Sweety-around-the-world
วันที่: 3 พฤศจิกายน 2551 เวลา:1:50:55 น.
สวัสดีครับคุณไฮกุ
รูปวัดโลกโมฬี
แต่งภาพนิดหน่อยแต่ไม่มากครับ
แค่ปรับแสงให้สว่างขึ้นนิด
และใส่ความคมชัดเท่านั้นเอง
ส่วนใหญ่ทุกภาพทำเสร็จในกล้องแล้วครับ
วัดนี้เค้าใส่ไฟเยอะครับ
เลยถ่ายออกมาแล้วสีทอง
ถ้าไปดูตอนกลางวันก็ไม่ใช่สีทองนะครับ หุหุหุ
โดย: ก๋าคุง (
กะว่าก๋า
) วันที่: 3 พฤศจิกายน 2551 เวลา:7:10:09 น.
ไฮกุจ๋าไปเที่ยวเมืองเท่กันเหอะ
โดย:
ณ มน
วันที่: 3 พฤศจิกายน 2551 เวลา:11:34:32 น.
เข้ามาเยี่ยม จขบ. จ้า ขอบคุณที่ไปเยี่ยมกันนะคะ
ไม่ได้อัพบล๊อกมาจะ 2 ปีละ เพิ่งอัพอ่ะ ไงก้ไปเยี่ยมกันบ่อยๆนะคะ
ปล.เพลงเพราะจัง ชอบเสียงอ่ะ มันคือเครื่องดนตรีอะรหรอคะ
โดย:
สวนลอยแห่งบาบิโลน
วันที่: 3 พฤศจิกายน 2551 เวลา:11:37:33 น.
ขอให้มีความสุขในวันจันทร์นะคะ
โดย: ป้าหู้เองจ่ะ (
fifty-four
) วันที่: 3 พฤศจิกายน 2551 เวลา:14:01:42 น.
แวะมาเยี่ยมตอนบ่าย ๆวันจันทร์ค่ะ
ขอบคุณมากนะคะที่ไปฟังเพลงด้วยกัน
มีความสุขและรักษาสุขภาพนะคะ
โดย: เราสองคน (
ฝากเธอ
) วันที่: 3 พฤศจิกายน 2551 เวลา:15:35:23 น.
ขาหมูหมั่นโถว นานๆที น้ำหนักไม่เพิ่มมากหรอกนะคะ
กินเสร็จค่อยลดก็ยังทัน 555
โดย:
หยุ่ยยุ้ย
วันที่: 3 พฤศจิกายน 2551 เวลา:17:38:13 น.
สวัสดียามเช้าครับ
มาพร้อมหนุ่มหล่ออีกแล้วครับ อิอิอิ
โดย: ก.วรกะปัญญา (
กะว่าก๋า
) วันที่: 4 พฤศจิกายน 2551 เวลา:6:31:31 น.
คุณไก่...แบบนี้ก็คอเที่ยวคอเดียวกันเลยนะคะเนี่ย
เราก็ชอบดูงานศิลปะวัฒนธรรมมากกว่าชอปปิ้ง เมืองนอกมีพิพิธภัณฑ์เยอะแยะไปหมด แบบนี้คงถูกใจคุณไก่สุดๆ คุณไก่บอกว่าเข้าmuseumสี่วันซ้อนแล้วนึกถึงอาจารย์ท่านนึง ท่านออกทีวีบ่อยๆ เราจำชื่อไม่ได้แล้ว ท่านเล่าว่าไปฝรั่งเศสกี่รอบก็จะเข้าลูฟว์ทุกที มีหนนึงท่านไปสี่วันติดๆกัน จนผอ.พิพิธภัณฑ์มาเชิญไปทานข้าวด้วยเลย
คุณก๋า...วัดโลกโมฬีงามดีจังค่ะ สงสัยจะใช้สปอร์ตไลท์แบบแรง สีทองออกมาแจ่มมั่กๆ
หลานหมิงของอิฉันหน้าตาสดใสเชียว น่ารักจริงๆเลย
ณ มน...แล้วจะตามไปเที่ยวจ้า
สวนลอยฯ...
โห หายหน้าไปนานจริงๆ welcome back to bloggangค่า
ปล. เป็นเพลงจีนบรรเลงด้วยขลุ่ยจีนค่ะ
ป้าหู้...ขอบคุณคุณป้ามากที่แวะมาเยี่ยมนะคะ
เราสองคน...แล้วจะแวะไปฟังเพลงเพราะๆค่า
คุณยุ้ย...อย่าลืมตัวหม่ำหลายรอบละกัน เดี๋ยวลดไม่ลง จะหาว่าดั๊นไม่เตือนนะฮ้า
โดย:
haiku
วันที่: 4 พฤศจิกายน 2551 เวลา:9:57:26 น.
อ่านแล้วคุ้นๆ เหมือนอ่านแล้ว
อ่อ ที่แท้ก้อ่านแล้ว
(สงสัย มันจะบ้าแร้น อิจี้)
โดย:
angy_11
วันที่: 14 พฤศจิกายน 2551 เวลา:14:29:03 น.
สวัสดีครับคุณไฮกุ
แวะมาทักทายยามเช้า
พร้อมหนุ่มหล่อครับ อิอิอิ
โดย: ก.ก๋า (
กะว่าก๋า
) วันที่: 15 พฤศจิกายน 2551 เวลา:7:30:03 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
haiku
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 161 คน [
?
]
New Comments
Friends' blogs
โจเซฟิน
สาวไกด์ใจซื่อ
ป้ามด
ณ มน
Sweety-around-the-world
อุ้มสี
angy_11
JewNid
กะว่าก๋า
เนยสีฟ้า
ยิปซีสีน้ำเงิน
มาเรีย ณ ไกลบ้าน
SevenDaffodils
Insignia_Museum
มัชชาร
chinging
เริงฤดีนะ
ร่มไม้เย็น
Million Stars
ยายกุ๊กไ่ก่
dingtech
เป็ดสวรรค์
sawkitty
หมีปุ๊
ณ ปลายฉัตร
สายหมอกและก้อนเมฆ
toor36
กิ่งฟ้า
คนผ่านทางมาเจอ
ญามี่
tui/Laksi
พรหมญาณี
ข้ามขอบฟ้า
nulaw.m
ซองขาวเบอร์ 9
เกศสุริยง
mastana
diamondsky
pantawan
Schnuggy ชนุ๊กกี้
Close To Heaven
AppleWi
somjaidean100
น้ำ-ฟ้า-ป่า-เขา
**mp5**
Rinsa Yoyolive
แฟนlinKinPark
lovereason
ที่เห็นและเป็นมา
newyorknurse
multiple
เนินน้ำ
Tristy
ชมพร
Sweet_pills
ชีริว
mambymam
บาบิบูเบะ...แปลงกายเป็นบูริน
กาบริเอล
พรไม้หอม
kae+aoe
tuk-tuk@korat
หอมกร
moresaw
ดอยสะเก็ด
ไวน์กับสายน้ำ
mariabamboo
voneye
ก้นกะลา
ปรัซซี่
ผีเสื้อยิปซี
auau_py
เรียวรุ้ง
ตุ๊กจ้ะ
ฟ้าใสวันใหม่
The Kop Civil
Sai Eeuu
noirathsub
วลีลักษณา
mcayenne94
JinnyTent
จอมใจจอมมโน
ล้งเล้งลัลล้า
ruennara
ตะลีกีปัส
ชานไม้ชายเขา
สันตะวาใบข้าว
อาจารย์สุวิมล
wicsir
Cherry_Wawa
โอน่าจอมซ่าส์
PANDIN
โอพีย์
นกสีเทา
ปรศุราม
เพรางาย
katoy
ตุ๊กตาไขลาน
Sakormaree
ลำเนา
nonnoiGiwGiw
Sleepless Sea
ทนายอ้วน
สิงห์ริมถนน
บ่งบ๊ง
สมาชิกหมายเลข 5106714
มยุรธุชบูรพา
มาช้ายังดีกว่าไม่มา
ทูน่าค่ะ
SertPhoto
จอมแก่นแสนซน
LittleMissLuna
Kero Is My Remedy
tanjira
Rain_sk
กาปอมซ่า
Webmaster - BlogGang
[Add haiku's blog to your web]
Links
www.seungheonplanet.com
ไทยโพสต์
ผู้จัดการ
แนวหน้า
Alongkorn.com
Takase Studios
กลอนไทย
บ้านกลอนไทย
คำคมไทย
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.
ไม่รู้จะไปแจ้งใครเลยนั่งรอ
ถ้ามีเพลงบรรเลง ขฃุ่ยจีน ประกอบบลอกนี้คง เพลินไปเลย